ย้อนเวลาไปท่องโลกการ์ตูนกับ ธนพ ตันอนุชิตติกุล (นพ Digimon)
- Writer: Gandit Panthong
- Photographer: Son of Jumbo
“ออกอาวุธ ออกอาวุธที่พัฒนามาเป็นชุด”
เชื่อว่าหลายคนที่กำลังอ่านคอลัมน์นี้อยู่ หากย้อนเวลากลับไปประมาณ 15 ปีที่แล้ว คงจะไม่มีใครไม่รู้จักเพลงนี้ ยิ่งถ้าเป็นเด็ก ๆ ที่ตื่นเช้ามาดูช่อง 9 การ์ตูนด้วยแล้ว จะต้องรู้จักกับสองพี่น้องพี่นัทและน้องนพ ผู้เปรียบเสมือนไอคอนของการ์ตูนดิจิมอนพากย์ไทยในสมัยนั้น
วันเวลาผ่านไปทุกคนต่างคิดถึงและอยากรับรู้เรื่องราวชีวิตของพวกเขาว่า ตอนนี้เป็นอย่างไรกันบ้าง ปัจจุบันทำอะไรกันอยู่ เพราะฉะนั้นพวกเราทีมงานฟังใจซีนที่คิดถึงพวกเขาเช่นกัน จึงออกตามและได้มีโอกาสสัมภาษณ์ 1 ใน 2 พี่น้องคู่นี้ก็คือ ธนพ ตันอนุชิตติกุล หรือ น้องนพ ที่หลายคนรู้จักกันนั้นเอง บทสัมภาษณ์นี้จะเป็นอย่างไรการเติบโตทำให้เขายังรักในโลกของการ์ตูนอยู่หรือไม่ ได้เวลา “ดิจิเมนทอล อัพ” ไปพร้อม ๆ กันอีกครั้ง ณ บัดนี้
PART 1: ปัจจุบันของ ธนพ ตันอนุชิตติกุล กรรมการบริหารบริษัท การ์ตูน คลับ มีเดีย จำกัด
ช่วงที่หายไปจากรายการช่อง 9 การ์ตูน ไปทำอะไรมาบ้าง
นพ: การหายไปจากรายการช่อง 9 การ์ตูนของผม คือหลังจากที่ดิจิมอน ภาค 3 จบครับ ผมกลับไปเรียนต่อเหมือนเดิมบวกกับชีวิตเริ่มเข้าสู่ช่วงมหาลัยพอดี เลยตัดสินใจไปเรียนต่อด้านการบริหารธุรกิจระหว่างประเทศและการตลาด เรียนปริญญาตรีที่ University of Illinois Urbana-Champaign ประเทศสหรัฐอเมริกา 3 ปี แล้วก็ไปเรียนต่อปริญญาโทด้านการตลาดใบแรกที่ Columbia University ที่นิวยอร์ก 1 ปี อีกใบที่ London Business School ประเทศอังกฤษ อีก 1 ปี รวมแล้วใช้เวลา 5 ปี ในการไปเรียนต่อต่างประเทศ จากนั้นจึงกลับมาที่ประเทศไทย เริ่มแรกทางบ้านก็ไม่ได้บังคับนะว่า เรียนกลับมาแล้วต้องมาบริหารงานธุรกิจการ์ตูนของที่บ้านต่อ แต่ตัวผมเองรู้สึกว่า เราไม่อยากทิ้งสิ่งที่สร้างเรามาตั้งแต่เด็ก ๆ ที่สำคัญเรายังเป็นคนที่นำเสนอการ์ตูนระดับท็อปมาให้น้อง ๆ คนไทยได้ดูอีกด้วย เลยตัดสินใจกลับมาทำงานด้านการ์ตูนแบบเต็ม ๆ อีกครั้งครับ
ตอนนี้ทำงานด้านไหนอยู่
นพ: ตอนนี้ผมเป็นกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท เอฟฟ์ จำกัด และ บริษัท การ์ตูน คลับ มีเดีย จำกัด อยู่ครับ บริษัท เอฟฟ์ จำกัดของเราเป็นพาร์ทเนอร์กับรายการช่อง 9 การ์ตูน มาประมาณ 30 ปีแล้ว ตั้งแต่ยุคคุณพ่อบริหารงาน มาตอนนี้ก็เป็นยุคของผม และพี่ชาย (พี่นัท) ผลงานตอนนี้ที่แฟนการ์ตูนหลาย ๆ คน น่าจะรู้จักก็คือช่อง Cartoon Club Chanel ช่องฉายการ์ตูนตลอด 24 ชั่วโมงครับ
การทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังในโลกของการ์ตูน มีความแตกต่างกันอย่างไรบ้าง
นพ: มันแตกต่างกันคนละแบบนะ แต่สิ่งเดียวที่สำคัญสำหรับงานทั้งสองอย่างคือ เราต้องมีความหลงใหลในโลกของการ์ตูนก่อน ต้องรู้สึกชอบและรู้ที่มาที่ไปของมันด้วย เพราะถ้าไม่รู้ว่าความเป็นมาของมันเป็นอย่างไร เราก็จะไม่สามารถคัดสรรการ์ตูนที่ดีมาให้กับน้อง ๆ ได้ นี่คือในส่วนของเบื้องหลังนะครับ ต้องมีความหลงใหลมันในขั้นสูงเลยแหละ ส่วนมุมที่อยู่หน้าจอเป็นพิธีกรในตอนเด็ก เราจะต้องเป็นผู้นำเสนอการ์ตูนเรื่องต่างๆ ว่าคนดูจะได้สาระอะไรจากมันบ้าง การ์ตูนนั้นสามารถสอนคนดูอย่างไรบ้าง ตอนทำรายการช่วงนั้น ผมจะพูดเสมอว่า “เด็ก ๆ ทุกคนต้องมีความรับผิดชอบในหน้าที่ของตัวเองนะ ทำการบ้านแล้วหรือยัง อย่าลืมดื่มนมก่อนนอนนะ รวมไปถึงต้องห่างไกลจากยาเสพติดด้วย” ถ้าใครดูการ์ตูนช่อง 9 สมัยก่อน หลายคนจะได้ยินประโยคเหล่านี้บ่อยมาก ทุกสิ่งที่เราทำในช่วงเวลานั้นจึงเป็นหลักที่ยึดมาใช้บริหารงานของเราในตอนนี้ เป็นนโยบายที่ช่อง 9 การ์ตูนทำมาตลอด การ์ตูนในยุคสมัยนี้มีหลายแบบมาก เด็ก ๆ สามารถดูจากทางสตรีมมิ่งหรือยูทูปก็ได้ เพราะฉะนั้นเราต้องสกรีนทุกขั้นตอนตลอด กว่าการ์ตูนจะออกมาให้เด็ก ๆ ดูในช่อง Cartoon Club Chanel จึงต้องเป็นอะไรที่ดีสำหรับตัวเด็กด้วย และมันจะต้องทำให้คุณพ่อคุณแม่ของพวกเขาไว้ใจว่าช่องเราเป็นช่องสีขาว ให้เด็กดูได้ สิ่งนี้เป็นนโยบายที่ผมตั้งไว้ตลอด ไม่ว่าจะทำงานเบื้องหน้าหรือเบื้องหลังครับ
อายุ 25 ปีกับความกดดันในการทำงานตำแหน่งผู้บริหารบริษัท
นพ: ช่วงแรกที่มาทำงานนี้ก็กดดันบ้างครับ แต่พอปรับตัวได้เลยรู้สึกว่าการมาทำงานของเรามันไม่ใช่การทำงานแหละ เหมือนมาทำในสิ่งที่เรารักมากกว่า เวลาผมมาออฟฟิศก็จะมานั่งดูการ์ตูนที่เตรียมจะฉาย ทำหลายอย่างที่สนุก ทำทุกอย่างในทุกวันนี้มันก็ต้องตั้งเป้าหมาย มีความคาดหวังเกิดขึ้นอยู่แล้ว เปรียบเทียบง่าย ๆ จะเหมือนอาชีพนักฟุตบอล นักฟุตบอลก็อยากลงเล่น ถามว่าก่อนลงไปเล่นเขามีความกดดันหรือเปล่า ก็ต้องมีบ้างเป็นเรื่องธรรมดา แต่ก็ต้องลงไปเล่นเพื่อความฝันที่เขาอยากจะเป็น นี่ก็คือความฝันที่ผมอยากจะเป็นเหมือนกัน การบริหารช่องการ์ตูนจึงเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ และจะได้สานต่องานนี้ไปเรื่อย ๆ
แล้วพี่นัท (ธนัท ตันอนุชิตติกุล) ทำหน้าที่อะไรในบริษัท
นพ: ปัจจุบันพี่นัทจะดูภาพรวมของการฉายการ์ตูนในต่างประเทศครับ ตอนนี้จะเริ่มในตลาดการ์ตูนของย่านอาเซียนก่อน ไปฉายที่ประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียดนาม เป้าหมายตอนนี้ในฝั่งพี่นัทคือ จะสร้างช่วงเวลาของการ์ตูนขึ้นมาในช่วงเช้าวันเสาร์ – อาทิตย์ ให้เป็นช่วงเวลาที่ 4 ประเทศนี้จะฉายการ์ตูนพร้อม ๆ กัน ซึ่งการ์ตูนที่ฉายก็มาจากเราอีกทีครับ ส่วนในอนาคตจะพยายามขยายการ์ตูนของเราให้ไปในประเทศต่าง ๆ มากขึ้น
ภาพรวมวงการการ์ตูนตอนนี้เป็นอย่างไร ทำไมหลายสำนักพิมพ์หนังสือการ์ตูนเริ่มปิดตัวลง
นพ: พูดเรื่องนี้อันดับแรกใจหายก่อนเลยครับ ยุคนี้มันไม่เหมือนยุคก่อนที่ทุกวันพุธ – พฤหัส ต้องรอซื้อ Booms หรือ C-Kids นะ ผมว่ามันอาจจะเพราะเรื่องลิขสิทธิ์ด้วยแหละ อยากให้ทุกคนเคารพเรื่องนี้กันให้มาก มันสำคัญนะ ในโลกออนไลน์สมัยนี้ บางทีแชร์อะไรออกไปให้คนภายนอกได้เห็นกันเยอะ ก็ต้องคำนึงถึงเจ้าของผลงานด้วย เท่านั้นยังไม่พอ เราต้องเคารพผู้ที่ถือลิขสิทธิ์การ์ตูนเรื่องนั้น ๆ ด้วย การซื้อสินค้าที่ถูกลิขสิทธิ์เป็นสิ่งที่ดีนะ ผมไม่เคยซื้อสินค้าหรืออะไรเถื่อน ๆ เลย เพราะรู้ดีว่าทรัยพ์สินที่มีค่าที่สุดคือทรัพย์สินทางปัญญา การ์ตูนแต่ละเรื่องมันต้องผ่านกระบวนการมากมาย ทั้งการคิดเนื้อเรื่อง การใช้เวลาในการสร้างสรรค์ออกมา อย่างน้อยถ้าเรารักมันก็ควรสนับสนุนพวกเขาด้วยนะครับ พูดเรื่องนี้ สื่อทีวีว่าเจอหนักแล้ว สื่อสิ่งพิมพ์เจอหนักยิ่งกว่าเลยครับ ซึ่งเราเข้าใจนะว่า คนกระจายออกมาก็เป็นแฟนการ์ตูนเหมือนกันเนี่ยแหละ แชร์ด้วยความหวังดี อยากให้คนได้อ่านตอนใหม่ ๆ กัน แต่การทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ถ้ามันลามไปถึงประเทศญี่ปุ่นที่เขาสร้างการ์ตูนขึ้นมา มันจะแย่เอานะครับ อย่างเรื่อง One Piece ที่โน่นเขาตีพิมพ์กัน 250 ล้านเล่ม อย่างนี้ได้ตลอด คนยังซื้อการ์ตูนรายสัปดาห์อ่านกันอยู่ ถ้าเราให้ความเคารพเรื่องนี้กันมากขึ้น ก็จะทำให้สำนักพิมพ์บ้านเราไปต่อได้ครับ ปัญหาที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็พอทราบมาบ้างนะครับ บริษัทเรายินดีช่วยเสมอ เราอยู่คู่กันในวงการนี้ ไม่ว่าจะเป็นหนังสือการ์ตูนหรือช่องการ์ตูน อยากให้ทุกคนกอดคอไปด้วยกันให้ได้ครับ เชื่อว่าในอนาคต หลาย ๆ อย่างน่าจะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น ถ้าเราสนับสนุนกันอย่างเต็มที่
เป้าหมายที่ไว้วางกับช่อง Cartoon Club Chanel
นพ: อยากให้แบรนด์ของเราเป็นที่รู้จักในอาเซียนมากกว่านี้ ตอนนี้ได้ 4 ประเทศแล้ว เป้าหมายเราอยากให้เป็นแบรนด์ของทุกประเทศในอาเซียน ส่วนต่อไปก็น่าจะเป็นอะไรที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น แต่เวลานี้การฉายการ์ตูนในย่านอาเซียน คือความฝันที่เราอยากไปให้ถึง และอยากทำมันให้ได้ก่อนครับ
การใช้ชีวิตนอกเหนือไปจากเรื่องการ์ตูนของผู้ชายชื่อ “นพ”
นพ: อีกมุมหนึ่งที่ผมแฮ็ปปี้มากๆ คือเรื่องฟุตบอลครับ ชอบฟุตบอลมาก ไปเชียร์บอลในระดับที่กล้าเรียกตัวเองว่าเป็น supporter นะ ไม่ว่าผลงานทีมจะเป็นอย่างไร เราจะอยู่ข้างทีมเสมอครับ ผมเชียร์ทีมอาเซนอล ที่ได้อันดับ 3 – 4 ทุกปีนั่นแหละครับ (หัวเราะ) ตอนที่อยู่อังกฤษจะเก็บเงินไปดูที่สนามเกือบทุดนัดเลย ส่วนฟุตบอลไทยลีกเชียร์ทีม Bangkok Glass FC ไปดูถึงขอบสนามทุกอาทิตย์เช่นกัน แถมช่อง Cartoon Club Chanel ยังเป็นพาร์ทเนอร์กับทางทีม Bangkok Glass FC ด้วย เสื้อแข่งขันจะมีโลโก้ของช่องเราอยู่ด้านหลังของเสื้อครับ
PART 2: ย้อนอดีตกับน้องนพ ข่อง 9 การ์ตูน
จุดเริ่มต้นของ “น้องนพ” ไอคอนของการ์ตูนเรื่อง DIGIMON
นพ : ตอนนั้นทางช่อง 9 การ์ตูนกำลังมองหาคนนำเสนอการ์ตูนเรื่อง Digimon ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายคนดูครับ อยากได้คนสื่อสารของการ์ตูนเรื่องนี้ ก็เลยติดต่อผ่านมาทางครอบครัวของผมว่า พี่นัทและนพอยากลองมาทำตรงนี้ดูไหม ตอนนั้นผมเองหลงใหลการ์ตูนเรื่องนี้มากเหมือนกัน เลยลองไปทำ ปรากฏว่าผลตอบรับมันดีกว่าที่คาดไว้ (หัวเราะ) ทำให้เราดีใจนะ ที่การตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตวันนั้น ทำให้ทุกวันนี้เราไปที่ไหนแล้วมีคนจำได้ตลอดเวลา ถ้าผมนึกถึงช่วงเวลานั้น มันก็สนุก ๆ มากเลยครับ
ช่วงที่เป็นน้องนพประจำรายการช่อง 9 การ์ตูน สนุกไหม
นพ: ช่วงเวลานั้นมันมีความสุขและดีใจมาก ๆ นะครับ อย่างเวลาไปเล่นคอนเสิร์ตหลาย ๆ ครั้ง จะเกิดโมเมนท์พิเศษขึ้นทุกครั้งนะ ที่ประทับใจคือมีครั้งหนึ่งเล่นคอนเสิร์ตเสร็จ ปกติผมและพี่นัทจะลงไปทักทายขอบคุณทุกคนอยู่แล้ว แล้วมีโอกาสพบกับครอบครัวหนึ่ง เขาพาลูกชายที่เป็นเด็กพิเศษมาดูพวกเราด้วย คุณแม่ของน้องบอกผมกับพี่นัทว่า ให้จับมือลูกเขาหน่อยได้ไหม วันนั้นจำได้ว่า ผมไปกอดน้องเขาเลย แล้วแม่เขาก็บอกว่า ผมเป็นคนที่ลูกเขาชื่นชมมาก เป็นเหมือนไอดอลเลยนะ มันยิ่งทำให้รู้สึกว่า การทำงานนี้เราสามารถเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับเด็ก ๆ ในสังคมได้นะ สิ่งที่นำเสนอทำให้เด็ก ๆ ทำตามได้นะ เราก็จะแนะนำน้อง ๆ และพูดสิ่งที่มีประโยชน์ในการจัดรายการช่อง 9 การ์ตูนของเราเสมอครับ
การร้องเพลงประกอบการ์ตูนครั้งแรกในชีวิต
นพ: สนุกครับ ตอนนั้นเรียนแบบจริงจังเลย โปรดิวเซอร์ที่ทำเพลงให้เราคือ คุณลุงเสกสรร สอนอิ่มสาตร์ ซึ่งเพลงที่เราร้องไม่ได้แปลจากเพลงภาษาญี่ปุ่นทั้งดุ้นนะ ทีมงานเขาทำให้เนื้อหาเข้ากับคนไทยด้วย เพราะถ้าแปลมาโดยตรง เนื้อหาจะไม่ตรงกันบ้าง อาจจะมีเมโลดี้ที่เปลี่ยนคีย์บ้าง ซึ่งเพลงเหล่านั้นทำให้หลายคนร้องได้จริงนะ อย่างเพลง ออกอาวุธ ปีกรัก คนร้องตามกันได้เพียบเลย ณ วันนี้ผมก็ยังร้องได้อยู่เลยครับ
ช่วงเวลานั้นมีเหนื่อยและท้อกับการทำงานนี้บ้างไหม
นพ: ตอนเด็กมันเหนื่อยแน่นอน แต่ท้อหรือเปล่า ไม่มีนะ เพราะไม่มีใครบังคับให้เรามาทำตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ทุกคนจะบอกว่า นพเลือกมาทำตรงนี้เองนะ ในเมื่อรักที่จะมาทำก็ต้องทำให้ถึงที่สุด บางทีเรียนเสร็จมาถ่ายรายการต่อถึง 4 ทุ่ม บางวันมีสอบด้วย เราก็ต้องทำหน้าที่ทุกอย่างให้ดีที่สุด ผมบอกตัวเองเสมอว่าหน้าที่หลักตอนนั้นคือการเรียน อันดับ 1 นะ ต้องเรียนให้ดีที่สุด ผลการเรียนของผมค่อนข้างดี ตอนเรียนมัธยมปลายในรุ่นมีทั้งหมด 190 คน ผมได้ประกาศนียบัตรติด 1 ใน 10 คน ที่เกรดเฉลี่ยดีเด่นมาตลอด ผมว่าการที่ได้มาทำงานนี้ก็เป็นส่วนส่งเสริมให้เราได้ไปเรียนที่มหาลัยระดับโลกนะ ตอนที่เขียน essay เพื่อไปเรียนต่อ ผมบอกนะว่า ผมไม่ใช่เด็กที่เรียนอย่างเดียว ผมเคยไปทำกิจกรรมอะไรมาบ้าง ตอนทำกิจกรรมเป็นพรีเซ็นเตอร์ต่อต้านยาเสพติดด้วยนะ มันยิ่งทำให้มหาลัยมองเห็นว่า เขาน่าจะรับเราเป็นส่วนหนึ่งกับเขาได้ เราก็ดีใจ เราหวังว่าจะได้เรียนที่มหาลัยท็อปเท็นของโลก ก็ทำได้ด้วยตัวเองพร้อมไปกับการทำงานที่หนักในช่วงนั้น
ถ้าย้อนเวลาไปบอกเด็กชาย ธนพ ช่อง 9 การ์ตูน ได้ จะบอกว่าอะไร
นพ: อยากบอกว่า ชีวิตทุกวันที่ทำอยู่มันถูกแล้วนะ สู้ต่อไปเรื่อย ๆ อาจจะเหนื่อยหน่อยแต่ผลลัพธ์ที่ได้จะทำให้นายเติบโตขึ้นและจงภูมิใจกับสิ่งที่ได้ทำต่าง ๆ เหล่านั้นนะ
การ์ตูนในดวงใจของธนพ
นพ: ชอบเรื่อง One Piece ครับ อันดับ 1 ในดวงใจเลย ส่วน Digimon ก็ชอบเหมือนกันนะ โตมากับเรื่องนี้ ภูมิใจเสมอที่เป็นคนสร้างกระแสดิจิมอนขึ้นมาได้สำเร็จ ตอนนี้ก็มีข่าวดีนะ ดิจิมอนกำลังจะกลับมาฉายด้วย ผมจะเอามาลงในช่อง Cartoon Club Chanel ให้แฟนการ์ตูนเรื่องนี้ได้ดูแน่นอนครับ
ให้เปรียบตัวเองเหมือนตัวการ์ตูน
นพ: น่าจะเหมือนลูฟี่ใน One Piece กับไทจิเรื่อง Digimon ครับ ผมเป็นคนที่มีความสนุกเฮฮาแต่ไม่ได้บ๊องขนาดนั้นนะ เราทำอาชีพนี้มันต้องมีความสนุกตลอดแหละ แต่อะไรที่จริงจังก็จะจริงจังได้ เลยมองว่าน่าจะเป็นลูฟี่กับไทจิครับ
สุดท้ายนี้ มีข้อความที่อยากฝากไปถึงหลาย ๆ คนที่คิดถึงพี่นัทและน้องนพไหม
นพ: ขอบคุณที่ติดตามผลงานมาตลอด อาจจะหายหน้าหายตาไปจากหน้าจอทีวี ทุกวันนี้ผมขยับมาทำเบื้องหลังแล้วนะครับ ไม่ได้หายไปไหนนะ ยังคัดสรรการ์ตูนดีที่มีสาระเต็มเปี่ยมมาให้ทุกคนได้ดูกันเสมอครับ ฝากช่อง Cartoon Club Chanel ไว้ในดวงใจของน้อง ๆ และเพื่อน ๆ ทุกคนด้วยนะครับ คิดถึงทุกคนเสมอ เจอกันอย่าลืมทักทายกันนะครับ
ถึงแม้เรื่องราวของน้องนพและพี่นัท รายการช่อง 9 การ์ตูน จะซีดจางไปตามกาลเวลา แต่ชีวิตจริงของพวกเขาเพิ่งจะเริ่มต้น การผจญภัยหลังจากนี้ยังมีอุปสรรคมากมายให้พวกเขาต้องฝ่าฟัน พวกเขาจะทำความฝันที่ตั้งไว้กับช่อง Cartoon Club Chanel สำเร็จหรือไม่ โปรดติดตามตอนต่อไป
つづく
พิเศษ ! มาทบทวนความทรงจำเกี่ยวกับการ์ตูนดิจิมอนกัน
ไหนๆ ฟังใจซีนก็ได้มาพูดคุยกับสองพี่น้องไอคอนของการ์ตูนเรื่องนี้แล้ว พวกเราเลยรวบรวมเรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกดิจิมอนให้ทุกคนลองทบทวนความทรงจำในวัยเยาว์กันอีกครั้ง
ประวัติความเป็นมาของ Digimon
ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ เป็นภาพยนตร์การ์ตูนโทรทัศน์จากประเทศญี่ปุ่น ออกอากาศครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น เมื่อปี 2542 มีทั้งหมด 5 ภาค ได้แก่ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์, ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ 02, ดิจิมอนเท็มเมอร์, ดิจิมอนฟรอนเทียร์, ดิจิมอนเซฟเวอร์ส และดิจิมอนครอสวอร์ส ซึ่งภาคล่าสุดที่กำลังจะฉายในปี 2558 คือ ดิจิมอนแอดเวนเจอร์ไทร พร้อม ๆ กับฉลองครบรอบ 15 ปีของดิจิมอนอีกด้วย
ตัวละครในการ์ตูน Digimon Adventure
ยางามิ ไทจิ: ตัวละครเอกของเรื่องผู้มีความเป็นผู้นำ ร่าเริง รักเพื่อนฝูง มีความกล้าหาญภายในจิตใจ หลายคนชื่นชอบบทบาทของไทจิในตอนเด็ก ทั้งเป็นการสร้างเอกลักษณ์ให้คนจดจำ “นพ” จากตัวการ์ตูนนี้อีกด้วย ดิจิมอนคู่หูของเขาคือ อากุมอน
อิชิดะ ยามาโตะ: อีกหนึ่งตัวละครขวัญใจสาว ๆ ในยุคนั้น กับบทบาทที่เรามักจะเห็นในการ์ตูนว่า ยามาโตะเป็นคนที่รักน้องชายมาก คอยดูแลปกป้องน้องชายอยู่ตลอด นอกจากนั้น เขายังเป็นคู่กัดจอมแสบของไทจิอีกด้วย แต่สุดท้าย คำว่าเพื่อนก็ทำให้เขาและทุกคนฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปได้ด้วยดี ยามาโตะถือเป็นสัญลักษณ์ของมิตรภาพ ดิจิมอนคู่หูได้แก่ กาบุมอน
ทาเคโนะอุจิ โซระ: ตัวละครสาวจอมแก่นในเรื่องนี้ เป็นเพื่อนสนิทของไทจิ แถมยังชอบเล่นฟุตบอล โซระเป็นตัวละครที่แฟนการ์ตูนจะคอยจิ้นให้คู่กับยามาโตะ สัญลักษณ์แห่งความรักจึงเหมาะสมที่สุดกับคนอย่างเธอ ดิจิมอนคู่ใจของเธอ คือ ปิโยมอน
อิซึมิ โคจิโร่: ตัวแทนสัญลักษณ์แห่งความรู้ โคจิโร่ คืออีกหนึ่งตัวละครที่มีความฉลาดและไหวพริบสูง เชี่ยวชาญการใช้คอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก ในดิจิมอน เขาจะพกคอมพิวเตอร์ติดตัวตลอด ดิจิมอนประจำตัวได้แก่ เท็นโตมอน
ทาจิคาวะ มีมี่: เด็กหญิงมาดคุณหนูผู้ร้องไห้อยู่บ่อยครั้ง ชอบการแต่งตัวและเป็นคนมองโลกในแง่ดี ไม่ชอบการต่อสู้ สังเกตได้ว่าเธอมีบทบาทต่อสู้น้อยมากในการ์ตูนดิจิมอน เธอจึงเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ดิจิมอนที่อยู่ข้างกายเธอ คือ พัลมอน
คิโด โจ: หนุ่มน้อยมาดเนี๊ยบ ที่ใจจริงแล้วทางบ้านอยากให้เขาเป็นคุณหมอ ลักษณะนิสัยเป็นคนที่กล้าคิดแต่ไม่กล้าทำ เป็นรุ่นพี่ใหญ่ประจำกลุ่ม โจเป็นตัวแทนสัญลักษณ์แห่งความซื่อสัตย์ ดิจิมอนของเขา คือ โกมามอน
ทาคาอิชิ ทาเครุ: น้องชายสุดที่รักของยามาโตะ ตัวแทนสัญลักษณ์แห่งความหวัง ทาเครุเป็นคนที่ทุกคนในกลุ่มต้องช่วยกันดูแลตั้งแต่ต้นจนจบของภาคแรกเลยทีเดียว ทาเครุเป็นตัวละครคู่จิ้นกับฮิคาริมาโดยตลอด แต่ทว่าการจิ้นของทั้งคู่ก็สลายลงไปในดิจิมอนภาค 2 ดิจิมอนประจำตัวของเขา คือ ปาตามอน
ยางามิ ฮิคาริ: น้องสาวสุดน่ารักของไทจิ ผู้ไม่รู้ว่าตนเองเป็นผู้ถูกเลือกในดิจิตอลเวิลด์ จนมารู้ภายหลังว่าตนเองได้รับเลือกให้เป็นสัญลักษณ์แห่งแสงสว่าง ตัวละครตัวนี้จะเป็นเช่นเดียวกันกับทาเครุ คือ ทุกคนในกลุ่มจะคอยดูแลปกป้องเธอเสมอ แต่ในภาค 2 เธอก็ได้เติบโตขึ้นมาเป็นตัวละครหลักในที่สุด
เพลงประกอบการ์ตูนสุดฮิตทั้งภาษาญี่ปุ่นและภาษาไทย
ปฏิเสธไม่ได้ว่าเพลงของการ์ตูนเรื่องนี้หลาย ๆ เพลงล้วนแต่เป็นเพลงฮิตสำหรับเด็กรุ่นนั้นทั้งสิ้น ฟังใจซีนเลยอยากหยิกยกเพลงเหล่านั้นมาให้ทุกคนได้ฟังกันอีกครั้ง จำกันได้มั้ยเอ่ยทุกคน
1. เพลง Butterfly (ปีกรัก)
2. เพลง Break Up (ออกอาวุธ)
3. เพลง Show Me Your Brave Heart (หัวใจที่กล้าแกร่ง)
อุปกรณ์การต่อสู้ของชาวดิจิตอลเวิลด์
การต่อสู้ในโลกดิจิตอลเวิลด์ นอกจากเรื่องของตัวดิจิมอนแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญก็คือ ดิจิไวซ์ ที่ทำให้เหล่าดิจิมอนสามารถกลายร่างพัฒนาได้ อีกทั้งอุปกรณ์นี้ยังทำให้บริษัท Bandai ตัดสินใจนำออกมาขายจนกลายเป็นของเล่นที่ฮิตเขย่ากันทั่วบ้านทั่วเมือง มาดูกันว่าที่ผ่านมามีดิจิไวซ์รุ่นไหนถูกผลิตออกมาบ้าง
Digivice รุ่น 1.0 จาก Digimon Adventure ภาค 1
Digivice รุ่น D3 จาก Digimon Adventure ภาค 2
Digivice รุ่น D – Ark จาก Digimon Tamers
Digivice รุ่น D-Scanner จาก Digimon frontier
Digivice รุ่น IC จาก Digimon savers