หายคิดถึง! temp. ‘Cozy Weather’ Party อบอุ่นสมเป็นเฟ-เฝอะริทพอปสตาร์ในใจ
- Writer: Donratcharat Phromsoonthornsakul
งานจบ ศิลปินไม่อยากจบ คนก็ยังไม่จบเช่นกัน กับ temp. ‘Cozy Weather’ Party ที่ขนเพลง ขนเพื่อน ขนความสนุกมาปล่อยของกันแบบเต็มอิ่มจุใจ เปลี่ยนลิโด้ให้เป็นบ้านเพื่อนแบบสามร้อยเปอร์เซ็นต์ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในคืนที่ผ่านมาทวงคืนความคิดถึงในรอบหลายปีที่มีให้กับ temp. ได้เป็นอย่างดี และแน่นอนทุกเรื่องราวในงานต่อจากนี้รับรองว่าสนุก! ใครยังอารมณ์ค้างจากความมัน(ส์)เมื่อคืน มาอ่านย้อนรำลึกไปพร้อม ๆ กันที่นี่ได้เลย
เราไปถึงช่วงก่อนหนึ่งทุ่มประมาณห้านาที ผู้คนเรียงรายมาพร้อมเสื้อวงคู่ใจ ไปจนเมิร์ชแทบทุกคอลเลคชันจากวงดนตรีที่พวกเขาตั้งใจมาเจอในคืนนี้ ด้วยความที่เราเองไม่ได้ไปคอนเสิร์ตนานพอตัวก็มีงง ๆ แถวบ้างเป็นปกติ แต่แน่นอนว่าแฟนเพลง temp. เขาน่ารักนะ ชี้ทางบอกว่าแถวไหนที่คนที่เพิ่งมาควรจะไป (เขินเลยแต่ก็ขอบคุณมากค่ะ) สุดท้ายก็ประจวบเหมาะได้เดินเข้าฮอลล์มาแบบรอดปลอดภัย เข้ามาพบว่าคนจับจองที่กันจนแน่นหูแน่นตา จนเอ่ยปากแซวกับคนที่มาด้วยว่าฮอลล์มันเล็กไปสำหรับพวกพี่แล้วต้องธันเดอร์โดมแล้วล่ะ (ขำ) ระหว่างที่นั่งสลับยืนรอก็ฟังเพลงเพลิน ๆ เพลย์ลิสต์เรียงมางดงามตามฉบับไม่เคยผิดหวังเลย เพราะนี่คืองานจากผู้จัดในดวงใจของหมู่คนทุกช่วงทุกวัยอย่าง Seen Scene Space นั่นเอง
อบอุ่น
ผ่านเวลาไปจนครบชั่วโมงเราได้พบกับ WNRDA เจ้าของเสียงที่ตรึงใจตลอดมาตั้งแต่สมัยที่เธอยังเป็น Part Time Musicians แน่นอนว่าตั้งแต่เห็นชื่อ WNRDA เป็น opening act ในงานของ temp. ก็ต้องมีหวังกันบ้างแหละว่าพวกเขาจะกลับมาร้องเพลงจาก Part Time Musicians ด้วยกันแค่เพลงเดียวก็ยังดี แต่ด้วยความที่สมาชิกหลาย ๆ คนอยู่ต่างประเทศแล้วเราก็ไม่ค่อยกล้าฝันสักเท่าไร แต่ก็แอบฝัน (ฮันแน่) แต่เพียงเพลงแรกจาก WNRDA ดังขึ้นก็ทำเอาเรากรี๊ดจนสุดเสียงกับ Your Call ซิงเกิลลำดับที่สองจากพวกเขา แล้วต่อกันด้วยเพลงคัฟเวอร์ที่เราก็คาดไม่ถึงว่าจะได้ยินในเวอร์ชันนี้ Don’t Dream This Over จาก Crowded House พอมาเป็นอาร์แอนด์บีหวาน ๆ นี่สุขใจไม่น้อยเลย วกกลับมาที่ Baby Can You Stay ซิงเกิลล่าสุดจากพวกเขาที่หวานสุดใจจนอยากอยู่ต่อตลอดไป ก่อนจะกลับมาซัดเพลงคัฟเวอร์ให้เราฟังต่อกันอีกสองเพลงนั่นก็คือ Too Good จาก Christian Kuria และ Closet to Me โดย Liza Anne แล้วคั่นด้วยเพลงใหม่ที่ยังไม่ปล่อยนามว่า Gin and Soda ใช่แล้ว เรื่องราวของเครื่องดื่มที่ช่วยผ่อนคลายเราจากเรื่องที่หนักหนาประจำวัน ก่อนจะทิ้งท้ายสวย ๆ ไปกับ Shelter เดบิวต์ซิงเกิลที่ทำให้เราหายคิดถึงเสียงของแพท และได้รู้จักเธอในฐานะศิลปินจาก WNRDA ได้อย่างเต็มรูปแบบ และตลอดครึ่งชั่วโมงกว่า ๆ จาก WNRDA ก็เป็นความอบอุ่นหัวใจแรกที่เราได้พบในค่ำคืนนี้
เมื่อก่อนเราทำวง Part Time Musicians กับพี่นิค พอไม่มีพี่นิคแล้วก็กินน้ำยากเหมือนกันนะ – แพท WNRDA
เร่าร้อน
สองทุ่มตรงแบบไม่มีวินาที ก็ถึงเวลาพอปสตาร์แห่งค่ำคืนนี้แล้ว! temp. บอยแบนด์ขวัญใจวัยสะรุ่นพระเอกของงาน นิค, แปม, อุณ, น็อต, รุจ สี่หนุ่มที่ขนเพื่อนคู่ใจมาด้วย พาริม และมาย ยอดคอรัสที่เคียงบ่าเคียงไหล่กันมาตลอด และในวันนี้รุจก็ชวน brazz session มาเพิ่มอีกสองหน่อ อุ้ยและเปา ที่โดนนิคแซวว่าหากเป็นภาษาดนตรีก็เรียกว่าทำให้ภาคดนตรีมันแน่นขึ้น แต่ถ้าเป็นภาษาที่เข้าใจกันง่าย ๆ ก็คือมาทำให้พี่รุจเหนื่อยน้อยลง เรียกเสียงขำไปได้ทั้งงาน ตั้งแต่สองทุ่มจนถึงห้าทุ่มต่อจากนี้เราขอสารภาพบาปไว้ก่อนเลยว่าอาจจะจำ song lists ได้ไม่หมด เพราะพี่แกขนเพลงมานับไม่ถ้วนทั้งอัลบั้มแรกและอัลบั้มที่สอง และนอกเหนือจากนั้น ซ้ำยังรับ-ส่งมุกจากคนบนเวที และคนดูข้างล่างตลอดการเพอร์ฟอร์มแบบที่คนดูเองก็ขำมากพอ ๆ กับร้องเพลงตามกันเลยทีเดียว
ซึ่งหากให้ย้อนไปตอนที่อัลบั้ม HIBISCUS ปล่อยออกมา มันเป็นช่วงที่คอนเสิร์ตซบเซา ทำให้เราอดฟังเพลงจากอัลบั้มนี้แบบสด ๆ ไปนานร่วมปีกว่า พอได้มาฟังกับหูจริง ๆ ก็พบว่าเป็น live ที่สนุกมากจากที่เคยคิดว่าตอนฟัง audio มันเข้มข้นมากแล้ว แต่พอพวกเขามาเรียงร้อยแต่ละเพลงสลับกับเพลงจากอัลบั้มแรกอย่าง Sweet as Honey ก็ออกมากลมกล่อมสมเป็นเฟ-เฝอะริทพอปสตาร์ในดวงใจแบบไม่เคอะเขินเลย ประเดิมด้วยเพลงแรกอย่าง Cool Side ที่อินโทรขึ้นมาแบบยียวนแต่เราจะไม่บอกว่าพวกเขาทำอะไร เก็บไว้ให้เป็นความทรงจำแสนพิเศษของทุกคนที่อยู่ในงานแทนแล้วกัน ซึ่งแค่เพลงแรกก็เรียกเสียงหัวเราะและรอยยิ้มได้อย่างอยู่หมัดแล้ว เพลงต่อ ๆ ไปไม่ต้องพูดถึง!
มีอีกหลายเพลงเหมือนกันที่เราแทบไม่เคยได้ฟังสดมาก่อนอย่าง Popstar ที่มาพร้อมกีตาร์โปร่งสวย ๆ และ From Paris ที่เนื้อเพลงงดงามรับบทเป็นโรมิโอ-จูเลียตกันทั้งงาน แน่นอนอีกเพลงที่น่ารักมาก ๆ คือ All Day Breakfast ที่เจ้าตัวหัวหอกอย่างนิคเดินลงเวทีขึ้นบันไดไปหาแฟน ๆ เป็นเพลงหวานหัวใจที่เบรคความปวดหลังของวัย 25 บวกได้เป็นอย่างดี ถึงแม้จะตกบันไดไปขั้นนึงก็ยังเท่ไม่เปลี่ยน
ความน่ารักของ temp. ก็คือการให้พาริมและมายรับหน้าที่ถ่ายทอดสองเพลงจากพวกเขาในเวอร์ชันของพวกเธอเอง โดยเราได้ฟัง Wonderland ในเวอร์ชันของพาริม PARIM และได้ฟัง Party’s Over เพลงเศร้าจากอัลบั้มแรกที่ถ่ายทอดโดย มาย Supergoods เป็นอะไรที่สุดขั้วมาก ความสดใสของพาริมที่เรียกรอยยิ้มได้ทั้งฮอลล์ แล้วส่งไม้ต่อให้เสียงที่บาดใจที่สุดแห่งค่ำคืนจากมายที่บอกได้เลยว่าขี้หูไหลเป็นเพชรจริง ๆ ถ้าไม่ได้มางานนี้ก็คงไม่ได้หาฟังง่าย ๆ ดีใจที่ได้ฟังจริง ๆ เลยล่ะ
นอกจากจะเป็นวงดนตรีที่คนดูมีส่วนร่วมได้ในทุกเพลงเพราะมีท่อนที่มันแคทชี่แคทใจติดหูจนต้องร้องตามเสมอ ครั้งนี้พวกเขายังให้แฟน ๆ แบ่งส่วนกันฮาร์โมไนส์ท่อนในเพลงดังอย่าง Miss Summer โดยมีสามคู่เสียงจาก รุจ, มายด์ และ อุณ ที่กว่าจะได้ก็หมดแรงขำกันไปพอตัว ถึงแม้เกือบจะล่มเพราะมัวแต่ขำกันก็ยังจบไปได้ด้วยดีเพราะความร่วมมือจากแฟน ๆ ที่ก็น่ารักจนอดชื่นใจแทนวงไม่ได้จริง ๆ ให้ทำอะไรก็ทำอะพวกเรา (ขำ)
ไหม้
มาถึงช่วงสุดท้ายของงานที่พูดได้คำเดียวว่าสนุกจนฉุดไม่อยู่ เพราะไม่มีใครฉุดใครได้เลยเอาด้วยกันทั้งหมด! หลังจากลงเวทีไปก็อังกอร์กันจนคอแตกว่าเอาอีก ๆ เอาใหม่ ๆ แน่นอนว่าพวกเขาไม่ปล่อยยให้เราคอยนานอยู่แล้วถึงแม้จะอยากกลับบ้านไปนอนกันมากแค่ไหน temp. กลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งพร้อมบอกทุกคนว่า เราขออนุญาตคัฟเวอร์เพลงหนึ่งเพลงได้หรือไม่ พร้อมที่แพทจาก WNRDA เดินขึ้นมาพอดี ใจเต้นตึกตักตึกตักเพราะเฝ้าฝันไว้ว่าจะได้ฟัง Part Time Musicians สักหนึ่งเพลงมันกำลังเป็นจริงใช่หรือเปล่า ในระหว่างนั้นเราก็ได้เห็นคนดูชูไวนิล Guava Songs ขึ้นมาอย่างเด่นเห็นได้ชัดเต็มสองตา ก่อนที่ดนตรีจะขึ้นแล้วเพลง ๆ นั้นคือ The Only One เพลงรักที่ครองใจตลอดกาล น้ำตาไหลไม่รู้ตัว และเราก็เชื่อด้วยว่ามีอีกหลายคนมาก ๆ ที่น้ำตาซึมไปจนถึงขั้นร้องไห้ หลายปีมาก ๆ ที่ไม่ได้ฟัง Part Time Musicians ถึงแม้สมาชิกจะไม่ครบ ก็แต่ยังมีทั้งนิค แพท และอุณยืนอยู่ร่วมกัน พร้อมกับมีสมาชิกใน temp. เล่นไปพร้อม ๆ กัน นับเป็นการรียูเนี่ยนเบา ๆ ที่ยิ่งใหญ่กับหัวใจแฟนคลับมาก ๆ เกินคำว่าคุ้มไปมากโข ฉันมีความฝัน ที่แม่เคยฝัน ที่ไม่กล้าฝัน ที่คนธรรมดาคนนึงไม่กล้าฝัน แต่เขาก็ให้มา โดยที่ฉันก็แอบฝัน ในชีวิตจริง ขอบคุณจากหัวใจ
ถึงแม้จะอบอุ่นเรียกรอยยิ้มและน้ำตาไปแล้วก็ยังไม่อยากจบ วงไม่ลงจากเวทีคนก็ยังยืนรอเฝ้าฝันกันต่อว่าจะได้พบกับความสนุกในรูปแบบใด ไม่นานเสียงของนิคก็ดังขึ้นพร้อมกับเรียกเหล่าศิลปินในวงการที่ยืนดูอยู่ในงานขึ้นมาบนเวที สิริรวมร่วมสิบชีวิต ออม, ปิ้ว และนาว TELEx TELEXs, ไตเติ้ล The Whitest Crow และ S.O.L.E., ไมค์กี้ Laugh Laugh Laugh, ท็อป Whal & Dolph และ มหัศจรรย์ธรรมดา ไปจนถึง เจน electric.neon.lamp ที่รับหน้าที่ Show Director ของงานนี้ให้ขึ้นมาด้วยเช่นกัน โดยก่อนที่จะส่งท้ายกันนิคก็พูดย้ำเรื่อย ๆ ว่า “สามารถกลับบ้านกันได้แล้วนะครับ เพราะไม่มีอะไรแล้วจริง ๆ” นี่คือการมั่วบ้านงานที่แท้ทรู แต่ถามว่าคนดูกลับหรือไม่ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าไม่กลับ!
แล้วใครเล่าจะเชื่อคำว่า “ไม่มีอะไรแล้วจริง ๆ” ในที่นี้ เพราะมันมี มีเยอะมาก โชว์หมัดโชว์ร้องกันน่วมไปพร้อม ๆ กับอิ่มเอมเปรมใจกับความสนุกและความสุขที่มันล้นออกปาก งัดเพลงที่ไม่คิดว่าจะได้ฟังจากหลากศิลปินอินดี้แถวหน้าที่เป็นผู้หลักผู้ใหญ่กันในวงการยุคบุกเบิกมาร้อง เล่น เอนเตอร์เทนกันสุดเหวี่ยง คิดว่าไม่ใช่แค่คนดูที่สนุกแต่ศิลปินเองก็สนุกไม่แพ้กันแน่นอน ตบท้ายส่งค่ำคืนอันแสนอบอุ่นจนไหม้ได้อย่างดี
พูดกันตามตรงงานนี้ก็แทบจะเป็นงานคอนเสิร์ตเดี่ยวแรกของพวกเขาเลยก็ว่าได้ เป็นความดีใจที่อธิบายเป็นคำพูดออกมาได้ไม่หมด ในฐานะสื่อเราก็เห็นบทเพลงของพวกเขาทำงานกับคนฟังมาเสมอ ความสามารถที่ไม่เคยมีใครต้องกังขา ความจริงใจที่พวกเขามอบไว้ในบทเพลง มิวสิกวิดีโอ หรือสินค้าของวงก็บ่งบอกความเป็นตัววงได้เป็นอย่างดีเสมอมา และในฐานะแฟนเพลงเราก็อดชื่นใจไม่ได้จริง ๆ ที่มีคนที่ตั้งใจมาเจอพวกเขา ร้องเพลงตามพวกเขา รับ-ส่งมุกกันแบบทันทีทันควัน พร้อมกับขำในทุก ๆ สิ่งและยิ้มกับทุก ๆ ถ้อยคำที่วงพูด เป็นงานที่ประทับใจทั้งบรรยากาศ ผู้คน เพลง ศิลปิน และทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในงานเลยจริง ๆ ขอให้พวกเขายังคงสนุกกับเสียงเพลงและมอบความจริงใจผ่านบทเพลงของพวกเขาไปอีกนานแสนนาน ขอบคุณมาก ๆ จากหัวใจ สุดท้ายนี้ขอยืนยันอีกครั้งว่า โชว์อย่างนุ่มกลับอย่างน่วม ครับผม!
ฟังเพลงได้ที่ฟังใจ
___