UNTITLED งานเปิด De Commune ที่ไม่สามารถนิยามความมันออกมาเป็นชื่องานได้
- Story and photos by Kittitach Sentiya and Naphatsorn Saeeng
16 มิถุนายน 2561
งานปาร์ตี้เปิดตัวอย่างเป็นทางการของ De Commune ที่รวบรวมศิลปิน และดีเจไว้ในค่ำคืนเดียว แค่เห็นโปสเตอร์ที่ออกแบบโดย Trystand ศิลปินผู้ออกแบบวิชวลให้กับวง Srirajah Rockers ก็พอจะเดาออกได้ว่าค่ำคืนนี้จะต้องสนุกหลุดโลกอย่างแน่นอน
De Commune เปรียบเสมือนคอมมิวนิตี้สำหรับผู้ชื่นชอบดนตรีทางเลือก จึงไม่แปลกที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยทยอยเข้างานก่อนเวลาเพื่อมารอชมศิลปินวงโปรดในราคา 400 บาท พร้อมแถมบัตรแลกเบียร์ลาวรสชาติแปลกใหม่ แค่การเริ่มต้นนี้ก็รู้สึกคุ้มค่าที่จะปล่อยเวลาคืนวันเสาร์ทิ้งไว้ที่นี้ซะแล้ว
21.45 น. เรามาไม่ทันดีเจ Maft Sai เลยได้ประเดิมวงแรกด้วย Solitude is Bliss กับเพลง ย้ายรัง พื้นที่บริเวณด้านหน้าถูกจับจองในเวลาอันสั้น เสียงโห่ร้องของแฟน ๆ เป็นตัวยืนยันว่าปาร์ตี้คืนนี้ได้เริ่มขึ้นแล้ว แฟนเพลงโยกไปตามจังหวะเพลงพร้อมตะโกนเนื้อเพลงอย่างแม่นยำราวกับเพื่อนสนิทที่ชื่อ Solitude is Bliss กำลังเล่นดนตรีให้เราฟังในวงเหล้าประมาณนั้น
โชว์ของ Solitude is Bliss อุดมไปด้วยคุณค่าทางอารมณ์ อย่างเพลง Lost in Jane ที่ปล่อยให้เราได้หลุดลอยไปในห้วงเวลา หรือเพลงสร้างชื่ออย่าง 4.00 am ที่ทำให้ทุกคนตกในภวังค์ ก่อนที่โชว์จะจบลงด้วยเพลง ระบายกับเสียงเพรียก ซึ่งเป็นเพลงที่นานที่สุดของวง แต่รู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปไวมาก เพราะโชว์ของวง ทำออกมาได้ประทับใจมากเลยทีเดียว
หลัง Solitude is Bliss เล่นจบทุกคนมีเวลาออกมาเติ่มแอลกอฮอล์เข้ากระแสเลือดก่อนไปต่อกับวง Gym and Swim ที่เปิดตัวด้วยเพลง Seagal Punch เรียกให้ผู้คนเข้ามาตามเสียง ‘โห่ เว้ โย’ คอเพลงแนว tropical pop ไม่พลาดที่จะโยกตาม ต่อด้วยเพลง Throw it Away บรรยากาศเริ่มสนุกสนานราวกับปาร์ตี้ American high school เราจะเห็นผู้คนเริ่มเต้นมากขึ้นในช่วงเพลง Bunny House และเพลงภาษาไทยสุดฮิตของวงนี้อย่าง Iron Man
ก่อนที่วงจะทยอยปล่อยเพลง What Time is it There? และเพลงติดหูมาอย่าง YUUWAHUU และ Sunrise ให้ได้ร้องและเต้นตามคุณเฉลิมกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะลาจากไปด้วยเพลงสร้างชื่ออีกหนึ่งเพลง Octopussy เพื่อนรักนักดำน้ำ โดยคุณเฉลิมก็ไม่พลาดที่จะทิ้งความทรงจำพิเศษให้กับแฟน ๆ โดยการลงมาเต้นหน้าเวทีจอยกับคนดู ช่างเป็นช่วงเวลาที่เซอร์ไพรส์จนหยิบกล้องมือถือมาถ่ายแทบไม่ทัน และปิดท้ายด้วย encore ด้วยเพลงพิเศษที่ไม่มีในอัลบั้ม Seasick จึงเป็นการจบโชว์ไปได้อย่างสวยงาม
หลังคอนเสิร์ตจบลง ได้เวลาที่ใคร ๆ หลายคนต่างกลับบ้าน แต่ความสนุกของทางเหล่าขาแดนซ์เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น เปิด floor ขาโจ๋ด้วย DJ Dragon จัดเต็มกันในแนว drum and bass ให้ได้โยกหัวตามตลอด ไม่ได้พักเลย เราได้ยินชื่อของพี่มังกรมาสักพักจากเพื่อนในแวดวงดีเจโดยบอกว่า ‘ถ้ามึงชอบ dnb มึงต้องไม่พลาดคนนี้’ ซึ่งเป็นอย่างที่เขาว่าจริง ๆ ครับ คือเพลงยืนพื้นด้วย dnb แต่พอเปิดไปเรื่อย ๆ จะเริ่มมีการบิ๊วให้ฟลอร์เดือดขึ้น สลับไปมีช่วงให้พักหายใจกันแปปนึงก่อนไปต่อกันที่การเอาเพลงแนวอื่น ๆ ทั้งฮิปฮอป หรือแดนซ์ฮอลมาผสม ได้ทั้งโดดทั้งเลื้อย เลือกเอาจะเอาสเต็ปไหน จะสังเกตได้ว่ามีคนเข้ามาจอยกันเรื่อย ๆ เพราะความมันแบบฉุดไม่อยู่จริง ๆ สร้างความทรงจำดี ๆ ก่อนจะลาจากกันอย่างสมบูรณ์
แม้ว่าในฝั่งพาร์ตคอนเสิร์ตจะเริ่มช้าและจบลงเร็วไปหน่อย แต่ความสนุกถือว่าคุ้มค่าอย่างมาก เพราะโชว์ของทั้งสองวงเปี่ยมไปด้วยคุณภาพ และฝีมือที่พัฒนาอย่างก้าวกระโดด ในขณะที่ after party ก็ปิดท้ายด้วย dj ที่มีความเป็นเอกลักษณ์อย่างสุดโต่ง ควรค่าแก่การอยู่ต่อจนจบงานโดยไม่รู้ตัว