ประเดิมคอนเสิร์ตแรกของ 2019 กับ Superorganism อิเล็กโทรป๊อปแห่งยุคอินเทอร์เน็ต
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: Tas Suwanasang
13 มกราคม 2562
เป็นที่ฮือฮามากหลังจากที่ทีม Medium Rare ประกาศขายบัตรและโปรโมตกันมาตั้งแต่ปีก่อนหน้า สำหรับ Superorganism วงหน้าใหม่มาแรงที่ปล่อยเพลงออกมาเพียงปีกว่า ๆ ก็ได้รับความสนใจจากแฟนเพลงทั่วโลก ด้วยเพลงที่ไม่ได้เป็นแค่อิเล็กทรอนิกป๊อปทั่วไป แต่มี element ของวิดิโอเกม meme และสารพัน pop culture ของ internet age สอดแทรกอยู่ในเพลง เนื้อหาที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่ รวมถึงลุคกวน ๆ ของนักร้องนำ และลูกเล่นในการแสดงที่เป็นที่กล่าวขวัญในทุกโชว์ของพวกเขา ซึ่งนี่ก็เป็นครั้งแรกที่ Superorganism เดินทางมาแสดงสดให้แฟน ๆ ชาวไทยได้ดูกันเป็นคอนเสิร์ตแรกของปี 2019
เวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง ผู้ชมเดินทางมาถึงที่ Live Arena หรือ Live RCA เก่าที่ถูกปรับพื้นที่ใหม่ให้กว้างกว่าเดิมและเอื้อต่อการเล่น visual lighting บนเวทีมากขึ้น ถือเป็นการเพิ่มขอบเขตของการได้ประสบการณ์การชมดนตรีสดไปอีกขั้น และเรารู้สึกว่าได้ผลจริง ๆ กับวงที่มี visual lighting เป็นส่วนประกอบสำคัญในโชว์ อย่างวันนี้วง Fwends ที่ขึ้นมาเล่นก่อนในเวลาเกือบ ๆ สามทุ่ม ก็มาพร้อมภาพสุดลายตาประหนึ่งกำลัง ‘ออกเดินทาง’ ไปในมิติพิศวงพร้อมกับเพลงจากอัลบั้มเต็ม Night and Day มาบรรเลงให้ได้ฟังกันอย่างจุใจ ในโชว์นี้ก็มี ปาล์ม มือทรัมเป็ต และ Parim มาช่วยคอรัสเพิ่มสีสันให้กับเพลงของวงด้วย เริ่มตั้งแต่ Summer Love เพลงจังหวะสนุก ๆ สดใส ตามด้วย Where Do We Go และดรอปจังหวะลงในเพลงช้า ๆ For a While
จากนั้นก็เล่นเพลงใหม่ ๆ ที่ยังไม่ค่อยได้เล่นที่ไหน ทั้ง 145 At 6AM ซึ่งเป็นเพลงฟังกี้ ๆ เล่าเรื่อง ณ ขณะที่เมย์ขับรถด้วยความเร็ว 145 กิโลเมตร/ชั่วโมง ตอนหกโมงเช้า ตามด้วยเพลง No Pressure กับเนื้อเพลงสุดแรนด้อม ทั้ง ‘sleeping, eating on the floor’ ก่อนจะเป็น Front Row เพลงที่ได้ Cuco มาช่วยเป่าทรัมเป็ตให้ใน studio version และได้ Pyra มาเป็นเสียงเพื่อนสาวในบทสนทนากลางเพลง แล้วจึงเป็นเพลง Why Can’t You See ที่เพิ่มท่อนอินโทรเมามายเข้ามาในตอนต้น และปิดท้ายด้วย Morning อีกไซค์ป๊อปจังหวะสนุก ๆ เป็นจุดหมายสุดท้ายในการ ‘เดินทาง’ ครั้งนี้ บอกเลยว่าจบโชว์คือตาลายไปเลย วิชวลป่วนมาก เพลงยุคนึงของวงก็ปั่นไม่แพ้กัน
ประมาณสี่ทุ่ม เพลงที่เปิดคลอทั้งฮอลก็หรี่ลงแล้วเปลี่ยนเป็นอินโทรเพลงเข้าโชว์ของวงจี๊ด ๆ วงนี้ พร้อมกับวิดิโอเปิดตัวที่ตั้งใจทำให้เป็น home video ที่มี glitch แตก ๆ คุณภาพต่ำ ๆ ครบสูตรของ internet culture ยุคนี้ ก่อนที่สมาชิกวงจะเดินขึ้นมาบนเวทีทีละคนในเสื้อคลุมกากเพชรระยิบระยับอลังการและสวมแว่นดำ พร้อมเสียงร้องต้อนรับอื้ออึงของผู้ชม วิชวลด้านหลังขึ้นเป็นตัวหนังสือว่า ‘SUPERORGANISM’ เต็มจอและเริ่มเล่นเพลง Sprorgnsm แค่เพลงแรกก็ใส่พลังความสนุกกันแล้ว ต่อด้วย Night Time ที่น้องโอโรโนะบอกให้คนดูโบกมือตาม ซึ่งทุกคนก็ให้ความร่วมมืออย่างดี ชูมือขึ้นมาอย่างพร้อมเพรียง
ตอนนี้น้องก็ทักทายแฟนเพลง ‘เป็นไงกันบ้าง นี่เป็นครั้งแรกที่เราได้มาเล่นที่นี่ ขอบคุณทุกคนที่มาดูนะ’ ตามด้วยเสียงเรียกเข้า iPhone ตอนต้นเพลงของ It’s All Good จากนั้นก็เป็นเพลงสบาย ๆ อย่าง Nai’s March กับชวลที่ได้ลูกเล่นของวิดิโอเกมเข้ามาอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ทั้งเสียง chiptune 8 Bit เวลาเรากดเกมบอยหรือ Famicom การที่เกมบอกให้ press start, level up หรือ game over ซึ่งสำหรับเราแล้วเป็นอะไรที่น่ารักมาก ๆ ต่อด้วย Nobody Cares ที่คอรัสสองคนเริ่มวิ่งไปวิ่งมาหน้าหลังสลับกัน ดูไฮเปอร์มาก ๆ ผ่านไปหลายเพลงแล้วโชว์ยังสนุกขึ้นเรื่อย ๆ แรงไม่มีตก แล้วน้องโอโรโนะก็ยังคงความกวน หน้าเด๊ด ได้แบบเสมอต้นเสมอปลายเช่นกัน จากนั้นก็เป็นเพลงที่ดูจะเป็นอินดี้ร็อกที่สุดของวงอย่าง Reflections on the Screen แต่ในท่อนฮุกก็ดึงกลับมาเป็นอิเล็กโทรป๊อปกลองฟุ้ง ๆ นุ่ม ๆ
จบเพลงนี้ทุกคนก็ลงไปก้มงอตัวนิ่ง ๆ เหมือนตุ๊กตาที่ไม่ถูกชักใย ก่อนที่บนเวทีจะถูกฉาบไปด้วยสีฟ้าเหมือนพาเราดำลงไปใต้ท้องทะเล โอโรโนะบอกว่านี่คือหนึ่งในเพลงที่วงชอบ นั่นคือ The Prawn Song เบสหนัก ๆ ในเพลงนี้ทำเอาเราหยุดโยกไปพร้อมกับพวกเขาไม่ได้ และเพลงต่อไปน้องก็บอกให้ทุกคนเตรียมย่อตัวตามคอรัส แล้วโดดต่อกันจนจบเพลงใน Relax จนเวลาล่วงเลยมาถึงเพลงสุดท้าย (น้องบอกงี้แต่ไม่ได้สิ ยังเหลือที่ยังไม่ได้เล่นอีกเพลงด้วย!) ตอนนี้ทุกคนก็พร้อมใจกันร้อง Everybody Wants to be Famous พร้อมกับวิชวลสีสดละลานตา ไฟพุ่งพล่านกับคนที่กระโดดโลดเต้นกันแบบไม่เคอะเขิน เมื่อจบจากเพลงนี้พวกเขาก็ลงเวทีไป ส่วนเราก็รู้หน้าที่ว่าจะต้องร้องเรียกให้วงกลับขึ้นมา ใช้เวลาเพียงไม่นาน น้องโอโรโนะก็คาบขวดน้ำมาเลย พร้อมกับเพื่อน ๆ ที่กลับมาประจำที่ และเล่นอีกเพลงดังที่หลายคนรู้จักจากเกม FIFA 18 นั่นคือ Something For Your M.I.N.D. แล้วจบโชว์ไปด้วยการเปิดเพลง Isn’t She Lovely ของ Stevie Wonder พร้อมกับแชะรูปแฟนเพลงและบอกลากันไปในค่ำคืนนี้
ภาพที่เราเห็นในตอนท้ายคือคนดูบางกลุ่มยังอยู่เต้นกับเพลงต่ออย่างสนุกสนาน และทุกคนรู้สึกว่าโชว์จบไวมากทั้งที่ Superorganism ก็เล่นทั้ง 10 เพลงในอัลบั้ม แต่ก็อย่างว่าแหละนะ อะไรที่สนุกมาก ๆ ก็จะทำให้เราลืมเวลาไปได้เลยแหละ แล้วก็ด้วยความที่เราไม่ได้คาดหวังว่ามันจะสนุกขนาดนี้ (แต่ได้ยินมาจากหลายคนที่เคยดูมาแล้วว่าวงเล่นดีจริง) ก็ทำให้กลับบ้านไปแบบอิ่มอกอิ่มใจ เป็นการเริ่มต้นปี 2019 ที่ดี จบจากงานนี้หลาย ๆ คนก็ไปต่อกันที่ NOMA ฟัง world music จากคุณโอลิวิเยร์จากวง อภิชาติ ปากหวาน กันต่อเพราะได้โควตามีบัตร Superorganism ก็เข้างานนี้ฟรี ๆ ไปเลยจ้า