Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

P.A.S.T. 6 อีเวนต์ในตำนานกลับมาอีกครั้งเพื่อส่งท้าย Play Yard บ้านที่เรารัก

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Montipa Virojpan, Kamonphan Amornmaekin, Pontorn Klamdit, and Ing Adungsirithep

Alternative Thai คือเพจบนเฟซบุ๊กที่คนฟังเพลงนอกกระแสหลาย คนไปรวมตัวกันเพื่อติดตามผลงานของวงอินดี้ที่น่าสนใจของไทยและเทศเมื่อราวเกือบสิบปีก่อน ปีต่อ มาเพจก็ได้รับความนิยมมากขึ้นจนกลายเป็นคอมมิวนิตี้ระหว่างวงและคนรักดนตรีที่คึกคัก บางคนกลายมาเป็นเพื่อน พี่ น้อง ที่สนิทกันในชีวิตประจำวันก็มี

แม้ช่วงนั้นจะไม่ได้มีคอนเสิร์ตหรือโชว์เล็ก ที่จัดขึ้นถี่แทบทุกวันแบบเดี๋ยวนี้ แต่ก็มีเพจนี้แหละที่เป็นหนึ่งในผู้ที่จัดงานให้วงดนตรีนอกกระแสและคนที่ติดตามอยู่บนโลกออนไลน์ได้มาเจอกันแบบออฟไลน์ ผ่านอีเวนต์ที่ชื่อ P.A.S.T เกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2013 ที่ Play Yard โดยมีกิมมิกคือให้วงแต่ละวงคัฟเวอร์เพลงลับในแบบฉบับของตัวเอง ด้วยบรรยากาศสนุกสนาน เซอร์ไพรส์ และกันเองมาก กับอีกความสนุกอบอุ่นเพราะจะได้เจอกับคนหน้าคุ้นให้ต้องทักทายกันตั้งแต่ต้นจนจบงาน ซึ่งงานครั้งแรกก็ได้กระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลาม จนทำให้เกิดครั้งที่สองในอีกสองเดือนต่อมา ที่สถานที่แห่งเดิม เพิ่มเติมด้วยการถือกำเนิดวงดนตรีเฉพาะกิจ วงเวงจังเลยเนอะแถวเนี้ยะ ซึ่งเป็นการรวมตัวของสมาชิกจากวงดนตรีหลาย วง หยิบเพลงฮิตติดตู้คาราโอเกะมาจัดการคัฟเวอร์พร้อมกับเสิร์ฟมุขจนคนดูฮาท้องคับท้องแข็ง ซึ่งก็ทำให้กลายเป็นวัฒนธรรมสืบทอดที่จะต้องมีในงาน P.A.S.T ครั้งต่อ มา ก่อนจะเงียบหายไปในปลายปี 2014 ซึ่งเป็นงาน P.A.S.T 5 ที่เราคิดว่าเป็นครั้งสุดท้าย

แต่แล้ว ชื่อของงานที่คิดถึงและบรรยากาศที่คุ้นเคยกำลังจะเกิดขึ้นอีก P.A.S.T กลับมาแล้วในครั้งที่ 6 หลังจากห่างหายไปหลายปี กับชื่อตอน ‘L.A.S.T. แล้วจริง นะเพื่อเป็นการส่งท้ายร้าน Play Yard เวนิวต้นตำรับที่ใช้จัดงานนี้ทุกครั้ง ซึ่งกำลังจะปิดตัวในอีกไม่กี่เดือน เวลานี้แหละที่พวกเขาจะพาเอาตำนานกลับมาให้ทุกคนได้ประจักษ์โดยทั่วกัน!

6 กุมภาพันธ์ 2562

บัตรหน้างานเริ่มจำหน่ายเวลา 18.00 . และถูกจำหน่ายหมดภายในเวลาหนึ่งชั่วโมง ซึ่งเราโชคดีมากที่สามารถซื้อบัตรใบท้าย ได้ทันเวลา สังเกตเห็นว่าทั้งทีมงานและผู้ร่วมงานหลาย คนแต่งตัวตามธีมรับตรุษจีนกันมาด้วย จากนั้นก็รอจนกว่าวงแรกอย่าง temp. จะขึ้นเล่นด้วยการแวะเดินไปเวิ้งชิค แล้วเดินกลับมาเจอพวกเขากำลังเล่นเพลง Señor Hyde จาก EP Soi Cowboy ที่มีกลิ่นอายความละตินเบา ต่อด้วยการให้ อุน มือกีตาร์แนะนำตัวเป็นภาษาจีนตามธีมงานห่าว เจี้ยวอุ่นแค่วงแรกก็เล่นกันแล้วฮะ จากนั้นก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ต่อกันที่ Adult Video ให้ได้โยกกันแบบเขิน พอจบเพลงนี้ นิค ฟรอนต์แมน บอกว่าขอทำสนธิสัญญากับทีมไฟขอไม่มืดสนิทนะครับ เมื่อกี้ตอนเข้าโซโล่นี่ใจหายแว้บ แก่ทั้งวงเลยสัสทีมไฟก็จัดตามคำขอกับไฟสลัว ในเพลง Party’s Over ซึ่งเราเพิ่งมาสังเกตว่าช่วงท้ายของโซโล่ก่อนเข้าพรีฮุกสุดท้ายมีการเปลี่ยนส่วนเพลงได้เท่มาก แถมเสียง Parim ที่คอรัสในเพลงนี้ก็เพราะเหลือเกิน ตามด้วย Corn and Cheese กับท่อนโซโล่ป๋า และซิงเกิ้ลล่าสุดที่พวกเขาเพิ่งปล่อย Ring Ring จบเพลงนี้พวกเขาก็ถามว่าไหนมีใครเคยฟัง วงเวงจังเลยเนอะแถวเนี้ยะ บ้างไหมปรากฏว่ามีคนยกมือกันหรอมแหรม หนึ่งในนั้นมีฉันแหละ รู้สึกเขินเลย นี่ฉันยังเป็นเด็กซีนรุ่นนั้นที่ยังหลงเหลืออยู่หรอคะ เวลาผ่านไปไวจริง ฮือ จากนั้นก็เป็นเพลง Moonshine ที่คนดูร้องกันสนั่นร้าน เช่นกันกับเพลง Motel California ที่ก่อนจะเริ่มเล่นก็มีการแซวตัวเองด้วยอินโทรเพลง ฟ้า ของ Tattoo Colour แล้วปิดท้ายกันไปด้วย Miss Summer กับท่อนโซโล่ล่องลอยเมามาย ถือเป็นการเริ่มต้นงานได้แบบกำลังดี

พอจบวงนี้เราก็มานึกได้ว่า เอ้า ไม่มีคัฟเวอร์แล้วหรอ แต่ก็ไม่ได้อะไรมากเพราะพอถึงวงเวง ฯ คาดว่าต้องมีอะไรลั่น ๆ ปั่น ๆ รออยู่อย่างแน่นอน

จากนั้นประมาณ 20.15 . ก็เป็นคิวของ Electric Neon Lamp วงพี่ใหญ่ในคืนนี้ และหนึ่งในไลน์อัพที่มาแสดงในงาน P.A.S.T. ครั้งแรก เปิดมาด้วยอินโทรสุดคุ้นเคยอย่าง รถไฟแห่งความฝัน ตามด้วย อวกาศ ให้คนดูได้เรียกเหงื่อกัน จบเพลงนี้ เจน ฟรอนต์แมนก็พูดประมาณว่า นี่คือผู้ใหญ่ของปี 2019 ก็ได้ยินเสียงตะโกนขึ้นมาว่าขอบคุณที่ยังเคารพกันค่าขอเดาว่าเป็นเสียงของ ออม Telex Telexs เจ้าของเสียงคอรัสในอีกสองเพลงข้างหน้าที่พวกเขากำลังจะเล่น นั่นคือ เสียเวลาว่ะ และ เจ็บแล้วไง สองเพลงจากอัลบั้ม How To Disappoint Your Parents ของพวกเขา ที่ผู้ชมร้องกันดังกระหึ่ม พอมันได้ที่แล้วก็ต้องขอดรอปความระอุลงมาที่เพลงช้า บางครั้ง..แค่บางครั้ง ที่ทำเอาซึมไปพักนึง และขยี้ต่อด้วย ภาวิณี รวมถึง นางรอง เอาให้คนช้ำระบมเล่น น่าเสียดายที่เหมือนช่วงท้าย เพลงเกิดปลั๊กหลุดทำให้เสียงเครื่องดนตรีบางชิ้นเงียบไป แต่ก็กู้กลับมาได้ก่อนเพลงจบ แล้วให้ไปสนุกกันต่อที่เพลง โทรจิต และส่งท้ายกันที่งานสุดคลาสสิกของวงที่อินโทรขึ้นมาพนักงานออฟฟิศต้องน้ำตาซึมกับ Employee of the Month คิด แล้วก็ตลกดีว่าตอนที่เคยฟังเพลงนี้สมัยเรียน ยังไม่เข้าใจความรู้สึกของเพลงเท่าไหร่ พอมาทำงานเท่านั้นแหละ ร้องไห้เลย อ้ะแง

แล้วก็ได้เวลาของวงซินธ์ป๊อปขวัญใจวัยรุ่น Telex Telexs ที่ทำเอาคนดูแน่นล้นร้านขึ้นมา เราก็ต้องกระเถิบตัวเองมาหลบที่มุมหนึ่งและแอบไปเพิ่มพลังด้วยข้าวผัดหมูกรอบของทางร้าน บอกตรง ว่าตอนนี้ก็เริ่มภาพตัดไม่ปะติดปะต่อแล้วเพราะทางร้านเขามีโปรเบียร์สองป๋องร้อย โห กดเพลินเลยสิคะทีนี้ จากนั้นก็วิ่งกลับเข้ามาทันเพลง Ooh งานล่าสุดที่พวกเขาปล่อยออกมาพอดี จากนั้นก็เป็นเพลง ดีออก และ Enough for Loneliness and Internet Today ชื่อเดียวกันกับอัลบั้มเต็มของพวกเขา ตามด้วย ยอม และ Shibuya ที่ดูเหมือนว่าจะมีคนอินและร้องตามกันลั่นร้านทีเดียว จบจากเพลงนี้ก็เป็นซิงเกิ้ลซีรีส์สามเส้าของวงนั่นคือ เอายังไง ซึ่งพอจบเพลงก็ถูกคั่นด้วยบีตแบบ tropical pop ให้ได้เต้นประหนึ่งอยู่ในคลับ แล้วจัดเพลง ซ่อน ที่ยิ่งทำให้ฟลอร์ร้อนระอุกับคอนเทนต์ฉาว เทา แล้วจบด้วยเพลง 1991-1993 ให้ได้รู้สึกว่าจริง แล้วพวกเขาก็มีเพลงที่เล่าเรื่องความรักสมหวังกับเขาเหมือนกันนะ

10.15 . S.O.L.E. วงที่ดุเดือดที่สุดในไลน์อัพวันนี้ก็พร้อมแล้วที่จะมาเสิร์ฟความคลั่งให้กับผู้ชม เราเองก็ชาร์จพลังตัวเองจนพร้อมและรู้สึกดีขึ้นนิดนึงก็ไปประจำการหน้าเวที เปิดมาด้วยอินโทรบีตอิเล็กทรอนิกบิลด์อารมณ์ก่อนเริ่มโชว์ แล้วสมาชิกแต่ละคนที่เราคุ้นหน้าคุ้นตากันดีก็ขึ้นมาประจำตำแหน่งของตัวเอง เปิดมาด้วยเพลง FCKUGVRNMNT ที่พอจบเพลง เติ้ล ฟรอนต์แมนก็ชมลุงคนนั้นให้เราฟังด้วยคำสุภาพหนึ่งที พร้อมเสียงเฮลั่นร้าน ต่อด้วย My Majesty the King ที่ได้ Mikey $ent มาร่วมแจมให้ทุกคนได้ตะโกน ‘S.O.L.E.’ กับบีตเพลงเร็ว เดือด เพลงนี้ ความสนุกยังไม่หยุดเท่านี้เมื่อทำนองหมอลำปั่น ใน Bangkok Teenage Renaissance ถูกเล่นขึ้น ทีมงานแถวหน้าก็พากันเซิ้งยับ ต่อด้วยเพลง Cyber Punk ทำเอาโยกคอจะหลุด แล้วดรอปจังหวะลงที่เพลงบีตหนัก Psycho Killer ให้คนดูได้ตะโกนโต้ตอบกับวง ‘I know it. You know it.’ ตามด้วยอินโทรเสียงไล้ไฮแฮต เป็นอันรู้กันว่าต่อไปจะเป็นเพลง When Everyone Is Doing A Moshpit ซึ่งเราก็สร้างวงมอชย่อม หน้าเวที แล้วดันเอาดั้งไปกระแทกกับไหล่คนข้างหน้าดังบั๊ก! นึกว่าจะหักแล้วค้าบบบบ จากนั้นพอเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ก็ได้เวลาของเพลง Call Me ที่เติ้ลปล่อยให้คนดูร้องตั้งแต่ต้น ซึ่งทีมงานเราก็คุณภาพจริง ร้องเป๊ะทุกท่อน ต่อด้วย I Want You To Fuck Me และ Be With You งานคัฟเวอร์ The Whitest Crow ในเวอร์ชันเร็กเกตอน คือตอนฟังอยู่บ้านอาจจะไม่เก็ตว่ามันสนุกยังไง วันนี้ดิฉันรู้ซึ้งแล้วค่ะ การได้เต้นในจังหวะแดนซ์ฮอลไปกับเพลงนี้คือบรรลุไปแล้ว ต่อกันเลยที่เพลงสนุก จังหวะกลาง แต่ยังเต้นได้นั่นคือ Rich แล้วจบอย่างสวยงามด้วย Like A Magic เหมือนเป็นการบอกกลาย ว่าค่ำคืนนี้สนุกสุดเหวี่ยงเหมือนพวกเขาเป็นคนร่ายมนต์ขึ้นมา

แล้วก็ได้เวลาที่ทุกคนรอคอย สำหรับคนที่ไม่เคยดูวงนี้ก็อาจจะอยากรู้ว่า วงเวงจังเลยเนอะแถวเนี้ยะ มันตำนานยังไง ทำไมถึงไม่ควรพลาด เราก็อยู่จนจบงานเพื่อเก็บบรรยากาศมาฝากทุกคนกันค่ะ สำหรับวงนี้สมาชิกเขาจะผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปตามแต่ไลน์อัพของวงในงาน P.A.S.T. ครั้งนั้น จะอำนวย และทุก ครั้งจะมีการแต่งตัวพิลึกพิลั่นต่างกันไป โดยครั้งนี้แต่ละคนก็จีนกันมาเลยฮะ มีอั่งเปาโปรยแจกกันตั้งแต่ต้นโชว์ รวมไปถึงปลาทองสีแดงที่หนึ่งในทีมงานของเราได้รับเป็นของที่ระลึก /แป๊ะเข้าให้ที่หน้าเพราะโดนปาลงมา ฮ่า ดีนะไม่เจ็บ และต่อไปนี้จะเป็นการไล่ลิสต์เพลงแบบนอนสต๊อป ตั้งแต่ ไหนว่าจะไม่หลอกกัน ของ Silly Fools เล่นไม่เต็มเพลงเจนก็สั่งเบรก แล้วได้ยินว่ามีคนขอเพลงธีมโคนัน เจนเลยบอกว่าใครจะเอาอินโทรโคนันให้ไปเปิดฟังที่บ้าน เอาไปหนึ่งฮา ต่อด้วย อย่างน้อย จาก Big Ass แล้วคั่นด้วยเพลงสวนสยาม ตามด้วย ยอมให้จับนะ และ ตกหลุมรัก ของ หวาย ยัง ยังไม่พอ ต้องมี Miss Call, Miss You ของ เฟย์ ฟาง แก้ว ด้วย ปั่นขนาดนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน ดีเจเจจากวง White Light, Flowever นั่นเองค้าบ ปกติเปิดเพลงดีแต่วันนี้จัดให้เข้ากับไวบ์ พบกับเขาได้ที่ NOMA RCA กลับมาที่ช่วงดนตรีสดกันบ้าง เมื่อกี้เล่น Big Ass ค้างไว้ ก็ลุยเพลง คนไม่เอาถ่าน ต่อ แล้วพักเบรกด้วยเพลงดาจิมสักเพลง ก่อนจะเล่นต่อที่เพลง ขอบฟ้า โดย Bodyslam

จบเพลงนี้เจนก็ถามว่า ไหนใครฟัง My Chemical Romance บ้าง กระแส emo เขากำลังกลับมาจริง จัด Welcome to the Black Parade แบบร้องเวิร์สวนซ้ำนับครั้งไม่ถ้วนจนต้องร้องขอชีวิตว่า พอ! แต่เขาไม่พอ สลับไปเล่นเพลง ยาพิษ ในท่อนอินโทรที่ร้องเป็น หวัดดีค้าบ ๆๆๆๆ ตามริฟฟ์กีตาร์ โว้ยยยยยย ปั่นเกินไปแล้ว เหนื่อยยยย แล้วก็กลับมาเล่นขอบฟ้า กลับไปที่ Welcome to the Black Parade อีกรอบ โอ้ยยยย พอแล้วจ้า ฮือ ดูทรงนักดนตรีจะเหนื่อยหอบ เลยตัดเข้าช่วงดีเจกับเพลง เสือกทำไม จาก ดาจิม แล้วกลับมาเล่นสดเพลงคลาสสิกตึก โป๊ะ ตึก จาก I-ZAX ดอกไม้กับหัวใจ และดีเจก็เปิดเพลง สิบ ยี่สิบ ของ แม้กก้า ชวนชื่น ก่อนวงจะเล่น Zealสองรัก, Potatoไม่ให้เธอไป ไม่ทันจบเพลง ดีเจเจก็จัด คิดถึงจังหวะ ของ Joey Boy ให้สายย่อได้ออกลวดลายกัน โอ้ย ปวดขา แต่ฟินมากเด้อ เต้นกันพอหอมปากหอมคอ วงก็เล่นเพลง คิดถึง ของ Silly Fools กันต่อ แล้วตัดกลับไปหวัดดีค้าบ แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย โอว้ยยยยย ก่อนที่จะเหนื่อยไปมากกว่านี้ ขอดีเจพามาพักที่เพลง หัว ไหล่ ตูด ของ MAF โอ้โห วงได้พัก แต่คนดูไม่ได้พักกันเลยจ้า อะ มาโดดกันต่อกับเพลงคิ้วท์ ๆ ของ Bodyslam สักวันฉันจะดีพอ สลับกับดีเจที่เปิด กากี่นั้ง ของโจอี้บอย สลับมาที่เล่นสดเพลง อาวรณ์ จาก Polycat และดีเจเพลง อาม่าดุ ของ Mr. Sister แล้วตัดกลับมาที่เพลงป๊อปคลาสสิกอย่าง ใกล้ จาก Scrubb และร็อกอย่าง เพียงกระซิบ ของ Black Head ที่ทุกคนต้องร้องพร้อมกันในท่อน ไอ้เย็ดเหี้ย (ใครเป็นคนคิดก็ไม่รู้ แต่ทุกคนรู้ว่ามันต้องร้องโต้แบบนี้ อะแง) เอ้า มาแดนซ์ต่อให้เข้าธีมในเพลง เฮง เฮง เฮง จาก China Dolls แล้วอยู่ดี ก็กลับมาไลฟ์แบนด์ที่ AB Normalพูดไม่ค่อยเก่ง แล้วก็หวัดดีค้าบ และ Welcome to the Black Parade อีกหลายรอบ โว่ยยยย ก่อนที่คนดูจะประสาทเสียมากไปกว่านี้ ดีเจเลยตัดเข้าเพลง สาวบางโพ ของ ตู้ ดิเรก ให้พักหายใจ

Alternative Thai

นี่เราเดินทางมาถึงช่วงท้ายของพวกเขากันแล้วครับ (คนอ่านเหนื่อยยัง คนเขียนนี่เต้นจนเหนื่อย แต่สนุกจริง หยุดไม่ได้ อว้อยยยย) เจนหยิบเพลงที่เคยเล่นในครั้งแรกมาเล่นอีกครั้งนั่นคือ แค่นั้น ของ พงษ์สิทธิ์ คัมภีร์ ต่อด้วยการแซวตัวเองกับเพลงพี่เบิร์ด (เพราะหน้าคล้าย) ในเพลง พริกขี้หนู เป็นเพลงสุดท้าย แต่ก็มิวายจะมีอังกอร์ ซึ่งวงก็ไม่ได้ปล่อยให้เรารอนานมากนัก ลุยต่อกับ Welcome to the Black Parade หวัดดีค้าบ รัว ๆๆๆ และ แค่นั้นอีกรอบ ฮืออออ ช่วงนี้เริ่มมีการเล่นมุขคลาสสิกถ้าผมพูดว่า ทาน คุณพูดว่า อาหาร’ ‘ถ้าผมพูดว่า หิว คุณพูดว่า น้ำ’ ‘วงอะไร วงไข่เค็มแล้วคนดูก็เล่นตามด้วยโดยไม่สนใจว่ามุขนี้ต้องการจะสื่ออะไร แต่มันสนุกไปหมดเลยว้อยยย แล้วพวกเขาก็เล่นเพลง เท่ากับที่เดิม ของ โยคีเพลย์บอย ส่วนดีเจก็เปิด เกรงใจ ของ Raptor ระหว่างนั้นก็มีการพักเล่น เต้ มือเบส Electric Neon Lamp บอกว่าขอเวลานิดเพราะเจนกำลังตอบแชตแฟนที่อยู่ลอนดอน ดีเจเลยเปิด ซักกะนิด ของ ทาทายัง คั่นเวลา จากนั้นพวกเขาก็กลับมาเล่นเพลง Bohemian Rhapsody จาก Queen เป็นเวอร์ชันเพลงแปลงภาษาไทย ตามด้วย L.O.V.E. ของ คูณสามซูเปอร์แก๊งที่คนดูและศิลปินก็เต้นท่าในเพลงโดยอัตโนมัติ ยัง ยังไม่จบ มี Too Much, So Much, Very Much ของพี่เบิร์ด เล่นมุข ‘ทาน อาหาร’ กันอีกรอบ และเพลง UFO ของ ราฟฟี่ แนนซี่ ก็ถูกเปิดขึ้น ครบทุกยุค ทุกแนว ส่วนคนที่ร้องได้ทุกเพลงก็แปลว่าแก่แล้ว (ก็พวกที่ยังอยู่กันเนี่ยแหละ โอ้ย) แล้วพวกเขาก็ส่งท้ายด้วยเพลง Bodyslam ยุคคลาสสิคอย่าง ทางของฉันฝันของเธอ เป็นเพลงปิด และดีเจก็เปิด ขอใจแลกเบอร์โทร ของหญิงลี เป็นเพลง ส่งแขกกกกกกก

จบไปแล้วเรียบร้อยกับความสนุกสนานอันยาวนาน ชนิดที่ว่าเต้นกันโดยไม่รู้ตัวว่าพื้นเจิ่งน้ำเบียร์นองมากขนาดไหน คนที่ตื่นมาในวันต่อไปอาจประสบกับปัญหาเมาแฮงก์ คอเคล็ด เสียงหาย แต่อย่างน้อยที่สุดก็เป็นสัญญาณว่าพวกเราทุกคนได้มาสุดเหวี่ยงส่งท้ายซีรีส์ในตำนานงานนี้ด้วยกันแล้วแหละนะ 🙂

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้