Soul Bar
- Writer: Montipa Virojpan
สมัยสาว ๆ ตอนเข้าวงการนี้ใหม่ ๆ เป็นคนที่ไม่ค่อยไปนั่งฟังเพลงตามบาร์เท่าไหร่ ถ้าจะไปก็ต่อเมื่อร้านนั้น ๆ มีอีเวนท์ที่วงโปรดไปเล่นแล้วก็จะตามไปดูนั่นแหละ ซึ่งวงที่ฟังส่วนใหญ่ก็จะเป็นวงที่มีพื้นฐานเป็นร็อคแทบทั้งสิ้น ต่อมาก็เริ่มเปิดหูเปิดตาพาตัวเองไปฟังเพลงแนวอื่นบ้างแล้วดันถูกจริต บวกกับการที่โตแล้วจะทำอะไรก็ได้ เลยมีโอกาสได้ออกมานั่งชิวอยู่บ่อย ๆ แล้วแต่ละร้านก็มีอีเวนท์ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดไม่เว้นแต่ละวัน ทำให้ค่อนข้างลำบากใจถ้าจะต้องเลือกไปงานใดงานหนึ่งที่เกิดขึ้นในระยะเวลาไล่เลี่ยกัน ซึ่งเอาจริงว่าจะให้ไปมันหมดทุกงานก็ได้นะ แต่ไม่มีเงินจะกินข้าวแล้วจ้า หมดไปกับค่ารถ ค่าเหล้า (บางร้านนี่เหล้าดันอร่อยด้วยไง ไม่สั่งก็เหมือนมาไม่ถึง ขอร้องไห้แปป) ซึ่งก็เป็นเวรกรรมที่ก่อนหน้าได้ดู The Lowdowns วงดนตรีแนว Funk Groove Soul ที่กลิ่นซาวด์ร็อคเท่ ๆ แล้วติดใจ performance ของวงนี้มาก และรู้มาว่าเขาเล่นประจำอยู่ที่ SoulBar ทุกวันพฤหัส ว่าแต่ SoulBar นี่มันอยู่แถวไหนหว่า พอสืบต่อแล้วก็พบว่าร้านอยู่ใกล้บ้านมากแบบที่เดินไปก็ได้ นี่ถึงกับหน้าสั่น แบบนี้ต้องไปลองพิสูจน์กันแล้วล่ะฮะ
SoulBar บาร์เล็ก ๆ ย่านตลาดน้อย สำหรับคนรักเพลง Soul, Funk และ R&B ซึ่งผู้ที่อยู่เบื้องหลังก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นกลุ่มเพื่อน expats และชาวไทยรวม 6 ชีวิต ที่ส่วนหนึ่งก็เป็นกลุ่มผู้บริหารบาร์และแกเลอรีย่านเจริญกรุงทั้ง Soy Sauce Factory, Cho Why, และ Saddle and Bun โดย SoulBar ตั้งอยู่ริมถนนเจริญกรุง ตรงข้ามซอยเจริญกรุง 24 ถ้ามาจาก MRT สถานีหัวลำโพงก็ให้ต่อแท็กซี่มาทางถนนมหาพฤฒาราม แล้วเลี้ยวขวาไปทางถนนเจริญกรุง ร้านจะอยู่ทางขวามือ ถ้ายังไม่เจอให้เหลือบมองไปยังตัวอาคาร จะสังเกตเห็นงานกราฟฟิตี้เป็นภาพนักร้องผิวสียุค 70’s กำลังร่ายมนต์เพลงโซลใส่ไมโคโฟนที่มีลายกราฟฟิกแบบเรโทรสุดเท่
ด้านในร้านให้ความรู้สึกเหมือนกล่องสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ สีดำ บริเวณของคนดูกับนักดนตรีจัดว่าค่อนข้างใกล้ชิดกัน แบบที่ผู้เล่นและผู้ฟังจะส่งพลังถึงกันได้อย่างเต็มที่ มีโต๊ะเล็ก ๆ ตั้งอยู่เนืองแน่น โดยที่นั่งพวกนี้แหละที่จัดว่าเป็นกิมมิคของร้าน เพราะเขาใช้อะไหล่จากเครื่องยนต์ ทั้งฟันเฟือง ล้อแม็กรุ่นเก่ามาทำเป็นเก้าอี้ stool แม้จะนั่งไม่ค่อยสบายแต่ก็ได้ความเก๋ไม่เหมือนใครพอตัว (เราแอบคิดว่าจริง ๆ แล้วที่ร้านไม่แนะนำให้ลูกค้านั่งเพราะเพลงที่เล่นมันส์มากจนนั่งไม่ติดเก้าอี้) เมื่อก่อนใครที่หิว ๆ มาอาจจะต้องผิดหวังเพราะที่นี่ไม่มีบริการอาหาร แต่มีของขบเคี้ยวที่ดีงามมากอย่างกล้วยทอดเกลือซึ่งมีบริการฟรีตลอดหากท่านสั่งเครื่องดื่มกับทางร้าน กินเพลินมากจริง ๆ ถึงกับขอเติมรัว ๆ แต่ตอนนี้สามารถสั่งเบอเกอร์สูตรเด็ดและสแน็คจากร้านเพื่อนบ้านอย่าง Saddle and Bun ที่อยู่เจริญกรุงซอย 26 มาได้แล้วนะ เดี๋ยวเขาจะมาส่งถึงที่เลย และที่ไม่อยากให้พลาดเลยคือค็อกเทลของที่นี่โดดเด่นด้วยการใช้เบียร์ มิกซ์กับ Kombucha หรือชาหมักเพื่อสุขภาพหลากหลายรสชาติจาก Pure Luck ในราคา 180 บาท สำหรับใครที่ยังอยากเพลย์เซฟก็มีเบียร์จากค่ายต่างๆ ที่คุ้นเคยกันดี เริ่มต้นที่ 100 บาท พร้อมทั้งเมนูคลาสสิคค็อกเทล ราคาเริ่มต้นที่ 180 บาท ใครเป็นสายคลีนโนแอลก็มีม็อกเทลกับคมบุฉะ เริ่มต้นที่ 120 บาท เขาบอกว่ามี Happy Hours ทุกวัน ตั้งแต่ 6 โมงเย็นถึงสองทุ่ม โดยเบียร์สดสิงห์จะอยู่ที่แก้วละ 60 บาท ส่วนค็อกเทลจะอยู่ที่แก้วละ 140 บาท
ตารางโชว์ของร้านเพิ่งมีการปรับเปลี่ยน โดยวันอังคารจะเป็นเพลง Acoustic Soul จากวง Supergoods, วันพุธเป็นเพลง Funk จาก MotherFunky, วันพฤหัสเป็นงาน Jazz, Funk, Neo Soul จาก Bank and the NGR Group ที่มีสมาชิกอย่าง แบงค์ The Voice และวันศุกร์ก็เป็น Supergoods ในเวอร์ชันที่ดีดดิ้นกว่าด้วยเพลง Classic Soul, R&B และ Funk ซึ่งเราขอบอกเลยว่า วงนี้เล่นมันส์จริง พิสูจน์มาแล้วทั้งวันอังคารและวันศุกร์ ส่วน The Lowdowns ย้ายมาเล่นประจำวันเสาร์แทน แต่ตอนนี้ตารางมีการสับเปลี่ยนแบบ flexible มาก ๆ ยังไงก็ลองเช็คกันอีกทีนะ
Open
เปิดบริการวันอังคาร-เสาร์ 18.00 – 00.00 น
Tel
083-092-2266
facebook.com/livesoulbarbangkok