ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา Westlife ปล่อยเพลงฮิตออกมามากมายทั้ง Swear It Again, If I Let You Go, My Love, World of Our Own และอื่น ๆ อีกนับไม่ถ้วนที่ยังครองใจหลาย ๆ คนถึงทุกวันนี้ ตอนที่พวกเขายุบวงไปเมื่อ 2012 เราก็ได้แต่เฝ้าหวังให้พวกเขากลับรวมตัวกัน และในวันนี้หลังจากห่างกับคอนเสิร์ตที่ไทยคราวที่แล้วถึง 18 ปี ฝันก็เป็นจริงแล้วจ้า! ตามมาอ่านบันทึกแบบติ่ง ๆ กับความปลื้มปริ่มตลอดชั่วโมงครึ่งที่เรากรี๊ดจนเสียงแหบเสียงแห้ง

เราเดินทางไปถึงอิมแพคอารีนาตั้งแต่ช่วงหกโมงครึ่ง ก่อนจะกินข้าวแล้วพุ่งตัวไปซื้อสินค้าที่ระลึก ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกที่เราเห็นคิวยาวเฟื้อยตั้งแต่งานยังไม่เริ่ม แถมยังมีสินค้าบางอย่างหมดตั้งแต่เรายังอยู่ในแถว (ฮือ) โดยเราก็ได้เสื้อมาสองตัวเพราะเลือกไม่ได้ซักที พอซื้อเสร็จก็เกือบจะถึงเวลาเริ่มงาน เราก็เลยได้ฤกษ์ต่อแถวเข้าไปในฮอลล์

หลังจากเลตจากเวลาจริงมาประมาณ 25 นาที เราก็ได้เริ่มกรี๊ดคอแตกกับ vtr เปิดตัววง กับการเล่าสถิติของวงตลอด 20 ปีที่ผ่านมาตัดสลับกับฟุตเทจเก่า ๆ อย่างการเป็นเจ้าของสถิติการมีคอนเสิร์ตที่สนามเวมบลีย์มากถึง 23 ครั้ง เจ้าของเพลงฮิตอันดับ 1 ใน UK Chart กว่า 14 เพลง​ เจ้าของยอดขายอัลบั้มสูงที่สุดในประวัติศาสตร์วงการดนตรีอังกฤษในศตวรรษที่ 21 และอีกมากมาย ก่อนที่เราจะเห็นได้เงา 4 หนุ่มอยู่ที่อีกด้านของเวที

สารภาพว่าตอนแรกต้องหยิกแขนตัวเองแล้วบอกว่าเราได้ดู Westlife จริง ๆ นะ ฮือ คือตื่นเต้นมาก จากนั้นเพลง Hello My Love ก็ดังขึ้น พวกเขามาในชุดทหารยุคเก่ากับแถบคาดสี ๆ เฉพาะตัวแต่ละคน ซึ่งเพลงนี้ตอนท้ายก็ได้เปลี่ยนจังหวะเป็น dance hall ให้เราโยก ๆ ตามกันซักเล็กน้อย ก่อนจะเป็น Swear It Again เพลงช้าสุดซึ้งที่ตอนท้ายวงชวนให้แฟน ๆ ปรบมือตาม ซึ่งทั้งสี่ชวนให้ทุกคนร้องท่อน ‘I’m never gonna say goodbye / ‘Cause I never want to see you cry’ กันลั่นฮอล จากนั้นก็เป็นอัลบั้มยุคหลังกันบ้างกับ What About Now ที่ Markus Feehily ผู้เป็นเสียงร้องหลักของวงก็ยังเสียงดีไม่ตก แถมเพลงนี้ยังรีอะเรนจ์เพิ่มความร็อกในท่อนท้าย รัวกระเดื่องกันไปเลยจ้า จากนั้น Shane Filan (ที่ตกเราได้เต็ม ๆ เพราะส่งสายตาหวานเยิ้มแถมยังเซอร์วิสแฟน ๆ ได้สุดมาก) ก็ทักทายทุกคนว่า “สวัสดีครับ กรุงเทพ ฯ! เราตื่นเต้นมากที่ได้มาที่นี่ ขอต้อนรับทุกคนสู่คอนเสิร์ต Westlife Twenty Tour เราดีใจมาก ๆ ที่ได้กลับมาที่นี่ ขอบคุณที่มา เราจะพาคุณย้อนวัยไปหาความทรงจำยุคนู้น เราจะร้องเพลงที่คุณร้องตามได้ทุกคำ เพลงต่อไปชื่อ My Love”

บอกเลยว่าน้ำตาจะไหล ทุกคนร้องตามกันได้ดังลั่น โบกมือตามวง แล้วก็ยกมือถือมาเปิดแฟลชสร้างบรรยากาศน่ารัก ๆ ก่อนจะทิ้งท้ายช่วงนี้ไปด้วย When You’re Looking Like That เพลงสายร็อก ๆ หน่อยที่เราชอบมาก ซึ่งวงก็ชวนทุกคนลุกขึ้นยืนกระโดดโลดเต้นกันอย่างสนุกสนาน ซึ่งหนุ่ม Kian Egan ที่เป็นชาวร็อกก็ดูจะเอนจอยมาก ๆ วิ่งรอบเวทีไปเล้ย

จากนั้นทั้ง 4 หนุ่มก็หายเข้าหลังเวทีไป บนจอขึ้นการ์ตูนที่เป็นตัวละคร Agent Westlife โดนตามตัวกลับ headquarter ซึ่งวาดได้ตามคาแร็กเตอร์ของวงมาก ๆ น่ารักสุด เปิดมาด้วย Shane ที่ใส่ชุดสูทเนี้ยบ ๆ ผมตีกระบัง เดินเข้าหากล้องมาเท่ ๆ แล้วตัดไปที่ Nicky Byrne ผู้เป็นอดีตนักบอล กำลังนั่งเชียร์บอลทีมชาติไอริช แล้วก็เป็น Kian กำลังดำน้ำดูปะการัง ซึ่งเขาเองก็เคยไปบุกป่าฝ่าดงในรายการเอาชีวิตรอดจากป่ามากแล้ว ปิดท้ายด้วย Markus สุดเท่ผู้กำลังขับเครื่องบินคูล ๆ จากนั้นพวกเขาตัวจริงก็กลับขึ้นมากับชูดสูทธีมดำแดง แล้วเปิดด้วย Uptown Girl ที่หนุ่ม ๆ มากับท่าเต้นน่ารัก ๆ และท่อนประสานที่ทุกคนร้องตามได้ โดยมีเซอร์ไพรส์เป็นท่อนเต้นตรงกลางเพลงที่มาเต้นรอบขาไมค์เท่ ๆ ก่อนจะเป็น If I Let You Go ที่ด้านหลังเป็นฟุตเทจจาก mv ตามด้วย Better Man อีกเพลงซึ้ง ๆ ซิงเกิ้ลที่สองจากอัลบั้มใหม่ Spectrum โดย Markus ก็บอกแฟน ๆ ว่า “ถ้าทุกคนกำลังมีความสุข ส่งเสียงกรี๊ดหน่อย!” ก่อนจะเข้าสู่พาร์ตกวน ๆ ที่วงมายืนคุยกันหน้าเวที โดย Nicky ก็เปิดตัวด้วยการพูดภาษาไทยว่า “สวัสดีครับไทยแลนด์” เรียกได้ว่ากรี๊ดลั่น ก่อนที่ Markus จะพยายามพูดว่า ‘ขอบคุณ’ แต่จำไม่ได้ ฮ่า ๆ สองหนุ่มก็เลยแก้เก้อด้วยการสอนพูด ขอบคุณครับ ภาษาไอริช ซึ่งยากมาก ยอมแพ้แล้ว แถมยังมีสอนภาษาไอริชสำเนียง Sligo (บ้านเกิดของทุกคนยกเว้น Nicky) อีกด้วย ก่อนที่ Markus จะหายไปไหนไม่รู้ สรุปคือให้ทีมงานมาช่วยกระซิบบอกคำว่า ‘ขอบคุณครับ’ ให้ฟัง ซึ่งพอมาพูดก็ได้ใจไปเต็ม ๆ เลยจ้า

ซึ่งเมื่อพวกเขากลับเข้าไปเปลี่ยนชุด บนจอก็ฉายคลิปที่หนุ่ม ๆ กำลังใส่สูทถ่ายรูปกันแบบสุดเท่ ไล่ตั้งแต่เจาะทีละคน ถ่ายทั้งวง ทำท่าทางต่าง ๆ ซึ่งหลังจากฉายได้ซักพักเราก็เริ่มได้ยินเสียงเบสคุ้น ๆ ที่เราก็ถึงกับต้องกรี๊ด เพราะมันคือเพลง Another One Bites the Dust โอ้ย แม่มา! ซึ่งตอนแรกเราไม่ได้ดู setlist ไป ก็คิดแค่ว่าวงคงเอามาเป็นเพลงประกอบคลิปเฉย ๆ ไม่จ้า! สรุปคือวงทำเมดเลย์เพลง Queen ถึง 7 เพลง กรี๊ดจนคอจะแตก เพราะคัฟเวอร์ได้ดีมาก ๆ โดย 4 หนุ่มที่มากับเสื้อหนัง ตอกหมุด เลื่อมวิบวับ ก็เริ่มด้วย Another One Bites the Dust ที่เสียง Markus คือถูกต้องมาก กรี๊ด ก่อนเต้นคั่นเพลงซักเล่นน้อยแล้วเป็น Radio Gaga ที่ชวนเราปรบมือตาม จากนั้นเป็น I Want to Break Free ซึ่งปิดท้ายด้วยท่าชูมือในตำนานของ Freddie Mercury ก่อนจะเป็นไฮไลต์ในดวงใจเรา ก็คือ Somebody to Love ซึ่งท่อนเงียบที่ร้องว่า ‘Find me somebody to love, find me somebody to love’ ทั้งสี่ก็มายืนซ้อนกันแบบใน mv Bohemian Rhapsody แถมยังทำ visual มืด ๆ ที่มากับแสงวิ้ง ๆ ก็คือขำไม่หยุด ฮ่า ๆ ต่อด้วย Don’t Stop Me Now ที่ Kian มีช็อตเอากีตาร์มาโซโล่ด้วย ก่อนจะปิดท้ายด้วย We Will Rock You ที่ชวนปรบมือตามในเพลง และ We Are the Champions ที่ชวนโบกมือตาม ก่อนจะลงเวทีไปอีกครั้ง โดยในเมดเลย์นี้หนุ่ม Kian กับ Nicky ก็ได้ร้องเยอะเป็นพิเศษ​ ใครเป็นแฟนคลับสองหนุ่มก็คือได้กรี๊ดแตกแน่ ๆ 

จากนั้นเป็น vtr ที่คั่นเวลาก็เล่าเรื่องตอนเด็ก ๆ ของวง ว่าโตกันมาในครอบครัวแบบไหน ได้เจอกันเมื่อไหร่ อย่าง Shane ก็เล่าว่าเจอกับ Markus และ Kian ที่โรงเรียน ส่วน Markus ก็ติดโปสเตอร์ Mariah Carey ไว้เต็มห้อง Nicky ก็เป็นสายร้องเพลง ขึ้นเวทีตลอดตั้งแต่เด็ก ส่วน Kian ก็ชอบเล่นดนตรีมาก ๆ เล่นดนตรีได้ทุกเครื่องที่ที่บ้านอยากให้เล่น ซึ่งก็เข้ากับเพลง I Have a Dream เลย รอบนี้ทั้ง 4 มากับชุดสบาย ๆ เสื้อยืดบ้าง เสื้อยีนส์บ้าง ตามสไตล์ของแต่ละคน จบเพลงก็ไปนั่งบนเก้าอี้ร้องเพลงแบบสบาย ๆ โดย Shane อธิบายว่า “เพราะว่าเพลงฮิตเราเยอะมาก จะร้องทุกเพลงก็คงไม่พอ เลยจะขอร้องทุกเพลงเพลงละสั้น ๆ นะ ตอนเลือกก็ยากมากเพราะแต่ละเพลงก็ฮิตในต่างประเทศกัน” ซึ่งเซสชั่นนี้ทั้ง 4 ก็คุยหยอกล้อกันแบบสบาย ๆ ที่เราก็ได้แต่ยิ้มกับหัวเราะตามตลอด โดยทุกคนก็จะเล่าว่าทำไมถึงร้องเพลงนี้ ใครชอบ ใครเป็นคนเลือก ซึ่งก็มักจะให้คนดูช่วยร้องประโยคจบ เริ่มจาก Unbreakable ก่อนจะเป็น Seasons in the Sun ที่ Shane บอกว่าตอนแรกไม่อยู่ในเซ็ตลิสต์ แต่คิดว่าทุกคนน่าจะอยากฟัง ซึ่งท่อนจบเพลงนี้คนดูก็ได้ร่วมกันดำน้ำ ฮ่า ๆ แล้ว Markus ก็แซวว่า “เราก็ดำน้ำเหมือนกันบางที เวลาไปร้องออกทีวี ผมก็จะร้อง ‘We had joy, we had fun, we had seasons in the sun, but the #$&%^#@#$&*$^%'” ตลกมาก ขำกันทั้งวงแล้ว Nicky ก็แกล้งผลัก Markus แล้วพี่แกก็วิ่งหนีจนเก้าอี้ล้ม คืออายุเท่าไหร่กันแล้วถามก่อน ฮ่า ๆ ก่อนจะแย่งกันแจก IG ของแต่ละคน จากตอนแรก Nicky ชวนให้ทุกคนไปฟอลไอจีของ Kian แต่พอหลัง ๆ ก็คือแย่งกันแจกชื่อไอจีตัวเองรัว ๆ โอ้ย

แล้วจากนั้นก็เป็น I Lay My Love on You ก่อนจะเป็น Bop Bop Baby ที่ Nicky อยากร้อง ต่อด้วย Zombies ที่ Markus ร้องขึ้นมาเลย ซึ่งทุกคนก็ร้องตามได้ โดยหลังจากนั้น Shane ก็ขอร้องแฟน ๆ ว่า คุณช่วยร้องเพลงนี้นะ เพราะผมไปบอกคนอื่นว่าคุณอยากฟังเพลงนี้ (ฮ่า ๆ ) ไม่ทันต้องลุ้น เราก็ได้ยินเพลง Fool Again ที่คราวนี้มีเสียงกีตาร์คลอด้วย ซึ่งระหว่างเพลง Nicky ก็ขำอะไรซักอย่างไม่ยอมร้อง แล้วก็มาเฉลยตอนจบเพลงว่าเขาขำเพราะ Markus ชี้ว่ามีอะไรติดผม แต่ก็ไม่เห็นมีนี่นา ฮ่าๆ จากนั้นเจ้าตัวก็ถามว่า “มีใครมีอัลบั้มแรก Westlife ไหม” โดยเขาก็ร้องเพลง More Than Words ขึ้นมา ฮือ เพราะมาก ก่อนจะขอบคุณทุกคนที่ร่วมร้องตาม แล้วก็เป็น Queen of my Heart กับวิชวลรูปแสงเหนือสวย ๆ ต่อด้วยเพลงใหม่ล่าสุด Dynamite กับจังหวะเพลงแดนซ์ที่ไม่ค่อยได้ฟังในเพลง Westlife ซึ่งตอนจบเพลง Kian ก็มาถามว่า “คุณชอบเพลงนี้กันไหม คืออย่างตอนอัลบั้มแรก ๆ ทุกคนก็จะมีเจ้าสิ่งเล็ก ๆ ที่เรียกว่าเทป แต่ตอนนี้มันเป็น Spotify ใช่ไหม ไปฟังกันนะ ไม่แน่ว่าถ้าอัลบั้มออกเราอาจจะได้กลับมาอีกก็ได้ ตอนแรกที่เรารวมกันแล้วได้ทัวร์อังกฤษกับไอร์แลนด์ผลตอบรับก็ดีอยู่เพราะมันคือบ้านเรา แต่ตอนที่มีคนเสนอว่ามาเอเชียมั้ย พวกเราก็ตื่นเต้นมาก และคิดว่าจะมีซัก 2,000 คนต่อคืน แต่ตอนนี้ผมยืนอยู่หน้าพวกคุณ 8,000 คน! ขอบคุณมาก ๆ สำหรับความรักที่มีให้ อยู่กันไปอีก 20 ปีไปเล้ย!” ก่อนที่จะทิ้งท้ายด้วย You Raise Me Up ที่คนร่วมกันเปิดแฟลชอย่างสุดซึ้ง โดยในเพลงนี้ทางแฟนคลับชาวไทยก็ได้ร่วมทำโปรเจคต์ ถือป้ายกระดาษที่เขียนว่า ‘Beside You Forever’ ที่ Kian ก็ดูปลื้มปริ่มมาก และ Markus ถึงกับขอป้ายกระดาษจากคนแถวหน้าสุดเอาไปโบก แล้วตอนที่อำลาเวทีไป แกก็เอาไปแปะไว้ที่หน้าอก แถมพูดว่า “เราก็จะอยู่ข้าง ๆ คุณตลอดไปเหมือนกัน!” ฮือ น่าร้าก

ซึ่งพวกเราก็ร่วมใจตะโกนอังกอร์ว่า Westlife ๆ รัว ๆ ซึ่งไม่นานเกินรอวงก็กลับมาอีกครั้งในชุดสูทขาว แล้วร้องเพลงที่ถูกต้องกับชุดนี้มาก ๆ คือ Flying Without Wings ที่ Markus adlib เสียงได้สุดมาก ๆ กรี๊ด จากนั้นก็ส่งท้ายด้วยเพลงที่เราชอบมาก ๆ ก็คือ World of Our Own ปิดท้ายคอนเสิร์ตนี้อย่างงดงาม คุ้มค่าการรอคอยสุด ๆ ไปเลยจ้า ฮือ ถ้ามีโอกาสต้องมาดูโชว์ของพวกเขาสด ๆ ให้ได้นะ ส่วนเราก็ขอตัวไปเปิดอัลบั้มฟังวนไปทั้งวันจ้า อินมาก

อ่านต่อ

ลุกขึ้นเต้นรอได้เลย เพราะเหล่าบอยแบนด์-เกิร์ลกรุ๊ปยุค 90s พร้อมใจกลับมาทัวร์กันแล้ว!

Westlife บอยแบนด์ยุคมิลเลนเนียมกลับมาแล้วในรอบ 8 ปีกับ Hello My Love

เพลงคือไทม์แคปซูล : เมื่อเพลงช่วยเก็บความทรงจำ เราจะเอาไปทำอะไรได้บ้าง

• Twitter
• Line