4 ชั่วโมงเดือด! โยก มอช วิ่งกันยับ กับคอนเสิร์ตใหญ่ในรอบ 10 ปีจาก Retrospect
- Writer: Malaivee Swangpol
ด้วยความเป็นเด็กที่โตมาในวงการเพลงร็อกใต้ดิน ก็เลยคุ้นชินกับวง Retrospect ในหลาย ๆ ยุค ทั้งยุคที่โดนเหยียดตามประสาชาวร็อกเอาแต่ใจว่า ‘ขึ้นมาบนดิน ทรยศสาวก’ ‘เพลงเบาลง’ บลา ๆๆๆ ซึ่งตลอด 17 ปีของวง พวกเขาก็ได้พิสูจน์แล้วว่า พวกเขายังคงเป็นวงเดิม ตั้งใจทำเพลงเหมือนเดิม ‘การกระทำมันสำคัญกว่าคำพูดโว้ย!’ อย่างที่แน็ปพูด นอกจากนี้ พวกเขาก็ยังเล่นสดได้สนุกสุด ๆ โอย สำหรับใครที่ตื่นมาแล้วยังปวดตัวอยู่เลย มาทบทวนกันครับพี่น้องครับ (สารภาพบาปก่อนว่าจำตารางเวลาผิด เลยไปไม่ทันวงเปิด น้องผิดไปแล้ว)
ตอน 19.00 เพลงสรรเสริญพระบารมีก็ดังขึ้น vtr ที่จำลองป่าตอนกลางคืน พร้อมกับเสียงแห่งพงไพร และปิดท้ายด้วยเสียงกระสุนปืน เป็นครั้งแรกในคืนนั้นที่พวกเราได้พบกับเจ้าเสือดำ ผู้ปลุกกระแสรักษ์ธรรมชาติให้ลุกขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งเพลงแรก ๆ ที่วงเล่นก็เป็นเพลงแนวปลุกใจ ซึ่งเปิดมาด้วยเพลงจากอัลบั้ม Unleashed ตั้งแต่เพลงแรก ลุกขึ้นสู้ ทุกคนก็เหมือนเครื่องติด โยกหัวกันยับ บวกกับพลุและไฟ (pyro) บนเวทีสุดอลังการที่ชวนให้นึกถึงโปรดักชันคอนเสิร์ตเมทัลระดับโลกหลาย ๆ งาน ฮือ ฟินแล้ว ตามกันติด ๆ ด้วย ความฝันของเรา ที่ แน็ป ชวนทุกคนให้กระโดดไปด้วยกัน ยังคงเป็นอัลบั้มเดิมกับเพลง ขอ ที่ visual เป็นสีแดงตามท่อน ‘ร้อนในใจ ดุจไฟมันเผากัน’ โอ้ยยย สนุกกก ท่อนเบรกดาวน์ของเพลงนี้เหมาะสมแก่การเซอร์เคิลพิตสุด ๆ ซึ่งก็ได้เกิดวงขนาดย่อม ๆ ขึ้นมา ก่อนจะต่อด้วย คนบนฟ้า ที่ตอนท่อนเวิร์สรอบสอง มีท่อนหยุดหลังคำว่า ‘พอที’ แล้วคนรอบข้างชะงักตามเพลงแบบจำได้ อินเวอร์ ๆ ชอบ แล้วก็เป็น เพราะว่ารัก ที่แน็ป ลงมาหาแฟน ๆ ด้านล่างเวที ก่อนจะปิดท้ายช่วงอัลบั้มแรก (ณ ช่วงนี้) ไปด้วย ให้ฉันลืมเธอ กับ visual รูปหยดน้ำลอยคืนฟ้า
ข้ามไปเป็นอัลบั้ม Rise กันบ้างกับ กลับมา ที่ แน็ป แซวตัวเองกลางเวทีว่าเล่นผิดเพลง ซึ่งเล่นผิดจริงหรือไม่นั้น ไม่รู้เลยจริง ๆ เพราะเนียนมาก ฮือ จบเพลง บอม มือเบสตะโกนคำที่ทุกคนในงาน triggered ทันที คือ RETRORIAN! ทุกคนตอบโดยไม่ต้องคิดว่า YES SIR! เจอช็อตนี้ยิ่งพร้อมลุยต่อเข้าไปอีก ก่อนจะข้ามไปอัลบั้มที่ 3 The Lost Souls พร้อมกับ น็อต มือกีตาร์ที่ไปแปลงร่างมาในเวอร์ชั่น 80s กับผ้าผูกผม พร้อมกีตาร์ flying V มาโซโล่คูล ๆ กันต่อ กับ แค่นี้ไม่ตาย และ ศรัทธาแห่งรัก ที่ทุกคนปรบมือตามจังหวะกลองอย่างพร้อมเพรียง ตามมาด้วย พรุ่งนี้ไม่สำคัญ กับท่อนความหมายดี ๆ ‘ขอเพียงเธอนั้นอยู่ ไม่ว่าพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร มันไม่สำคัญ แค่ฉันมีเธอข้างกาย’ กับ visual รูปทะเลทรายคูล ๆ
แล้วสมาชิกวงก็หายไปหลังเวที ทิ้งให้ทุกคนสงสัยอยู่แปปนึงว่าเกิดอะไรขึ้นน้า ก่อนเสียงจะดังลั่นขึ้น Ladies and gentlemen are you ready? ที่พาเราไปพบกับดีเจ Botcash ที่เปิดตัวด้วย visual การยิงเสือดำพร้อมกับเสียงปืน ปัง! ปัง! ปัง! เขามารีมิกซ์เพลงร็อกจาก Retrospect ให้เป็นเพลงตื๊ดเพลิน ๆ พร้อมกับแสงเลเซอร์สีเขียวจี๊ด ทั้ง เจ็บกว่าคือฉัน แถมยังมีการรีมิกซ์เพลงคุกกี้เสี่ยงทาย ที่บอกว่า ‘เอาใจพี่แน็ปเค้าหน่อย’ ฮา ล้ำกว่านี้ก็เป็นตอนที่เอาเพลงฟ้อนรำไทยมารีมิกซ์ ที่ชาวร็อกอย่างเราเริ่มรู้สึก electronic music overload นิดนึง ฮา แต่ก็แดนซ์กันอย่างสนุกสนาน ก่อนเขาจะเล่าให้ฟังว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้ว เขาไปเกาะรั้วดู Retrospect ที่ The First Concert แล้วหวังว่าซักวันจะมีโอกาสได้เล่นคอนเสิร์ตใหญ่ของวง ซึ่งวันนี้เขาทำสำเร็จแล้ว ฟังแล้วก็แอบขนลุกเหมือนกัน ดีใจแทน แล้วก็ชวนแน็ปกับรันขึ้นมาแจมบนเวทีในเพลง ไม่มีเธอ รวมถึงสร้าง wall of death ขนาดใหญ่ที่บอกว่าสร้างประวัติศาสตร์ทั้งวงการเมทัลและอิเล็กทรอนิก!
แล้วเสียงอินโทรเพลงที่คุ้นเคยก็ค่อย ๆ ดังขึ้น กับ แค่นิยาย ที่จังหวะกลองโคตรเท่ ก่อนแน็ปจะชวนทุกคนให้ ‘ยกเพื่อนขึ้นมา ใครอยากเซิร์ฟยกเพื่อนขึ้นมา! ‘ สนุกมากก ชอบ ๆ ต่อด้วยเพลง ให้โลกรู้ ที่พาพี่ ปู แบล็กเฮด มาร้องให้ฟังสด ๆ ตอนเสียงพี่ปูดังขึ้นมาทุกคนพร้อมใจส่งเสียงตะโกนต้อนรับ ซึ่งก่อนแน็ปจะทิ้งเวทีไว้ให้พี่ปู ก็ดันคุยกับพี่ปูแล้วแทนตัวเองว่า ‘หนู’ ซึ่งขัดกับภาพลักษณ์สุด ๆ น่าร้าก ส่งต่อเวทีให้กับพี่ปู ในเพลง ฉันอยู่ตรงนี้ ที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ต้องร้องได้ กับท่อน ‘หากคำว่ารักมันร้ายกับเธอมากไป บอกมาได้ไหมให้ฉันช่วยซับน้ำตา ส่งใจช้ำ ๆ ของเธอมา ฉันจะรักษามันด้วยรักจริง’
วงกลับมาอีกครั้งกับ เหนื่อยมั้ยหัวใจ ที่แน็ปบอกว่า ‘ตอนนั้นเขียนถึงใครบางคนเพราะอกหักชิบหาย แต่ตอนนี้ชีวิตดีชิบหาย!’ (หมายถึงการได้เล่นคอนเสิร์ตวันนี้) ซึ่งตั้งแต่เพลงนี้เป็นต้นไปก็เหมือนเป็นช่วงเพลงเศร้ายาว ๆ นึกถึงเรื่องราวตามละก็ซึมเฉย ทั้งที่ไม่เกี่ยวอะไรกับเราเลย แง ตามกันติด ๆ กับ ภาพซ้ำ กับเนื้อเพลงซึม ๆ ‘แล้วเมื่อสายลมมากระทบกาย ฉันก็สั่นข้างใน ทั้งที่แสงตะวันมันร้อนแรง กลับหนาวจนเจ็บหัวใจ สุดท้ายก็ยังเหมือนเดิม ดิ่งจมลึกลง’ และต่อด้วย คืนแห่งความเหงา ‘จะมีใครไหมที่เข้าใจฉัน หยุดความเหงาให้มันจบลง’ จบเพลง แน็ปก็แซวแฟน ๆ ว่า สามสิบกว่าแล้วนะ พวกเรา แก่แล้ว ก่อนจะดึงซึ้งว่า เหนื่อยเหมือนกันนะ อายุป่านนี้แล้ว บางครั้งก็เหนื่อย แต่มีพวกนายทั้งหมดนี่แหละ ขอมอบเพลงนี้ให้สุดที่รักทุก ๆ ท่าน ก่อนจะสั่งให้ทุกคนกอดคอเพื่อนของตัวเองในงาน ทำให้เพลง สุดที่รัก ในวันนี้ ซึ้งขึ้นไปอีก ฮือ กลับมาเดือดกันอีกครั้งกับ ปล่อยฉัน และ คือเธอใช่ไหม
ตัดอารมณ์กันบ้างกับโชว์จากแรปเปอร์ Maiyarap Blacksheep Liberate P และ Thudong ที่มาแรปเพื่อสัตว์ป่า และต่อด้วย Kill Myself และพนาไรห์ม เพลงเพื่อสัตว์ป่าที่ถูกรังแก ซึ่ง Retrospect กลับมาอีกครั้งพร้อมกับชวนให้ทุกคนร่วมชูนิ้วกลางให้กับความอยุติธรรมที่สัตว์ป่าได้รับ ก่อนจะตัดมาเป็นช่วงเพลงช้า Rise Of The Moon In E Minor ที่น็อต มือกีตาร์มาบรรเลงกีตาร์โปร่งร่วมกับ TU Chorus สร้างบรรยากาศความขลังได้อย่างดี และตามด้วย หัวใจเสือดำ เพลงใหม่ของวง ที่ชวนให้ทุกคนหวนมารำลึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ‘หัวใจเสือดำ อย่าปล่อยมันให้เงียบงัน มารับกรรมสิ่งนั้นที่คุณก่อ หัวใจสีดำ ตะโกนอยากให้โลกฟัง จะรอวันนั้น วันที่ความเป็นธรรมทอแสง’ ก่อนจะตัดไปอัลบั้ม Pathfinder กับเพลง ภาพถ่าย และเหงายิ่งกว่าเหงา ที่ได้พี่บี พีระพัฒน์ มาร่วมร้องด้วย บอกเลยว่าตอนนั้นตกใจกันทั้งงาน บวกกับเสียงทรงพลังของพี่บีทำให้เพลงเพราะขึ้นไปอีก แล้วก็ทิ้งเวทีไว้ให้กับพี่บี ในเพลง พูดตรง ๆ ซึ่งสมาชิกก็รับหน้าที่แบ็กอัพให้ ซึ่งวงแสดงความสามารถว่าไม่ได้เล่นเป็นแค่แนวร็อก เมทัลเท่านั้น
จากนั้นก็เป็นช่วงโซโล่ของ เบิร์ธ มือกลอง ซึ่งโซโล่ได้สนุกมาก ๆ บวกกับชวนวง percussion มาตีถังกับแต่งหน้าเป็นเสือดำ ก่อนจะไปเป็นเพลง โลก จากอัลบั้ม Pathfinder ที่ได้พี่ต้น Dezember มาเล่นด้วย บอม มือเบสบอกว่า เป็นผู้ใหญ่ที่สนับสนุนมาตั้งแต่วันแรก ซึ่งพี่ต้นก็วาดลีลาจนสายขาดเลยทีเดียว ซึ่งก่อนจะลงเวทีไป บอมก็ย้ำอีกว่า ‘นี่คือคนที่ให้โอกาสพวกกู ตั้งแต่กูยังไม่มีอะไรเลย ไม่มีอะไรจะแดกด้วยซ้ำ ต้องรวมเงินกันไปซื้อก๋วยเตี๋ยวมากินกัน 1 ชาม พี่ต้นก็ให้โอกาสตั้งแต่ตอนนั้น’ พอพี่ต้นลงไป แน็ปก็มานอนเหยียดอยู่กลางเวทีแบบเหนื่อยแล้ว ฮา ก่อนจะบอกว่า ปรบมือให้กูที 40 กว่าเพลงแล้วยังไม่ตาย ก่อนจะเป็น เจ็บกว่าคือฉัน ที่แน็ปบอกว่าพาวงไปเมืองนอกมาหลายครั้ง ซึ่งแฟนคลับต่างชาติก็พร้อมลุยกันทุกครั้ง เพลงนี้จึงเป็นเพลงที่วงเลือกให้ทำวอลล์ออฟเดธที่ใหญ่ที่สุดในงานวันนั้น บวกกับเซอร์เคิลพิตขนาดยักษ์ แค่ยืนดูนอกวงยังสนุก
ตามมาด้วย เจ็บปวดที่งดงาม และ รบกวนจำใส่ใจ แล้วก็เป็นเพลง Yes Sir! ที่ทุกคนร้องตามได้โดยเฉพาะ ท่อนเด็ด RETRORIAN! YES SIR! โอย แค่คิดถึงก็รู้สึกปวดตัวอีกทีแล้วจ้า โยกซะเหมือนไม่มีวันพรุ่งนี้ ฮือ ๆ ซึ่งพอถึงเพลงนี้ เพื่อนที่ตามมาทีหลังชี้ให้ดูว่าแน็ป ใส่เสื้อช็อปที่เขียนว่า Cherodinger (หมายถึงแฟนคลับของเฌอปราง BNK48) เห็นแล้วแบบ แหม่ ๆ พี่ อิอิ ต่อด้วย สังเวียนชีวิต ‘ลุย ลุย เกิดเป็นลูกผู้ชายต้องลุย!’ โห ฟังละโคตรฮึกเหิม จบเพลงนี้แน็ปก็มาเตือนทุกคนว่า อายุเยอะกันแล้วน้า ระวังหลังเดาะกันด้วย ตลก จากนั้นเป็น หักหลัง เซอร์เคิลพิตกันสนุก แต่เหมือน PA จะดับ แง ความสนุกแอบลดลงนิดนึง ก่อนที่อยู่ดี ๆ ทุกอย่างก็จะเงียบ พร้อมกับประกาศบนเวที เราต้องลงเสียงเพลงซักครู่ เดี๋ยวกลับมา ทุกคนมองหน้ากันงง ๆ ระหว่างที่รอให้ใช้เสียงได้ วงเลยทักทายแฟน ๆ ชาวต่างชาติ สรุปมีตั้งสาม-สี่ก๊วนที่มาดู น่าร้าก
ต่อด้วย ลมหายใจสุดท้าย และอีกเพลงที่ขาดไม่ได้ นั่นคือ ไม่มีเธอ ซึ่งวงชวนให้คนดูกอดคอกันแล้วโยกพร้อมกัน สนุกมาก ๆ ! ถึงแม้จะดูเหมือนลัทธิอะไรบางอย่าง ฮา แต่เชื่อว่าจากบนเวทีต้องดูสวยมาก ๆ แน่ ๆ (ชมคลิปได้ ที่นี่) หลังจากนั้นวงก็หายจากเวทีไปเพื่อให้คนดูร่วมกันอังกอร์ ก่อนจะกลับมาพร้อมกับ เพราะว่ารัก อีกรอบ และเปลือก เพลงทีทุกคนน่าจะรอคอยกันอยู่ตลอด 4 ชั่วโมง แน็ปบอกว่า ผมเขียนเพลงนี้ให้กับคนที่เรียกตัวเองว่าชาวเสื้อดำ! เพลงนี้จะแรงที่สุดในคืนนี้! ทุกคนง้างเต็มข้อ ด้วยความอยากวิ่งมากเราก็ยอมแบกกระเป๋าไปด้วย อะ ไปพี่ ไปกันเพื่อน ไปกันโว้ย เพลงสุดท้ายแล้ว ปลดปล่อยโว้ย! และนี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น
คอนเสิร์ตจบลงตอนห้าทุ่มนิด ๆ ด้วยความปวดตัว และความหมั่นไส้วง โอย ตลกกก ตลอดสี่ชั่วโมง วงลำดับโชว์ได้ค่อนข้างดี ตรงที่เดือดก็เดือด แล้วก็พัก ตรงไหนช่วงซึม ก็ซึมยาว ๆ กันไป ส่วนแขกรับเชิญก็ทำหน้าที่ได้ดีมาก ๆ และสมาชิกวงทั้งห้าก็สามารถเล่นทัั้งโชว์ได้แบบแทบไม่มีแรงตก โดยเฉพาะ เบิร์ธ มือกลอง ที่ยังคงตีเนี้ยบ จังหวะเป๊ะ ตั้งแต่เพลงแรกจนเพลงสุดท้าย จะเล่นอาร์แอนด์บี จะฮิปฮอป ก็ได้หมดเลย กราบงาม ๆ ขอบคุณ Genie Records สำหรับคอนเสิร์ตสนุก ๆ แบบนี้ค่า ตอนนี้ขอตัวไปกินยาละ ปวดไปทั้งตัว เจ็บคอ โอยย