Selina & Sirinya รวมสหายสายโฟล์กมาสานฝัน สร้างบรรยากาศค่ำคืนแห่งความทรงจำ
- Writer: Tanaphat Kultavewut
- Visual Designer: Karin Lertchaiprasert
- Photo: Tanaphat Kultavewut , labyrinth_rec
24 มกราคม
ราวหนึ่งทุ่มเศษ ๆ กับบรรยากาศหน้าโรงภาพยนต์สกาล่า เหล่าแฟน ๆ ของ Selina & Sirinya เริ่มตบเท้าเข้ามาเพื่อรอฟังวงรักของพวกเขาที่วันนี้พา เขียนไขและวานิช, เดือน จงมั่นคง, YAAN และ เบิร์ด — สหายแห่งสายลม มาด้วย ภาพแรกที่ปะทะเข้าสายตาเราคือเครื่องดนตรีเซตใหญ่ตั้งอาบไฟส้มเหลือบแดง อุ่น ๆ ก่อนเริ่มงาน คนทยอยกันเข้ามาเรื่อย ๆ พร้อมกับจอขนาดใหญ่ที่ประดับชื่องานเอาไว้ HAVE YOU HEARD? Folk Series Vol. 2—Selina & Sirinya
ผู้คนสายโฟล์กคุ้นหน้าคุ้นตาอย่างวง YENA ก็มาร่วมยินดีในความทรงจำนี้ให้ดูโอ้สายโฟล์กระดับหัวแถวอย่าง ราม — เอกศักดิ์ ชานาง และ เอ๊ะ — นที ศรีดอกไม้ ที่เป็นต้นแบบของศิลปินโฟล์กมากมายในปัจจุบัน
ราวสองทุ่ม โจ้ เขียนไขและวานิช ก็ปรากฎตัวบนเวทีพร้อมกับ โอ๊ต อิศญา และสมาชิกคู่ชีวิตเส้นทางดนตรีอย่าง เรย์ สุขเสมอ ไฟในฮอลมืดลงพร้อมกับชื่อเขียนไขและวานิชที่เคลื่อนย้ายมาอยู่บนจอ จุดเริ่มต้นของบรรยากาศสุดพิเศษในคืนนี้เริ่มขึ้นแล้ว
เสียงคนดูปรบมือต้อนรับสามสหายสายโฟล์กอย่างพร้อมเพรียง เปิดเพลงแรกกับ ตามกาลเวลา สะกดคนดูได้อยู่หมัดตั้งแต่เปิดฉาก กีตาร์สามตัวที่มาแต่งกลิ่นให้เสียงร้องประสานทั้งสามไลน์อย่างลงตัว โจ้ยังเล่าถึงทฤษฎีใบไม้ที่หมุนเวียนเปลี่ยนผ่านเช่นเดียวกับชีวิตคน “ยินดีจั๊ดนัก ที่ได้มาเล่นกับวงต้นแบบ” โจ้อู้เมืองทักทายแฟน ๆ ของเขาหลังจบเพลง
ต่อด้วย ภาพฝันในจักรวาล อีกหนึ่งเพลงฮิตของพวกเขา และที่ค่อนข้างเซอร์ไพรส์เราคือเพลงที่สามในค่ำคืนนี้จาก เขียนไขและวานิช คือ เรื่องราวของกันและกัน ที่ไม่ค่อยได้เห็นพวกเขาหยิบมาเล่นเท่าไหร่นัก “ยังคงเดินทางที่มีแสงนำทางจากหมู่ดาว เสียงเพลงบรรเทาให้คลายเหงาในคืนที่เดียวดาย” เพลงที่สี่ เป็นคิวของโอ๊ตและเรย์ที่หยิบเพลง Goodbye Sun ในนาม Itsya (อิศญา) ขึ้นมาขับกล่อมทุกคน ต่อเนื่องสามเพลงฮิตก้นหีบของพวกเขาอย่าง หนีห่าง, การให้ และ เพลงที่ทุกคนรอคอยอย่าง แก้มน้องนางนั้นแดงกว่าใคร โน้ตสุดท้ายจบลงไปพร้อมเสียงปรบมือชื่นชมจากแฟน ๆ
พักให้หายใจหายคอ 30 นาที
21:00 น.
Selina & Sirinya พร้อมด้วย อาจารย์ย้ง YAAN และสหายดนตรีอย่าง เบิร์ด สหายแห่งสายลม ขึ้นมาสแตนด์บายบนเวทีรอเพียงเวลาร่ายมนต์ให้แฟนเพลงนักฟังของพวกเขาได้อิ่มใจกับในเบรกแรก (แอบแปลกใจที่เซตนักดนตรีบนเวทีไม่เหมือนกับตารางโชว์ที่ทางงานแจ้งไว้ แต่นั่นกลายเป็นความรู้สึกดี ๆ สำหรับเรา รับรู้ได้ถึงการเปลี่ยนแปลงเพื่อเลี้ยงความรู้สึกให้คนฟังค่อย ๆ อินเข้าไปกับโชว์ขึ้นทุกขณะ)
เปิดหัวจั่วเพลงแรกกับ เธอคือพุทธเจ้าของฉัน เอาจริง ๆ คือเพลงที่เรารอฟังมากที่สุดเพลงนึงในคืนนี้ มาพร้อมกับวิชวลแสงอาทิตย์ที่ทะลุผ่านม่านหมอกพาใกล้ชิดธรรมชาติเป็นการเปิดตัวที่น่าจดจำ ต่อด้วย เผลอสุขใจ ที่แค่อินโทรกีตาร์ขึ้นมาแฟน ๆ ก็ปรบมือส่งกำลังใจพร้อมกับวิชวลที่เปลี่ยนไปเป็นลำธาร สายน้ำไหวในบรรยากาศยามอาทิตย์ลับขอบฟ้า ผ่านไปสองเพลง
“สวัสดีครับ พวกเรา Selina & Sirinya นะครับ”
นี่คือประโยคแรกที่พวกเขาทักทายผู้คนในฮอลนี้ สิ้นเสียงของนที คือเสียงปรบมือต้อนรับจากแฟนเพลงที่รอพวกเขามากว่าหนึ่งปี ไม่รอช้าที่จะบรรเลงเพลงต่อไปพร้อมด้วยไวโอลินของย้ง เติมเต็มบรรยากาศความหนาวจากความเหงาให้กับเพลง ความทรงจำในลมหนาว (Cold Remember) ต่อเนื่องกับเพลงจาก EP ใหม่ รอยยิ้ม…คนรัก ถูกหยิบมาเล่าบนเวทีนี้ภายใต้ชื่อ ฝัน กับวิชวลบรรยากาศป่าที่อาบด้วยควันลอยฟุ้ง “เราบอกรักกันในฝัน เราโอบกอดกันในฝัน” เป็นวรรคทองของเพลงนี้
ถึงเวลาของสามเพลงสุดฮิตที่แฟน ๆ Selina & Sirinya ต้องร้องตามกันได้อย่าง Live For, มหัศจรรย์ และ Our บรรยากาศเริ่มเป็นกันเองมากขึ้นจากเสียงร้องของผู้ฟังนับร้อย ก่อนที่ แสงรุ่งสาง อีกหนึ่งเพลงใหม่จาก EP รอยยิ้ม…คนรัก จะถูกบรรเลงขึ้น นที เล่าว่า “เพลงนี้แต่งจากความคิดถึงบ้านสมัยเด็ก ๆ ที่สุพรรณบุรี” อีกหนึ่งเพลงน้ำดีที่เราอยากแนะนำให้ทุกคนลองฟังกันดู
เข้าสู่ 2 เพลงสุดท้ายก่อนเข้าช่วงเบรคอีกครั้งกับอีกหนึ่งเพลงใหม่ คนรัก และเพลงสุดท้ายของช่วงเบรคแรกนี้อย่าง รอยยิ้มและน้ำตา “พบกันเพื่อบอกลา แล้วเราจะกลับมาพบกันอีกครั้ง รอยยิ้ม และ น้ำตา” ปิดเบรกแรกได้สมบูรณ์แบบในพาร์ตอะคูสติก ตามสไตล์ Selina & Sirinya
ถึงช่วงเบรค 15 นาทีตามกำหนดการที่แทบไม่ได้ออกไปไหนเพราะศิลปินรับเชิญที่ปรากฏตัวบนเวทีคือ เดือน จงมั่นคง อีกหนึ่งขุนพลดนตรีโฟล์กคุณภาพ สหายจากรั้วศิลปากรของ นที และยังได้ย้ง มาคอยซัพพอร์ทเสียงไวโอลิน เราแทบจะช็อกไปเลยกับเพลงแรกที่ เดือน หยิบมาเล่นอย่าง ละเมอ เพลงจากวง ศศิ (SASI) (วงดนตรีที่เดือนเป็นนักร้องนำ) สะกดคนดูอยู่หมัดกับเสียงที่มากไปด้วยเอกลักษณ์ของเขาซึ่งเป็นคนแต่งเนื้อเพลงนี้เองด้วย อร่อยหูมากจริง ๆ
“ถ้าไม่มี Selina & Sirinya ก็ไม่มี เดือน จงมั่นคง”
เดือน พูดอย่างเต็มใจ
ต่อเนื่องกับเพลง นี่ (Surreal) เพลงที่พาทุกคนในฮอลดำดิ่งไปด้วยกัน พร้อมกับท่อนพูดเปิดเพลง “นี่อาจคือความหวานที่ไม่ยาวนานสักเท่าไหร่” ทำเราขนลุกไปเลย
22:40 น. กลับมาอีกครั้งกับ Selina & Sirinya x YAAN
YAAN สหายดนตรี 9 ชีวิตขึ้นมาแสตนด์บายพร้อมหยิบ OVERTURE IN ASIA MINOR มาเปิดตัวตามสไตล์พวกเขา เกริ่นนำมาด้วยซาวด์ world music ตามสูตรพร้อมวิชวลสุดเมามาย บรรเลงเรียกเสียงกรี๊ดจากคนฟังไปเต็มอัตรา สิ้นเสียงจาก ญาณ นที และราม ก็ขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งกับบรรยากาศเป็นกันเองที่เบรคนี้จะมีทั้ง Selina & Sirinya, YAAN, เดือน จงมั่นคง และ สหายแห่งสายลม ร่วมร้องบรรเลงไปด้วยกัน
“ข้างบนเป็นท้องฟ้า เบิ่งมองดูชีวา ข้างล่างเป็นพื้นท้องนา ในน้ำมีปูมีปลา” ชีวา เพลงแรกในเบรคสองที่เติมเต็มกลิ่นของเพลงด้วยซาวด์ world music ระดับอาจารย์อย่างวง YAAN ที่มีแคนพาโยก ทำเอาใจเต้นแรงกันทีเดียว เดือน จงมั่นคง มาเพื่อเติมเต็มไลน์คอรัสให้โชว์ออกมาสวยงามกว่าเดิม ไม่รอช้าที่จะขนเพลงฮิตก้นกุฏิของพวกเขามาเอาใจสาวกชาวโฟล์กด้วยเพลง She อีกหนึ่งท่าไม้ตาย “ท้องฟ้ากว้างไกลจะเอายังไงมันไม่ได้หรอกเธอ” ต่อด้วย If เซ็ตลิสต์กล่อมใจคนฟัง “ถ้าหากว่าเธอเป็นตอนเช้า ฉันก็คงตื่นมาพบเธอได้” จังหวะเซอร์ไพรส์ของเพลงนี้คือมีกีตาร์ไฟฟ้าเข้ามา มันสุดยอดจริง ๆ ทะลุเข้าไปในใจคนฟังแน่นอน ลากยาวโซโล่ทุกคนระเบิดความมันกับเครื่องดนตรีในมือตัวเอง (ท้ายเพลงลากโซโล่โชว์กันยาวจนเกือบจะเป็นเพลงร็อก นาน ๆ จะได้ฟังซาวด์แบบนี้จาก Selina & Sirinya สักครั้ง)
จะให้จบแค่นี้ก็ดูจะน้อยไป เสียงเพลงจากป่า ไซต์โปรเจกต์ในนาม Uncle Tree ถูกเล่นขึ้นกับวิชวลสายน้ำที่มีฮาร์โมนิก้ากับพิณมาเติมเต็มสีเขียวให้เพลงนี้ได้ลงตัว ไปต่อกับ Happy Time (จะเอาใจกันเกินไปแล้ววว)
อยู่ตรงนี้แต่แสนไกล ถูกหยิบมาเล่นคล้ายว่าใกล้ถึงเวลาที่ความสุขของค่ำคืนนี้จะถูกจดไว้แต่เพียงความทรงจำ ในเวอร์ชันที่มี ซีตาร์ นี่คือ อยู่ตรงนี้แต่แสนไกล ที่พาเราไปไกลที่สุดที่เคยฟังมาเลยก็ว่าได้
เดินทางมาถึง 2 เพลงสุดท้าย นักดนตรีทุกคนขึ้นมาพร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้งบนเวที (เบรคที่ 2 วง YAAN จะสลับกันเล่นในแต่ละเครื่องดนตรี แต่ละเพลง แต่ 2 เพลงสุดท้ายคือ ครบสูตร!) ดอกไม้ เพลงก่อนสุดท้ายที่ขอบอกเลยว่าเพลงนี้ทำให้เราตกหลุมรักในเสียงประสานของ เดือน จงมั่นคง เข้าเต็ม ๆ เป็นคอรัสที่ดึงเราเข้าไปในเพลงได้จริง ๆ
แต่งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา เพลงสุดท้ายร่ำลากันไปกับ Still Together ที่ก่อนเข้าเพลงแวะแนะนำศิลปินทุกคนช่วงอินโทร วิชวลมาพร้อมดวงจันทร์กับแสงสีดีไซน์มาลงตัวสุด ๆ (สำหรับเรานี่คือไฮไลต์ของโชว์ที่จะเข้าไปนั่งในความทรงจำเราได้อีกนาน) เป็นอีกซีนประทับใจของวันนี้มาก ๆ ทิ้งทวนกับเสียง “โฮ่โฮ้โฮ” ตามทำนองเพลงที่ได้ศิลปินทุกคนร้องด้วยกันทำให้เพลงนี้มีจิตวิญญาณเพิ่มขึ้นไปอีกระดับ
จบไปกับเสียงอังกอร์ “เอาอีก ๆๆๆ” ตามสูตร แต่งานนี้ไม่มีแถมจ้า…
เราขอจดคอนเสิร์ต HAVE YOU HEARD? Folk Series Vol. 2—Selina & Sirinya ให้เป็นคอนเสิร์ตโฟล์กที่ประทับใจมากที่สุดครั้งนึงในลิสต์ของเราไปเลย ออกแบบโชว์กันมาละเอียดและรับรู้ได้ถึงความใส่ใจของทีมงานทุกคนมาก ๆ
สุดท้าย วิชวลคือถูกต้องมากสำหรับคอนเสิร์ตรูปแบบนี้ เล่าเรื่องราวผ่านภาพที่มีองค์ประกอบเคลื่อนไหวบาง ๆ สอดรับกับเนื้อหาเพลง แล้วยังทำให้ความรู้สึกคนฟังโฟกัสกับวงได้เต็มที่คือนิพพาน
ขอบคุณผู้จัด HAVE YOU HEARD? ที่สร้างบรรยากาศให้ซีนดนตรีโฟล์กได้มีความสุข และขอบคุณที่ให้เราได้เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในความทรงจำครั้งนี้ ที่ขาดไม่ได้ขอบคุณรูปภาพดี ๆ จาก labyrinth_rec
อ่านต่อที่นี่: Selina & Sirinya ความฝันที่เป็นจริงกับการเล่นคอนเสิร์ตในโรงหนังเป็นครั้งแรก