JAMnight Live! with Mac Ayres รับฟังบทเพลงไพเราะจากเจ้าของเสียงร้องสุดละมุน
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: Montipa Virojpan and Hear and There
การมาเยือนไทยครั้งแรกของ Mac Ayres ทำให้ใครหลายคนตื่นเต้นและไม่คาดคิดว่าจะได้ดูเขาเร็วขนาดนี้เพราะเพิ่งปล่อยอัลบั้มไปได้สองชุดเท่านั้น จนบัตรที่เปิดขายในรอบแรกหมดลงในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ผู้จัดอย่าง Have You Heard? ต้องย้ายสถานที่เพื่อรองรับความต้องการอันล้นหลามของแฟนเพลงของศิลปินคนนี้ได้อย่างทั่วถึง และคอนเสิร์ต JAMnight Live! with Mac Ayres ก็ถูกจัดขึ้นในคืนวันพุธที่ผ่านมา
6 มีนาคม 2562
เรามาถึงที่ Voice Space ก่อนเวลาที่วงแรกจะขึ้นเล่นเพื่อหาอะไรใส่ท้องหน่อย ก็มีฟู้ดทรัคของ Block Burger Bus และ Alice Pizza เจ้าเก่าให้ได้จัดไปตามระเบียบ เมื่อเสร็จภารกิจแล้วก็รีบวิ่งไปกด Jameson เข้าไปประจำการในฮอล แล้วเวลาก่อนสามทุ่มไม่กี่นาที Supergoods ก็พร้อมแล้วที่จะเริ่มการแสดง แม้ความประหม่าจะทำให้เกิดปัญหาทางเทคนิคเล็กน้อยในช่วงต้นของอินโทรเพลง Come Rain or Come Shine แต่ไม่นานพวกเขาก็โชว์ความเป็นมืออาชีพทำให้โชว์ไปต่อได้อย่างแนบเนียน แล้วด้วยความที่เสียงร้องได้มาอยู่กับเครื่องเสียงดี ๆ ด้วยเลยทำให้เราได้ยินเสียงที่เต็มศักยภาพของมาย นักร้องนำ จริง ๆ เป็นครั้งแรก พลังที่เคยได้รับยิ่งพุ่งพล่านเข้าไปอีก แล้วท่อนคอรัสในตอนท้ายก็อะเรนจ์ใหม่เป็นคีย์เมเจอร์สดใส เพราะมาก ๆ สน้อป มือกีตาร์ก็โชว์โซโล่ไลน์พริ้ว ๆ ซาวด์แบบ 80s ลูกกลองของอาร์มช่วงท้ายเพลงที่เล่นดึงจังหวะกรูฟ ๆ หน่อย เท่มาก
แล้วพวกเขาก็สร้างความมหัศจรรย์จากการเชื่อมด้วยกีตาร์เนียน ๆ เข้าอีกเพลงที่ชื่อ Bye Bye ซาวด์แน่นหนักหน่วง และหนึบหนับมาก ซึ่งมีตอนนึงที่สน้อป เอิม มือกีตาร์อีกคน และเบล มือเบส โยกหัวเป็นจังหวะริฟฟ์เดียวกันในช่วงก่อนเข้าท่อนบริดจ์ ท้ายเพลงก็สาดใส่พลังกันแบบอะเวนเจอร์มาก ๆ
จนเพลงต่อไป มายบอกว่าเป็นเพลงใหม่ที่เพิ่งเขียนเสร็จเมื่อไม่กี่วันก่อน เป็นเพลงช้าสุดของวงที่ได้ บอส นักร้องนำวง Rootsman Creation มาร่วมร้องด้วย เป็นครั้งแรกที่เราได้ยินเขาใช้เสียงร้องแบบนี้เพราะปกติจะร้องเพลง rocksteady ที่ก็ใกล้เคียงการร้อง r&b หรือโซลนิดนึง แต่อันนี้คือละมุนมาก แค่ยังแอบติดดึงจังหวะหนืดเหมือนตอนร้องเร็กเก้มาด้วย พอมาเป็นคู่เสียงกับมายคือดีงามไปหมด แค่นึกถึงยังขนลุกเลย เมโลดี้เพลงนี้ก็เพราะเอามาก ๆ ด้วย
ถึงเวลาของเพลงสุดท้ายซึ่งเป็นซิงเกิ้ลแรกที่พวกเขาปล่อยออกมาใน Blue Dreams ซึ่งพวกเขาก็กลับมาเล่นแบบดั้งเดิมที่เคยปล่อยมา จากที่งานที่แล้วรีอะเรนจ์ให้เมโลดี้สดใสขึ้น อันนี้ก็มีการปรับเปลี่ยนใส่ลูกเล่น ดึงจังหวะให้หนืดกรูฟ ๆ มีท่อนให้มายได้โชว์เสียงในฮุคต่อมา แล้วช่วงท้ายเพลงก็แอบใส่ความดั๊บเข้าไป และให้คนดูช่วยคอรัส แล้วทุกคนก็ทำตามอย่างพร้อมเพรียง แล้วก็มีพาร์ตที่มายได้อิมโพรไวส์แบบปล่อยพลังกดสุด เท่มาก พร้อมกับท่อนดรัมแอนด์เบสสไตล์แจ๊สเร็ว ๆ เร้า ๆ และปิดท้ายกันไปในเพลง Bye Bye Reprise อย่างรื่นรมย์
Supergoods บอกว่านี่เป็น opening act ครั้งแรกในชีวิต ซึ่งปกติเราจะได้ดูพวกเขาที่บาร์ดนตรีสดตั้งแต่สมัยยังเล่นคัฟเวอร์ หรือในยุคที่มีเพลงของตัวเองแล้วส่วนใหญ่ก็จะเป็นงานเล็ก ๆ เท่านั้น ทั้งที่พวกเขาเป็นวงที่มีความสามารถทั้งด้านการเรียบเรียงเพลงและ performance ซึ่งวงควรจะไปได้ไกลกว่านี้มาก ๆ ดังนั้นการได้เล่นเปิดให้ Mac Ayres ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับวงที่จะทำให้ทุกสายตาต้องประจักษ์ในความสามารถของยอดฝีมือเหล่านี้ ซึ่งระหว่างที่ดูอยู่ จากคนดูหลายคนที่ดูจะไม่รู้จักวงมาก่อน พอไปกลาง ๆ โชว์เริ่มโยก เริ่มทำตามสิ่งที่วงขอให้ทำ แล้วมีเสียงตบมือเสียงเฮดังลั่นตอนที่เล่นจบในทุก ๆ เพลง น่าเสียดายที่มีแค่สี่เพลงมาโชว์ ยังอยากฟังต่ออยู่เลย แต่งานนี้น่าจะโกยแฟนคลับกลับไปได้เยอะเลย ดีใจกับวงมาก ๆ
จนถึงเวลาสี่ทุ่มก็เป็นคิวของวง headliner ของวันนี้นั่นคือ Mac Ayres แฟนเพลงร้องลั่นเมื่อเขามาปรากฏตัวบนเวทีพร้อมกับแนะนำเพื่อนมือแซ็กโซโฟนของเขา (ไม่แน่ใจว่าว่าคือ Chris Anderson หรือเปล่าเพราะได้ยินไม่ค่อยชัด) ที่มาร่วมแสดงในโชว์นี้ แล้วเริ่มเล่นเพลง Under งานจากอัลบั้มล่าสุด Something To Feel ที่มีท่อน ท่อนคีย์บอร์ดโซโล่ หนึบ ๆ ยึบยับ ก่อนจะกลับมาที่ชุด Drive Slow กับเพลง Calvin’s Joint ที่มีโซโล่แซ็กโซโฟนสุดหวานกับโซโล่คีย์บอร์ดเท่ ๆ ตามด้วยเพลง Roses งานสุดเพราะที่ไฟได้ฉาบให้บนเวทีเปลี่ยนเป็นสีชมพูกลีบกุหลาบ โซโล่กลองที่พาให้เราติดอยู่ในภวังค์ กับท่อนหลังที่ fade out ไปอย่างงดงาม ฟังมาถึงตอนนี้ เรารู้สึกว่าเสียงร้องของแม็คมีความหนักแน่นและละมุนละไมในขณะเดียวกัน ซึ่งพลังเสียงไม่ตกแม้แต่น้อย ราวกับว่าฟังจากออดิโอยังไงยังงั้น ซึ่งเพลงต่อไปที่เขาเล่นก็เป็นเพลงใหม่ (อาจจะไปหาฟังก่อนได้ที่ Soundcloud นะ) มีซาวด์กรุ๊งกริ๊งน่ารักจากคีย์บอร์ดในเพลงนี้ ซึ่งเชื่อมเข้าเพลงต่อไป Get to You Again ได้อย่างเนียนกริ๊บ และเพลงนี้เขาก็ได้โชว์พลังเสียงที่กินขาดจริง ๆ
แม็คพูดกับคนดูว่า นี่เป็นครั้งแรกที่มาเล่นที่กรุงเทพ ฯ ขอบคุณทุกคนที่มาดู แล้วจึงเข้าเพลง Waiting ที่กลองกับคีย์บอร์ดช่วงเข้าเวิร์สสองเป็นการเปลี่ยนสัดส่วนเพลงที่เหนือความคาดหมายมาก โซโล่แซ็กโซโฟนก็เท่สุด ๆ และในเพลง I’ve Always Been ก็เป็นการที่เขาร้องและเล่นกีตาร์ขึ้นมาคนเดียวเงียบ ๆ ก่อน ขนลุกไปหมดแล้วค่า จบเพลงนี้เขาก็กล่าวขอบคุณและบอกว่ายังเหลืออีก 2-3 เพลง นั่นคือ She Won’t Stay Long ที่เชื่อมเข้าเพลง Slow Down ที่แค่อินโทรมาคนดูก็ร้องกรี๊ดและร้องตามทันที ส่วนเพลงต่อไปก็เป็นงานใหม่ของเขาที่ยังไม่ปล่อย ต่อด้วยเพลงฮิตสุดหวาน Easy ที่ฟังแล้วเคลิ้มไปตาม ๆ กัน แล้วเขาก็บอกว่า ยังมีอีกเพลงให้ฟัง นั่นคือ Since You Been Gone I’ve Been Lonely ซึ่งเป็นงานใหม่ แล้วปิดท้ายกันด้วย Stay และกล่าวขอบคุณเพื่อนมือแซ็กโซโฟนของเขาอีกครั้งก่อนจะลงจากเวทีไป
ตอนนั้นคนดูยังยืนรอคาดหวังว่า Mac Ayres จะเล่นเพลงเพิ่มอีกสักหน่อย แต่กลายเป็นว่าจากที่ตบมือ ร้องเรียกอังกอร์ไปพักใหญ่ ๆ ก็ไม่มีการกลับมาปรากฏตัวบนเวทีอีกครั้งของพวกเขา ซึ่งค่อนข้างน่าเสียดายที่โชว์จบเร็วไปนิดและมีหลาย ๆ คนรอฟังเพลงที่ยังไม่ได้เล่น แต่เชื่อว่าแฟน ๆ ของหนุ่มคนนี้คงจะฟินกันไปไม่น้อยกับความสามารถของเขา และน่าตื่นเต้นที่เขาหยิบเพลงใหม่ ๆ มาให้ลองฟังกันก็ถือว่าน่าสนใจทีเดียว รอฟังงานอัลบั้มต่อไปได้เลย
ส่วนงานต่อไปของ Have You Heard? ที่จะเกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ก็มีศิลปินกรูฟตัวโหด Thundercat รออยู่ที่ Thundercat Live! by My Beer บัตรกำลังทยอยหมดไปเรื่อย ๆ เข้าสู่ phase 2 กันแล้ว อย่าชะล่าใจ ไปกดได้เลยที่ Ticketmelon.com