#JAMnight Live! with Peach Pit โยกย้ายไปพร้อม Daddy ขวัญใจตัวอ่อน
- Story and photos by Montipa Virojapan and Panuwitch Boorananut
2 มีนาคม 2561
ค่ำคืนนี้ถือเป็นการเริ่มต้นเดือนมีนาคมอย่างชื่นมื่นด้วยโชว์จาก Peach Pit ในงาน #JAMnight Live! with Peach Pit อินดี้ร็อกจากแวนคูเวอร์ แคนาดา ซึ่งงานจัดขึ้นที่ About Studio เลียบทางด่วนรามอินทรา
ภายในตัวงานเรียบง่ายและมีบูธร้านค้าจากหลากหลายแบรนด์เสื้อผ้าหรือแผ่นเสียง ทั้ง Onion, Garage Records, Woowarm Records และอีกหลายร้านให้ได้เลือกซื้อกันไปพลาง ๆ ก่อนเริ่มโชว์ โดยคนก็เริ่มทยอยมามากขึ้นประมาณสองทุ่ม หลังจากนั้นไม่นานก็ถึงเวลาของ opening act นั่นคือ Penny Time อัลเทอร์เนทิฟร็อกรุ่นใหม่ขวัญใจวัยโจ๋เจ้าของซิงเกิ้ลฮิตมากมาย พวกเขาขึ้นเวทีมาพร้อมกับเพลง Now, For Her, Conversating และ ปิดท้ายโชว์ด้วย I Wanna การแสดงสดของวงนี้เป็นที่กล่าวขานกันว่า เล่นดี เล่นแน่น จัดเต็ม ไม่ธรรมดา ซึ่งเมื่อคืนพวกเขาก็ทำได้อย่างที่คนว่ากันจริง ๆ เป็นวงที่น่าดูสดอีกรอบมาก ๆ
ต่อจากนั้นไม่นานเกิน Jameson หมดแก้ว ก็มาต่อด้วยอีกวงมัน ๆ อย่าง Lord Liar Boots วงร็อกเดือด ๆ เริ่มบรรเลงเพลงด้วยไลน์เบสยุบยับ ฝีหวดกลองที่หนักหน่วง และริฟกีตาร์จัดจ้าน ผ่านเพลง สาย4, มนุษย์ป้า, หาได้มีประโยชน์อันใดไม่, นางมารโดยเฉพาะ เพลงสาย 4 ที่ตัวผมเองท่องเบอร์โทรศัพท์ที่อยู่ในเนื้อเพลงนั้นตามได้ด้วย นอกจากเพลงเท่ ๆ ของพวกเขาแล้ว มีสมาชิกวงวิ่งลงมาเล่นกับคนดู ชวนตบมือเข้าจังหวะ และเอนเตอร์เทนคนดูเป็นระยะ ๆ ภาษาอังกฤษของแก้ว มือเบส จัดว่าดีมาก ฟังสำเนียงแกพูดเพลินเลย สุดท้ายก็ปิดด้วย Bhutan Girl เพลงภาษาอังกฤษเพลงเดียวในตอนนี้ของวง เสียดายที่ยังเหลืออีกเพลงหนึ่งให้ได้เล่นแต่เวลาหมดก่อนก็เลยต้องจบโชว์ไปแบบงง ๆ
และมาถึงวงที่ทุกคนรอคอย Peach Pit ขึ้นมาปรากฏตัวต่อหน้าแฟนเพลงพร้อมการใส่ชุดเดียวกับปกอัลบั้ม Being So Normal ของพวกเขา ก็แอบอยากรู้ว่าวงมีชุดแบบนี้เยอะไหม ฮ่า ๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ผิดหวังด้วยการขนเพลงเกือบทั้งหมดที่มีมาใส่เต็มในคืนนี้ เปิดด้วย Drop the Guillotine ตามมาด้วย Peach pit และ อื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Techno Show ที่เจ้าตัวบอกว่า เขาเป็นคนไม่ชอบไปคลับที่เปิดเพลงเรฟ แต่มีเพื่อนชื่อบริทนีย์ชอบชวนไปบ่อย ๆ และเขาก็มักจะยอมไปด้วย เพราะเธอแซ่บมาก น่าร้ากกก แล้วยังมี Being So Normal, Alrighty Aphrodite ที่ไลน์กีตาร์เท่มาก, Private Presley, Sweet FA, Tommy’s Party ซึ่งเพลงนี้เขาแต่งให้พื่อนของเขาที่ชอบไปปาร์ตี้ที่ชายหาดด้วยกัน ดูเป็นวงที่รักเพื่อนฝูงดี ซึ่งเป็นเพลงช้าสลับเร็วกันไป และเพลงส่วนใหญ่ที่เล่นคืนนี้เรียกว่าหยิบมาค่อนข้างครบมือจากทั้ง LP และ EP Sweet FA น้ำเสียงเบานุ่มของ Neil Smith และเสียงของกีตาร์ที่ใส่เต็มเกินห้องโน้ตทำให้คนโยกกันหยุบหยับแทบทุกเพลง รวมถึงผมเองด้วยซึ่งปกติก็ไม่ค่อยออกลวดลายเหมือนชาวบ้านเขา บรรยากาศรอบ ๆ เย็นสบาย มีลมพัดบ้างทำให้คลายความร้อนจากการเต้น ซึ่งเป็นข้อดีของคอนเสิร์ตแบบ open air และก่อนจากจะจบโชว์คืนนี้ Peach Pit ก็ได้ปิดท้ายโชว์ด้วยเพลงร็อกแอนด์โรลให้เราได้เต้นทวิสต์กันในเพลง Johnny B. Goode ของตำนานอย่าง Chuck Berry อีกด้วย
เป็นการสิ้นสุดค่ำคืนนี้ไปอย่างสนุก แต่ยุงกัดหลายตุ่มเหมือนกัน ฮื่อ ต้องขอบคุณทาง Have You Heard? และ Jameson Whiskey ที่จัดงานดี ๆ ให้เราได้ดูกันบ่อย ๆ
ส่วนงานหน้าเราจะไประเห็ดเตร็ดเตร่ที่ไหนก็อย่าลืมติดตามกันนะครับ