Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

ไปดูหนังสั้นสุดเฮี้ยน MGB: Sticky Midnight พร้อมโชว์หลุดโลกจาก Beam Wong

  • Writer: Peerapong Kaewthae
  • Photographer: Beam Wong

25 พฤศจิกายน 2561

ใครยังไม่รู้จักวง Beam Wong บ้างยกมือขึ้น พวกเขาคือเหล่าวัยรุ่นที่หลงใหลในแนวเพลง experimental, noise และ ambient ขมวดเสียงสังเคราะห์ให้ออกมาเป็นดนตรีที่ลึกลับแต่พร่างพราวและแสบสันไปทั้งใบหู นอกจากความสามารถทางด้านดนตรี พวกเขายังสร้างสรรค์ศิลปะและผสมศาสตร์หลาย ๆ แขนงเข้าด้วยกันทั้งหนังสั้น วิดีโออาร์ต วิช่วลอาร์ต จนเกิดเป็นโชว์ที่น่าตื่นเต้น เช่นคืนนี้ที่จะฉายหนังสั้นแล้วมีเล่นสดให้ดูด้วย

Beam Wong

NOMA วันนี้ก็ถูกเนรมิตให้กลายเป็นลานฉายหนังสั้นแบบกองโจรหน่อย ๆ โดยหนังสั้นที่ฉายชื่อว่า MGB (MILLENNIUM GODDESS BITCH): STICKY MIDNIGHT เรื่องเกี่ยวกับหนุ่มสาวสี่คนกำลังเตร็ดเตร่ไปมายามราตรีในวันที่เวลาหลัง 23:59 ก็งอกกลายเป็น 23:60, 23:61 และ 23:62 ไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีเหตุผลและไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโปรเจ็ก JUNK FOOD FABLE ซึ่งเป็นหนังเกี่ยวกับช่วงเวลาอาหารจังค์ฟู้ดมื้อดึกของคนเมือง โดยทุกตัวละครถูกเชื่อมโยงกันผ่านวงไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปวงหนึ่งที่กำลังจะกลายเป็นพระเจ้าของโลกยุคใหม่ วันนี้ก็เป็นการระดมทุนอีกรูปแบบหนึ่งเพื่อสร้างให้เป็นหนังยาวอย่างที่พวกเขาตั้งใจไว้

หนังไม่มีบทพูดใด ๆ แต่เล่าเรื่องผ่านภาพอันเหงาหงอยหรือโดดเดี่ยวมาก ๆ ระหว่างฉายก็มีโปรเจ็กเตอร์ตัวเล็ก ๆ คอยฉายบอกเวลาอยู่ขวาล่างเพื่อบอกว่าในหนังตอนนี้กี่โมงแล้ว เมื่อเวลาถูกงอกไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะมาถึงมั้ย ทำให้เราตั้งคำถามกับตัวเองว่าถ้าไม่มีวันใหม่ แล้วเราจะใช้ชีวิตไปเพื่ออะไรกันแน่ สิ่งที่ทุกคนพยายามทำมาก็ไม่มีวันประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ยิ่งตัวซับเจ็กเป็นไอดอลด้วยแล้วที่ต้องใช้เวลาพิสูจน์ตัวเอง แต่เมื่อเวลาไม่มีอยู่จริง พวกเธอก็คงทำอะไรไม่ได้นอกจากกลับไปเป็นตัวของตัวเอง และได้แต่เฝ้าสงสัยว่าที่ผ่านมาคืออะไรกัน ซึ่งพระเจ้าสามหัวในเรื่องก็มีหน้าตาละม้ายคล้ายเหล่าไอดอลกลุ่มนี้อย่างบังเอิญ พระเจ้าอาจจะมาจากความปรารถนาอันแรงกล้าของไอดอลทั้งสามที่อยากจะหลุดพ้นจากโชคชะตาอันโหดครั้งนี้จนเกิดเหตุการณ์ประหลาดครั้งนี้ขึ้นมาก็ได้

ท้ายเรื่องหลังจากเครดิตขึ้น ก็เป็นหน้าที่ของ Beam Wong ที่จะกระชากทุกคนเข้าสู้มิติมืดด้วยเสียงสังเคราะห์อันรุนแรงเหมือนเป็น soundtrack ปิดของหนังนั่นเอง พวกเขาขยี้ทั้งคีย์บอร์ดและปุ่มทุกปุ่มอย่างเมามันประกอบวิชวลในหนังที่ซับซ้อนและแปลกประหลาด สมาชิกทั้งสามก็รับหน้าที่แตกต่างกันชัดเจน คนอื่นทำ ambient ค่อยสั่นสะเทือนจิตใจเราด้วยการสร้างบรรยากาศอันน่าหวาดวิตก อีกคนก็ลูปเสียงอันแหลมหลอนหูไปมาให้เราหมุนเคว้งอยู่ในโลกที่ไม่มีจริง คนสุดท้ายก็ค่อยบดคีย์บอดไปมาพร้อมหมุดหน้าปัดสร้างเสียงที่น่าหวาดหวั่น โบยตีเราด้วยความเศร้าจากโลกที่เราไม่เข้าใจ เป็นการอิมโพรไวส์ประกอบภาพที่สนุกและเพลิดเพลินมาก ๆ

ส่วนตัวเพิ่งเคยดูวงนี้เล่นสด ก็ต้องบอกว่าเพลิดเพลินสุด ๆ คงเพราะเราอินสายนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าคนทั่วไปได้ลองเปิดใจก็อาจจะรู้สึกได้ว่าดนตรีของพวกเขามันน่าสนใจมากจริง ๆ หลายคนบอกว่าคืนนี้พวกเขาเล่นได้พริ้วขึ้นเยอะ ก็โชคดีที่เราได้ดูวันที่วงเขาเล่นได้ดีที่สุดแล้ว ยังไงก็คงติดตามวงนี้ต่อไปเพราะเขาชอบมีโชว์แปลก ๆ มาให้เราตื่นเต้นได้อีก ถ้าใครสนใจวงเฮี้ยน ๆ แบบนี้หรือสนใจอยากช่วยระดมทุนให้หนังสั้นของพวกเขากลายเป็นหนังยาวขึ้นมาจริง ๆ ก็ไปกดไลก์เพจ Beam Wong เลยจ้า

Facebook Comments

Next:


Peerapong Kaewthae

แม็ค เป็นคนชอบฟังเพลงเพราะเป็นกิจกรรมที่ทำคนเดียวได้ และก็ชอบแนะนำวงดนตรีหรือเพลงใหม่ ๆ ให้คนอื่นรู้จักผ่านตัวอักษรตลอดเวลา