Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

Visual and Sound ชวน H3F, Zweed n’ Roll และ S.O.L.E. ส่งความสนุกครบถ้วนทุกรสชาติ

  • Story and photos by Warut Duangkaewkart

Visual and Sound แปลกันแบบตรงตัวคือ ‘ภาพและเสียง’ เป็นสิ่งที่เราจะได้สัมผัสเสมอจากการชมสิ่งใดสิ่งหนึ่ง แต่ในบทความนี้ นี่คือชื่อของงานคอนเสิร์ตที่หลายคนอาจไม่คุ้นเคย แต่แท้จริงแล้วงานนี้อยู่มานานกว่าสิบปี! โดยเริ่มจากงานดนตรีที่จัดขึ้นกันเองภายในคณะสถาปัตย์ ฯ บางมด ที่นักศึกษาในยุคนั้นอยากที่จะปล่อยของทั้งในมุมของการเล่นดนตรีและการออกแบบที่เป็นเสมือนการทดลอง ความอยากรู้อยากเห็นต่าง ๆ ถูกแปรเปลี่ยนออกมาเป็นงานคอนเสิร์ตที่เริ่มต้นเพียงคนดูไม่กี่สิบคน งานนี้ถูกจัดต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ เปลี่ยนรุ่น เปลี่ยนยุคสมัย (หลายคนอาจคุ้นเคยกับงานในปี 2013 ที่จัดกันที่บางขุนเทียน ที่ในตอนนั้นมีวงแห่งยุคมาเล่นทั้ง Two Million Thanks, Cloud Behind และ Part Time Musicians ไม่แน่ในว่าตกวงไหนไปมั้ยนะ) จนล่วงเลยมาถึงทุกวันนี้ที่ไม่แน่ใจว่ายังนับกันอยู่มั้ยว่าครั้งที่เท่าไหร่ แต่อย่างน้อยสามปีที่ผ่านมางานนี้ก็ได้ออกจากบางขุนเทียนมาสู่เมืองใหญ่ และปี 2019 นี้ได้ร่วมมือกับสถานที่อย่าง The Circus Studio (G Village) จนออกมาเป็นงาน Visual & Sound x The Circus Studio มีวง H3F, Zweed n’ Roll และ S.O.L.E. มาสร้างความสนุกน่าจะครบถ้วนทุกรสชาติแน่นอน

27 เมษายน 2562

VIsual and Sound

ก่อนจะถึงบรรยากาศในงานต้องขออภัยวง H3F ที่กะเวลาผิดพลาด ทำให้กว่าจะเดินทางมาถึงวงก็เล่นจบไปเสียก่อน แถมเพิ่งรู้ว่าก่อนหน้านั้นมีวงจากน้องนักศึกษาขึ้นมาเล่นเปิดให้งานตัวเองแล้วยิ่งเสียดาย พอมาถึงบรรยากาศหน้างานค่อนข้างคึกคัก เห็นได้ว่ามีคนมาเยอะพอสมควรเลย พอเข้าไปด้านใน จะเจอเหมือนแบ็กดรอปสำหรับถ่ายภาพที่นำไฟสีแดงและเขียวสะท้อนกระจกเข้ามาเพื่อให้เกิดแสงบนฉากหลัง แต่เอาจริง ๆ ไม่สังเกตก็อาจจะไม่รู้เหมือนกันว่ามี แต่ก็เป็นกิมมิกเล็ก ๆ ที่ซ่อนไว้ให้เห็นกัน นอกจากบริเวณคอนเสิร์ต ห้องเล็ก ๆ ด้านข้างถูกแปลงให้เป็นงาน installation ที่ภายในถูกหุ้มไปด้วยฟอยล์ แสงไฟนีออน และกระจกที่คอยสะท้อนแสงและเงาไปมา ชวนให้คนเข้ามาเล่น ถ่ายรูป และเกิดประสบการณ์ใหม่ ๆ ได้เหมือนกัน

จากนั้นไม่นาน ไฟดับลง และวง Zweed N’ Roll ขึ้นเล่น เวทีที่ฉากหลังถูกออกแบบให้เป็นฉากสูงด้วยโครงสร้างนั่งร้านและผ้าขาว ถูกฉายภาพเคลื่อนไหวที่มาจากโปรเจ็กเตอร์บนชั้นสอง ภาพแนวตั้งนั้นให้ความรู้สึกเหมือนกับวิดิโอที่เราเห็นจากโทรศัพท์มือถือในทุก ๆ วันนี้ ดูกล้าดีเหมือนกันที่ลองทำภาพแนวตั้งแบบนั้น ในขณะที่พื้นหลังโดยรอบเป็นสีขาวด้วยตัวของพื้นที่เอง Zweed N’ Roll บรรเลงเพลงควบคู่ไปกับภาพเคลื่อนไหวด้านหลัง เริ่มจาก Linger, ธันวาคม (ที่คนดูพร้อมใจกันร้องออกมา ชวนขนลุกเลย), Lies, Always, Diary และปิดท้ายด้วยเพลงที่ทุกคนรอคอย ช่วงเวลา ที่เรียกเสียงร้อง เสียงกรี๊ดจากทุกคนที่มารอดูจนลั่น วัยรุ่นฟินกันไปถ้วนหน้า ก่อนที่จะพักเบรกให้ไปหาเครื่องดื่มกัน แล้วกลับมาสนุกกับวงสุดท้าย

โชว์ของ S.O.L.E. จะเห็นความแตกต่างของ lighting ได้อย่างชัดเจน มีความสด ความเคลื่อนไหวตามจังหวะเพลง บวกกับ visual ที่ทำออกมาได้กวนและเท่ในเวลาเดียวกัน แต่ด้วยความสว่างและการจัดวางของไฟ ทำให้เราไม่ค่อยเห็นหน้านักดนตรีกันสักเท่าไหร่ ถ่ายรูปออกมาเลยย้อนแสงเป็นภาพ silhouette กันหมด แต่ก็เท่ไปอีกแบบนะ ส่วนโชว์ของวงเอง ความพิเศษจาก S.O.L.E. ในงานนี้ ไม่ได้มีแค่เพลงที่นำมาโชว์ในเซ็ต แต่เนื่องจาก Mikey $ent นักร้องอีกคนของวงเป็นนักศึกษาจากคณะสถาปัตย์ ฯ บางมดเองด้วย จึงเรียกเสียงกรี๊ดได้มากเป็นพิเศษ และเจ้าตัวเองก็ดูจะสนุกเป็นพิเศษด้วย เรียกได้ว่าเตะในบ้านเลย

ไม่รอช้า S.O.L.E. ชวนให้คนขยับร่างกายกันตั้งแต่เพลงแรก S.O.L.E และตามมาด้วยเพลงอีกเซตใหญ่ Call Me, When Everyone os Doing a Mosh Pit, Cyber Punk, Psycho Killer, Rich, Bangkok Teenage Renaissance, Like a Magic พร้อมกับโชว์เพลงใหม่ที่เพิ่งปล่อย Life is Nothing but Anime แค่นั้นยังไม่พอ ระหว่างโชว์ยังมีพักเบรกด้วยการเปิดเพลง ไม่เป็นไร (ของ The Whitest Crow อีกวงหนึ่งของไตเติ้ล) ที่นำมาทำในเวอร์ชันใหม่ชวนให้โยกกันตามไปเพลิน ๆ และปิดท้ายด้วย My Majesty The King สนุกกันจนเพลงสุดท้าย ขนาดเล่นมาจนถึงตอนนี้ ยังรู้สึกว่าโชว์เกิดขึ้นเร็วมาก จนมีหลายคนเรียกร้องให้เล่นต่อ แต่ทางวงก็ใส่เต็มที่มาตลอดโชว์ จะให้เล่นต่อก็เหนื่อยแทนเหมือนกัน เอาเป็นว่าจบงานนี้กันแบบกั๊ก ๆ ค้างคาจนต้องไปหาที่ต่อกันเอาเองสำหรับคนดู เพราะด้วยเวลาแค่ห้าทุ่มถือเป็นงานที่จบไวเหมือนกัน ไปเที่ยวต่อกันได้ตามอัธยาศัยเลย

หากเทียบกับปีก่อน ๆ (ถ้าใครเคยไปดู) เราจะได้เห็นการทำ visual แบบสด ๆ การทดลองเอาของต่าง ๆ มาสร้างให้เกิดเอฟเฟกต์จริง ๆ ภายในงานขณะตอนโชว์ แต่ด้วยปีนี้อาจจะเปลี่ยนรูปแบบเป็นการทดลองแล้วอัดวิดิโอมาฉาย เลยทำให้เสน่ห์แบบเดิมหายไปบ้าง แต่ installation ก็ยอมรับว่าดูดีเลย ต้องมารอดูกันว่าในปีต่อ ๆ ไปนั้น งาน Visual and Sound จะมีอะไรมาให้เราได้ดูกัน ถ้าเป็นไปได้ อยากจะให้ทดลองกันให้สุดทางแบบหลุดโลกไปเลยยย

ติดตามความเคลื่แนไหวของงาน Visual and Sound ได้ที่ www.facebook.com/VisualAndSound

Facebook Comments

Next: