หลังจากที่ Soft Pine ปล่อยเพลง เผลอนอนต่อ ออกมา วงการดนตรีไทยได้เริ่มทำความรู้จักกับเพลงป๊อปที่ทั้งพาร์ตดนตรีและเนื้อหาแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร (ใครจะไปเขียนเพลงเล่าเรื่องที่ตัวเองเผลอนอนต่อกันล่ะ) จากนั้นพวกเขาก็ส่งเพลงอื่น ๆ ตามมาจนไป ๆ มา ๆ อัลบั้ม Major 13th, Love, Snake Plant ก็ครบสมบูรณ์ และพวกเขาก็เพิ่งจัดงานเปิดอัลบั้มไปเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา พร้อมด้วยวงอัลเทอร์เนทิฟร็อก Kunst ในฐานะแขกรับเชิญ มีป่าน Folk9 กับ ตวน Cloud Behind มาเปิดเพลงอุ่นเครื่องในช่วงเริ่มงาน และ DJ Takky ที่เตรียมปิดท้ายกับ after party สุดมัน

เวทีของ De Commune สถานที่ที่เราคุ้นเคย ถูกเนรมิตให้กลายเป็นห้องนั่งเล่นที่มีโคมไฟ เก้าอี้ และมีต้นไม้ในห้องที่ถูกนำมาตกแต่งได้อย่างน่ารักและเข้ากับชื่ออัลบั้ม (snake plant คือ ต้นลิ้นมังกร หรือก็คือ indoor plant ซึ่งเป็นเพลงหนึ่งในอัลบั้มที่แต่งเกี่ยวกับการปลูกต้นไม้ในห้องนั่นเอง) ตอนเวลาสองทุ่ม ป่าน กับ ตวน ก็เริ่มเปิดเพลงจากเพลย์ลิสต์ที่คัดสรรมาแล้ว ใครสาย Yellow Magic Orchestra, Ariel Pink หรือ Teenage Fanclub ก็คงยิ้มแฉ่งกันเลยแหละ

จากนั้นเวลาสามทุ่มตรง Kunst ก็มาประจำที่บนเวที ถ้าใครที่ติดตามวงนี้จะพบว่าพวกเขาเพิ่งปล่อยออกมาได้แค่สามเพลง และแต่ละเพลงก็มีความเป็นป๊อปร็อก ดรีมป๊อป สดใส ฟังสบาย แต่ในงานนี้พวกเขาได้เล่นเพลงอื่น ๆ ที่ไม่ได้ปล่อย และแม้แต่เพลงที่เคยได้ฟังกันก็มีสีสันของดนตรีแตกต่างออกไป เปิดมาด้วยเพลงใหม่ Sway เป็นป๊อปร็อกในจังหวะสบาย ๆ ต่อด้วย Hold On ในเวอร์ชันที่ร็อกขึ้น และไม่มีเสียงกีตาร์ตื๊อดือดื๊อดึดที่เป็นท่อนจำของเพลงแล้ว แต่ก็ทดแทนมาด้วยท่อนพรีฮุกที่ดึงจังหวะเป็นแจ๊สเบา ๆ แล้วก็เป็นเพลงช้าซึม ๆ อย่าง Sorry ตามด้วยอีกเพลงอัลเทอร์เนทิฟจังหวะสนุก Summary ที่ก่อนจะเข้าท่อนฮุก พวกเขาก็พูดว่า ‘ขอเสียงคนโดนเทหน่อยยยยย’

จากนั้นก็ชวนคุยเรื่องที่ว่านักร้องนำไปนวดจัดกระดูกมา และขายของสัพเพเหระของ Soft Pine และเพื่อนศิลปินวงอื่น ๆ มีการเอาเพลง Unemployment ของ Dogwhine มาเล่นแซวในโชว์ด้วย ในระหว่างที่มือกีตาร์กำลังตั้งสาย พอทุกคนพร้อมแล้ว มือกลองก็ขึ้นจังหวะเร็ว ๆ ขึ้นมาในเพลงบรรเลง Get Ready ที่เดือดดาลเป็นตัวส่งเข้าเพลงดุ ๆ Runaway ที่ในช่วงท้ายนักร้องที่ร้องด้วยโทนเสียงหวานใสมาตลอดก็แผดเสียงแตกอารมณ์เกรี้ยวกราด ตามมาติด ๆ กับเพลงมัน ๆ Road Rage ที่มีเวิร์สเป็น spoken words แอบพังก์นิด ๆ ก่อนจะปิดท้ายกันไปด้วยเพลงโปรดของหลาย ๆ คน Test Drive ที่เล่นในเทมโปที่เร็วขึ้น ได้ข่าวว่ามือกลองถึงกับได้เลือดกันไปเลยทีเดียว

ในระหว่างที่รอให้ Soft Pine มาสแตนบาย เราก็มาเดินเล่นที่ด้านหน้างาน ทาง Tomato Love Records ก็มีกิจกรรมที่น่ารักมาก ๆ โดยน็อต Lab 5 Soundwork ได้ตั้งบูธที่ให้ทุกคนได้อิมโพรไวส์เนื้อร้องอะไรก็ได้ให้กับเพลงบรรเลงในอัลบั้มของ Soft Pine ที่ชื่อ MSE ซึ่งเราก็ไปลองเล่นมาด้วย

ได้เวลาสี่ทุ่ม ทุกคนตบเท้าเข้ามารอดู Soft Pine ที่เริ่มเล่นเพลง Greeting ซึ่งเป็นแทร็ค prelude เข้าอัลบั้ม ตามด้วย เผลอนอนต่อ ที่ทุกคนสามารถร้องตามกันได้อย่างคล่องแคล่ว แล้วก็ต่อกันกับ Morning ที่เล่นให้กระชับขึ้นกว่าในอัลบั้ม ตอนนี้ทุกคนกำลังสนุกกันได้ที่ ไวกิ้ง มือกีตาร์/ ซินธ์ บอกว่า ‘เพลงต่อไปใครร้องได้ก็ช่วยกันร้องนะครับ’ ซึ่งเพลงนั้นคือ MSE แต่มันเป็นเพลงบรรเลง! กวนจริง ๆ แล้วคนดูก็ให้ความร่วมมือด้วยการร้องฮัมไปกับเพลง นี่สิแฟนตัวจริง ฮา ต่อด้วยเพลง Only You Know ที่น่าจะเป็นเพลงจังหวะเร็วที่สุดในอัลบั้มและมีสีสันแตกต่างออกไปที่สุด การร้องรับส่ง ‘Work sucks. I know.’ ‘You know. I know.’ เป็นอะไรที่บิลด์ให้คนดูร้องตามได้ไม่ยากนัก แล้วจึงเป็นเพลง interlude As I Lay At Some Rest และเพลง Keep It In Mind ซึ่งเป็นเพลงที่ถ่ายทอดถึงวงที่เป็นแรงบันดาลใจสาย slacker rock ของพวกเขาได้เป็นอย่างดี ต่อด้วยเพลง New Song ที่มีทำนองติดหู ตื่อดือดื๊อดึด กับช่วงท้ายเพลงที่เป็น instumental เท่ ๆ จังหวะเร้า ๆ ดึงยาวจนจบ

แล้ว เอ๊กซ์ ฟรอนต์แมน ก็เรียกให้นักร้องนำ Kunst ขึ้นมาแจมกันในเพลง Come On Lets Go ของวง Broadcast ซึ่งเป็นบาโร้กป๊อปน่ารัก ๆ ทำให้นึกถึงหนังแบบ God Helps the Girl อยู่เหมือนกัน แล้วก็เป็นเพลง Smile Aesthetic ที่เป็น interlude ย้วย ๆ อีกเพลงนึง ส่งเข้าเพลงที่ริฟฟ์กีตาร์ชวนนึกถึงจังหวะเอื่อย ๆ ของรถจักรใน La Couronne เป็นเพลงที่เมโลดี้น่ารักเหลือเกิน ตามด้วยซิงเกิ้ลล่าสุดที่เพิ่งปล่อยไป You’ll Be Fine แล้วก็เป็นเพลง Lido ต่อด้วยอีกเพลงที่เราชอบ Spinach Coffee ที่ได้ อาร์ม Supergoods ขึ้นมาร่วมเคาะเพอร์คัชชัน ระหว่างนั้นก็มีคนโปรยกลีบกุหลาบขึ้นไปด้วย

และในเพลงต่อไป เราก็ได้ยินเสียงโฆษกผู้หญิงที่คุ้นเคย ‘Welcome to the indoor garden’ จากเพลง Indoor Plant ที่มีเซอร์ไพรส์เป็น โอม วง Yells ใส่ชุดต้นสนแบบไวกิ้งในมิวสิกวิดิโอขึ้นมาร้องคอรัส และอาร์มก็เปลี่ยนไปตีไทรแองเกิ้ล พอจบเพลง ก็มีทีมงานเข้ามาเซอร์ไพรส์วันเกิดเอ๊กซ์ และคนดูทุกคนก็ร่วมร้องอย่างสนุกสนาน

ก่อนจะจบกันไปกับอีกหนึ่งเซอร์ไพรส์สำหรับคนดูที่ เมี่ยง มือเบสคนเก่าที่ออกไป และเธอก็เป็นคนทำ lighting ให้กับโชว์นี้กลับขึ้นมาเล่นเพลง เผลอนอนต่อ reprise แล้วเบนซ์ก็ไปจิ้มซินธ์แทน

เมื่อช่วงของ live bands สิ้นสุดลง DJ Takky ก็มาประจำที่พร้อมกับเสิร์ฟเพลงเทคเฮาส์ เทคโน ให้เต้นกันต่อยาว ๆ เป็น after party ส่งท้ายเรียกว่างานวันนี้จัดให้ครบทุกแนวดนตรีจริง ๆ

ขอแสดงความยินดีกับวง Soft Pine อีกครั้งกับงานเปิดอัลบั้ม Major 13th, Love, Snake Plant เป็นงานที่น่ารัก อบอุ่น และกลมกล่อมมากจริง ๆ ใครที่รอแผ่นอยู่ก็เตรียมจับจองกันได้เร็ว ๆ นี้ ส่วนคนที่รอไม่ไหวก็เข้าไปฟังบิลด์กันก่อนใน Spotify ได้แล้วนะ

• Twitter
• Line