Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

Slugging Percentage พบกับ 4 วงสุดเดือด Hariguem Zaboy, Faustus, Dogwhine และ Yoga From Hell

  • Story and photos by Montipa Virojpan

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ชาว 75th Curveball กลับมาอีกครั้งกับโชว์สุดมันที่ได้ 4 วงดนตรีพลังงานพุ่งพล่าน หลากหลายแนว มารวมตัวกันในงาน Slugging Percentage และต้องบอกว่านี่เป็นอีกหนึ่งคืนที่ De Commune จะลุกเป็นไฟ!

Slugging Percentage

เสียงกีตาร์กราดเกรี้ยวของวงดนตรีวงแรก ดังไกลมาตั้งแต่ที่เราเดินถึงแค่หน้าบันไดเลื่อนของตึกลิเบอร์ตี้ เสียงค่อย คมชัดขึ้นเมื่อเราเดินมาใกล้ฮอล และทันทีที่เปิดประตูเข้าไปก็พบกับคลื่นเสียงปะทะเราอย่างรุนแรง มือกีตาร์สาวลงไปนั่งขยี้ก้อนเอฟเฟกต์อย่างเมามันราวกับว่านี่จะเป็นเพลงสุดท้ายของพวกเขา แต่ช้าก่อน เมื่อเราเห็นเธอลุกขึ้นมาพร้อมกับได้ยินเสียงตบมือหลังจบโชว์ ก็พบว่านั่นคือนักร้องนำของวง Androgenius ที่มีวงดนตรีอีกวงซึ่งกำลังเล่นอยู่ในค่ำคืนนี้นั่นคือ Yoga From Hell จาก Cocoon Records ซึ่งเพลงที่จบไปเป็นเพลงที่เรายังไม่เคยฟังมาก่อน แต่ก็มีความคุ้มคลั่งอยู่มากทีเดียว จากนั้นฟรอนต์แมนของวงก็บอกว่านี่เป็นเพลงสุดท้ายของพวกเขาแล้ว ต้องสารภาพว่ามาถึงช้าเพราะมัวแต่ไปหาข้าวกินอยู่ ซึ่งเพลงนี้ก็คือ รกโลก ซิงเกิ้ลสุดเกรี้ยวกราที่ปล่อยมาให้เราได้ทำความรู้จักกับพวกเขา บอกเลยว่าเท่มากกับซาวด์แหลม แล้วก็นักร้องที่ตะโกนแบบโกรธโลกสมชื่อเพลง ส่วนเพลงสุดท้ายที่เริ่มเล่นหลังจากมีเสียงอังกอร์ เป็นอัลเทอร์เนทิฟร็อกที่ต่างจากสองเพลงก่อนหน้า ฟังแล้วมีความแปร่ง ไม่คุ้นหูอยู่ เป็นเพลงช้าที่ฟัซหนักหน่วง

Slugging Percentage

จนเวลาเกือบสี่ทุ่ม ชาวแก๊ง Dogwhine น้องใหม่แห่ง Tomato Love Records หลังจากจบงานเปิด EP ไปก็มาลุยกันต่อเลย มีการอะเรนจ์เพลงใหม่อะไรกันด้วย เปิดมากับ Apologize for Monument ที่เพิ่มท่อนเข้ามาและชูบทบาทของเบสให้เด่นขึ้น แล้วเพลงก็เดือดขึ้นมาก ตามด้วย Symphony Song และ Unemployment ที่เพิ่มท่อนอินโทร กับการให้กีตาร์และแซ็กโซโฟนผลัดกันเล่นนำขึ้นมาก่อน ท่อนโซโล่ก็เปลี่ยนไลน์แซ็กไปประมาณนึง ก่อนจะเล่น Masquerade Ball ที่มีความแจ๊สจัดจ้านขึ้น กีตาร์เสียงแตกชนิดกดสุดและมีท่อนดรอปเป็นดนตรีเฮาส์เบสหนัก เบสดรัมหน่วง แบบในคลับ แล้วพวกเขาก็เล่นเพลงใหม่ถึงสองเพลงด้วยกัน เพลงนึงก็กลิ่นแจ๊สรุนแรง มีเล่นไล่สเกล C D E F G F E D C ไหนจะมีความย้วย หลอน ปนเซ็กซี่ และเป็นการรวมเอาหลาย ท่อนที่เล่นไม่เหมือนกันเลยมาไว้ในเพลง ประหลาดแต่เท่มาก ส่วนอีกเพลงขึ้นกลองมาอย่างรัว เร้า และหนักหน่วง เป็นกรันจ์ที่ผสมเอาความ Red Hot Chili Peppers เข้ามาด้วย บางช่วงของเพลงมีความเป็นเพลงประกอบหนังสืบสวนสมัยก่อน บวกกับแจ๊สที่เล่นจังหวะเร้า เป็นโซโล่ช่วงท้ายเพลง เท่มาก แล้วกลับไปเล่นเพลงที่พอจะเป็นที่รู้จักหน่อย คือ Democrazy และ Dog of God ซึ่งมีคนมอชกัน แล้วก็ปีนขึ้นไปบนเวทีแล้วกระโดดลงมาด้วย

จากนั้นก็เป็นคิวของ Faustus ที่ได้สมาชิกจาก aire และ Jelly Rocket มาทำเพลง instrumental rock พลังล้น และน่าติดตามสุด งานนี้เป็นครั้งแรกที่เราได้ดูพวกเขาแบบสด ก็ต้องตราตรึงกับซาวด์ดุดันจากเครื่องดนตรีแค่สามชิ้น เริ่มกันที่อินโทรเมโลดิกกีตาร์สวย กับเบสและกลองหนักแน่น เท่าที่สังเกตคือดนตรีมีความเล่าเรื่อง มีไดนามิกขึ้นลงใน pace ต่าง จากนั้นก็เล่น Cenerentola ซึ่งเพลงนี้กลองหนักมาห สัดส่วนของเพลงคือเต้นตามแทบไม่ได้เลย ไลน์กีตาร์ของโมคือไล่สเกลได้เท่สุด จากนั้นก็เป็นเพลง Wipe! Wipe! Wipe! บางพาร์ตทำให้นึกถึงวง Battles เลย เอาคนดูอยู่หมัดจริง แล้วก็ต่อกันที่เพลง So Collapse กับเบสที่หน่วงหนัก และกลองสุดเร้า กีตาร์สเลอแต้แหน่ว ๆๆๆๆๆ ติดหู กับพาร์ตกลองท้ายเพลงที่เท่เหลือเกิน แต่ก็ถูกกีตาร์โซโล่แย่งซีนไปในตอนหลัง แล้วก็ได้เวลาของเพลงเพราะ สุดชิล Merry-Go-Round เพลงฟังสบาย มีเสียงคล้ายแทมบูรีนเคาะเป็นจังหวะแบบวอลซ์ กีตาร์เมโลดี้เหงาจนเกือบลืมว่านี่คือเพลงของ Faustus จากนั้นก็เป็นเพลงที่เบสแน่น กับกลองตีนิ่ง กีตาร์มาแต่น้อยให้ความรู้สึกเหมือนไซคีเดลิกร็อก แต่จู่ ช่วงหลังก็พังก์หนัก ต่อที่ฮาร์ดคอร์ สปีดเมทัล ดุเดือดเลือดพล่านเต้นกันตาเหลือก ก่อนจะเป็น doom metal ใน Enoch และปิดท้ายกันไปที่ซาวด์สาด ทู่ กลองเดือด มีไลน์กีตาร์สุดกวนที่เล่นล้อไปกับเบสใน Connection อร่อยหูและได้เหงื่อมากจริง โชว์นี้

แล้วเวลาก็เดินทางมาถึงโชว์จากวงสุดท้าย (ประมาณ 11.45) Hariguem Zaboy มาพร้อมเพลงใหม่ทั้งเซ็ตจากอัลบั้มชุดใหม่ที่พวกเขากำลังขะมักเขม้นอัดกันอยู่ตอนนี้ (น่าจะได้ฟังต้นปีหน้าแล้วแหละ) เปิดมาด้วย Completely Own the Buck Tonight กีตาร์สุดพุ่ง ฟรอนต์แมนเริ่มตะโกนไปกับซาวด์ดนตรีแตกพร่า ได้อารมณ์ Fugazi ผสม Sonic Youth ผสม The Cribs มีความเดือดดาลแบบไม่บันยะบันยัง ต่อด้วย No Services มี spokenwords ประหนึ่งเพลง airbnb ของ Kim Gordon บ้า ลั่น ดุ นอยซ์หน่วงหนัก แต่แฝงด้วยความอ่อนยของซินธิไซเซอร์เมโลดี้สวย จากนั้นจ้าก็ไปเปลี่ยนกีตาร์ ขึ้นมาในเพลงหนัก บีตหนึบ Pier No.41 มีความ dreamy แบบ late 80s ต่อด้วย Mind Trigger กับซาวด์ทู่ เล่นวน แบบช่วงปลาย 80s ต้น 90s มีความเป็น underground จังหวะกลาง เมโลดี้ในท่อนบริดจ์งดงามมาก ก่อนจะเป็น T.N.T.B Hurts ที่จัดพังก์วาด เร็ว ให้ ความสนุกคือไฟที่เล่นล้อไปกับเพลงก็สวยดูเพลิน แล้วเล่น Live Wires พร้อมกับหยิบขวดเบียร์มาเคาะกัน ทำนองให้อารมณ์แบบ The Cure อยู่หน่อย ต่อด้วย South-pole ที่กลองดุ่ม ขึ้นมาก่อน ตามด้วยกีตาร์สุดเพี้ยนและบริดจ์ซาวด์แตกชวนหูพร่า ช่วงหลังก็มีซาวด์กีตาร์สุดคว้างแบบวงดรีมป๊อปยุคนั้น แล้วก็ได้เวลาของเพลงเพราะ ลอย ใน My Teenage Letter กับกีตาร์เอฟเฟกต์เคว้ง ที่ทำเอาเคลิ้มไปแบบไม่รู้ตัว แล้วกระชากอารมณ์ด้วยท่อนนอยซ์สุดป่วยในตอนหลัง ตามด้วย Family Gas Station กับความดุหูดับ ทั้งหวด ทั้งตะโกน แถมไฟยังเขียวปั๊ด กะเอาคนดูตายหน้าตู้ลำโพง แล้วก็ได้เวลาของเพลงที่พวกเขาปล่อยไป She Loves Her (Expenzive Hairstyle) และ Christine Thompson อันสุดเร้า ทำเอาหัวใจจะวาย เดือดไปไหนว้อย เท่มาก

เอาล่ะ ใครติดใจความมันจากงาน Slugging Percentage ต้องขอบอกว่าให้ติดตาม 75th Curveball ไว้ให้ดี ๆ เพราะกี่ครั้ง ๆ แก๊งนี้เขา curate วงมาเล่นโชว์ด้วยกันได้น่าสนใจจริง ๆ  

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้