Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

ลุยวันที่สอง Thailand Cultural Music Festival สนุกกับความเป็นไทยผ่านดนตรีประยุกต์

  • Writer: Peerapong Kaewthae

26 พฤษภาคม 2561

มาถึงวันที่สองแล้วกับเทศกาลดนตรีที่ควบรวมระหว่างดนตรีอันหลากหลายเข้ากับวัฒนธรรมไทยที่น่าสนใจมาไว้ในงานเดียวกันกับ Thailand Cultural Music Festival ติดริมทะเลแหลมบาลีฮาย พัทยา โดยผู้ใหญ่ใจดี ททท. และเทศบาลเมืองพัทยาร่วมมือกันสร้างสรรค์เฟสติวัลของไทยให้ยิ่งใหญ่ไปถึงระดับประเทศ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและเชิญชวนให้ชาวต่างชาติมาซึมซับกับวัฒนธรรมอันสวยงามของคนไทย

ถ้าใครยังไม่ได้อ่านระเห็ดเทศกาลดนตรีในวันแรกที่มีทั้ง Mocca Garden, บุรินทร์ Groove Rider, Rasmee และ Ga-Pi ก็คลิก >ที่นี่< เลย ก่อนจะไปมันกันต่อกับไลน์อัพเจ๋ง ๆ ของวันนี้กับ The Paradise Bangkok Molam International Band, UrBoyTJ, เดย์ ไทเทเนียม และศิลปินอีกมากมาย เรียกได้ว่าเป็นคอนเสิร์ตที่เฮี้ยนเหมือนกัน กับการนำวัฒนธรรมแต่ละแขนงมาอัดแน่นอยู่ในวันเดียวกันแบบนี้

ลานนา คัมมินส์ และ หนึ่ง อภิวัฒน์ (ขอบคุณภาพจาก Thailand Cultural Music Festival)

หนึ่งทุ่มปุ๊บ เราไม่รอช้ารีบวิ่งเข้ามาบริเวณหน้าเวที เพราะวันนี้มีศิลปินที่น่าสนใจอีกคนที่เราอยากชมมากเลยคือ ลานนา คัมมินส์ ที่เหมือนเธอจะห่างหายจากการโชว์ไปนาน ก่อนลานนาจะขึ้นเวทีก็มีโชว์ตีกลองจากภาคเหนือได้น่าตื่นตามาก พร้อมกับโชว์วัฒนธรรมที่อัดแน่นเต็มเวที ทั้งร่มและการฟ้อนรำล้านนา ไม่ช้าก็มาพร้อมกับเสียงหวาน ๆ ของลานนาในเพลง สวัสดีเจ้า ที่มีดีเจมาช่วยมิกซ์ให้เพลงสนุกยิ่งขึ้น แถมยังมีแร็พเปอร์คนหนึ่งขึ้นมาช่วยแร็พด้วย แต่เราดันจำชื่อไม่ได้ ขออภัย แล้วก็มีโชว์ควงกระบอกไฟไปอีก แต่วันนี้ลานนาไม่ได้มาคนเดียว แต่ควง หนึ่ง อภิวัฒน์ หรือ หนึ่ง ETC ตามขึ้นมาแจมด้วยในเพลงฮิตของเขาอย่าง ที่ว่างข้าง ๆ ตัว ที่ร้องคู่กันได้ลงตัว และฝากเวทีไว้กับหนึ่งซึ่งมาโชว์เพลง ยามรัก เพลงเก่าที่นำมาร้องใหม่ประกอบโฆษณาของ ททท. ได้ไพเราะ แล้วจึงเปลี่ยนตัวกับลานนาขึ้นมาจัดการโชว์ที่เหลือทั้ง กาสะลอง ที่เพราะมาก ๆ แล้วหยิบ ตราบธุรีดิน ของ ปู่จ๋าน มาร้องด้วยในฐานะที่เป็นศิลปินจากภาคเหนือเหมือนกัน ทิ้งท้ายด้วยเพลง ไว้ใจได้กา เพลงที่ทุกคนรอฟังกันอยู่โดยใส่ท่อนจากเพลง We Will Rock You ของ Queen เข้ามาให้คนต่างชาติได้สนุกกันด้วย

The Paradise Bangkok Molam International Band (ขอบคุณภาพจาก Thailand Cultural Music Festival)

ข้ามมาที่ The Paradise Bangkok Molam International Band ส่วนตัวเราดูโชว์ของวงนี้เป็นครั้งที่สามละ แต่ก็ยังประทับใจเหมือนเดิมทุกครั้ง กับดนตรีหมอลำประยุกต์ที่ครบเครื่องและยังชักชวนให้เราออกลีลากันอย่างไม่ต้องเขินอาย กับจังหวะดนตรีมัน ๆ ที่หาที่ไหนไม่ได้แล้วแบบนี้ แน่นอนว่าวงก็ขนเพลงฮิต ๆ เต้นกันจนลืมตายมาเต็มไปหมดทั้ง Lam San Disco, Sao Sakit Mae และ Studio Lam Plearn และแน่นอนว่ามีเพลงจากอัลบั้มที่สองด้วย ทั้ง Lai Wua และ The Adventures of Sinsai เรียกได้ว่าใครอยู่หน้าเวทีแล้วไม่เต้นนี่ถือว่าบาปมาก โชว์พวกเขาก็ดีงามเหมือนครั้งก่อน ๆ เลย เป็นวงในดวงใจเสมอมา

UrBoyTJ และ เดย์ ไทเทเนียม (ขอบคุณภาพจาก Thailand Cultural Music Festival)

ต่อด้วย UrBoyTJ เป็นวงปิด ที่วันนี้มาพร้อมกับ เดย์ ไทเทเนียม ด้วย ทั้งสองคนเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟน ๆ ได้ถล่มทลาย แถมอุ่นเครื่องกันด้วยเพลงจากไทเทเนียมหลายเพลงทั้ง Flip ในตำนานที่ไม่ได้ฟังนานมาก แล้วต่อด้วยเพลง กวนตีน ที่ทุกคนร้องตามได้ TJ ก็ถามว่าวันนี้ใครโสดยกมือขึ้น ทุกคนก็พร้อมที่จะโสดให้ TJ ก่อนจะจัดกันยาว ๆ กับเพลง จีบ, ไม่ไหวแล้ว และ ทะลึ่ง ที่เวอร์ชั่นนี้ก็สนุกมาก ๆ TJ กับ เดย์ ก็ร่ายแร็พสดกันอย่างมีชั้นเชิง หลังจากนี้เดย์ก็ฝากเวทีไว้กับ TJ เลย ซึ่งเขาก็โชว์เพลงไม้ตายของเขากับ วายร้าย ที่ทุกคนอยากฟัง ก่อนจะเอาเพลงที่เขาเคยร้องในรายการ ‘The Mask Singer’ อย่าง แม่เกี่ยว กับ สองรัก ในเวอร์ชั่นของเขามาเล่น ทำเอาทุกคนกรี๊ดกันสลบ แต่ท่าทางจะเหนื่อยมากเพราะเพลงต่อมาอย่าง ไม่อยากฟัง และ อย่าคิดมาก ก็ดูดรอป ๆ ลงไปหน่อย แต่ TJ ก็จัดเพลง เค้าก่อน ต่อได้อย่างสนุกสนานเหมือนเดิม ทุกคนร้องตามกันลั่นหาด ก่อนจะจบด้วยเพลงซึ้ง ๆ อย่าง สบายดีรึเปล่า ของ XYZ ที่แทรกท่อนแร็พเท่ ๆ เข้ามาเอาใจเด็กวัยรุ่นทุกคน พร้อมกับปิดเวทีไปอย่างสวยงาม

แน่นอนว่าต้องมีไฮไลต์นอกซีนเราเหมือนเดิม แถมวันนี้เฮี้ยนกว่าวันก่อนมาก ๆ

ไชยา มิตรชัย (ขอบคุณภาพจาก Thailand Cultural Music Festival)

เริ่มที่วง Sawasdee ที่ตอนแรกเราไม่คุ้นเลย แต่พอได้ดูโชว์แล้วต้องโอ้โหตาค้าง เพราะขนเครื่องดนตรีไทยมาโชว์กันแบบจัดเต็ม ทั้งการประยุกต์ดนตรีไทยเข้ากับดนตรีสากลให้ร่วมสมัย มีทั้งโชว์เพลงไทยเพลงสากล มีโชว์ตีกลองประกอบเต้นแล้วยังมีโชว์แม่ไม้มวยไทยด้วย รวมศิลปะความเป็นไทยได้ครบเครื่องอลังการมาก ๆ

ก้อง ห้วยไร่ เจ้าของเพลง ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน ก็มางานนี้ แถมยังหนีบนักร้องสาวชื่อดังอย่าง เบลล์ ชานิษฐา มาด้วย แล้วก็ขนเพลงลูกทุ่งดัง ๆ มาร้องเต็มไปหมด แต่ความพีคคือ ก้อง ห้วยไร่ ก็หยิบเพลง วันหนึ่งฉันเดินเข้าป่า ของ แม็ก เจนมานะ มาร้อง ซึ่งทุกคนก็ช่วยร้องกันสุดเสียง และแน่นอนว่าต้องมี เต่างอย ของ จินตหรา พูนลาภ ที่กำลังดังสุด ๆ มาเล่นได้สนุกมาก ๆ ด้วย

พีคขึ้นไปอีกขั้นกับการขนนักแสดงจากละครเรื่อง ‘บุพเพสันนิวาส’ มาร่วมร้องเพลงประกอบละครด้วย ทั้ง โป๊ป ธนวรรธน์, หลุย สก็อตต์, นุ่น รมิดา และ แนน วาทิยา มาเป็นสีสันให้กับโชว์ของวง Infinity ที่บรรเลงเพลงแจ๊สได้เข้าถึงง่ายและสนุกสนาน เป็นอีกโชว์ที่น่าสนใจมาก

แต่ที่พีคสุดของวันน่าจะเป็นโชว์ของ ไชยา มิตรชัย ที่พาทั้งครอบครัวมาช่วยกันสร้างความสนุก ทั้งโชว์เพลงฮิตของตัวเองพร้อมกับหางเครื่องเต็มเวที และปิดท้ายด้วยการเล่นลิเกโชว์ ทำเอาเราอึ้งไปเหมือนกันว่าแกจะหลากหลายเกินไปแล้ว

โป๊ป ธนวรรธน์, หลุย สก็อตต์ และ นุ่น รมิดา (ขอบคุณภาพจาก Thailand Cultural Music Festival)

แม้ไลน์อัพของงานจะดูจับฉ่ายเกินไปบ้าง ซึ่งทำให้เจอปัญหาไม่ดึงดูดแฟนเพลงในบางกลุ่มมากพอ แต่ก็เป็นนิมิตหมายที่ดีหากจะมีครั้งต่อไป เพราะงานสเกลระดับนี้เราถือว่าทำได้โอเคเลยทีเดียว แต่สิ่งที่ทีมงานต้องทำการบ้านมาก ๆ เลยคือไลน์อัพ เราคิดว่าโจทย์ของงานนี้มันแคบไป กับการเลือกแต่วงไทยที่เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมได้เท่านั้น ส่วนตัวเราสนใจงานนี้เพราะ Rasmee และ The Paradise Bangkok Molam International Band แต่เรารู้สึกได้เลยว่ายังไม่น่าสนใจพอจะดึงคนจากกรุงเทพ ฯ ลงไปพัทยาได้ กับชาวต่างชาติยิ่งแล้วใหญ่ เพราะหลายคนไม่ได้รู้จักศิลปินเหล่านี้เป็นทุนเดิมอยู่แล้ว การจะชักชวนให้เขาเข้ามาในงานน่าจะเป็นเรื่องยากอยู่เหมือนกัน

ถ้ามองข้ามเรื่องระยะเวลาโปรโมตที่น้อยเกินไป จริง ๆ งานควรจะต้องทำโปรโมตร่วมกับโรงแรม โฮสเทลหรือห้องพักมากกว่า เพื่อดึงให้นักท่องเที่ยวสบายใจเรื่องที่พัก อย่างเทศกาลดนตรีหลาย ๆ แห่งก็มีให้เช่าเต้นท์ภายในงาน หรือมีแพ็คเกจควบที่พักใกล้เคียงกับสถานที่จัดงานไปเลย อย่างวันที่สองซึ่งคอนเสิร์ตเลทไปชั่วโมง กว่างานจะจบก็ตีสอง ถ้าไม่ได้มีที่พักใกล้ ๆ งานนี้เราว่าคนก็อยู่ไม่จบแน่นอนต่อให้อยากดูแค่ไหน เหมือนงานก็ไม่ได้แจ้งว่ามีรถคอยอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวไปส่งตามที่ต่าง ๆ ในพัทยาหรือเปล่า หรือมีแต่ไม่ได้โปรโมตมากพอ ยังไม่นับปัญหาเรื่องที่จอดรถว่าถ้ามีปริมาณมากกว่านี้จะจัดการยังไงด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทีมงานหรือผู้จัดควรไปตีให้แตกก่อน

เรารู้สึกว่า Thailand Cultural Music Festival มันจะต้องเป็นเทศกาลดนตรีที่น่าสนใจอีกงานหนึ่งแน่ ๆ  เลยอยากฝากให้ทีมงานกลับไปทบทวนว่างานนี้ยังขาดอะไรอีกบ้าง และหวังว่าจะมีอีกครั้งในปีหน้าโดยที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ดีกว่านี้ หรือมีไลน์อัพที่ดึงดูดคนได้มากกว่าปีนี้ ยังไงมันก็เป็นงานที่ภาครัฐจัด เราก็คิดว่าเขาต้องพัฒนาไปได้ไกลและรองรับความสนุกของพวกเราได้อย่างดีในครั้งต่อ ๆ ไปได้แน่นอน

Facebook Comments

Next:


Peerapong Kaewthae

แม็ค เป็นคนชอบฟังเพลงเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และก็ชอบแนะนำวงดนตรีหรือเพลงใหม่ ๆ ให้คนอื่นรู้จักผ่านตัวอักษรตลอดเวลา