ลุยวันแรกกับ Thailand Cultural Music Festival เทศกาลดนตรีที่สะท้อนความเป็นไทยผ่านเสียงเพลง
- Writer: Peerapong Kaewthae
25 พฤษภาคม 2561
พัทยาเป็นอีกเมืองหนึ่งที่มีการจัดเทศกาลดนตรีบ่อยมาก ด้วยบรรยากาศของเมืองท่องเที่ยวที่อยู่ติดทะเล และวัฒนธรรมอันหลากหลายที่มารวมตัวกันอยู่ที่นี่ ทำให้มันเหมาะที่จะจัดเฟสติวัลดี ๆ ได้ไม่ยาก
แต่คงไม่มีเฟสติวัลครั้งไหนยิ่งใหญ่เหมือนงานนี้อีกแล้ว กับงาน Thailand Cultural Music Festival ที่รวบรวมศิลปินไทยชื่อดังที่เป็นตัวแทนของวัฒนธรรมไทยทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลกไว้มากที่สุดครั้งหนึ่งของประเทศไทย เต็มอิ่มไปกับเสียงดนตรีถึงสองวันเต็ม โดยมีศิลปินชูโรงอย่าง Rasmee และ The Paradise Bangkok Molam International Band แถมยังจัดอยู่ที่แหลมบาลีฮายสุดชิล เป็นเทศกาลดนตรีที่ไม่ควรพลาด ซึ่งผู้สนับสนุนหลักของเราก็คือ ททท. และเทศบาลเมืองพัทยานั่นเอง งานนี้เลยเข้าฟรี!! นอกจากจะกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ พวกเขายังอยากเห็นซีนดนตรีในไทยพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ผ่านศิลปินมากความสามารถเหล่านี้ ฟังใจเลยแอบไประเห็ดงานมาทั้งสองวันเต็มว่าจะมันขนาดไหน
งานค่อนข้างสังเกตได้ง่ายจากแบ็คดรอปน่ารัก ๆ อันบะเริ่มสีเหลืองสดใส หรือถ้าใครนั่งรถตู้มาก็หาเจอทันทีเพราะจัดอยู่ข้างท่าเรือไปเกาะล้านเลย ด้วยระบบรักษาความปลอดภัยก็เข้มงวดมาก น่าจะปลอดภัยหายห่วง ในงานยังมีกิจกรรมเพ้นท์ตัวฟรีด้วยให้เข้ากับเทศกาล มีลายให้เลือกมากมาย เพ้นท์ได้ทุกส่วน ก็สนุกไปอีกแบบ ในงานมีร้านอาหารชื่อดังจากเมืองพัทยามาตั้งเต็นท์เรียงรายกันเป็นตับ เรียกว่าอิ่มตลอดทั้งงานแน่นอน แถมยังมีบูธแนะนำการท่องเที่ยวในเมืองพัทยาคอยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวทุกด้านอีกด้วย
เครื่องเสียงและแสงสีก็ยังอัดแน่นสมกับเป็นเทศกาลดนตรี ไลน์อัพของวันนี้มีศิลปินที่น่าสนใจทั้ง Rasmee, Ga-pi โปรเจคเดี่ยวของ แก็บ T-Bone และ Mocca Garden ที่มาพร้อมกับ บุรินทร์ Groove Rider ด้วย แค่วันแรกก็ดูสนุกสุด ๆ แล้ว
เริ่มด้วย Mocca Garden ที่หยิบดนตรีเร็กเก้-สกามาทำให้ป็อปจนสนุกสนานและเข้าถึงง่ายขึ้น แน่นอนว่าพวกเขามาพร้อมกับเพลงฮิตอย่าง สกาวาไรตี้ และ ผมรักเมืองไทย ที่ชวนทุกคนลุกขึ้นโยกกันเต็มที่ แถมเขายังชวน บุรินทร์ Groove Rider ขึ้นมาสร้างสีสันในโชว์ด้วยกัน กับเพลงของ Groove Rider ที่ขนมาร้องกันสด ๆ ให้เราหายคิดถึง ทั้ง Superstar และ เธอทั้งนั้น ทำเอาหลงเสน่ห์เสียงพี่เขาอีกครั้งเลย หลังจากไม่ได้ฟังมานาน
ไม่กี่อึดใจ Rasmee ก็กรีดกรายขึ้นเวทีทันที เพลงหมอลำของเธอยังสร้างความตื่นตะลึงทุกครั้งที่ได้ดู รอบนี้ยังมาพร้อมกับเพลงจากอัลบั้ม Isan Soul EP ที่เราชอบมาก แถมยังมีมนต์ขลังให้เราต้องตกอยู่ในภวังค์ทั้งเพลง อารมณ์, ลำดวน, เมืองชุดดำ และ อ้ายอยู่ไส และแน่นอนว่าต้องมีเพลงมัน ๆ อย่าง สวยไทย กับท่อนโซโล่กีตาร์เท่ ๆ ของ ก้อง สาธุการ มือกีตาร์คู่บุญของ Rasmee นั่นเอง แม้เซ็ตนี้จะไม่ได้หวือหวามากเหมือนคอนเสิร์ตที่ตรงซีนของเธอเท่าไหร่ แต่มาตรฐานโชว์ของเธอก็ยังยอดเยี่ยมเหมือนทุกครั้งที่เคยดู
ต่อกันด้วย Ga-Pi โปรเจคเดี่ยวของ แก็บ T-Bone กับการโชว์เพลงดั๊บที่หลายคนอาจไม่คุ้นเคย เป็นโชว์ที่ท้าทายคนดูมากเหมือนกัน แต่หลายคนก็พร้อมจะเปิดใจรับฟังและสนุกไปกับเขาได้ โดยหนีบเอาเพื่อนแสนน่ารักมาร่วมแจมด้วยหลายคน ทั้งพิณแสนสะท้านจาก Pinnball และแซ็กนุ่ม ๆ จาก Rootsman Creation แถมยังได้ Fyah Burnning มาช่วยกัน แร็พอะดั๊บ ด้วย โดยแก็บ T-Bone รับหน้าที่มิกซ์เพลงเร็กเก้สนุก ๆ เข้ากับเพลงอิเล็กโทรนิก ให้เพื่อน ๆ มาแจมกันอย่างลงตัว หนึ่งในสมาชิก Fayah Burnning ก็คือ B-King เจ้าของเพลง สอบตก แต่รอบนี้เขากลับมาพร้อมแร็พสดสนุก ๆ ที่สร้างบรรยากาศให้บันเทิงสุด ๆ ได้อย่างดี แถมยังนำเพลง สอบตก มาเล่นใหม่ได้บันเทิงมาก
แม้ศิลปินที่เราสนใจจะมีแค่สามวง แต่ยังมีไฮไลต์จากศิลปินนอกซีนเราที่น่าสนใจอีกด้วย
ทั้ง แซ็ค ชุมแพ นักร้องลูกทุ่งที่เป็นเอ็นเตอร์เทนเนอร์ตัวจริง ขนเพลงลูกทุ่งมาร้องมากมายทั้ง แว้นฟ้อหล่อเฟี้ยว กับเพลงที่ทำให้เขามีชื่อเสียงสุดขีดกับ คำแพง ซึ่งโชว์ร้องคู่กับ เจมส์จิ นักแสดงชื่อดังโดยโกยเสียงกรี๊ดไปทั้งเวทีเลย พร้อมโชว์เพลง เก็บ เพลงประกอบละครที่กำลังดังมาก ๆ ตอนนี้
งานนี้ยังมีศิลปินลูกทุ่งที่น่าสนใจอีกสองวงคือ วงพัทลุง เจ้าของเพลงสุดไวรัลอย่าง มหาลัยวัวชน กับ ลำใย ไหทองคำ ที่แน่นอนว่าทุกคนน่าจะร้องเพลง ผู้สาวขาเลาะ ของเธอได้ ซึ่งเธอก็โชว์เพลงที่ร้องกับ Boom Boom Crash อย่าง สาธุ ด้วย เอ็นเตอร์เทนคนดูสุด ๆ กับเสียงร้องที่มีเสน่ห์ของเธอ แถมยังส่งท้ายด้วยเพลง ผู้สาวขาเลาะ อีกรอบในแบบเรียบเรียงดนตรีใหม่ให้มันขึ้นไปอีก ทำเอาคนดูหน้าเวทีต้องเต้นกันลืมอายุไปเลย
บอกเลยว่าไลน์อัพก็แอบโหดเหมือนกัน เพราะกว่าจะดูจบทุกวงก็ล่อเข้าไปตีหนึ่งแล้ว แต่มันก็มีความหลากหลายในแนวทางดนตรีอยู่เหมือนกัน นอกจากจะมีความเป็นไทยจากเพลงลูกทุ่งแล้ว ยังมีเพลงแนวไทยประยุกต์ให้เราลองเสพด้วย อย่างโชว์ของ Ga-Pi ก็ใช่ว่าจะหาดูได้ง่าย ๆ นะ กับการนำเร็กเก้มาผสมให้ได้รสชาติกลมกล่อมอย่างนี้ ยิ่งได้โปรดักชั่นระดับนี้ยิ่งทำให้โชว์ดูสนุกขึ้นไปอีก เทศกาลนี้เรียกได้ว่าคุ้มเกินคุ้ม
ก่อนจะหมดแรงก็ต้องลากสังขารตัวเองเข้าโรงแรมให้ได้ก่อน พรุ่งนี้ยังต้องลุยกันต่อกับ The Paradise Bangkok Molam International Band, UrBoyTJ และ เดย์ ไทเทเนียม อีก ไว้มาต่อวันที่สองกันในบทความหน้าจ้า