การกลับมาลงสนามอีกครั้งของ Supersub
- Writer: Gandit Panthong
- Photographer: Narawit Suksawat
ห่างหายไปสักพักใหญ่ ๆ กับวง Supersub วงดนตรีคุณภาพที่มีผลงานเด่น ๆ ออกมาให้เราได้ฟังกันอยู่เป็นประจำไม่ว่าจะเป็นเพลง รอยยิ้ม, Clock, กาลนิรันดร์, สองคน และ Awaken ก่อนที่พวกเขาจะทิ้งช่วงเวลาในการปล่อยเพลงออกไปสักระยะนึง
เมื่อไม่นานมมานี้สิ่งที่พวกเราทาง Fungjaizine ได้ทราบคือตอนนี้ Supersub ได้กลับไปสู่บ้านหลังเดิม Sanamluang Music ของพวกเขาเรียบร้อยแล้ว ทำให้เราไม่รอช้ารีบพาพวกเขามาพูดคุยกันให้หายคิดถึงกันไปเลย
สมาชิก
กล—สกล สุวรรณาพิสิทธิ์ (ร้องนำ)
เบียร์—พิษธินันท์ แก้วสีม่วง (กีตาร์)
ฝ้าย—นริศรินทร์ จันทร์พรายศรี (เบส)
บ๋อม—สุวาทิน วัฒนวิทูกูร (กลอง)
อั้ม—สิทธิชน จุลโคตร (คีย์บอร์ด)
Supersub ห่างหายจากออกเพลงใหม่ไปนานขนาดไหน
กล: ถ้าปล่อยเพลงอย่างเป็นทางการเลย วงเราก็ปล่อยเรื่อย ๆ นะ แต่อาจจะได้ยินบ้างไม่ได้ยินบ้างเท่านั้น เพลงล่าสุดที่เพิ่งปล่อยไปก็น่าจะประมาณหนึ่งปีที่แล้วได้ครับ
ที่ผ่านมาแต่ละคนแยกย้ายกันไปทำอะไร
อั้ม: แต่ละคนมีงานที่แตกต่างกันออกไปนะครับ อย่างพี่บ๋อมก็เป็นดีเจ ส่วนตัวผมเองมีงานเล่นดนตรีประจำอยู่ครับ ส่วนฝ้ายก็จะเล่นดนตรีหลัก ๆ อยู่แล้ว อีกงานที่ฝ้ายทำก็คือแปลภาษาด้วย (สกล:เหมือนฝ้ายจะรวยสุดในวงด้วยนะ)
เบียร์: ผมทำงานสตูดิโออยู่แล้วครับ ทำงานเกี่ยวกับด้านการบันทึกเสียง เพิ่งได้มามีโอกาสมาร่วมงานกับวง Supersub ในอัลบั้มนี้ครับ
กล: เราเองทำงานพวกกราฟิกเกี่ยวกับองค์กรเพื่อสังคมและการศึกษาครับ
สาเหตุอะไรที่ทำให้ Supersub ตัดสินใจกลับมาอยู่กับค่าย Sanamluang Music อีกครั้ง
กล: จริงๆ เดี๋ยวนี้มันมีโมเดลใหม่ในหลายค่ายเพลงเกิดขึ้นเยอะนะ คือการฝากผลงานให้กับทางค่ายดูแลในด้านสตรีมมิ่ง จัดการงานแสดงต่าง ๆ โดยที่ในฝั่งของวงลงทุนกันเอง เคาะงานเองร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ค่ายสนามหลวงตอนนี้ก็เป็นโมเดลนั้นเช่นกัน ทำให้พวกเราสนใจ พอได้มีโอกาสมาคุยกันก็โอเค ตกลงร่วมงานกันเลย ซึ่งฝั่งวงเราเป็นคนติดต่อเข้าไปหาที่ค่ายเพื่อคุยเลยครับ
การกลับมาอยู่ในตึกแกรมมี่ทำให้เรากดดันบ้างไหมในแง่ของการปล่อยเพลง
กล: ผมไม่รู้ความคิดของศิลปินที่อายุวงไม่มากนะ แต่วงผมอายุวงมากแล้วก็เฉย ๆ จะที่ไหนก็แล้วแต่เลย รู้สึกดีแฟร์ ๆ มากกว่าว่า ถ้าเราลงทุนเองมันก็มีสิทธิ์เต็มที่ในการตัดสินใจ แต่ถ้าบางทีเราไปอยู่ในที่ที่เขาออกทุนให้มันเปลี่ยนเยอะมันก็จะเหนื่อยหน่อย บางทีอาจจะเขว้หรือเสียเวลาได้ก็ไม่แน่ว่ามันจะประสบความสำเร็จอย่างที่เขาคิดรึเปล่า
เป้าหมายในการทำเพลงเปลี่ยนไปจากเดิมเยอะไหม
กล: เป้าหมายของวงเราเหมือนเดิมตลอดครับ เราอยากจะมีผลงานเรื่อย ๆ ที่ผ่านมาอาจจะไม่ค่อยต่อเนื่อง เริ่มมีชีวิตที่ยุ่ง ๆ กัน มีอะไรต้องทำกันด้วย แต่หลังจากนี้มันจะจริงจังมากขึ้นครับ
ช่วงเวลาที่ผ่านมาของวง Supersub ก่อนจะมาถึงการปล่อยเพลงครั้งนี้ เคยเกิดความคิดอยากจะเลิกเล่นดนตรีบ้างรึเปล่า
กล: ไม่ขนาดนั้นนะ ส่วนตัวผมจะดาวน์ที่ไม่ได้คุยกันมากกว่า มันไม่ได้เหมือนแต่ก่อนที่ซ้อมอาทิตย์ละครั้งอยู่เป็นประจำ แต่ตอนนี้ถ้าไม่มีงานเล่นก็ไม่ซ้อมเลยด้วยซ้ำ โอเค ปล่อยเพลงมาทุกวงก็อยากประสบความสำเร็จ แต่พอหลาย ๆ อย่างมันเปลี่ยนเราเองก็ลดเป้าหมายลง พยายามมีผลงานต่อเนื่องแค่นั้นพอแล้วครับ วงเราอาจจะไม่ได้มีความสดเหมือนกับเด็กสมัยนี้ที่เขามีข้อมูลเยอะ เขากำลังมีไฟกัน แต่ว่าเราจะรักษาลายเซ็นของวงเราให้มีความชัดเจนยิ่งขึ้นครับ
อั้ม: แต่จริง ๆ พอเวลาวงเรามาทำอะไรด้วยกันมันก็ไม่ดาวน์นะ เวลาจะทำซิงเกิ้ล มันเหมือนต่างคนต่างค้นหาอะไรมาลองทำกันดูครับ ผมคิดว่าบางทีพอทำซิงเกิ้ลใหม่ไปเรื่อย ๆ มันก็จะเกิดสีใหม่ขึ้นเสมอประมาณนี้อ่ะครับ
มีช่วงที่เขียนเนื้อเพลงแล้วรู้สึกไม่เป็นตัวเองบ้างไหม
กล: บางทีมันก็มีโมเม้นต์ที่รู้สึกเขว้เหมือนกันนะ อย่างบางเพลงเราฟังมาตอนเด็ก ๆ เขาพูดจาแบบนี้ ใช้คำพูดในการสื่อสารที่ไม่ได้ตรงขนาดนั้น แต่พอมาสมัยนี้เพลงที่เขาดัง ๆ กัน เขาจะใช้ภาษาที่ง่าย ภาษาที่ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นคำพูดที่ไม่ต้องแปลมากก็เคยคิดว่า เราจะทำเพลงแบบนั้นดีไหม แต่ก็พอมาขีดเขียนดูแล้วมันรู้สึกเคอะเขิน มันไม่ชินปากก็เลยคงลายเส้นของเราไว้ดีกว่า
กระบวนการทำงานของ Supersub
กล: มันก็จะมีหลายวิธีแตกต่างกันออกไปนะครับ บางทีเมโลดี้มาก่อนก็มาหาพี่เบียร์ให้ดูคอร์ดก่อนบ้างก็มี ส่วนเรื่องการทำงานเรามองว่าเมื่อถึงตอนนี้พวกเราเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้เหมาะสมกับชีวิตของทุกคนตอนนี้ได้แล้วนะ
อั้ม: แต่ละคนแบ่งพาร์ตการทำงานกันชัดเจนมากขึ้น อย่างถ้าเป็นเรื่องของการขึ้นโครงเพลง ส่วนมากก็จะเป็นกลกับผมที่ผสมขึ้นมาก่อน แล้วก็ให้คนอื่นฟังต่อประมาณนี้ครับ หลังจากนั้นก็นัดแจมดูฟีลเพลงกันด้วย แต่ละคนก็ทำการบ้านกันมาแล้วเจอกัน
ก่อน เพลงใหม่อย่างเป็นทางการของ Supersub ในปี 2018
กล: ผมเชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยได้ยินเพลง ก่อน ของพี่ พราย ปฐมพร กัน แล้วก็ที่วง Moderndog เอาเพลงนี้มาทำใหม่ เพลงใหม่เรามันก็คือเพลงนั้นครับ แต่ว่าวงเราหยิบมารีเมคใหม่มากกว่า ผมก็ไม่ได้เป็นคนแต่งเพลงเยอะมากนะ ผมแต่งมา 3 อัลบั้มแล้วก็รู้สึกว่า บางทีเรื่องที่เราเล่ามันก็วน ๆ อยู่แบบนั้น เลยลองหาอะไรสนุก ๆ มาทำดูบ้างละกัน จากนั้นมันจึงเกิดไอเดียขึ้น โดยเอาเรื่องราวที่มันมีอยู่แล้วในตอนเด็ก ๆ ที่เราชอบมันมาทำใหม่ดู คอนเซ็ปต์มันน่าจะสนุกก็เลยเขย่าลงมาในเพลงใหม่เพลงนี้ มันจะไม่เหมือนเพลงเดิมที่เราเคยรู้จัก แต่จะคงเรื่องราวและบางคำที่คิดว่าจะต้องมีในเพลงนี้อยู่ครับ
พาร์ตดนตรีของเพลงนี้เปลี่ยนไปจากเดิมมากน้อยขนาดไหน
กล: จริง ๆ ไม่เชิงว่าพาร์ตดนตรีจะเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนนะ เพราะแต่ละเพลงเราจะเปลี่ยนกลิ่นไปเรื่อย ๆ ตามฟีลอยู่แล้วนะครับ แต่เลือกเพลงนี้เพราะว่ามันเสร็จก่อน
เบียร์: มันตามชื่อเพลงเลย ‘ก่อน’ จริง ๆ (หัวเราะ)
อั้ม: จริงๆ ผมลืมไปแล้วด้วยว่าเราอัดเพลงนี้กันไปแล้ว เพราะระหว่างที่เราทำเพลงนี้เราก็ทำเพลงอื่นไปด้วย ทำต่อกันสัก 2-3 เพลงเลยช่วงนั้น
กล: แล้วพอจะปล่อยเพลงนี้กันก็จะลืมว่าต้องเล่นยังไงแล้วด้วยนะ ก่อนหน้านี้มันก็มีหลาย ๆ เพลงที่เสร็จก่อนเพลงนี้นะ แต่พอมันมาประกอบร่างกันแล้ว ผมฟังไปฟังมาแล้วคุณภาพมันยังไม่ได้ กลายเป็นไม่เข้ากับดนตรีซะงั้น เลยนั่งแก้เพลงพวกนั้นก่อนเอาตัวนี้ที่สมบูรณ์ที่สุดปล่อยออกมาก่อน
จะมีมิวสิกวิดิโอให้เราได้ดูไหม
กล: น่าจะไม่มีนะครับ เพราะว่าเงินไม่พอ (หัวเราะ) จริง ๆ มีมันก็ดีนะครับ แต่มันก็ไม่มีไง
อั้ม: โหยพูดซะเศร้าเลย เรียกได้ว่าอาจจะมีก็ได้ครับ ถ้าโชคดีอาจจะมีสปอนเซอร์มาให้พวกเรา อาจจะมีเพื่อน ๆ พี่น้องมาช่วยทำให้ก็ได้
กล: พอเรามาเป็นเจ้าของเองในการทำเพลงนี้ทั้งหมดเนี่ย บางทีรู้สึกว่า เราเหนื่อยกับการทำเพลงไปแล้ว แล้วเราต้องคิดไอเดียทำภาพอีก ก็อาจจะต้องรออีกนานมากเลยไม่มีก็ได้ไม่เป็นไรมั้ง ปล่อยเพลงก่อนเลยดีกว่า เพราะพฤติกรรมการฟังเพลงของคนเดี๋ยวนี้ก็ถ้าไม่ได้ดู mv เขาก็ฟังจากสตรีมมิ่งได้เลยน่าจะไม่เป็นไรหรอก เท่าที่คิดนะ
รอบนี้จะกลับมาทำอัลบั้มเต็มเลยไหม
กล: ยังไม่ได้วางขนาดนั้นครับ เพราะถ้าทำอัลบั้มเต็มก็ต้องมีพวกเรื่องค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ขึ้นมาอีก ซึ่งก็อาจจะต้องดูจากผลประกอบการของเพลงที่ปล่อยออกไปก่อนด้วยว่าคนจะตอบรับขนาดไหน เขาจะต้องการไหมหรือว่าอะไรแบบนี้ครับ
เท่ากับปีนี้เราจะได้ฟังเพลงของวง Supersub ก็เพลง
กล: อย่างน้อยสองเพลงนะ เพราะว่ามันจะมีอีกเพลงนึงที่ทำไว้เกือบปีได้ละครับ เป็นเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องนึงที่เขาเอาไปฉายต่างประเทศ แต่พอดีเขายังไม่ฉายสักที เขาก็รับปากว่าปีนี้ตุลาคมน่าจะต้องฉายแล้ว เราเองก็รออยู่เหมือนกันครับ ปีนี้น่าจะเข้าปีที่สอง เป็นหนังที่เขาส่งไปเทศกาลหนังก่อน ส่วนอีกเพลงของวงเราเองจริง ๆ ก็มีนะกำลังแก้กันอยู่ครับ แต่ช่วงนี้ก็ยุ่ง ๆ กันด้วย เห็นพี่บ๋อมก็กำลังจะเปลี่ยนงาน ส่วนผมก็เพิ่งได้แพลนงานหลักมา ไอ้งานที่ได้เงินตอนนี้ก็เริ่มยุ่งแล้วเหมือนกัน คนทั่วไปจะชอบคิดว่านักดนตรีได้เงินก็อยู่ได้สบายดี แต่มันก็ไม่ได้ทุกวงอะ บางทีมันก็เหนื่อยกับหาเงิน
อั้ม: มันคือชีวิตจริงเลย
อยากบอกอะไรกับคนทั่วไปเหล่านั้นบ้าง
กล: ผมอยากจะขอโทษมากกว่า บางทีผมก็เป็นคนปกติที่มีความคิดความอ่านที่ไม่ค่อยเหมือนคนอื่นหรือบางทีไปพูดจาขัดใจใครรึเปล่าตามโลกออนไลน์ บางทีเขาอาจจะคิดว่าทำไมพี่เป็นศิลปินแล้วทำไมพี่เป็นแบบนี้ว่ะ ก็ขอโทษถ้าบางทีเขาคิดว่า เราเป็นศิลปินต้องอล้วต้องเป็นตัวอย่างที่ดี เราจะพยายามเป็นศิลปินแบบนั้นให้ได้ครับ พยายามพูดน้อยลงอะไรแบบเนี้ยครับ อธิบายโดยรวม ๆ จะบอกว่า เราก็คือคนปกติเนี่ยล่ะ บางทีเราก็คิดว่าศิลปินดัง ๆ จะถือตัว ผมเองก็ไม่ค่อยเจอนะ ส่วนมากศิลปินเขาก็นิสัยดีกัน อย่างในตึกเนี่ยสมัยก่อนที่ออกชุดแรก ๆ กับค่ายสนามหลวง ศิลปินทุกคนเข้าตึกมาเขาก็ไหว้พี่ยามกันนะ เป็นเรื่องปกติที่ซึมซับกันมาเลย
ปีนี้ Supersub อายุกี่ขวบแล้ว
กล: นับเป็นอายุจากปล่อยเพลงแรก ตอน 2006 ครับ 12 ปีแล้วครับ ความรู้สึกมันก็เหมือนบริษัทที่เราเป็นผู้บริหาร สมาชิกก็เปลี่ยนหมดแล้วเหลือผมคนเดียว ฟีลแบบเจ้าของออฟฟิศที่พนักงานเปลี่ยนหน้าหมดแล้วแบบนี้ก็ได้
12 ปีในมุมของสมาชิกคนอื่น
อั้ม: ถ้าเป็นความรู้สึกของผมเอง ผมกลับลืมไปแล้วนะว่ามันจะมีอายุกี่ปี มันเหมือนกับว่า เวลาเราได้เริ่มทำมัน มันก็คือจุดเริ่มต้นใหม่ทุกครั้ง ต่อให้มันจะผ่านมา 20-30 ปีในความคิดของผม ตราบใดที่เราได้ทำ ได้อยู่กับมัน มันจะมีเรี่ยวแรงเสมอในการทำสิ่ง ๆ นั้นนะ
เบียร์: ความจริงผมก็รู้จักกันมาก่อนแล้วนะครับก่อนที่จะมาร่วมงานกันในวง เราก็เห็นพัฒนาการเห็นความอะไรของเขามาตลอดนะ พอได้มาร่วมงานก็ไม่ได้รู้สึกว่าแก่หรืออะไรนะ มันก็รู้สึกว่าเป็นสิ่งใหม่สำหรับเราเหมือนเราต้องมาคิดโจทย์ว่า เราจะทำยังไงให้มันเป็น Supersub ต่อไป เพราะว่า เหมือนเราเป็นคนใหม่ที่เข้ามาอะไรแบบนี้ครับ สีมันจะเปลี่ยนรึเปล่า จะทำยังไงให้คงความเป็นดนตรีที่มีความเป็น Supersub อยู่
อั้ม: เหมือนเวลาเราทำเพลง เราก็ไม่ได้ทำเพื่อจุดประสงค์ที่ต้องการให้คนที่มีอายุเยอะฟังหรือว่าอายุน้อยฟัง เราไม่ได้คิดถึงตรงนั้นเลย เรากลับกลายแบบว่า ถ้าเด็กชอบก็ดี ผู้ใหญ่ชอบก็ดี วัยรุ่นชอบก็ยิ่งดีไปใหญ่ มันคือตรงนั้น หรือถ้าคนอื่นอาจจะมองว่าแก่ก็ได้นะ (หัวเราะ)
เบียร์ สมาชิกคนใหม่ของวง Supersub
เบียร์: ความจริงตอนแรกก็ปฏิเสธเขาไปแล้วครับ เพราะว่างานที่ทำด้วยอะไรด้วย เราก็กลัวไม่มีเวลาเต็มที่ให้วง เพราะ เรื่องการทำงานของเรา กลัวจะทำเขาเสียเวลา แต่เขาก็แบบตกลงปลงใจกันสองคนระหว่าง กล กับ บ๋อม เขาจะเอาเรา สุดท้ายเราก็แพ้ลูกตื๊อก็เลยรับปากไปในที่สุด
เพลงที่ชอบที่สุดใน Supersub ตลอด 12 ปีที่ผ่านมา
เบียร์: ความจริงต้องบอกว่าอัลบั้มแรกผมไม่ได้ฟังนะ (หัวเราะ) ผมมาได้ฟังตอนเพลง Clock ก็เออ เจ๋งดี มีไอเดียที่นำเสนอดีอะไรประมาณนี้
อั้ม: ผมชอบ กาลนิรันดร์ ผมไม่รู้ว่าแฟนเพลงจะคิดเหมือนผมรึเปล่านะ แต่ผมว่ามันเป็นเพลงที่ดีมาก ๆ ทั้งอารมณ์ เนื้อหา ดนตรี ผมสามารถเอาเพลงนี้มาเยียวยาให้ชีวิตต่อไปได้เรื่อย ๆ เลย
กล: พูดถึงพี่บ๋อมก่อนแล้วกัน แกจะชอบชุดแรกนะ มันจะมีความดิบๆ หน่อย แกฟังครั้งแรกก่อนจะเข้าวงก็ชอบชุดแรกมากกว่าชุดอื่น ๆ ส่วนผมก็จะเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ มันจะชอบอันหลัง ๆ มากกว่า ชอบอัลบั้มที่แล้ว ชอบเพลง อุณหภูมิ ครับ ไม่ได้เป็นเพลงซิงเกิ้ล จริง ๆ เขาว่าศิลปินก็อปโน่นก็อปนี่ เราก็ไม่รู้ว่าใช้คำว่าก็อปได้รึเปล่านะ เพลง อุณหภูมิ ก็เป็นการเอาเพลงที่ชอบทั้งสองเพลงมาบวกกันแล้วใส่เราเข้าไป เรื่อง reference อย่างต่ำประมาณ 2-3 เพลงมารวมกันอะ คนจะจำได้ก็ดี เขาจะได้รู้ที่มา แต่มันคงไม่น่าเกลียดขนาดจะบอกว่าเราก็อปเพลงนั้นมาเลย มันก็ไม่ใช่ขนาดนั้น
อั้ม: ผมว่าจริง ๆ คำว่า ก็อปปี้ ในความหมายที่ผมเข้าใจมันคือการเอามาเลย เมโลดี้ร้องเขาร้องแบบนั้นก็ร้องแบบนั้นไปเลย เหมือนกับเราดราฟเทปอะไรแบบนี้ แต่ถ้าเกิดเราฟังแล้วมันอาจจะมีกลิ่นอายอารมณ์คล้าย ฟีลลิ่งคล้าย ผมว่ามันคือ ความอยากจะให้เป็นของที่เขาเหมือนสื่อสารด้วยเพลง เราอยากจะให้คนฟังรู้สึกอารมณ์นี้อยู่แล้ว
บ๋อม: ผมมีคำตอบที่ชัดเจนมากครับสำหรับเรื่องนี้ การที่เราได้รับแรงบันดาลใจเนี่ย เราจะเล่นเพลงนั้นด้วยความเคารพแล้วก็มีความสุข เหมือนเราได้มีเพลงของตัวเองในแบบที่เราเทิดทูนศิลปินคนที่เราชอบ เส้นแบ่งง่าย ๆ ครับ คุณกลัวหรือไม่ว่า คุณได้แรงบันดาลใจกับเพลงนี้ ถ้าคุณรู้สึกกลัวที่จะเล่นเพลงนั้นออกไปก็แปลว่าคุณก็อปมา แต่ถ้าคุณคิดว่าไอเดียเนี้ยเด็ด โลกยังไม่รู้ กูคิดมาขายของกูเอง ผมว่าอันนั้นแหละเส้นแบ่งที่ชัดเจน
วงที่ Supersub อยากร่วมงานในค่าย Sanamluang Music
อั้ม: ถ้าตอนนี้ผมอยากร่วมงานกับ อพาร์ตเมนต์คุณป้า ครับ
กล: ถ้าให้ร่วมงานเหรอก็อาจจะหยิบสมาชิกแต่ละวงมาร่วมกันทำวงใหม่ขึ้นมาครับ พี่ใหม่ อพาร์ตเมนต์คุณป้า ตอนนั้นผมเคยจะทำวงกับแกด้วย Tabasco รู้จักแชมป์ ภูมิจิต ก็ทั้งวง
ถ้าเปรียบเหมือนนักกีฬาตอนนี้วง Supersub กำลังจะถูกเปลี่ยนตัวลงไปแข่งขันอีกครั้ง คิดว่ารอบนี้ลงมาจะทำสกอร์ได้ไหม
กล: ก็อยากเป็นเหมือน เท็ดดี้ เชอริงแฮม นะครับ ลงไปตอนยูฟ่าแชมปเปี้ยนลีกปี 1999 อายุก็มากแล้ว แต่ไม่คิดขนาดว่าจะยิงได้นะ แต่แค่ลงไปแล้วเล่นดีไม่โดนคนด่าว่า เปลี่ยนลงมาทำไมก็คงจะพอแล้ว
อั้ม: ของผมเป็น โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ดีกว่าครับ วงเราเราต้องแบบนั้น
บ๋อม: ผมดูกีฬาบาสเก็ตบอลเยอะ กีฬานี้มันจะมีคำพูดนึงที่พูดถึงผู้เล่นที่เก๋าเกม แต่เขาก็ไม่ได้แกร่งพอที่จะเป็นตัวหลักของทีม แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องใช้ความนิ่ง การผ่านโลกมาเยอะประมาณนึงอะไรแบบนี้ เขาก็จะตอบโจทย์ได้พอสมควรเหมือนเป็นจิ๊กซอว์ตัวนึงที่ขาดไม่ได้ คือเขามาแล้วมีประโยชน์ ส่วนทำแต้มได้ไหม ผมคิดว่าถ้าถามเราเองเราหวังว่าเราทำแต้มนะ จะมากหรือน้อยไม่สำคัญ แต่อยากให้มันมีนัยยะ เราอยากให้เพลงของ Supersub ออกไปแล้ว รู้สึกว่าคนก็แบบเออไม่มีแบบนี้ฟังมานานแล้วเหมือนกันนะ
ตอนนี้มองวงการเพลงบ้านเรายังไง
อั้ม: มันก็ดีนะครับ เหมือนทุกคนรวมเป็นกลุ่มก้อนเดียวกันไปแล้ว แต่แค่ในมันมีเรื่องของโหมดเพลงเขามามันทำให้บังคับให้ศิลปินแคบลงอะ ผมว่าตัวศิลปินโอเคเขาอาจจะชื่นชอบในแนวดนตรีเหล่านั้นที่ถูกคนกำหนดมาให้ เหมือนพอมันมีการจัดประเภทว่าเราไปอยู่ในส่วนใดส่วนนึงแล้ว มันเหมือนกับเราต้องกลายเป็นแบบนี้เหรอ บางทีผมก็ว่า มันแปลก ๆ นิดนึง คำว่าป๊อปปูล่าตอนนี้มันกลายเป็นไม่ใช่ดนตรีป๊อปหน้าตาที่เคยรู้จักตอนยุค 90s แล้วอะ ถ้าตอนนั้นบอกไปก็จะพอรู้จักว่าหน้าตามันเป็นยังไง แต่ในยุคสมัยนี้ไอ้คำว่าดนตรีป๊อปมันเปลี่ยนไปมันคือกลายเป็นแนวเพลง มันเป็นไปตามยุคสมัยนั่นเอง
กล: จริง ๆ ผมไม่ค่อยมีความรู้เรื่องดนตรีเท่าไร ปกติก็ไม่ค่อยหาเพลงฟัง แต่จะแต่งเพลงจากความทรงจำที่เคยได้ยินหรือว่าถ้าอย่างตอนช่วง กัน มือกีตาร์คนแรกยังอยู่ก็จะชอบเอาอะไรใหม่ ๆ มายัดให้เรา ตอนนี้ก็ได้ ตาล แฟนเรา เขาจะชอบเปิดเพลงประหลาด ๆ อินดี้เอเชียให้ฟัง อะไรที่เขาเปิดสักพักคุณ ปูม ปริณาม ก็จะพามาเล่น แปลว่าเขาก็ทันอยู่ประมาณนึง ผมก็เลยได้อานิสงส์ไปด้วยในเรื่องเมโลดี้
บ๋อม: วงการเพลงนี้ตอนนี้มันก็ไม่ได้ดีขึ้นหรือแย่ลงนะ มันก็แค่เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยี สภาพเศรษฐกิจทุกอย่าง ถ้าสรุปสั้น ๆ ก็คือ ผมว่ามันเป็นตลาดที่เปิดกว้างสำหรับคนหน้าใหม่มากขึ้นแต่ในขณะเดียวกัน คุณก็จะยืนระยะได้สั้นลงเราก็อาจจะเห็นปรากฏการณ์ประเภทพี่ตูนคนที่สองได้ยากขึ้นแล้ว ถามว่ามันดีแย่ยังไงมันพูดยาก เพียงแต่ว่ามันเป็นยุคที่เด็กรุ่นใหม่มักจะเดินมาถามเราว่า ต้องทำยังไง ซึ่งเราอยู่ในยุคที่มันมีความเปลี่ยนแปลงทุกวัน ผมว่าตัวเขาเองรู้ดีที่สุดว่าทำยังไงถึงจะประสบความสำเร็จ
ได้ย้อนกลับไปฟังผลงานเก่า ๆ ของ Supersub กันบ้างไหม
กล: มันจะมีบางช่วงที่เขิน ๆ บางเพลงบ้าง เหมือนกับตอนเด็ก ๆ วาดการ์ตูนแล้วโครตเท่ชอบมาก พอแก่ไปก็มาดูแล้วกลับรู้สึกว่าทำไมวาดเห่ยจังวะ ก็มองเหมือนเป็นสมุดเล่มนึงที่เราหัดเขียน ก.ไก่ที่ยังหงิก ๆ งอ ๆ แบบนั้นมากกว่า
เคยเห็นเด็กรุ่นใหม่ ๆ เล่นเพลง Supersub กันบ้างไหม
กล: เคย นานมากตอนไปเป็นกรรมการประกวดดนตรี บางทีก็เจอตามห้องซ้อมนะ
บ๋อม: เขาวางยาเปล่า เขารู้ไงว่าเราจะไป
กล: รู้สึกเฉย ๆ นะ บางทีก็รู้สึกแปลกดีว่าทำไมเล่นเพลงนี้วะ เฮ้ยเขาร้อง Clock ถึงปะวะ ร้องถึงด้วย ร้องดีกว่าเราอีกอะไรแบบนี้ ก็รู้สึกดีใจ เอ๊ะ หรือเฉย ๆ (หัวเราะ) ถ้าไปเจอตามร้านที่เขาเล่นเพลงเราอยู่ก็คิดในใจเสมอว่า ‘อย่าเรียกกูนะ ขอร้อง’ บางทีคีย์ก็ไม่ได้ดรอปมาก็ซวยไป รวม ๆ ก็ไม่ได้รู้สึกอะไร แต่ไปในทางที่ดีนะ
บ๋อม: เขาก็จะแบบ ‘อะไรวะไอ้ต้นฉบับ อ่อนว่ะ’ (หัวเราะ)
เด็กรุ่นใหม่ชอบถามว่าทำดนตรีเองปล่อยเองหรือทำดนตรีแล้วมีค่ายอันไหนดีกว่า
บ๋อม: จากประสบการณ์เราทำเองปล่อยเองได้หมดเลยครับในยุคนี้ เผลอ ๆ จะดีด้วยซ้ำที่ไม่มีใครมาควบคุมเรา เราทำเพลงเอง เด็กเดี๋ยวนี้จบงานสตูดิโอระดับมาสเตอร์หน้าห้องนอนตัวเองได้เลย แล้วก็สามารถถ่าย mv ได้ในราคาที่เขาจ่ายได้ แล้วเขาก็มีคอนเน็กชันมากพอจะไปเดินหางานต่าง ๆ เล่น แต่ทั้งหมดทั้งปวงนี้ ทำไมอยู่ค่ายแล้วรู้สึกดีกว่า เพราะเราทำทุกอย่างพร้อมกันไม่ได้ มันจะต้องมีคนหลังบ้านสักคนที่คอยเตือนว่า เฮ้ย ทำอันนั้นนะ ทำอันนี้นะ เราทำแบบเดียวกับคุณได้เลย เป็นตัวของคุณเองเลย ให้ช่วยไหม นั้นแหละครับคือประโยชน์ของการที่มีค่าย เหมือนมีเพื่อนหลังบ้านครับ
ถ้าให้แนะนำเพลงให้คนที่ไม่รู้จัก Supersub ฟังสักเพลง
บ๋อม: ถ้าให้แนะนำจริง ๆ ขอแนะนำเป็นเพลงชุดที่ 2 นะ ชอบ Re-Make Love มันมีกลิ่นอายความเป็นชุดแรกของเขาอยู่ มีความพังก์นิด ๆ แล้วเนื้อเพลงก็ค่อนข้างจะไม่ดาร์ก เพราะว่าบทเพลงส่วนใหญ่ของ Supersub เนี่ยมันจะดาร์กเหลือเกิน
กล: ของผมไปฟังชุดแรกดีกว่า ชื่อเพลง หมดไป คอร์ดแนวเจร็อกเลยเพลงนี้ มีจังหวะช้าและเร็วเป็นเพลงแรกของวงด้วย อยากให้ฟังเพลงนั้นครับ
ฝากผลงานหน่อย
กล: ฝากด้วยครับ ลองดูไอเดียที่ผมบอกไปว่า การเอาเพลงที่เราชอบตอนเด็กมารีเมคทำใหม่ มันจะเป็นยังไง อยากให้ลองรับฟังกันดูครับ
บ๋อม: เป็นอีกซิงเกิ้ลใหม่ที่ผมรู้สึกว่า ผมภูมิใจกับมันมาก ๆ ที่ผ่านมา Supersub มันถูกกดปุ่ม pause ไปเพลงนี้มันเหมือนเป็นเพลงที่ทำให้เราได้เดินต่อ เรารู้สึกได้ว่ามันคือการ continue มันไม่ใช่เฉพาะตัวเพลงด้วยนะมันคือพวกเราเลยที่ไปต่อกัน ผมคิดว่า เพลงต่อ ๆ ไปจากนี้มันน่าจะมีอะไรที่มันดีกว่าเดิมแน่นอน ชีวิตแต่ละคนก็น่าจะกลับมาเป็นกลุ่มเป็นก้อนมากขึ้นด้วย ก็ฝากเพลง ก่อน ไว้ด้วยนะครับ