18 มกราคม 2561

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ของ ONE OK ROCK แล้วนะครับที่พวกเขามาเล่นที่บ้านเรา ซึ่งสิ่งที่พิเศษในการมาเยือนไทยครั้งนี้ คือพวกเราเขาเติบโตแข็งแกร่งกว่าเดิม วินาทีที่ผมเห็น Billboard Thailand ประกาศว่าวงนี้จะมาไทย ความรู้สึกแรกที่เกิดขึ้นคือ โชว์นี้ของพวกเขาจะเล่นเพลงภาษาอังกฤษอย่างเดียวเลยรึเปล่า จะไหวเหรอถ้าเล่นแค่เพลงอัลบั้มใหม่ แต่คำตอบที่ผมได้รับหลังจากดูคอนเสิร์ตนี้เสร็จก็คือ….

เชิญอ่านรีวิวคอนเสิร์ตนี้ได้เลยครับ

คอนเสิร์ตครั้งนี้จัดที่ Impact Arena เมืองทองธานี เรียกได้ว่าเป็นสถานที่จัดงานที่ใหญ่มากสำหรับโชว์ของ ONE OK ROCK ครั้งนี้ และด้านในคือคนเยอะมากครับ ที่สำคัญตลอดระยะเวลาก่อนที่คอนเสิร์ตจะเริ่มแสดง มีการประกาศจากเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดเวลาว่า ห้ามบันทึกภาพทุกชนิดในคอนเสิร์ต คือถ้าคุณหยิบกล้องขึ้นมาจะมีเจ้าหน้าที่เดินมาสะกิดให้เอาลงทันที ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีนะครับที่นาน ๆ จะได้เห็นคอนเสิร์ตวงต่างประเทศมาเล่นที่ประเทศไทยแล้วไม่มีคนหยิบมือถือมาถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอกันให้รู้สึกกวนใจคนดูทางด้านหลัง ๆ กัน

20.03 น. สิ้นสุดเสียงเพลงที่เปิดฮอลล์ บรรยากาศเริ่มเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องของแฟนเพลงที่มารอคอยดูพวกเขาในค่ำคืนนี้ ไม่ช้าการปรากฏกายของ 4 หนุ่ม ONE OK ROCK  ก็เกิดขึ้นพร้อมกับเพลงแรกในงาน Ambitions + Bomb Away ดังขึ้นทุกคนไม่รอช้ากระโดดขึ้นกันอย่างสุดตัวพร้อมกับเสียงร้องสุดทรงพลังของ ทากะ นักร้องนำที่กระตุ้นให้คนดูทุกคนกระโดดกันจากนั้นเสริมอารมณ์กันต่อกับ Deeper Deeper และเพลงซิงเกิ้ลยอดฮิตประจำอัลบั้ม Ambitions อย่าง Taking Off และเซอร์ไพรส์แรกในคอนเสิร์ตครั้งนี้ก็เกิดขึ้น เมื่อเพลงต่อไปเป็นเพลงที่ทุกคนไม่คิดว่าทางวงจะเล่น เพราะใน songlist ของทัวร์ที่ผ่านมาของพวกเขาไม่ได้หยิบเพลงนี้มาเล่นเลย เพลงนั้นก็คือ Cry Out เพลงฮิตอีกหนึ่งเพลงของวง จากตรงนี้เริ่มสังเกตได้แล้วว่า โชว์ครั้งนี้ของ ONE OK ROCK ในประเทศไทยต้องพิเศษกว่าที่อื่นอย่างแน่นอน อารมณ์ของคนดูยังคงดูเดือด ทางวงก็เช่นกันเพราะตั้งแต่เล่นมาตอนนี้ยังไม่มีเพลงช้าออกมาเลย

เพลง Clock Strikes ถูกบรรเลงขึ้นและตามด้วย Re : Make ก่อนที่วงจะหยุดพักเพื่อพูดคุยกับแฟนเพลงในช่วงแรก โดยสมาชิกแต่ละคนพูดภาษาไทยให้เราได้ฟังกัน เริ่มจาก เรียวตะ กล่าวว่า ‘สวัสดีครับ ผมชื่อ เรียวตะ นะครับ’ จากนั้นส่งไม้ต่อให้ โทโมยะ พูดบ้างเจ้าตัวก็ได้กล่าวว่า ‘สวัสดีครับ ผมชื่อ โทโมยะ มีลูกแล้วลูกน่ารักมากด้วย’ ตรงนี้เรียกเสียงฮากับแฟนเพลงได้พอสมควรเลยครับ โทรุ เองก็ไม่รอช้าที่จะกล่าวภาษาไทยกับเขาบ้าง แต่เจ้าตัวน่าจะลืมแน่ ๆ เพราะทำได้เพียงแค่แนะนำตัวว่า ‘สวัสดีครับผม โทรุ ครับ’ และสุดท้ายนักร้องนำของเรา ทากะ ก็ไม่น้อยหน้าครับคนนี้น่าจะซ้อมมาเยอะอยู่ เจ้าตัวได้พูดว่า ‘สวัสดีครับผมชื่อทากะ ผมชอบกินข้าวเหนียวมะม่วง ครับ’ (อยากรู้ว่าใครให้สคริปวงไปพูดช่วงนี้มาก ๆ เลยครับ มันดูน่ารักดีครับ)

หลังจากที่พักเบรกกันไปแล้ววงก็เล่นเพลงต่อไปทันทีนั้นก็คือ Bedroom Warfare ที่ต้องบอกเลยว่าเล่นสดแล้วมันกว่าในอัลบั้มจริง ๆ เยอะเลย จากที่วงเล่นเพลงเร็วมาพอสมควรแล้วคราวนี้ได้พักเบรกกันกับเพลงช้าอย่าง Wherever You Are และ One Way Ticket ก่อนที่จะตัดเข้าสู่ช่วงการโชว์พาร์ตเครื่องดนตรีบรรเลงกีตาร์ เบส กลอง และไฟบนเวทีก็ดับลงพร้อมกับการกลับมาอีกครั้งของทากะที่เรียกว่าจังหวะไฟบนเวทีทุกอย่างเป๊ะและดีงามมาก ๆ เพลง Bon Voyage เป็นอีกเพลงที่ทางวงค่อย ๆ กลับมาบิ๊วให้แฟนเพลงในฮออล์โยกตามกันอีกครั้งก่อนจะเล่นเพลง I was King, Take What You Want, The Beginning ตามลำดับ คอนเสิร์ตเดินทางมาถึงในช่วงสุดท้ายกันแล้ว ทากะ ตัวแทนของวงได้กล่าวว่าพวกเขาดีใจมาก ๆ ที่ได้กลับมาเล่นในประเทศไทยอีกครั้งครั้งที่ 1 คือสุดยอด ครั้งที่ 2 คือยอดเยี่ยม ครั้งที่ 3 คือทุกอย่างแม่งดีสัส ๆ (ขอแปลตามคำภาษาอังกฤษที่เจ้าตัวได้เอ่ยบนเวทีเลยนะครับ) และ 2 เพลงสุดท้ายที่ทางวงหยิบมาเล่นก่อนจะลงเวทีกันไปในรอบแรกนั้นคือ Mighty Long Fall, We Are 

ไฟในฮอลล์ค่อย ๆ สว่างขึ้น ทุกคนส่งเสียงตะโกนกันให้พวกเขากลับมาเล่นใหม่อีกครั้งนึงในช่วงอังกอร์ ซึ่งวงก็ไม่ทำให้ทุกคนผิดหวัง พวกเขาออกมาขอเสียงแฟนเพลงอีกครั้งก่อนเล่น จากนั้นตามด้วยเพลง American Girls และเพลงพิเศษที่ไม่เล่นที่อื่นมาก่อนกับเพลง Kanzen Kakaku Dreamer ซึ่งพิเศษจริง ๆ สำหรับแฟนเพลงชาวไทยเลยก็ว่าได้ ทุกคนกระโดดโลดเต้นกันอย่างมีความสุขก่อนจะถ่ายรูปเป็นพิธีกับแฟน ๆ และเดินจากไปและไฟในฮอลล์ก็สว่างขึ้นอีกครั้งพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสุขของผู้ชมในคอนเสิร์ตครั้งนี้

สิ่งที่น่าชื่นชมในงานครั้งนี้เลยสำหรับผมเลย การจัดการทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันยอดเยี่ยมและดูมืออาชีพมาก ๆ เริ่มตั้งแต่การจัดแถวซื้อสินค้าที่ทำได้อย่างดี การควบคุมเรื่องการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายถือว่าทางงานทำได้ดีมาก ๆ ส่วนตัวผมเองต้องขออภัยทางงานด้วยนะครับที่หยิบกล้องมาถ่ายในบางจังหวะ ถ่ายเพราะจะมาเอามาเขียนให้ทุกท่านอ่านเนี่ยล่ะ รวมไปถึงแสงสีบนเวทีที่เข้าขั้นระดับมืออาชีพมาก ๆ สิ่งที่ชอบอีกอย่างคือ มุมกล้องของภาพบนเวที ตั้งแต่ดูคอนเสิร์ตมา ผมชอบการถ่ายภาพแบบนี้มาก ๆ มันทำให้เรารู้สึกมีอารมณ์ร่วมกับคอนเสิร์ตเป็นอย่างดี ในเรื่องของคนดูก็เช่นกันคนดูทุกคนน่ารักมาก ๆ ทุกคนกระโดดโลดเต้นกันอย่างมีความสุขมีการเล่น circle pit กันไปหลายวงด้วย นี่น่าจะเป็นคอนเสิร์ตแรก ๆ ที่ผมรู้สึกว่ากล้องโทรศัพท์น้อยมาก ขอแสดงความชื่นชมแก่ทีมผู้จัดด้วยครับ ครั้งหน้าช่วยพาวงนี้กลับมาอีก สุดท้ายนี้คอนเสิร์ตเมื่อคืนสำหรับผมถือว่าเป็นคอนเสิร์ตที่ยอดเยี่ยมต้อนรับปี 2018 เลย แล้วพบกันใหม่คอนเสิร์ตต่อไปนะครับ / ซาโยนาระครับทุกคน

• Twitter
• Line