Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

มาเรียนภาษาเกาหลี และเต้นไปกับโชว์สุดมันจากอนนี่และอปป้า Se So Neon

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Montipa Virojpan, Anchittha Ochukij, and Chavit Mayot

14 มิถุนายน 2561

จบลงไปแล้วกับอีกงานคอนเสิร์ตเล็ก แต่ทรงพลัง โดยผู้จัดอย่าง Seen Scene Space เขาได้พาวงดนตรีจากเกาหลีใต้นามว่า Se So Neon 새소년 (เซโซนยอน) มาประเดิมโชว์แรกในประเทศไทยเมื่อคืนนี้ แต่ไม่ได้มีแค่วงนี้วงเดียวเพราะยังมีพร้อมกับสองวงเจ้าบ้าน Fwends และ Folk 9 มาร่วมเล่นในงานนี้ด้วย

เอาจริง ตอนรู้ว่าเขาจะพาวงนี้มาก็ได้แต่ร้องว่า ‘ชินจ๊ะ!?’ (진짜 แปลว่า เฮ้ย จริงดิ!) แล้วก็พอรู้ว่าจริงก็ได้แต่ ‘ออมอ ๆๆๆๆๆ’ (어머 คือ วั้ยตั่ยแล้วววว) คือแอบติ่งวงนี้เพราะสุ่มเจอโดยบังเอิญระหว่างฟัง The Black Skirts จากแถบข้าง YouTube อีกแล้วฮะ และเพลงที่ไปเจอก็คือ 파도 (พาโด The Wave) ความที่เราคลั่งเพลงร็อกแอนด์โรล ไซคีเดลิกร็อกเป็นพิเศษก็เลยโดนวงนี้ตกไปในทันที เซอร์ไพรส์ตรงที่เป็นวงเกาหลีสามชิ้น ทำเพลงนีโอไซคีเดเลียเนี่ยแหละ มันไม่ค่อยได้เห็นบ่อย จริง นะ แล้วเสียงร้องกับลุคของ ฮวังโซยุน นักร้องนำ คือเท่มาก ไม่ไหวแหลวววว กับอีกวงที่เราก็ชอบ Silica Gel เพลงชุดแรกปกเขียว นี่สุดมาก (ถ้าจะฟังใน Spotify ให้พิมพ์ว่า 실리카겔) จะมีใครใจดีพามาอีกมั้ยน้าาาาา เอาไว้ก่อนละกัน เข้าเรื่องดีกว่า ย่อหน้าต่อไปนี้คือสิ่งที่เกิดขึ้นที่ Play Yard ลาดพร้าวซอย 8 เมื่อวานนี้ฮะ

เรามาถึงงานเลตเล็กน้อยจากการที่ Grab Taxi รับผู้โดยผิดคน! วุ่นวายกันอยู่พักนึงก็พาตัวเองมาถึงสถานที่ทันตอนที่ Folk 9 เขาเล่นเพลงที่ 3 กันไปแล้ว (สองเพลงแรกคือ Feel Good กับ Morning) นั่นคือเพลง China Town วงเบดรูมป๊อป เซิร์ฟป๊อป ที่สะสมจำนวนแฟนคลับเพิ่มได้เรื่อย จากผลงานเพลงที่ยิ่งปล่อยออกมาก็ยิ่งมีความน่าสนใจ ซึ่งเพลงใหม่ที่เล่นต่อกันก็การันตีสิ่งที่เขียนได้อย่างไม่ผิดเพี้ยน เมโลดี้น่ารัก กีตาร์เท่ แล้วกลองตอนโซโล่ก็เฟี้ยวฟ้าวมาก ชอบ

แต่เหมือนมีช่วงนึงกีตาร์ของ กราฟ นักร้องนำ สายขาด จำไม่ได้เป๊ะ ว่าตอนเพลงไหนก็ได้กีตาร์ของตองวง Fwends มาช่วยชีวิต แล้วก็เป็นเพลง Memory ที่วงเล่นดีขึ้นเยอะมาก ไม่แน่ใจว่ามีการรีอะเรนจ์อะไรหรือเปล่ารู้สึกว่าเท่ขึ้น ตามด้วย ไม่เป็นจริง ที่วันนี้มู้ดของเพลงดูเหงาหงอยสมกับเรื่องราวเป็นพิเศษ ทำไมไม่รู้ ก่อนจะเป็น Lavender เพลงน่ารักที่ปล่อยมาเป็นเพลงล่าสุด เพิ่งเห็นว่าสปอตไลต์ฉาบเวทีให้เป็นสีม่วง แล้วก็เพิ่งมาตั้งใจฟังเพลงนี้อย่างจริงจังว่าเป็นอีกเพลงที่ทำนองน่ารักมาก จนเวลาล่วงเลยมาเป็นเพลงสุดท้ายนั่นคือ ผลดอกไม้ ไลท์ติ้งสีน่ารักอีกแล้ว และในเพลงนี้แฟนเพลงต่างตบมือและช่วยกันร้องเสียงดัง น่าดีใจแทนวงมากฮะ

จากนั้นประมาณสามทุ่มครึ่ง Fwends ก็พร้อมประจำที่ด้วยการที่สมาชิกวงบรรเลงเพลงรอการปรากฏตัวจากเมย์ นักร้องนำ เมื่อทุกคนอยู่กันพร้อมหน้าแล้วก็เริ่มเล่นอินโทรสุดเมามายเพื่อนำเข้าสู่เพลง Petrichor ประทับใจเสียงเอฟเฟกต์แตกพร่าหนักหน่วงตอนต้นเพลงมาก และความสวยงามในท่อนฮุกของเพลงนี้ก็ไม่เคยทำให้เราผิดหวัง ตามด้วย For A While ที่ยังคงเป็นเวอร์ชันอะเรนจ์ใหม่เป็นบัลลาดฟังสบาย ช่วงนี้วงปล่อยมุขตลกกันเรื่อย เลยฮะ อารมณ์ดีมาจากไหนกันนนน ก่อนจะเล่น Summer Love ที่ตอนต้นเพลงมีการขึ้นผิดเกิดขึ้น ปล่อยฮากันไป จริง นี่เป็นอีกเพลงน่ารักของวงที่ซ่อนลูกเล่นความไม่ธรรมดาไว้ในท่อนส่งกีตาร์ กลอง เบส ช่วงท่อนฮุกที่เผลอโยกหัวแรง ไปด้วยโดยไม่รู้ตัว และกลับมาที่เพลงช้าซึม อย่าง Dear Friend ที่เมย์แต่งให้กับเพื่อนสนิทที่เสียชีวิตไปเมื่อหลายปีก่อน

วงได้อัพบีตขึ้นในเพลงต่อไป Fade Away เพลงแรกของ Fwends ที่สมาชิกสมัยก่อตั้งวงได้กลับมาเล่นด้วยกันอีกครั้งหลังจากมีการเปลี่ยนตัวสมาชิกอยู่ช่วงหนึ่ง และต่อด้วยเพลง Why Can’t You See ที่ไม่รู้ทำไมเล่นเท่มาก ๆๆๆๆ ท่อนโซโล่นี่สับกันยับ ก่อนทิ้งท้ายกันด้วย Where Do We Go? ซึ่งก็เป็นอีกโชว์ที่สนุกมากของวง ตอนท้ายโชว์วงก็ได้ถ่ายรูปกับคนดู โดย เอก มือกลอง ไม่ยอมเซลฟี่ ตัวเองก็เลยกลายเป็นคนถ่ายให้เพื่อน ไปโดยปริยาย

เราออกมาพบปะ จิบเบียร์ และดอยหมูกรอบมิตรสหายข้างนอกสักครู่ และทันทีที่ได้ยินจังหวะกลองกับเบสหนัก ของเพลง 구르미 (กุรือมี Gurumi) ดังมาจากด้านใน เราก็รีบพุ่งตัวกลับเข้าไปทันที ตอนนี้มหาชนคนยาร์ดเนืองแน่นมาก จากที่ยืนฟรอนต์โรวได้สบาย ก็ต้องเนรเทศตัวเองไปอยู่หลังสุด หลังแผงคอนโทรลอีกฮะ จุดนี้ผู้ชมหลายคนก็ต้องปีนป่ายโต๊ะเก้าอี้ขึ้นไปหามุมเหมาะ ของตัวเองในการรับชม ส่วนเรานั้น เมื่อไม่เหลือที่ว่างให้ฉันยืนเลยก็ต้องเอาตัวเปี๊ยก ของตัวเองลัดเลาะไปเจอโซนปลอดภัยหน้าห้องน้ำ มีสเปซเต้นและเห็นวงชัดพอควร ก็เนี่ย เพลงเท่มาก โยกกันตั้งแต่เพลงแรกกันเนี่ยแหละครับ

ต่อกันเลยกับเพลงเท่จังหวะกลาง 나는 새롭게 떠오른 외로움을 봐요 (นานึน เซรบเก ตอโอรึน วีโรอุมมึล บวาโย I’m Watching a Loneliness Just Arisen) เพิ่งตั้งใจฟังอีกแล้วว่าไลน์กีตาร์ท่อนที่ร้อง ฮ้า ฮา เท่มากกกก แล้วจึงเป็นเพลง 핑핑댄스 (พิงพิงแดนซ์ Ping Ping Dance) ที่ไม่ได้อยู่ในอัลบั้ม แต่โชว์สกิลสมาชิกแต่ละคนจนรู้ว่าทุกคนฝีมือร้ายกาจมาก กลองเกลิงอะไรกรูฟเท่ไปหมด โอ้ย จากเพลงลีลาเหลือร้ายท่วงทำนองเมามันเต้นกันระเบิดระเบ้อ ก็ดรอปลงมาเป็นอินดี้ป๊อปฟังสบายให้โยกเบา ใน (คิน กุม A Long Dream) ลูกท้ายเพลงนี่เล่นเอาโยกไม่ลืมหูลืมตา พอเล่นจบเพลงก็มีการสนทนากับแฟนเพลงเป็นครั้งคราว ก็มีชาวไทยเราตะโกนทั้ง ซารังเฮ (ฉันรักเธอ) ควียบตะ (น่ารัก) แทบัก (สุดยอด) ไปจนถึง ‘บอนชอน’ กันเลยล่ะฮะ ตล๊ก

แล้ววงก็เล่นเพลงจังหวะน่ารัก ที่ไม่ได้อยู่ในอัลบั้มอีกเหมือนกัน ชื่อ 난춘 (นันชุน Chaotic Spring) แล้ว คังโท มือกลองก็พูดว่า Nice to meet you และ ขอบคุณครับ เป็นภาษาไทย แล้วโซยุนก็หันไปถาม Moon Fancy มือเบสว่าเป็นไงบ้าง เขาบอกไม่ค่อยสบาย ก็มีคนตะโกนขึ้นไปว่า ฮไวทิง! (สู้ น้า) วงก็ยิ้มหัวเราะกันน่ารักมาก แล้วถึงได้เล่นต่อกับเพลง 여름깃 (ยอรึมกิช Summer Plumage) เป็นเพลงนีโอไซค์สว่าง เท่ อีกเพลงที่สมาชิกได้โชว์สกิลในท่อนโซโล่ กรูฟลื่นไหลกับมีจังหวะกระตุก ชวนเต้น แถมเสียงร้องในเพลงนี้คือเพราะมากจริง แล้วต่อด้วย (ดง) อีกเพลงที่ไม่ได้อยู่ในอัลบั้ม

ตอนนี้วงบอกว่าเหลืออีกสองเพลงแล้ว สังเกตว่าวงนี้เขาจะพูดเยอะหน่อย ไม่ใช่อะไร เพราะเพลงน้อย คนดูก็ส่งเสียงเสียดายกันในทันที แล้ววงก็เล่นเพลงที่มีชื่อเดียวกับวง 새소년 (เซโซนยอน New Youth) ที่อารมณ์ของเพลงนี้ก็ชวนให้เรานึกถึง Lover to Lover ของ My Life As Ali Thomas เหมือนกัน และในที่สุด การรัวกลองเป็นท่วงทำนองที่คุ้นเคยก็เกิดขึ้น ตอนนั้นกรี๊ดแตกเลยค้า วงเล่นเพลงที่ทำให้เรารู้จักกับพวกเขา เรียกว่าเป็นเพลงที่ชอบที่สุดของวงเลยก็ได้นั่นคือ 파도 (พาโด The Wave) แบบ โอ๊ย ได้ฟังสด ทำไมทรงพลังอย่างนี้ เบสหนึบมาก กลองก็หวดเอา ส่วนเสียงร้องก็ไม่ต้องพูดถึง ดีงามตามที่หวังไว้เลยค่ะ

จบเพลงนี้ไปแฟนชาวไทยก็ไม่ปล่อยให้วงจากไปง่าย ส่งเสียงอังกอร์กันไม่หยุดหย่อน แต่วงไม่มีเพลงเหลือแล้ว เล่นหมดอัลบั้มแล้ว!!! ซึ่งก็ผิดคาด เพราะวงกลับขึ้นมาแล้วบอกว่าขอบคุณมากและจะกลับมาอีกแน่นอน พร้อมส่งเพลงสุดท้ายเป็นเพลงที่วงคัฟเวอร์งานของ Stevie Ray Vaughan ชื่อ Tightrope เท่มากกกกก ไม่ไหวแล้วววว เป็นร็อกแอนด์โรล บลูส์ร็อกที่ โห เพอร์ฟอร์แมนซ์ขนาดนี้ ร่างทรง Janis Joplin อีกคนเลยเนี่ย อว้อยยยย รักเด้อ จบเพลงนี้แล้วรู้เลยว่าชีวิตของอิฉันต้องการคอนเสิร์ตร็อกแอนด์โรลแบบนี้อีกเยอะ หวังว่าจะกลับมาอีกรอบหน้าแล้วขนเพลงใหม่มาให้ฟังกันอีกนะ

Se So Neon

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้