Notep x Kobored ถ่ายทอดเรื่องราวของกรุงเทพ ฯ ผ่านโปรเจกต์สุดมันของ Mixcloud x W Hotels ใน Future Rising
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: W Hotel Bangkok
เมื่อไม่กี่วันก่อน Greta Thunberg นักสิ่งแวดล้อมรุ่นเยาว์ได้พูดว่า ‘Right here, right now’ ในสุนทรพจน์อันทรงพลังของเธอ ซึ่งดันไปพ้องกับวลีสุดฮิตจากเพลงของ Fatboy Slim ศิลปิน big beat รุ่นใหญ่เลยนึกสนุกเอาเสียงของน้องมามิกซ์ลงในเพลงตัวเองจนกลายมาเป็นไวรัลอีกรอบ
ยิ่งไปกว่านั้น ‘Right Here, Right Now’ ยังเป็น tagline ของงานอิเล็กทรอนิกมัน ๆ ที่ Mixcloud ผู้ให้บริการสตรีมมิงระดับโลก จับมือกับ W Hotels จัดอีเวนต์สุดสร้างสรรค์ในชื่อ Future Rising ซึ่งเป็นงานที่ชวนศิลปินฝั่งดนตรี และฝั่งศิลปะ มาร่วมงานกันเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวของเมืองใหญ่ทั่วโลกที่พวกเขาจะหมุนเวียนไปจัด โดยโรงแรม W กรุงเทพ ฯ ก็เป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่พวกเขาเลือกไว้ด้วย
26 กันยายน 2562
ปกติเราจะชินกับการไป night club ที่จัดไว้เฉพาะสำหรับดนตรีอิเล็กทรอนิก แต่จากที่ได้ยินมาจากหลายคนเขาก็บอกว่า W Hotels ขึ้นชื่อเรื่องปาร์ตี้และ music event อยู่แล้ว นี่เลยเป็นโอกาสดีที่เราจะได้ลองมา clubbing ในโรงแรมเป็นครั้งแรก
เมื่อเดินทางมาถึง W Hotel Bangkok เราก็ได้ยินเสียงเบสและซาวด์อิเล็กทรอนิกอื้ออึงดังมาจากฮอลใกล้ ๆ กันกับล็อบบี้ ก็เลยพาตัวเองผ่านเข้าไปในฝูงชนที่ค่อนข้างหนาตา โดยเวลาประมาณสองทุ่มก็มี DJ Orawan เปิดเพลงอุ่นเครื่องให้กับทุกคน ตามด้วย DJ Supersonic ที่เสิร์ฟเพลงเฮาส์ เทคเฮาส์ นูดิสโก้ ให้เราได้ขยับร่างกาย รอบ ๆ เราเห็นการตกแต่งด้วยพร็อพน่ารัก ๆ แบบสไตล์ไทย ๆ ลั่นทุ่ง ไม่ว่าจะเป็นป้าย ‘ฟิวเจอร์ไรซ์ซิ่ง’ สีฉูดฉาดแบบสติ๊กเกอร์ท้ายรถ หรือใบปลิวโฆษณา สติ๊กเกอร์กำจัดปลวกตามเสาไฟฟ้า ไม่ไกลจากกันนักก็มี instllation รถซาเล้ง ไม้กวาด ป้ายวินมอเตอร์ไซค์ และนั่งร้านก่อสร้าง ได้บรรยากาศแบบท้องถนนในกรุงเทพ ฯ อย่างแท้จริง ที่ชอบที่สุดเห็นจะเป็นใบปลิว ‘ร้ายเฮีย ร้ายนาว ถึงร้ายก็รัก’ ที่แค่เห็นก็ได้ยินเสียงเพลงของ Fatboy Slim ขึ้นมาแล้ว
เวลาประมาณสี่ทุ่มครึ่ง พิธีกรก็กล่าวเปิดงานพร้อมกับนำเข้าสู่ช่วง performance ของ Notep x Kobored โชว์เริ่มจาก vtr ของคนอาชีพต่าง ๆ ในกรุงเทพ ฯ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้ที่ย้ายเข้ามาจากต่างจังหวัดทั้งสิ้น แต่ละคนพูดเล่าเรื่องการประกอบอาชีพของตัวเองและสิ่งที่ต้องพบเจอในแต่ละวัน จบท้ายด้วยการบอกว่าพวกเขารักกรุงเทพ ฯ แต่ในเมสเสจที่กล่าวมาข้างต้นก็สะท้อนซึ่งความย้อนแย้ง และช่องโหว่ของเศรษฐกิจ ชนชั้น ความไม่เป็นระเบียบ และคุณภาพชีวิตคนเมืองที่เราถกเถียงกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
จบจากวิดิโอเราก็ได้ยินเสียงเพลงอิเล็กทรอนิกโดย นท พนายางกูร ที่เธอเลือกแทร็คเท่ ๆ ทั้ง เทคโน มินิมัลเทคโน เทคเฮาส์ ดาร์กเวฟหนัก ๆ มาเปิด โดยระหว่างนั้นก็มีวิชวลของ กบ—พงพาศกร กุลถิรธรรม เปิดเป็นแบ็คกราวด์พร้อมกับไลท์ติ้งที่ผสมสีได้เพลินตามาก ๆ แถมยังได้ ตุล อพาร์ตเมนต์คุณป้า มาร่วมแจม spoken words พูดชื่อกรุงเทพมหานครเวอร์ชันเต็ม คั่นด้วย performing arts ที่ให้คนขึ้นมาเต้นประกอบเพลง ประเทศกูมี ของ Rap Against Dictatorship พร้อมกับโปรยแบงค์กาโม่ด้วยปืนยิง Supreme แบบ swag ๆ
ดนตรียังคงดำเนินต่อไป จนกระทั่ง DJ Marmosets มาร่วม featuring ด้วยการเปิด modular หนักหน่วงทำเอาเราเผลอโยกตาม และในช่วงท้ายของโชว์ก็ถูกตัดกลับไปที่ key message ที่นทตั้งใจจะสื่อว่า กรุงเทพ ฯ คือเมืองที่เต็มไปด้วยสเน่ห์และความหลากหลาย แต่ขณะเดียวกันมันก็มีเรื่องความย้อนแย้งและช่องโหว่ของกฎหมายปรากฏอยู่ แต่สิ่งนี้เองที่ทำให้เราได้ปลดปล่อยและทำอะไรสร้างสรรค์มากมาย ซึ่งเราก็ไม่ได้ปฏิเสธความจริงข้อนี้แต่อย่างใด แถมยังต้องตั้งคำถามว่าสรุปแล้วเราควรปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไป หรือต้องมองมันเป็นปัญหาที่ไม่ควรละเลยและจัดการมันอย่างจริงจัง
ปิดท้ายด้วยการร่วมร้องเพลงชาติไทยเป็นตัวขมวดปมประมาณว่า ถ้ามีคนถามว่าอะไรคือความเป็นไทย ก็คงไม่พ้นสิ่งพวกนี้แหละ สุดจะ Thailand only ไม่มีที่ไหนอีกแล้ว จากนั้น DJ Marmosets ก็รับช่วงต่อ บิลด์ความสนุกจนถึงขีดสุดใน after party กันยาว ๆ
สำหรับเรา Future Rising ถือว่าเป็นงานที่น่าสนใจมาก ๆ สำหรับการนำเสนอภาพลักษณ์ของเมืองต่าง ๆ ในบริบทที่ร่วมสมัย ด้วยการใช้การร่วมงานระหว่าง visual artist และศิลปินอิเล็กทรอนิก เพื่อที่จะได้เห็นมุมมองที่สร้างสรรค์แตกต่างกันออกไป เราชอบการตีความถึง ‘street culture’ ที่หยิบเอาสิ่งที่หลายคนเห็นเป็นเรื่องปกติ หรือต่างชาติมองว่ามันเป็นเสน่ห์ แต่จริง ๆ มันคือสิ่งที่ควรแก้ไข มาถ่ายทอดให้เป็น art form มันอาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบทั้งหมดในการออกแบบโชว์ การจัดเรียง sequence ต่าง ๆ แต่อย่างน้อยเมสเสจในงานก็ทำให้เราฉุกคิดขึ้นมาได้ถึงความเป็นไปของชีวิตในเมืองที่เราอาศัยอยู่ในทุกวันนี้ ก็ต้องขอบคุณที่ Notep กับ Kobored ช่วยสร้างสรรค์งานและสะท้อนมันออกมา รวมถึง Mixcloud และ W Hotels ที่ทำให้มีโปรเจกต์ดีๆเกิดขึ้นหลังจากนี้พวกเขาจะไปต่อกันที่เมืองกัวประเทศอินเดียกัวลาลัมเปอร์ประเทศมาเลเซียและบริสเบนประเทศออสเตรเลียอยากรู้เหมือนกันว่าศิลปินประเทศอื่น ๆ เขาจะนำเสนอเมืองของตัวเองผ่านเรื่องราวอะไรและออกมาในรูปแบบไหนกันบ้าง