Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

ฝันที่เป็นจริงของแฟน Tahiti 80 รุ่นหลัง ที่ได้ดูพวกเขาสด ๆ พร้อม live paint สุดเพลิน

  • Story and photos by Montipa Virojpan

5 ตุลาคม 2561

เราอาจจะไม่รู้ว่า Tahiti 80 อินดี้ร็อก/ซินธ์ป๊อปจากฝรั่งเศสที่มีผลงานโด่งดังอย่าง Heartbeat และ Crush จะเคยมาเล่นที่กรุงเทพ แล้วถึง 2 ครั้ง แต่นั่นก็เมื่อ 10 กว่าปีที่แล้วที่งาน Melody of Life และอีกรอบในปีถัดมาที่ Toys Club RCA (ตอนนี้กลายเป็นอะไรไปแล้วล่ะแง) แฟนเพลงน้องหนูที่เพิ่งได้มาฟังเพลงของพี่ เขาก็ไม่น่าจะทันโชว์เหล่านั้น แต่ไม่เป็นไร เพราะรอบนี้ Dudesweet และ Spicy Disc พาพวกเขากลับมาตามคำเรียกร้องพร้อมเพลงจากอัลบั้มล่าสุด Sunsh!ne Beat Vol. 1 มาดูกันว่าจะเป็นยังไงบ้าง (นี่ก็เพิ่งได้ดูวงนี้กับเขาครั้งแรกเหมือนกันจ้า ตื่นเต้น )

ทีมงานเดินทางมาถึง Zen Event Gallery ตอนเวลาเกือบ สองทุ่มครึ่ง ตอนนั้นเป็นเวลาที่วง Pills ศิลปินน้องใหม่สไตล์ซินธ์ป๊อปกรุบกำลังคัฟเวอร์เพลงดังอย่าง Superstar ของ Groove Riders ที่ก็พิสูจน์ตัวได้ว่าฝีมือร้ายกาจไม่เบา แต่ว่าด้วยย่านเบสที่กระแทกกระทั้นทำให้เสียงแผ่นอะคริลิกที่บุเสาสั่นสะท้านพั่บ กับย่านแหลมที่ไม่ค่อยบาลานซ์ทำให้เราต้องย้ายที่ยืนอยู่หลายครั้งเพื่อหาทำเลเสียงเหมาะ พอเข้าที่เข้าทางแล้วก็ได้ฟังพวกเขาเล่นเพลงของวงเองอย่าง Rewinds ถือว่าเป็นอีกวงซินธ์ซาวด์วินเทจกับเมโลดี้ป๊อป ที่น่าติดตามอยู่นะ


จากนั้นประมาณสองทุ่มห้าสิบวง Sqweez Animal ก็พร้อมแล้ว อินโทรสุดพิศวงทำให้เรารู้สึกตื่นเต้นกับโชว์ของพวกเขามาก ความเปลี่ยนแปลงของ SQ ที่ต้องเดินต่อโดยไร้เงาของ สิงห์ จึงทำให้รูปแบบของเพลงและโชว์เปลี่ยนไปพอสมควร เปิดด้วยเพลงแรกที่ทุกคนคุ้นเคยกับ พรุ่งนี้ที่ดีกว่า แต่ด้วยการอะเรนจ์ใหม่เลยทำให้รู้สึกไม่ชินเท่าไหร่ แต่เป็นสีสันที่น่าสนใจมากกับลูกเล่นที่ใส่มาในไลน์เครื่องดนตรีต่าง เราเริ่มสังเกตว่าเวทีที่ตอนแรกมีสีป้ายเป็นเส้น ตอนนี้เริ่มมีทีมงานค่อย เทสีลงมาสร้างลวดลายเพิ่มให้กับแบ็คดรอป เลยกลายเป็นงาน live paint ประกอบการแสดงดนตรีไปโดยปริยาย จากนั้นพวกเขาก็เล่นเพลง ฉันไม่เหงา ที่ฟังแล้วรู้สึกเหงาแต่เท่กว่าเดิมด้วยซาวด์กลองบองโก เบสหนัก และการรีอะเรนจ์จนกลายเป็นเพลงเก๋ ประกอบด้วยจังหวะนูดิสโก้ และท่อนหลังที่อัพบีตขึ้นมาจนเราหลงรักเพลงนี้ยิ่งขึ้นไปอีก ต่อด้วยเพลง เริ่มใหม่ ที่ใช้ซาวด์กลองไฟฟ้า เมโลดี้กีตาร์สุดเวิร์ล และการสแลปเบสเท่ ที่ทำให้เราละสายตาไปไม่ได้กับต้องตั้งใจฟัง พร้อมด้วยซินธ์สุดเมามาย คือเป็นทีมนักดนตรียอดฝีมือทั้งสิ้น

แล้ววินก็พักพูดคุยกับแฟนเพลงก่อนเล็กน้อย เขาบอกว่าเมื่อสิบกว่าปีก่อน Sqweez Animal ก็เคยมาเล่นงาน Home Sweet Home ที่สถานที่แห่งนี้ และเล่าให้ฟังว่าดีใจที่ได้มาเล่นกับ Tahiti 80 เพราะเคยได้ร่วมงานกันในอัลบั้มก่อน และเป็นแฟนเพลงเหมือนกับทุกคนที่อยู่ที่นี่จึงยิ่งรู้สึกดีใจที่รายล้อมไปด้วยคนรสนิยมเดียวกัน จากนั้นก็เล่นเพลง ไม่เคยจะห่างกัน ที่บรรเลงออกมาคล้ายต้นฉบับเพียงแค่ใส่ซินธ์เข้ามาเพิ่มมิติให้เพลง จบจากเพลงนี้วินก็พูดถึงมือกีตาร์ของวงที่หายตัวไปเมื่อสามปีก่อน ถ้าเขายังอยู่วันนี้ต้องมาเล่นแน่นอน ซึ่งก็ไม่ใช่ใครแต่เป็น สิงห์ มือกีตาร์ผู้เป็นที่รักและเป็นต้นแบบของนักดนตรีหลาย คน แล้วก็พูดติดตลกว่าเนื้อหาเพลงนี้ไม่เกี่ยวกับเขานะ เพราะนี่คือเพลง Secretive (บอกไม่ได้) งานชิ้นหลัง ที่พวกเขาสร้างสรรค์มันออกมาร่วมกันกับอินโทรกีตาร์เท่ ติดหู และท่อนโซโล่ที่ฟังแล้วต้องคิดถึงสิงห์มาก วินจึงบอกให้คนดูส่งเสียงให้กับสิงห์ แฟนเพลงก็ส่งเสียงร้องแห่งความคิดถึงนี้ดังสนั่น จบจากเพลงนี้ก็เป็นเพลงสุดท้ายของพวกเขาแล้ว วินเล่าว่าเมื่อหกปีที่แล้ว SQ ได้ร่วมงานกับ Tahiti 80 โดย Xavier นักร้องนำมารับหน้าที่โปรดิวเซอร์ให้ในเพลง คำบางคำ โดยเขาถือว่าเป็นเพลงพิเศษของวงมาก แน่นอน ในโชว์พี่ซาเวียร์ก็ขึ้นมาร่วมร้องในท่อน ‘Come to see me once in a while’ ด้วย ขนลุกและน่าประทับใจมาก

ระหว่างที่เรากำลังรอให้ทีมงานเซ็ตอัพ ก็ฟังเพลงที่เปิดคลอไปเพลิน มีทั้ง Grimes, Blur, Crocodiles, Leonard Cohen, M.I.A., Lykke Li, Taylor Swift หรือแม้แต่ ยอดรัก สลักใจ วาไรตี้มาก แล้วก็ได้เวลาของ Tahiti 80 กันแล้ว 5 สมาชิกมาประจำที่พร้อมเสียงกรี๊ดจากแฟน ตอนนี้เราได้เขยิบมาอยู่แถวหน้าเวทีเพื่อหลบเลี่ยงเสียงรบกวนซึ่งจัดว่าได้ผลพอสมควรเลยจะขอข้ามเครื่อง techinical problem ไปก่อนนะ

อ้ะ มา เปิดกันเลยที่ Unpredictable เพลงสุดน่ารักที่กีตาร์พี่ Médéric เปรี้ยวบีบหัวใจ วัยรุ่นหมักมาก ต่อกันด้วย Sound Museum เพลงจากอัลบั้มล่าสุด กับอินโทรกีตาร์ติดหูและเบสหนา จังหวะชวนโยกขนาดพี่ Hadrien มือคีย์บอร์ด/ เพอร์คัสชัน นางออกมาเคาะแทมบูรินบิลด์อารมณ์คนดูอย่างเมามันกันตั้งแต่เพลงที่สองเนี่ยแหละ

จากนั้นพี่ซาเวียร์ก็ทักทายแฟน ด้วยคำว่าสวัสดีครับเขาบอกว่าดีใจที่ได้กลับมาอีก และเพลงต่อไปที่จะเล่นชื่อว่า Easy เมโลดี้คีย์บอร์ดต้นเพลงนี่น่ารักติดหูอีกเหมือนกัน บีตกลองก็น่าเต้นเหลือเกิน แต่สิ่งที่เราชอบมาก ในเพลงนี้คือการประสานเสียงของสมาชิกทุกคน เป็นเสน่ห์ของเพลงนี้เลยแหละ จากนั้นซาเวียร์ก็พูดว่าขอบคุณครับเป็นภาษาไทยผมพูดได้แค่นี้แหละ อีกคำก็ อะไรนะ ฉ่นไก๊ ชนไก้ ที่มันแปลว่า cheers อะ ใช่ไหม?” ก็มีคนช่วยตะโกนขึ้นไปบอกว่าชนแก้วเรียกเสียงฮากันไป ก่อนจะเล่นซิงเกิ้ล My Groove ที่เขาบอกว่าเพิ่งปล่อยมาเมื่อสองวันก่อน หวังว่าพวกเราจะชอบ แต่อันที่จริงก็หาฟังในอัลบั้มเต็ม ได้แล้วแหละนะ ซึ่งก็เป็นอีกเพลงนึงในอัลบั้มที่เราชอบ และเพลง To Anyone กับความมินิมัลกรุ๊งกริ๊งของซินธ์แต่ได้ฟีลโยก ประหนึ่งเพลงชิลริมทะเล และเป็นเพลงที่เขาบอกว่า ชื่อเหมือนสปอนเซอร์เบียร์งานนี้นั่นคือ Changes ชอบเสียงดรัมแพดเคาะแป๊ก น่าร้าก แล้วจากนั้นก็เป็นเสียง midi คนงึมงำ ซึ่งเรียกเสียงกรี๊ดจากคนดูได้เพราะนั่นคือเพลง Strung เพลงเท่ อีกเพลงจากชุดใหม่กับซาวด์กีตาร์แกร๊ง ซินธ์หนัก เบสดรัมหนัก เป็นเพลงที่ทำให้นึกถึงอินดี้ร็อกปลาย 90s ผสมกับเสียงคีย์บอร์ดย้อนไปประมาณยุค 60s แต่ให้ซาวด์แบบร่วมสมัยอยู่เหมือนกัน แล้วจึงเป็นเพลง Hurts ที่ตอนซาเวียร์ให้สัมภาษณ์ก็บอกเราว่าชอบเพลงนี้ที่สุดในอัลบั้มใหม่ ซึ่งตอนเล่นเขาก็บอกว่าจะทำมิวสิกวิดิโอด้วย แต่แอบกระซิบว่าจะได้ร่วมงานกับผู้กำกับไฟแรงชาวไทยแหละค่ะ รอติดตามกันได้เลย เพลงนี้กีตาร์ท่อนโซโล่กับช่วงท้ายเพลงคือขยี้มาก ร้าวรานแบบสวยงาม

และแล้วเพลงต่อไปซาเวียร์ก็บอกว่าเพลงนี้เกี่ยวกับหญิงสาวจากนอกโลก นั่นคือเพลงซาวด์กีตาร์เท่ กับบีตชวนยุกยิกและน่ารักแฟนตาซีสุด ใน A Love From Outer Space งานจากอัลบั้มชุดแรก ที่เขาเปลี่ยนมาเล่นคีย์บอร์ด และคนดูก็ช่วยร้องในท่อน ‘She loves me’ ได้อย่างพร้อมเพรียง และเพลงต่อไปเฮเดรียนก็ถามเราว่า พร้อมจะเต้นกันหรือยัง เปโดรตอบว่าเขาชอบเต้นมาก เฮเดรียนเลยสวนไปว่า เออ รู้อยู่ละว่าชอบ เรียกเสียงฮากันอีกรอบ ก็จัดเพลง Matter of Time มาให้ได้แดนซ์กันต่อ เสียงคีย์บอร์ดในเพลงนี้รื่นรมย์จิตใจดีเหลือเกิน มีความ Swedish pop สุด ไปเลยค่า หลังจากจบเพลงนี้ พวกเขาก็เสิร์ฟอีกเพลงต่อติด แทบไม่ให้พักหายใจ ซาเวียร์บอกว่าจะให้ทุกคนช่วยร้อง จะจับตาดูด้วย นั่นคืออีกเพลงฮิต 1000 Times กับเสียงซินธ์เครื่องสายสุดคุ้นเคย กับพิเศษในนูดิสโก้เพลงนี้คือได้ วิน Sqweez Animal ขึ้นมาช่วยร้องในท่อนหลัง ทำให้เห็นว่าสองคนนี้เขาสนิทกันมากจริง และเป็นอีกโมเมนต์ที่น่ารักมากในคอนเสิร์ตนี้ เมื่อวินลงจากเวทีไป เขาก็ถามเราว่ายังสนุกกันอยู่ใช่ไหม งั้นมาเต้นกันต่อในเพลง Jokers และ Let Me Be Your Story สองเพลงจากชุดล่าสุดที่ช่วงนี้มีการปล่อยบับเบิ้ลด้วย พี่ซาเวียร์แกคงจะเพิ่งเห็นฟองสบู่ลอยผ่านหน้าไปก็ถึงกับเผลอยิ้มออกมา น่าร้าก และก่อนจะจบจากช่วงนี้ไปพวกเขาก็ส่งงานจากชุด Ballroom ทั้ง Coldest Summer และ Crush! อีกสองเพลงฮิตมาส่งท้ายก่อนจะเป็นอังกอร์ ที่แฟนเพลงก็ใช้เวลาเรียกร้องการกลับมาของพวกเขาไม่นานนัก

ซาเวียร์กลับขึ้นมาและบอกว่าจะเล่นเพลงที่ฮิตมาก ในเกาหลี เป็นอีกเพลงที่พิเศษสำหรับพวกเขานั่นคือ Open Book ที่แทบจะเป็นเพลงช้าที่สุดในโชว์นี้ชวนโยกเบา เคลิ้ม กันไป ต่อด้วย Natural Reaction ที่จะปล่อยเป็นซิงเกิ้ลถัดไป พวกเขาบอกว่าหยิบมาเล่นที่กรุงเทพ เป็นที่แรก ต้องบอกว่าเป็นอีกเพลงที่เท่มากจากชุดล่าสุด บีตหนักหน่วง ยิ่งเสียงซินธ์สุดติดหูอันนั้นล่ะก็นะ ต่อด้วย Big Day จังหวะกรูฟ เบสหนัก อะไรแบบนี้แหละที่ชวนแดนซ์สนุกเลย จนมาถึงช่วงสุดท้ายของโชว์แล้วจริง ซาเวียร์ถามว่าอีกซักเพลงไหม อยากฟังเพลงอะไรกัน ก็ได้ยินคนตะโกนขอ Heartbeat กันสนั่นฮอล ซึ่งเขาก็แกล้งคนดูทำเป็นว่าได้ยินเป็นเพลงอื่นแล้วจะไม่เล่น แต่จนแล้วจนรอดก็จัดเพลงที่ขอนี้ให้ส่งท้ายกันไป พี่เฮเดรียนงานนี้ก็วิ่งพล่านไปทั่ว ออกมาเคาะแทมบูรินแล้วก็ไปตีกลองอีกชุด ก่อนจะกระโดดไปตีกลองชุดเดียวกับพี่ราฟาเอล ตลกมาก น่ารักมาก เรียกว่าได้ใจแฟนเพลงไปเต็ม กับโชว์ครั้งที่สามในกรุงเทพ ของ Tahiti 80 วงน่ารักและเต็มที่มาก ได้ฟังเพลงทั้งเก่าใหม่แบบจุใจไปเลย

Tahiti 80

สำหรับเราที่ยืนอยู่บริเวณหน้าเวทีและค่อนข้างใกล้กับวงเลยไม่ค่อยได้รับผลกระทบจากที่หลาย สเตตัสบ่นถึงสถานที่จัดงานและซาวด์ที่ไม่น่าพิสมัยเท่าไหร่ แต่จากประสบการณ์ที่ได้ดูโชว์ที่นี่มาแล้วประมาณสองสามครั้งก็ต้องบอกว่าไม่ค่อยเหมาะจะจัดงานดนตรีจริง ก็อาจจะเหมาะกับงานคนละประเภท เพราะตอน Citizens! เมื่อหลายปีก่อน อาจเพราะตอนนั้นยืนอยู่โซนหน้า เหมือนกัน และวงมันไม่ได้เป็นอะคูสติกขนาดนั้นเลยไม่ค่อยมีปัญหา คิดว่าที่เป็นบั๊กหลัก เลยคือเสาต้นใหญ่สี่ต้นนอกจากจะบังทัศนวิสัยคนดูแล้วอาจทำให้เกิดปัญหาทางเทคนิคต่าง ตามมา เสียงอะคริลิกสั่นระรัว ความก้อง หรือย่านเสียงไม่บาลานซ์ ไมค์หอนเป็นระยะ แล้วมีช่วงนึงที่วงเงียบก็เลยได้ยินบรรยากาศรอบ ความที่ฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลยทำให้คนดูคุยกันดังมาก ๆๆๆๆ ต้องฝากผู้จัดงานต่อ ไปพิจารณาการใช้สถานที่นี้นิดนึงน้า

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้