ทำความรู้จักกับปัจจุบันของวง Niece
- Writer: ธนาภรณ์ โสภณพัชรคุณ
- Photographer: Aurayap
หลังจากที่กลุ่มศิลปินสาวค่าย Dojo city ปรากฎตัวให้แฟนเพลงได้หายคิดถึงกันในคอนเสิร์ต “LOVEiS Special DOJO-B5 Super ติ่ง Home Coming Live Concert” เมื่อปลายปีที่แล้ว แน่นอนเกิดคำถามต่อแฟนเพลงหลายคนว่า ปัจจุบันพวกเธอแต่ละวงทำอะไรกันอยู่ อยู่ที่ไหน สบายดีกันอยู่รึเปล่า? เราจึงจะไปชักชวนหนึ่งวงจาก ๆ Dojo City อย่าง “Niece” มาร่วมพูดคุยกัน…
PART 1: Niece มาถึงจุดนี้กันได้ยังไง
Niece เวอร์ชั่น 2558
กิ: ปัจจุบันกิเป็นโปรโมเตอร์ทำคอนเสิร์ตในนาม Have You Heard ? ค่ะ และชีวิตล่าสุดตอนนี้พึ่งได้งานใหม่ที่บริษัท Asiola เป็นงานเกี่ยวกับ Crowd funding คล้าย Kickstarter กำลังจะเปิดเดือนหน้านี้ ซึ่งจะเป็นการระดมทุนเพื่อทำโปรเจคซักอย่าง โดยจะค้นหาโปรเจคที่น่าสนใจจากศิลปินสาขาอาชีพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักดนตรี เชฟ แฟชั่นดีไซเนอร์ หรือศิลปะ บริษัทเราจะทำ Platform เพื่อเปิดให้คนที่ติดตามสนับสนุนพวกเขาได้ และปัจจุบันกิยังเขียนคอลัมน์ I Am All Eyes / I Am All Ears ในนิตยสาร Cheeze โดยเขียนเกี่ยวกับเพลงและดนตรีค่ะ
คิท : ชีวิตของคิทออกมาคนละแนวทางกับกิเลย (หัวเราะ) พูดได้ว่าเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือเลยทีเดียว คิทได้มาทำงานบริษัทที่บ้านเกี่ยวกับโบรกเกอร์ประกันภัย ชื่อบริษัท Siam Global Advisory เป็นสิ่งที่ไม่เคยทำมาก่อนและต้องใช้ความพยายามเยอะมากเลยค่ะ
17 ปีแห่งความหลัง
คิท : วงเรามันเริ่มต้นมาจากคิทไปแคสติ้งโฆษณาโฟมล้างหน้ายี่ห้อหนึ่ง แล้ววันนั้นเราก็พากิไปเป็นเพื่อนด้วย เพราะเราสองคนเป็นเพื่อนสนิทกันอยู่แล้วค่ะ ไปถึงก็ได้มีโอกาสเจอพี่สมเกียรติ อริยะชัยพาณิชย์ พี่เขาไปดูงานนั้นพอดีเลยจึงชักชวนเราสองคนว่าสนใจลงหนังสือ Katch Magazine กันไหม เป็นเล่มแรกด้วยเลยนะ พอลงหนังสือเสร็จพี่เขาก็มาชวนไปลองเทสเสียงดู ซึ่งมันลงตัวหมดทุกอย่าง สุดท้ายจึงเกิดวงนี้ขึ้นมา ทุกอย่างมันรวดเร็วมากค่ะ
ปัจจุบันกิเป็นโปรโมเตอร์ทำคอนเสิร์ตในนาม Have You Heard ? ค่ะ และชีวิตล่าสุดตอนนี้พึ่งได้งานใหม่ที่บริษัท Asiola เป็นงานเกี่ยวกับ Crowd funding
Niece come back in LOVEiS Special DOJO-B5 Super ติ่ง Home Coming Live Concert
กิ: คอนเสิร์ตนี้เลยค่ะที่ทำเราได้กลับมาร้องเพลงด้วยกันอีกครั้ง ตอนนั้นกิยังไม่ได้ทำงานประจำเลย แล้วพี่บอย โกสิยพงศ์กับพี่สมเกียรติก็ติดต่อเราสองคนให้ไปเล่นงานนี้ จึงยินดีตอบตกลงทันทีเลย ถึงแม้ว่าจะเป็นป้าแล้วก็เถอะ (หัวเราะ) อีกทั้งงานในวันนั้นถือว่าเป็นการเต้นเยอะที่สุดในรอบหลายปีด้วย กิไม่ถนัดเรื่องการเต้นเลย ไม่เหมือนคิทที่ยังพอเต้นได้ แถมยังต้องเต้นเซ็กซี่อีกด้วย กิก็จะแบบ ค่ะ จะพยายามนะ (หัวเราะ) แต่สนุกมากและดีใจที่ได้ร่วมงานกับพวกพี่เขาอีก พี่โบกับพี่จอยซ์เขาก็ยังเฮฮาเหมือนเดิม มีความสุขมากค่ะในงานนั้น
คิท: วันนั้นคนดูทุกคนอยากดูและอยากสนุกกับพวกเราด้วย ซึ่งตัวเราเองก็รู้สึกดีนะกับผลตอบรับในงานวันนั้น พร้อมกับสนุกมากด้วยในการได้ย้อนวัยกลับไปเด็กอีกครั้ง คืนนั้นเราก็เต้นกันยับเลยค่ะ (หัวเราะ) ส่วนความรู้สึกที่ได้กลับไปเจอพวกพี่ ๆ ที่ค่าย Dojo มันรู้สึกอบอุ่นมาก เหมือนได้กลับไปพบญาติ ดีใจที่ได้กลับไปเจอพวกพี่เขาอีกครั้ง
ความเป็นไปได้ในการกลับมาของ Niece
คิท: ถ้ามันมีโอกาสกลับมาร้องด้วยกันอีกครั้งก็ดี แต่ตอนนี้มันไม่มีน่ะสิ (หัวเราะ)
กิ: ตอนแรกมีคุย ๆ กับพี่สมเกียรติอยู่พี่เขาก็ให้คำแนะนำว่าจะทำอะไรกันอีกดีใน Dojo แต่มันยังไม่เป็นรูปเป็นร่างมากเท่าไหร่ เป็นแค่ไอเดียคร่าว ๆ มากกว่า เลยยังไม่ได้ทำในตอนนี้ค่ะ
ปัจจุบันคิทได้มาทำงานบริษัทของที่บ้านเกี่ยวกับโบรกเกอร์ประกันภัย ชื่อบริษัท Siam Global Advisory
PART 2 : ชีวิตของกิกับเรื่องราวของ Have you heard?
What is “Have You Heard?”
กิ: โปรเจคนี้เริ่มต้นมากจากกิกับเพื่อน ๆ ได้แก่ แป๋ง Yellow fang กับ ทราย (กรมิษฐ์ วัชรเสถียร) โดยเป็นการนำวงอินดี้ของต่างประเทศเข้ามาเล่นในเมืองไทย ซึ่งวงที่เรานำเข้ามาเล่นก็เริ่มจากความอยากดูของพวกเรากันเองก่อนเลย (หัวเราะ) วิธีการเลือกวงเข้ามาเราจะดูว่าช่วงเวลานั้นมีวงอินดี้วงไหนกำลังมาเล่นแถบบ้านเรา โฉบไปโฉบมา แต่ไม่ยอมมาเล่นในไทยซักที นั่นแหละค่ะพวกเราจะรีบไปชักชวนมาเล่นทันทีเลย
Process of “Have You Heard?”
กิ: วงแรกที่นำเข้ามาเล่น จำได้ว่าต้องใช้เวลาอยู่นานเลยทีเดียว พวกเราต้องไปพูดจาหว่านล้อมเขาสารพัด คำถามที่ย้อนกลับมาก็จะแบบพวกคุณเป็นใครกัน เขาจะไม่เชื่อใจเราสักเท่าไหร่ในช่วงแรก คุยกันอยู่เกือบปีกว่าเขาจะหลวมตัวเข้ามา (หัวเราะ) The Pains of Being Pure at Heart เป็นวงแรกค่ะ เขาอยากมาเที่ยวเมืองไทยอยู่แล้วด้วย เลยตอบตกลงมา หลังจากนั้นพวกเราก็มีผลงานสะสมมา ทำให้คุยกันง่ายขึ้น ไว้ใจเรามากขึ้นค่ะ ในส่วนงบประมาณที่นำมาจัดบอกเลยว่ามันเสี่ยงภัยเหมือนกันนะ หลาย ๆ ครั้งพวกเราต้องออกเงินประมาณกันเอง ลองผิดลองถูกกันมาตลอด และทีมงานที่ร่วมงานด้วยกันส่วนมากจะเป็นคนเดิม ไม่ว่าจะเป็น Lighting, Design พวกเขาจะเข้าใจว่างานเรามีข้อจำกัด เพราะงานของพวกเรามันเป็นงานเล็ก ๆ ไม่ได้มีงบกันเยอะแยะ
เสียงสะท้อนกลับมาของผู้ชม
กิ: มีทั้งดีและไม่ดีค่ะ เช่นปีที่แล้วมีช่วงแป๊ก ๆ บ่อยเหมือนกัน เพราะมีเรื่องเกี่ยวกับการเมือง เจ็บไปเยอะเหมือนกันตอนนั้น แต่มันก็มีงานที่โอเคอยู่นะ เฉลี่ย ๆ กันไป
PART 3 : คิทกับการกลับมาในฐานะโบรคเกอร์ประกันภัย
มือใหม่โบรคเกอร์ ประกันภัย
คิท: เราห่างหายทางด้านวงการเพลงไปเลย ตอนนี้เป็นนักธุรกิจอย่างเต็มตัวแล้ว มันเป็นหน้าที่ของคิทที่ต้องทำธุรกิจต่อจากครอบครัว ซึ่งมันเปลี่ยนแนวไปเลยกับงานที่เคยทำมาทั้งหมด ต้องปรับตัวใหม่เยอะ ทุกสิ่งทุกอย่างมันไม่เคยทำเลย แต่ถึงอย่างไงคิทก็ต้องทำให้ได้ แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยากมาก และถ้าให้คิทกลับไปวงการเพลงอีกครั้ง มันจะเป็นเพียงแค่งานอดิเรกเท่านั้น เส้นเลือดใหญ่ที่จะล่อเลี้ยงชีวิตคิทไปทั้งชีวิตตอนนี้มัน คือ งานปัจจุบันนี่แหละค่ะ เหตุผลหลักอย่างที่บอกไปมันเป็นหน้าที่ของลูกสาวคนโตที่ต้องสืบทอดกิจการของที่บ้าน
การเคลื่อนไหวทางดนตรีหลังจากนี้ของคิท
คิท: ตอนนี้แค่งานที่ทำอยู่มันก็กินเวลาชีวิตในแต่ละวันจนหมดแล้ว เพราะเราไม่ได้แค่ทำ ๆ ให้มันผ่านไป ทุกอย่างมันยังต้องเรียนรู้อีกเยอะค่ะ ก็เลยรู้สึกว่าเรื่องการกลับมาทำอะไรกับวงการเพลงน่ามีโอกาสน้อยมาก ๆ แล้วแหละค่ะ
PART 4 : ภาพของวงการเพลงไทยและความสุขในทุกวันนี้ของ Niece
ในสายตาของพวกคุณวงการเพลงไทยตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
กิ: ตอนนี้ฟังใจเจ๋งมากเลยนะในสายตาเรา นี่ไม่ได้พูดอวยนะคะ (หัวเราะ) ช่วยทำให้วงเพลงการเพลงไทยดีขึ้น มีการเพิ่มพื้นที่ให้ผู้คนสามารถฟังวงนั้นวงนี้ได้มากขึ้น อยากให้มันดีขึ้นเรื่อย ๆ นะ ตอนนี้เราก็ว่ามันดีขึ้นกว่าปีที่แล้วมาก ๆ เลย กระแสของฟังใจมันดูคึกคัก ช่วงนี้มีคนจัดงานคอนเสิร์ตเพลงไทยกันเยอะขึ้น ยังไงก็ให้กำลังใจฟังใจนะคะ สู้ต่อไปนะ
ความเสถียรของวงการเพลงไทย
กิ: ทุกอย่างมันเป็นการเปลี่ยนแปลงของยุคแต่ละยุคนะ มันมีทั้งแง่ดีและไม่ดี เดี๋ยวนี้มันมีช่องทางที่สามารถทำให้ศิลปินใกล้ชิดกับแฟน ๆ ได้มากขึ้น เรามองว่าเราคงต้องทำหน้าที่ทั้งสองฝ่ายอย่างที่ควรจะเป็นต่อไป ถ้าเราอยู่ในบทบาทของแฟนเพลง ก็ต้องสนับสนุนศิลปินที่เราชอบ รวมทั้งเรื่องการดาวน์โหลดเพลงที่ควรทำอย่างถูกต้อง กลับกันในอีกฐานะของการเป็นศิลปินเราต้องทำเต็มที่ด้วย เชื่อว่าถ้าเป็นอย่างที่บอกไปข้างต้น กลไกวงการเพลงไทยคงจะมีความเสถียรมากขึ้นค่ะ
คิท: คิทถูกสอนมาแต่เด็กแล้วว่างานในวงการบันเทิงทั้งหลายมันไม่ใช่งานมั่นคง ซึ่งจริง ๆ มันอาจจะสามารถเป็นงานมั่นคงได้ แต่คิดว่ามีน้อยคนที่จะไปถึงจุดนั้นและสามารถอยู่ในวงการดนตรีแบบประสบความสำเร็จได้จริง ๆ คิดว่ามันเป็นเรื่องยาก ทั้งในต่างประเทศหรือประเทศไทยที่จะทำให้ทุกอย่างมันเสถียรอยู่ตรงกลางได้
อะไรคือความสุขในปัจจุบันของทั้งคู่
คิท: การที่ได้ออกกำลังกายอย่างหักโหมค่ะ คิทจะชอบออกกำลังกายมาก พูดว่าบ้าเลยก็ว่าได้ โพลแดนซ์ ปีนผา โยคะ ชอบแบบอะดรีนาลีนพุ่งพล่าน จะรู้สึกหายเครียด (หัวเราะ) ก่อนหน้านี้ได้ไปเรียนทำอาหารด้วย ซึ่งเอาเข้าจริงไม่มีเวลาทำเหมือนกัน
กิ: ถ้าวันหนึ่งทำงานเหนื่อย ๆ มา พอกลับมาถึงบ้าน ได้แบบเปิดไฟชิว ๆ ในห้อง เปิดเพลงฟังอะไรแบบนี้ จะรู้สึกโอเค ชาร์ตพลังแล้ว
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้อยากบอกกับตัวเองว่า เฮ่ย ! ทำ ๆ ไปเถอะงานดนตรีอ่ะ มันเป็นแค่ช่วง ๆ หนึ่งเท่านั้นแหละ และจงสนุกกับมันให้เต็มที่
คำพูดที่อยากจะบอกเด็กหญิงกิและคิทตอน 17 ปีที่แล้ว
กิ: ตอนนั้นเราเป็นเด็กมากเราก็จะงอแง บางวันไม่ค่อยอยากทำงาน โอ้ยเหนื่อยอะไรแบบนี้ คิดดูแบบหลังเรียนเสร็จต้องไปทำงาน เหนื่อยมาก (หัวเราะ) อายุแค่ 15 เองนะ เราก็มีแอบโดดงานบ้าง อารมณ์อยากทิ้งมันไปเลยก็มี ไม่อยากทำแล้ว ถ้าย้อนไปได้อยากบอกกับตัวเองว่า เฮ่ย ! ทำ ๆ ไปเถอะ มันเป็นแค่ช่วง ๆ หนึ่งเท่านั้นแหละ และจงสนุกกับมันให้เต็มที่
คิท: ของคิทก็จะคล้ายกับกิเลย อยากจะบอกกับตัวเองว่าอย่าดื้อมากเลยนะ อย่างอแง สงสารพี่ ๆ ที่เขาดูแลเราหน่อย
ทิ้งท้ายให้หายคิดถึง
กิ: ติดตาม Have You Head ? ด้วยนะคะ เดี๋ยวเดือนตุลาจะมีงานเล็ก ๆ กึ่ง ๆ ปาร์ตี้ เราจะนำวงชื่อ The Garden มาเล่นค่ะ วงนี้เขาเป็นเป็นสไตล์ร๊อคพั๊งค์ และปลายปีก็น่าจะมีอีก 2-3 วง มาอุดหนุนกันด้วยนะ ส่วนอีกอันก็ของ Asiola รับรองว่ามีกิจกรรมให้มาร่วมสนุกกันแน่นอน หรือติดตามกิได้ทาง Instagram: _ki_
คิท: ถ้าอยากทำประกันก็ติดต่อคิทได้นะคะ (หัวเราะ) ขายประกันค่ะ บริษัท Siam global adviscry แต่ถ้าอยากรู้ความเคลื่อนไหว สามารถดูได้ทาง Instagram: kit_ameena ค่ะ
