จาก แด๊กซ์ Big Ass สู่ Rock Rider ชื่อใหม่กับน้ำเสียงที่คุ้นเคย
- Writer: Sasilak Pichitworakarn
- Photographer: Jarupong Jarana
จำไม่ได้ว่าครั้งแรกที่เคยได้ยินเพลงของ Big Ass คือเมื่อไหร่ จนเมื่อหันความรู้สึกกลับไป พวกเขาเหล่านี้ก็มีบทบาทในฐานะศิลปิน Rock และเป็นที่จดจำแห่งวงการเพลงระดับประเทศไปแล้ว
นับตั้งแต่ Big Ass ก่อกำเนิดขึ้น การเดินทางอันยาวนานที่แม้จะมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไปมากมาย กระทั่งตอนนี้ แด๊ก กลับมาอย่างภาคภูมิพร้อมกับนามสกุล Rock Rider และซิงเกิลอย่างเป็นทางการที่มีชื่อว่า “กลับตัวกลับใจ” ที่เต็มไปด้วยความซื่อตรงและเอกลักษณ์ดั้งเดิมสมการรอคอย ทำให้การกลับมาเดินบนเส้นทางถนนดนตรีครั้งนี้ สะเทือนวงการและเป็นที่น่าจับตา
ซิงเกิล “กลับตัวกลับใจ” กระแสตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง
ต้องพูดตรง ๆ ครับ ซิงเกิล กลับตัวกลับใจ ที่เพิ่งทำมันถือว่าเป็นเพลงที่เป็นทางการจริงๆ ก่อนหน้านั้นเป็นการทำงานแบบส่วนตัวครับที่ผ่านมา 3 – 4 ปี อันนี้เป็นการกลับมาทำงานกับค่ายเพลงอย่างเป็นทางการ เพิ่งแถลงข่าวไปเมื่อวันที่ 29 มิถุนายน ก็ได้รับความสนใจจากแฟนเพลงจากเพื่อน ๆ พี่น้อง สื่อมวลชนก็ขอบคุณมากครับ
ดูยอดวิวหรือยัง
ก็เพิ่งทราบเหมือนกันครับ ขอบคุณมากที่ให้ความสนใจกับมิวสิกวิดีโอ เห็นเขาบอกว่าล้านวิวใน 24 ชั่วโมงก็ขอบคุณครับ เพราะหลายคนก็อยากดูว่าตัวมิวสิกวิดีโอนำเสนออะไรบ้างนอกจากตัวเพลงแล้ว ก็ขอบคุณที่ชอบครับ
MV ได้ใครมาช่วยบ้าง
เริ่มจากคุยกันภายในก่อน ก็ได้รับเกียรติจากพี่เจษ-เจษฎา หันช่อ ชื่อนี้ทุกคนก็รู้จักกันอยู่แล้ว แกก็มาเป็นผู้กำกับมิวสิกวิดีโอให้ แล้วนางเอกของเราก็ได้น้อง แตงโม ภัทรธิดา ให้เกียรติมาครับ ผมว่าเหมาะสมครับ
เราได้มีส่วนออกความเห็นไหม
ไม่เชิงครับ เพียงแต่ว่าเป็นไอเดียที่แชร์กันระหว่าง หรั่ง ฟองเบียร์ เขาบอกว่าน้องแตงโมอยากจะเล่นมิวสิกวิดีโอให้ ซึ่งตอนแรกเพลงก็ยังไม่ได้เสร็จสมบูรณ์ แต่พอเพลงเสร็จสมบูรณ์ก็รู้สึกว่าเขาเหมาะที่สุด เหมาะจริง ๆ เพราะเรื่องราวสอดคล้องกับเนื้อหาของเพลงจริง ๆ ภาพที่นำเสนอทั้งการซิงก์ไลน์ แล้วก็เส้นเรื่อง ถือว่าคู่ขนานไปด้วยกันได้ดี
กลับตัวกลับใจ มีความต่างกับซิงเกิลที่ผ่านมาไหม
ถ้าฟังครั้งแรก ทุกคนบอกว่ามันไม่มีอะไรแตกต่าง เพราะผมเชื่อว่าทุกคนอยากได้สิ่งที่คุ้นเคย บรรยากาศ ความรู้สึก เสียง แต่สำหรับผมมันคือความแตกต่างที่มโหฬารครับ ด้านหลังผม ด้านข้างผมเป็นคนอื่นหมดเลยไม่ใช่ทีมงานเก่า ตั้งแต่นักดนตรี คนแต่งเพลง คนที่เริ่มโครงสร้างก็เป็นคุณฟองเบียร์ ผมไม่เคยทำงานกับคนอื่นมาก่อน แล้วนักดนตรีที่มาช่วยกันก็เป็นพวกพี่ ๆ น้อง ๆ เก่ง โอ่ง AB Normal พี่ต่อ Sillyfools
ทุกอย่างมันใหม่หมดเลยถือว่าเป็นความแตกต่างที่ดีไหม
ดี ดีแน่นอนครับ ได้ทำอะไรใหม่ ๆ ถือเป็นเรื่องที่ดีครับ ผมถือว่าชีวิตนึงมีการเปลี่ยนแปลง ครั้งนี้ก็เป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ปกติเพื่อนพี่น้องจะเจอในโอกาสอื่นมากกว่า แต่การทำงานด้วยกันบรรยากาศความคุ้นเคยก็ทำให้การทำงานเป็นไปได้ด้วยดี
ได้ AB Normal กับ Sillyfools มาช่วย
อ๋อ ไอ้ต่อจริง ๆ ตอนนี้ไม่ได้อยู่ซิลลี่ อยู่กับพี่เสก แต่พูดถึงแกนหลักจริง ๆ คนที่ดูพาร์ตดนตรีจะเป็น พี่เก่ง พี่โอ่ง AB Normal ปกติเจอกันก็กินเหล้าด้วยกันเฉย ๆ ครับ แต่ครั้งนี้ทำงานด้วยกัน (หัวเราะ)
รู้สึกแปลกไหม
แปลกครับ ตัวผมสบาย ๆ แต่คนอื่นบอกว่า “พี่แด๊ก ตอนร้องจะให้ใครคุม” พี่ก็พูดภาษาเพื่อน “ก็มึงไง มึงนั่นแหละ” “หูยพี่ ไม่ได้มีอะไร ก็อันไหนดีค่อยอัดไว้แล้วกัน แล้วค่อยว่ากัน” ก็ทำงานสบาย ๆ ครับ จริง ๆ ก็เป็นพี่ บอย ไมโคร ช่วยดูในช่วงตอนร้อง ตอนแรกนึกว่าเป็นคุณฟองเบียร์เค้าจะคอนโทรลเอง แต่ไม่ใช่ครับ ก็ปล่อยตามสบาย
ไอเดียเพลงนี้เรามีส่วนลงไปช่วยไหม
ทุกอย่างเริ่มด้วยการแชร์ความคิดกัน คุยว่ามันควรจะเป็นมุมมองของคนแบบไหน พูดภาษาอะไรได้ คำไหนที่เราควรมี คำไหนที่เราไม่พูด ผมว่าเป็นเรื่องที่เป็นเอกลักษณ์เหมือนกันนะ ผมอาจจะเป็นตัวแทนของคนที่เรียบง่าย ไม่สื่อสารอะไรซับซ้อน ภาษาที่ใช้ในเพลงฟังแล้วเข้าใจเลยไม่ต้องเปรียบเปรย ผมว่าก็ลงตัวครับ
เป็นความหมายที่เราต้องการจะบอกกับทุกคนด้วย
ใช่ จริง ๆ อยากจะบอกว่าเพลงนี้ กลับตัวกลับใจ มันพูดถึงการเปลี่ยนแปลงของคน แต่จุดที่เปลี่ยนผมเชื่อว่านั่นแหละคือเหตุผลที่ดี สำหรับคน ๆ นึงที่กล้าบอกว่า วันนี้ทุกอย่างเปลี่ยนไปแล้ว
จาก Big Ass มาเป็น แด๊ก Rock Rider เหมือนเราต้องนับหนึ่งใหม่ไหม
แน่นอนครับการเปลี่ยนแปลงทุกครั้งย่อมไม่เหมือนเดิมครับ เพียงแต่ว่าการก้าวเดินของเราจะก้าวเดินไปทางไหน ผมว่ามันก็เหมือนเราย้อนไปตอนที่ผมเริ่มมีผลงานใหม่ ๆ เริ่มทำกันเอง อัดกันเอง ออกทุนกันเอง ถ่ายมิวสิกวิดีโอกันเอง สุดท้ายก็เริ่มก้าวเดินจนมีคนยอมรับมีคนอยากให้โอกาส ได้กลับมาทำงานกับบริษัท ได้กลับมาทำกับ ME Records มันก็ถือว่าเป็นลูปดีนะ เพียงแต่ว่าวันนี้เราอาจจะมีประสบการณ์อะไรบางอย่างที่เอามาใช้ได้ ก็ถือว่าดีครับทำให้การทำงานคล่องขึ้นครับ
หลังจากที่มีกระแสตอบรับว่าเสียงดรอปไป มีวิธีดูแลตัวเองอย่างไรบ้าง
จริง ๆ แล้วมันมีปัญหาหลาย ๆ อย่างครับ ก็ทำความเข้าใจกับตัวเอง พักผ่อน เพลงทุกอย่างอยู่ที่คีย์ด้วย อยู่ที่เทคนิคส่วนตัว แล้วก็เทคนิคของเสียงเวลาเล่นคอนเสิร์ตด้วย ไม่มีอะไรเหมือนเดิมครับ เพียงแต่ว่าเราเข้าใจว่าเราได้ประมาณไหน อยู่จุดไหน แม้กระทั่งดนตรี เราก็ต้องปรับเปลี่ยนด้วยเหมือนกันครับ
เริ่มวางแผนทัวร์คอนเสิร์ตหรือยัง
ก็มีอยู่เรื่อย ๆ ครับ ก็พยายามจะไปทุกอย่าง ไม่ว่าคอนเสิร์ตที่ไหน หรือว่าสื่อทุกต่าง ๆ วิทยุ ไปหมดครับ ยินดีครับไปทุกที่ นักดนตรีครับผมบอกเลย มันก็เหมือนการหาเสียงครับ เราต้องไปลงพื้นที่ตลอดเวลาไม่ว่าจะไปตรงไหนก็ตาม มันเหมือนเป็นการได้พบกับแฟนเพลงโดยตรงเลย ผมว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี ยินดีไปทุกที่ครับ
ว่างจากการทำเพลงแล้วพี่ทำอะไรบ้าง
ตอนนี้ยังตอบไม่ได้เพราะไม่ว่างเลยครับ (หัวเราะ) แต่ก่อนว่างผมก็ถ่ายรายการทีวีแหละ แต่ตอนนี้ไม่ได้ทำแล้ว เพราะแต่ก่อนวงจรชีวิตคือเล่นคอนเสิร์ต แบ่งเงินไป แล้วก็ไปต่างจังหวัด ไปมอบของให้เด็ก ๆ แล้วก็ตอนนี้เราก็จะมาเน้นเรื่องของดนตรี ซึ่งตอนนี้ถือว่าเป็นเรื่องหลักที่ต้องทำอยู่ตอนนี้
น้องร็อคกี้อายุเท่าไหร่
ประมาณ สามขวบครึ่ง วัยกำลังซนอยู่ครับ
เคยเล่าเรื่องตัวเองให้น้องฟังไหม
ไม่ต้องเล่าครับ เพราะเขารู้ว่าพ่อเป็นนักร้องอยู่แล้ว เพลงนี้ของปะป๊าเขารู้เลย ต่อให้ได้ยินดนตรีนิดเดียวหรือว่าเห็นเราแว็บ ๆ ตรงไหนก็ตาม เพราะว่าผมพาไปคอนเสิร์ตบ้างเขาก็จะรู้เลย น้องชอบร้องเพลงครับ
น้องเรียนเทควันโดด้วย
อยู่ ๆ เขาเดินเข้าไปขอเรียนเองเลย ครูวิวเขาเปิดสำนักอยู่แถวบ้าน ครูบอกว่าน้องมีแววให้เลือกเลยดีกว่าว่าจะเป็นดาราหรือว่าจะเป็นนักกีฬา ก็เพิ่งเคยเห็นเด็กสามขวบร้องอยากจะไปฝึก ร็อคกี้เขาเรียกว่าวิชานินจา อยากไปเตะกระสอบ เขาบอกว่าเพิ่งเคยเห็นเด็กเล็ก ๆ เป็นแบบนี้แหละ
อะไรที่ทำให้รู้สึกว่าเราต้องกลับมาร้องเพลงอีกครั้ง
คำถามนี้จริง ๆ ถ้าถามผม 4 – 5 ปีก่อน จะไม่ได้ยินว่าผมพูดเลยว่าจะกลับมาร้องเพลงนะ เป็นความบังเอิญหลาย ๆ อย่างครับ บังเอิญไปเจอแฟนเพลงในสถานที่ ๆ เราไม่คาดฝัน ในป่า ในเขา ในดอย อะไรอย่างนี้ครับ อย่างชาวเขาพูดไทยยังไม่ชัดเลย อย่างชาวพม่าที่เป็นลูกจ้างในปั๊มน้ำมัน เขาก็รู้จักทั้งที่ผมใส่หมวกกันน็อคอยู่ด้วยซ้ำ แล้วทุกคนทำอย่างนี้ครับ ยกโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วบอกว่ามีเพลงเราอยู่ในเครื่อง โทรศัพท์ที่ไม่ได้ไฮเทคอะไรเลยนะครับ มันก็อึ้งอยู่นะ จนสุดท้าย พี่หรั่ง ซิลลี่ฟูล ที่ทำงานด้วยกันแหละไม่รู้ว่าเห็นอะไรก็บอกว่า “เฮ้ย มาร้องเพลงเถอะ” เหมือนเดิมเถอะ ก็เลยมีกิจกรรมมากกว่าการขี่รถ ถ่ายรายการทีวี ก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นครับ แต่แล้วสรุปจริง ๆ ก็คือคนรอบข้าง แล้วก็แฟนเพลงที่เราไม่รู้ว่าเขาเป็นแฟนเพลงเรา เราไม่รู้ว่าเขามีอยู่ หรือว่าเขาอยู่ใกล้ตัวนี่เราไม่รู้เลย
เขาก็รอเรากลับมาอยู่ตลอด
ใช่ครับ
ตัวตนที่เป็น Big Ass กับ Rock Rider แตกต่างกันไหม
ไม่ได้แตกต่างครับ ก็เป็นเราอย่างเดิมในส่วนตัวของตัวเองนะ บิ๊กแอสผมก็เป็นเหมือน ลีดเดอร์ ภาพรวมจริง ๆ มันอาจจะเป็น 5 คน เพราะบิ๊กแอสจะคล้าย ๆ กันเพราะว่าเป็นกลุ่มคนที่เรียบง่าย พอมาอยู่คนเดียวมันยิ่งชัดเจนขึ้นเท่านั้นเองครับ แต่ก็ไม่ได้แตกต่างจากเดิมเท่าไหร่
รู้สึกอย่างไรถ้าแฟนคลับบางส่วนยังจดจำพี่ในฐานะ แด๊ก Big Ass
ได้เลยครับ เพราะผมไม่ได้เปลี่ยนว่าจะต้องไม่ใช้นามสกุลของเราเพียงแต่คำว่า บิ๊กแอส มันเป็นแค่ช่วงเวลานึงในนามสกุลนั้น แด๊ก ร็อกไรเดอร์ เป็นตัวเล็ก ๆ ที่เขียนพ่วงอยู่ว่าแด๊ก เขาจะได้รู้ว่าช่วงเวลาผมอยู่ช่วงนี้
ส่วนตัวเราอยากให้แฟน ๆ มองเราแบบไหน
มองอย่างที่คุณเห็นครับ ผมไม่ได้บังคับ เห็นผมเป็นยังไงก็อย่างนั้นแหละครับ
วางแผนอนาคตกับวงการเพลงไว้ยังไงบ้าง
เลยจุดแล้วครับ ทำอะไรที่ชอบแล้วตอนนี้ สมัยก่อนเด็ก ๆ อายุ 20 ตั้งเป้าแน่นอนว่าอยากมีคนชอบเพลง อยากมีอัลบั้ม อยากเล่นคอนเสิร์ตต่อหน้าคนเยอะ ๆ ตอนนี้ทุกอย่างมันเดินผ่านมาหมดแล้ว เพียงแต่ว่าก็ได้ทำงานได้ประสบการณ์ใหม่เพิ่มขึ้น ผมว่าน้อยคนนะที่จะมีประสบการณ์ในการเปลี่ยนแปลง ช่วงนึงของชีวิตหลาย ๆ ครั้ง
ในฐานะที่พี่อยู่ในวงการเพลงมานาน มองวงการเพลงในประเทศไทยแบบไหน
วงการเพลงผมว่าเหมือนกันทั่วโลกครับ ช่วงนี้ไม่สามารถคาดเดาอะไรได้ ทุกคนมีโอกาสทำสิ่งที่ตัวเองชอบ เราสามารถรู้เลยว่างานของเราจะมีคนชอบแน่นอน ผมเชื่อว่ามันเปิดกว้างนะ โอเคบางคนอาจจะไม่ได้คาดหวังอะไรมาก บางคนอาจจะคาดหวังในสิ่งที่ตอบรับกลับมา แต่ผมเชื่อว่ามีพื้นที่ให้กับทุกคนครับ
ณ ตอนนี้ความสุขในการทำเพลงของเราอยู่ที่ไหน
ได้ทำงานร่วมกับคนหลาย ๆ คน เปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ผมว่าเมื่อเพลงมันสมบูรณ์ เวลาเราได้ยินคนที่ได้ฟังเพลงเราตอบมาว่า เนี่ยแหละ ที่ผมรออยู่ มันมากกว่าคำว่าดีใจนะ ผมว่ามันเป็นความทรงจำที่ดีเลย ผมรู้แล้วว่าหนึ่งในความทรงจำที่ดีของผมมันคืออะไร ก็คือเมื่อเราทำงานเสร็จแล้วมีคนชอบเพลงของเราเนี่ยแหละครับ
อยากบอกอะไรถึงแฟน ๆ ในการกลับมาครั้งนี้
ก็ไม่มีอะไรมากครับ ก็อยากขอบคุณครับ ผมว่าขอบคุณเป็นคำที่มีความหมายมากที่สุด ต่อให้ผมพล่ามอะไรไป สุดท้ายก็ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจให้ครับ
เพลงใหม่คิดไว้หรือยัง
แง้มหน่อย ปีนี้มี 3 เพลงครับ
ยังบอกไม่ได้ใช่ไหมว่าชื่อเพลงอะไร
ยังไม่ได้ตั้งชื่อเพลงเลยครับ (หัวเราะ) เหลืออัดจริงอย่างเดียวครับ บอกได้ว่าไอ้ที่คนอื่นดีใจล้านวิววันเดียว มีคนโทรศัพท์มาบอกว่าเข้าห้องอัดต่อได้แล้ว
ฝากผลงานเพลง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมก็ดิจิตอลดาวน์โหลดนะครับ *492 222 227 แล้วก็แฟนเพจ อินสตาแกรม Me Records Dax Rock Rider ครับ