Article Nowadays

ทศพล หิมพานต์ ศิลปินเพลงแหล่กับความสามารถเหลือแหล่

  • Writer: Tossaphol Leongsupporn
  • Photographer: Tossaphol Leongsupporn

“ความตื่นเต้นเป็นส่วนผสมที่ดีในทุกการทำงาน” เคยมีคนบอกผมไว้แบบนั้น บ่ายวันพฤหัสปลายเดือนตุลาคม เรื่องตื่นเต้นแรกได้เกิดขึ้นกับผมแล้ว คนขับแท็กซี่รายที่สองกล่าวหลังเห็นได้ยินจุดหมายที่ผมจะไป “ไม่ไปครับพี่ ไกลไป” (ใช่ครับ เพราะไกลไงครับผมถึงโบกเรียกแท็กซี่) พลิกข้อมือดูนาฬิกาบอกว่าตอนนี้ยังพอมีเวลาอยู่ แต่ไม่น่าจะเพียงพอให้ผมฟังคำปฏิเสธได้อีกแล้ว โชคดีที่พี่แท็กซี่คันที่สามตอบตกลงพาผมไปส่งถึงที่ ไม่อย่างนั้นอาจจะต้องโทรเลื่อนนัดกันได้

ผมมีนัดสัมภาษณ์กับบุคคลที่ผมอยากเจอมาทั้งชีวิต เขาไม่ใช่ญาติผู้พลัดหลงหรือคนรักที่ตามหากันมานานอย่างในนิยายหรอกครับ ชื่อของเขาคือ ทศพล หิมพานต์ นักร้องเพลงแหล่มืออาชีพตัวท็อปแห่งประเทศไทย นอกจากเหตุผลอันไร้สาระที่อยากเจอตัวเพื่อพูดคุยที่ผมบังเอิญไปชื่อเดียวกับพี่เขาแล้ว (แต่พี่เขามีชื่อจริงว่า สมบูรณ์ จุลมุสิก) เรื่องราวของเขานับว่าน่าสนใจทีเดียว จากสามเณรน้อยที่สามารถแหล่เทศน์ชาดกได้ไพเราะไม่แพ้พระรุ่นพี่ ลาสิกขาออกมาเป็นนักร้องศิลปินลูกทุ่งชื่อดังออกอัลบั้มร่วมกว่าร้อยชุด และปัจจุบันก็เพิ่งลงจากตำแหน่งนายกสมาคมนักร้องลูกทุ่งแห่งประเทศไทยมาหมาด ๆ

ถ้าความตื่นเต้นเป็นส่วนผสมที่ดีในทุกการทำงาน ผลลัพธ์จากการทำงานที่ดีคงหนีไม่พ้นความตื้นตันอย่างแน่นอน

2

ผมเองค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องแนวเพลงนะ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะให้คำตอบได้ว่ามันดีหรือว่าแย่ก็คือคนฟัง

ชีวิตทุกวันนี้ของคุณเป็นยังไงบ้าง

ก็หลังจากเหตุการณ์สวรรคตที่ทุกคนทราบกัน งานที่เคยนัดไว้ก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน ส่วนใหญ่ตอนนี้เลยจะเน้นไปทางพวกจิตอาสาเสียมากกว่า ก็ไม่เป็นไรนะ กลายเป็นเรื่องดีด้วยเพราะได้เจอกับเพื่อนศิลปินหลายคนที่ปกติก็คงจะไม่ได้เจอ

ทราบว่าคุณเพิ่งจะหมดวาระจากตำแหน่งนายกสมาคมนักร้องลูกทุ่งแห่งประเทศไทย

คือช่วงที่เริ่มก่อตั้งสมาคม ผู้ใหญ่เขาก็โทรชวนให้มาเป็นนายก ฯ คนแรกของสมาคมให้หน่อย ผมฟังแล้วก็ตอบปฏิเสธไปเลยเพราะคิดว่าตัวเองไม่น่าจะเหมาะ แต่พอโดนชวนบ่อยเข้าเลยตัดสินใจตกลงรับตำแหน่ง แต่บอกเขาว่าขอเป็นแค่สมัยเดียวนะ สุดท้ายกลายเป็นว่าได้เป็นถึงสองสมัยไปอย่างนั้น (หัวเราะ) จนมาถึงการเลือกตั้งครั้งที่ 3 ล่าสุดนี้เป็นคุณ เสรี รุ่งสว่าง มารับช่วงต่อแทน

หน้าที่ของนายกสมาคมนักร้องลูกทุ่งแห่งประเทศไทยคืออะไร

หน้าที่หลักคือการช่วยเหลือศิลปินนักร้องลูกทุ่งโดยตรง ทั้งเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ ใครเจ็บป่วยหรือเสียชีวิตเราต้องเข้าไปดูแล นอกนั้นก็เป็นเรื่องการมองหาสิ่งที่จะช่วยให้ทุกคนในวงการนี้มีชีวิตที่ดีขึ้น

ด้วยตำแหน่งนายก ฯ และประสบการณ์ในการทำงาน มีมุมมองอย่างไรกับวงการลูกทุ่งไทยช่วงนี้

เอาจริงมันก็เปลี่ยนไปเรื่อยแหละ เพียงแต่ช่วงนี้มันยากขึ้นตรงที่นอกจากแนวเพลงจะเปลี่ยนไปแล้ว ระบบของการหาเงินมันยังเปลี่ยนไปด้วยสิ อย่างเมื่อก่อนเขาซื้อเทปและซีดีเพลงกันปกติ แต่มาตอนนี้ลำพังแค่ขายบนออนไลน์ยังไม่ค่อยจะมีใครยอมซื้อเลย ยิ่งเวลาผมไปทัวร์ต่างจังหวัดนะ ร้านขายซีดีเพลงแทบจะไม่มีแล้ว ปิดกันไปเยอะมาก

4

อย่างในวงการเพลงกระแสหลักเขาหันมาขายโชว์แสดงสดกันมากขึ้นเพื่อรับมือกับปัญหาเหล่านี้ วงการลูกทุ่งไทยมีวิธีการอย่างไร

เหมือนกันเลย (หัวเราะ) พวกเราก็อาศัยโชว์เหมือนกัน แต่ถึงจะเปลี่ยนมาขายโชว์มากขึ้น โดยรวมผมว่ามันก็ยังไม่ดีเท่าไหร่ ลองคิดว่าถ้าคุณเป็นศิลปินแล้วมีเพลงใหม่ ช่องทางโปรโมตตอนนี้มันอยู่ไม่กี่ที่หรอก อย่างรายการทีวีหรือวิทยุพวกนี้ และพอมันมีช่องทางน้อยเพลงก็จะไปกองรวมที่นั่นเสียเยอะ เพลงก็เลยต้องถูกแย่งกันเปิดแถมยังเปิดเวลาไหนอีกก็ไม่รู้ ทำให้โอกาสที่คนจะได้ฟังเพลงหรือรู้จักคุณน้อยลงไปเรื่อย ๆ ถึงบอกว่าต้องมาขายโชว์กันแล้ว ก็ไม่รู้จะขายยังไงเพราะไม่มีใครรู้จัก สุดท้ายก็กลายเป็นว่าเราต้องหาวิธีหาเงินกันใหม่เอง ซึ่งหลายอย่างมันก็ไม่ใช่การร้องเพลงหรือเล่นดนตรี ต้องไปขายนั่นนี่ เปิดร้านอะไรกันไป

และเรื่องของแนวเพลงล่ะ มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

นี่ผมยังไม่ได้พูดถึงแนวเพลงที่ก็เปลี่ยนไปจากเดิมเลยใช่ไหม (หัวเราะ) คือต้องเริ่มแบบนี้ก่อนว่าเพลงลูกทุ่งเนี่ย ที่จริงมันคือเพลงพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาตามแต่ละถิ่นที่อยู่อาศัยนี่แหละ ไม่ว่าจะเป็นเพลงลำตัด อีแซว เพลงเรือ ลิเก เพลงแหล่ หรืออื่น ๆ อย่างเพลงฉ่อยก็มาจากสุพรรณบุรี ลูกทุ่งก็ภาคกลาง ซึ่งแต่ละแขนงก็จะบอกถึงเอกลักษณ์วิถีชีวิตและความเป็นอยู่ต่าง ๆ กันไป

แต่พอยุคสมัยเปลี่ยน เราก็จะเริ่มเห็นเครื่องดนตรีอื่น ๆ เข้ามาอยู่ในเพลงลูกทุ่งมากขึ้น เช่น กีตาร์ คีย์บอร์ด หรืออะไรที่ไม่คุ้น อย่างล่าสุดเพลง ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน ของคุณ ก้องหล้า ยอดจำปา ก็มีคนบอกว่านี่ไม่ใช่ลูกทุ่งนะ แต่เป็นแนวสตริง วิจารณ์กันไปใหญ่ แต่ส่วนตัวผมเองค่อนข้างเปิดกว้างเรื่องแนวเพลงนะ เพราะสุดท้ายแล้วคนที่จะให้คำตอบได้ว่ามันดีหรือว่าแย่ก็คือคนฟัง ถ้าเขาชอบและอยากฟังเพลงแบบนี้ เราก็ไม่สามารถไปบอกได้ว่ามันผิดหรืออะไร เพียงแต่เพลงลูกทุ่งมันก็มีหลักของมันอยู่ เช่น การร้องต้องชัดถ้อยชัดคำ และความคล้องจองของภาษา

แล้วแนวเพลงของ ทศพล หิมพานต์ ล่ะมีเปลี่ยนไปบ้างไหม

แนวเพลงน่ะคงไม่เปลี่ยน แต่คนร้องคู่ด้วยนี่เปลี่ยนบ่อยมาก ไม่รู้เป็นอะไรนายห้าง (มานิต ศรีเลี้ยง เจ้าของค่ายเพลงโฟร์เอส) ชอบจับผมไปร้องคู่กับคนนั้นคนนี้

คุณเริ่มมาเป็นศิลปินเพลงแหล่ได้อย่างไร

คนแรกที่สอนคือคุณพ่อผม ท่านเป็นหมอทำขวัญนาค แต่พอหลังท่านเสียไปก็ได้หลวงพ่อบุญเหลือมาคอยสอนให้อย่างจริงจัง คือหลวงพ่อท่านเห็นว่าผมมีแนวเสียงที่ดี เลยจับเอามาฝึกทุกเย็นไปจนสองทุ่มทุกวันสมัยนั้น เพราะเนื่องจากการแหล่คือการเทศน์ที่ใช้เสียงและทำนองเสนาะ ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของทางพุทธศาสนา ทำให้เวลาหลวงพ่อไปเทศน์ที่ไหนก็จะให้ผมตามไปด้วย พอผมเริ่มคล่องท่านก็ให้ไปเทศน์แหล่เอง จนพอสึกมาเป็นนักร้องก็หยิบเอาติดมาด้วยกลายเป็นเอกลักษณ์ในการร้องจนคนจำได้ ถือได้ว่าท่านหลวงพ่อบุญเหลือเป็นคนสร้างผมขึ้นมาเลย

ฉายา ‘ราชาเพลงแหล่’ ได้มายังไง

ก็มาจากพวกโฆษกตามงานต่าง ๆ นั่นแหละ ที่จริงผมไม่เคยคิดเลยว่าตัวเองจะถึงขั้นนั้นเลยนะ ตัวจริงต้องยกให้คุณพ่อ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ เขานั่น อย่างผมเรียกแค่ ‘น้องใหม่เพลงแหล่’ อันนี้พอได้

คุณออกอัลบั้มมาเยอะกว่า 100 อัลบั้ม ทำไมถึงต้องมากขนาดนั้น

นั่นสิ! (หัวเราะ) ที่จริงเราควรจะไปโชว์ก่อนแล้วค่อยกลับมาออกอัลบั้มใหม่อะไรแบบนั้นเนอะ หลัก ๆ ก็มาจากนโยบายของทางค่ายนั่นแหละ ผู้ใหญ่เขาเชื่อเรื่องรายได้จากการขายแผ่นซีดีมากกว่า และเขาก็เห็นว่าผมร้องได้หลายแนวเลยจับไปร้องแบบนั้น แบบนี้บ้าง ลองร้องคู่กับคนนี้ดูอะไรแบบนั้น และผมก็ดันอยู่ค่ายเดียวมาตลอดด้วยสิ บางปีที่ออกถึง 4 – 5 อัลบั้มเรียกได้ว่าอยู่ในห้องอัดมากกว่าไปเล่นโชว์เสียอีก

3

แล้วแบบนี้เราจะได้เห็นเพลงใหม่จากคุณเมื่อไหร่

ยากแล้วแหละ เพราะแค่เพลงเก่าก็ยังร้องไม่ครบเลย (หัวเราะ) แต่คิดไว้บ้าง น่าจะเป็นช่วงปีหน้าไปแล้วถึงจะได้เริ่มอัดกันจริง ๆ

คุณมีเพลงฮิตที่ต้องเล่นทุกเวทีไหม

นาคสั่งสีกา แต่งโดยครูเพลงแหล่ชื่อ ศรีโพธิ์ อำไพกุล เพลงนี้ไปไหนก็ต้องเล่น ถ้าไม่เล่นมีงอน และเพลงนี้ก็เป็นเพลงโปรดของผมด้วย (เริ่มร้องให้ฟังบางท่อน)

แฟนคลับของคุณส่วนใหญ่เป็นใคร

ส่วนใหญ่เป็นคนสูงอายุนะ ไม่ค่อยมีหรอกเด็ก ๆ ก็ดีไปอย่าง ดูคอนเสิร์ต ทศพล หิมพานต์ รับรองไม่มีตีกันแน่นอน (หัวเราะ)

มีน้อยใจบ้างไหมที่ไม่ค่อยมีสาว ๆ มาดูเราบ้าง

อ้าวคุณ! พวกแม่ ๆ กลุ่มนี้เขาจะมาดูเราได้ยังไงถ้าลูกเขาไม่ได้พามา บ้านไหนลูกสาวสวยเราก็เข้าทางแม่เลยง่ายกว่าเดินไปขอเบอร์อีกเป็นไหน ๆ

แสดงโชว์ดนตรีทุกวันตั้งแต่เล็กแบบนี้ เคยคิดเบื่อจนอยากไปลองทำงานแบบอื่นดูบ้างไหม

ไม่เบื่อนะ และที่คุณบอกว่าเคยลองงานอื่นดูบ้างไหม ผมเคยมาหมดแล้วทั้งละครและภาพยนตร์ สุดท้ายก็ไม่ชอบเหมือนมันไม่ใช่ทางเรา ทำอะไรก็รู้สึกติดขัดไปหมด แสดงโชว์แบบนี้แหละสบายใจที่สุดแล้ว ผมอยากทำไปนาน ๆ ถึงจะรู้ว่าวันนึงคงต้องเลิกและหันมาทำอาชีพอื่นจริงจัง แต่ระหว่างนี้คนเขายังอยากดูเราอยู่ และเราก็ยังสนุกกับการทำโชว์แบบนี้อยู่ ก็ยังมองไม่เห็นเหตุผลที่จะเบื่อหรือเลิกทำ

ช่องทางโปรโมตตอนนี้มันอยู่ไม่กี่ที่หรอก อย่างรายการทีวีหรือวิทยุพวกนี้ และพอมันมีช่องทางน้อยเพลงก็จะไปกองรวมที่นั่นเสียเยอะ เพลงก็เลยต้องถูกแย่งกันเปิดแถมยังเปิดเวลาไหนอีกก็ไม่รู้ ทำให้โอกาสที่คนจะได้ฟังเพลงหรือรู้จักคุณน้อยลงไปเรื่อย ๆ

คุณเคยฟังเพลงในกระแสอย่าง อะตอม ชนกันต์ หรือ Part Time Musicians บ้างไหม

ไม่เคยฟังเลย อันหลังนี่คือชื่อวงดนตรีเหรอ

ใช่ครับ เป็นชื่อวงดนตรีจริง ๆ ทำไมคุณถึงไม่ฟังเพลงกระแสหลักล่ะ

มันไม่ใช่แนวน่ะสิ (หัวเราะ) สายนั้นคนสุดท้ายที่ผมฟังน่าจะเป็น เสก โลโซ นอกนั้นก็ไม่ได้ฟังเลย แต่เดี๋ยวจะลองไปหาฟังเพลงของสองวงที่บอกมาตะกี้ดูหน่อย

ตัวตนจริง ๆ คุณเป็นคนยังไง ต่างจากเวลาทำงานมากไหม

ผมเป็นคนแบบนี้แหละ สบาย ๆ ไม่ได้ดุอะไร คุยด้วยเหตุผลมากกว่า คงไม่มีใครชอบเวลาตอนถูกตะคอกดุด่าหรอกใช่ไหมล่ะ ก็มีจริงจังบ้างตามประสาเวลาทำงาน แต่ไม่มีหรอกที่จะไปพาลใส่ใคร

คุณรู้ไหมว่าตัวเองกลายเป็นเหมือนภาพจำของคนชื่อ ‘ทศพล’ ทั้งประเทศไทยไปแล้ว

(หัวเราะเสียงดัง) เรื่องนี้ต้องยกความดีความชอบให้กับนายห้างเขาล่ะ เพราะเขาไม่ชอบชื่อจริงของผมอย่างสมบูรณ์ จุลมุสิก เลยต้องไปตั้งใหม่แบบจริงจัง ถึงขนาดขอวันเกิดผมไปดูนั่นนี่ก่อนจะมาเป็น ทศพล หิมพานต์ อย่างทุกวันนี้ ก็ดีใจนะที่หลายคนจำว่าถ้าเป็นชื่อนี้แล้วต้องนึกถึงผม สำหรับผมคงต้องขอบคุณคนชื่อทศพลจริงๆ ทุกคนมากกว่าเพราะผมแค่ยืมชื่อพวกคุณมาใช้

และคุณคิดว่าคนชื่อ “ทศพล” เป็นคนแบบไหน

ก็ต้องนิ่ง ๆ เท่ ๆ ดูสุขุมหน่อย รักครอบครัว และหน้าตาดี

1

คำถามสุดท้ายครับ เวลาที่ต้องตัดสินใจเรื่องสำคัญแต่ละครั้ง ระหว่างฟังสมองกับฟังใจคุณเลือกอะไร

ก็ต้องเริ่มจากสมองก่อน แต่สุดท้ายก็ต้อง ฟังใจ สิวะ (หัวเราะ)

 

 

Facebook Comments

Next:


Tosaphol Leongsupporn

ทศพล เหลืองศุภภรณ์ นวมินทร์เกอร์ ผู้ชื่นชอบการได้คลุกคลีกับหนังสือ และชื่นใจเวลาได้ฟังเพลงเก่า ปัจจุบันทำงานอยู่ในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง