ผ่านไปแล้วกับ Matt Maltese Live in Bangkok 2024 เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2024 ณ  MCC HALL, THE MALL LIFE STORE BANGKAPI นับเป็นครั้งที่สามของเขาที่ได้มาแสดงสดในกรุงเทพ เราเชื่อว่าครั้งนี้เป็นอีกครั้งที่ทุกคนลุ้นว่าเขาจะขนเพลงฮิตเพลงไหน หรือหยิบอัลบั้มไหนมาเล่น แน่นอนว่าคราวนี้พิเศษตรงที่มี LANDOKMAI มาเป็น opening act ด้วย

LANDOKMAI

และแล้วก็มาถึงเวลา 19:00 เดิมทีจะเป็นเวลาประตูเปิด และเราจะได้ดูลานดอกไม้พร้อมกันในเวลา 19:45 แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดคิดที่ทำให้เวลาเปิดประตูช้าลงไปราว 2 ชั่วโมง แต่เมื่อได้เดินเข้ามาพร้อมกับเสียงดนตรีจาก LANDOKMAI เราก็ชื่นใจจนลืมเวลาก่อนหน้าไปเลย แอนท์​, อูปิม และผองเพื่อนมาพร้อมกับโชว์ที่งดงาม เริ่มต้นด้วยเพลงช้ากินใจอย่าง เมื่อไหร่ที่คิดถึงเธอ ก็สะกดคนได้ทั้งฮอลล์ ต่อกันด้วยเพลงสากลเพลงเดียวจากพวกเธออย่าง Taxi ที่ทำให้เราเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ตามมาติด ๆ กับ B-D-BUB-BA เพลงชวนเต้นที่ต้องขยับที่คราวนี้มาในแบบบอสซาโนวา ช่วงที่น่ารักแล้วทำเรายิ้มตามคือระหว่างที่กำลังแนะนำสมาชิกในวง ทุกคนได้โซโล่เครื่องดนตรีในมืออย่างสนุกสนาน ทำให้โชว์ยิ่งสนุกมากยิ่งกว่าเดิม ก่อนจะส่งต่อให้ ยอม เพลงที่ฮิตที่สุดอีกหนึ่งเพลงในปีนี้ แน่นอนว่าเหล่าคนดูต่างก็ร้องตามกันได้เสียงดัง และแล้วก็มาถึงเพลงสุดท้าย เพลงที่อบอวลไปด้วยความรักอย่าง เพลงรักเพลงแรก ที่เรารู้สึกว่ามันผ่านไปเร็วเหลือเกิน ไม่อยากให้จบเลยแม้แต่น้อย

เดี๋ยวเจอกันข้างล่างนะคะ อูปิมกับแอนท์ก็จะไปดู Matt Maltese เหมือนกัน – อูปิม

Matt Maltese Live in Bangkok 2024

บอกลากันเสร็จสรรพก็ถึงเวลาของพ่อหนุ่ม Matt Maltese และผองเพื่อน ที่ระหว่างรอ change over เพลงที่เราได้ฟังในเพลย์ลิสต์นั้นสนุกสนานแบบคาดเดาไม่ได้แม้แต่น้อย ประจวบเหมาะเวลาราว 21:45 ไฟได้ดับลง พร้อมกับการเดินขึ้นมาของพวกเขาทั้ง 4 ใช่ ครั้งนี้แมตมีนักดนตรีเพิ่มมาในส่วนของ multi-instruments ที่มาเล่นหลากหลายเครื่องอย่าง lap steel หรือกีตาร์ไฟฟ้าในโชว์ของเขาเพิ่มเติม ขึ้นมาถึงก็ซัดเริ่มเลยด้วย You Deserve An Oscar ที่ทุกคนร้องตามท่อนฮุกกันอย่างถนัดปาก แล้วตามมาด้วย Rom-Com Gone Wrong เพลงที่ทุกคนรู้ทันทีตั้งแต่เสียงเปียโนขึ้น ก่อนจะส่งต่อให้เพลงจากอัลบั้ม Driving Just To Drive อย่าง Irony Would Have It เพลงที่รอบที่แล้วเขายังไม่ได้เล่น และส่งต่อให้ Curl up & Die เพลงที่ทุกครั้งแมตจะเล่าว่าเขียนได้บนเครื่องบิน มาถึงรอบนี้เขาไม่เล่าแล้วนะ (ขำ) ส่งไม้ต่อให้ Mother เพลงฮิตจากอัลบั้มเกือบล่าสุด ทุกคนมีแม่คนเดียวจริง ๆ สำหรับเพลงนี้ แค่ 5 เพลงแรกแฟน ๆ ก็มีความสุขจนลืมไปแล้วว่าการรอคอยในช่วงแรกมันยาวนานแค่ไหน

แต่แมตยังไม่หยุดมอบความสุขให้เราต่อ ด้วยการบอกว่ามีศิลปินคนหนึ่งที่จะมาร่วมร้องเพลงกับแมตในค่ำคืนนี้ พร้อมเฉลยด้วยการเห็นพร้อมกัน เขาคนนั้นคือ ภูมิ–วิภูริศ ขึ้นมาแจมกันในเพลง Mystery จากอัลบั้ม Good Morning It’s Now Tomorrow หลังจากภูมิลงไปก็ซัดต่อด้วย madhouse ที่เมดเลย์มาต่อกับ Jupiter อะเรนจ์ใหม่เพราะพริ้ง แล้วส่งต่อให้ Strange Time ที่รอบนี้ไม่ได้หยิบมาเล่นแบบบอสซาโนวาเหมือนครั้งก่อน ๆ แล้ว ซีนไลต์ติ้งในเพลงนี้ก็สวยมาก ไฟสีแดงน้ำเงินที่ชูคำว่า red couch ในเพลงได้แบบงดงาม ส่งต่อให้เพลงรักหวานซึ้งอย่าง Krystal ก่อนจะสวิตช์อารมณ์เราให้ดำดิ่งไปกับเพลงที่น้อยแต่มากนามว่า Less and Less แล้วใครเล่าจะรู้ว่าเพลงต่อไปจะคือหนึ่งในเพลงจากอัลบั้ม Songs That Aren’t Mine อย่าง Kiss Me สุดจะคลาสสิก แมตเองก็รู้ว่าเล่นเพลงนี้ละคนร้องได้แบบไม่ต้องสงสัย และส่งต่อให้เพลงคนตัวเล็กอย่าง Little Person เพลงเก่าที่หยิบมาปัดฝุ่นโดยแมตและกลายเป็นอีกเพลงที่ถูกจดจำ เพราะจนไม่อยากให้เพลงจบ

ผ่านเวลามาราวชั่วโมงเมื่อจบ Little Person แมตก็เอ่ยปากว่า เพลงต่อไปจะเป็นเพลงสุดท้ายที่เป็นเพลงอกหักแล้ว และแน่นอนนี่เป็นสิ่งที่เราเองก็คาดไม่ถึงว่าเขาจะหยิบ Studio 6 เพลงจาก EP แรกในเส้นทางศิลปินของเขาที่ชื่อว่า In The New Bed มาเล่น (ทำเอาฝันหวานเพลง Studio 6 มาจนถึงตอนนี้) ฟินระเบิดของจริง ตบเข้า Nightclub Love สวย ๆ กับบทพูดคุ้นเคยที่ออกจากปากแมตว่า ในชีวิตเขานี่ไปคลับมาแค่ 1 ครั้งครึ่งเอง (แต่ได้เพลงนี้มาก็คุ้ม!) และแล้วเพลงที่เชื่อว่าไม่มีใคร ณ ที่ตรงนั้นไม่รอคอย เพลงฮิตแรกจากแมต As The World Caves In ก็ดังขึ้น รอบนี้ใช้ศอกเล่นเปียโน! สุดแสนจะอิ่มใจกับดนตรีที่ทางวงเล่น เชื่อแล้วว่าพอมี 4 คนแล้วมันอิ่มยิ่งกว่าเดิมจริง ๆ ทิ้ง chamber pop แบบเดิมไปได้เลย รอบนี้เข้มข้นมาก และส่งต่อเชื่อมกับ Intolewd แบบเนียน ๆ (I was doing fine, and then I met you จริง ๆ) แล้วพวกเขาก็ลาลงจากเวทีไป

วัน มอร์ ซอง

แต่ใครจะยอมให้จากทุกคนตะโกนพร้อมกันว่า “วัน มอร์ ซอง” อยู่ราวสิบรอบ ก่อนที่แมตจะเดินขึ้นมาใหม่แบบคนเดียว นั่งอยู่ตรงกลางเปียโนตัวใหญ่ พร้อมโซโล่ When You Wash Your Hair แบบหวานซึ้งปลอบประโลมหัวใจได้เป็นอย่างดี แต่ยังไม่หมดเท่านี้ “วัน มอร์ ซอง” ยังมีอยู่จริง เพราะวงเดินตามขึ้นมาพร้อมส่งท้ายค่ำคืนนี้ให้พวกเรากลับบ้านนอนหลับฝันดีกับ Everyone Adores You (At Least I Do) เสียงร้องกระหึ่มฮอลล์ดังส่งท้าย เชื่อว่า Matt Maltese และเพื่อน ๆ ก็คงกลับบ้านหลับฝันดีเช่นเดียวกัน เพราะแฟน ๆ ร้องเพลงตามได้แทบทุกเพลง

นับเป็นค่ำคืนที่อิ่มเอมมาก เป็นการดู Matt Maltese รอบที่สามของเรา ตั้งแต่ Maho Rasop Festival 2022, คอนเสิร์ตเดี่ยวปี 2023 มาจน Matt Maltese 2024 ที่เต็มไปด้วยสุขใจ แม้ยังมีเพลงอีกมากที่อยากฟัง แต่ก็รอวันที่จะมี Matt Maltese Eras Tour จริง ๆ พ่อหนุ่ม singer-songwriter จากเกาะฟากนู้นมอบความสุขช่วงไตรมาสสุดท้ายให้พวกเราได้เป็นอย่างดี ขอขอบคุณ OD LIVE ที่พาพวกเขากลับมา ไว้พบกันใหม่ เมื่อคิดถึง

Maho Rasop Festival 2022 กว่า 1,098 วันที่เฝ้ารอกันมา คุ้มค่าแล้ว!

• Twitter
• Line