electric.neon.lamp Life in Neon
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: Montipa Virojpan
7 ธันวาคม 2559
“ความรู้สึกของการดูคอนเสิร์ตณีอรเมื่อวานนี้เหมือนพาเรากลับไปอยู่ปีหนึ่งอีกครั้ง” อิ๊กไม่ได้กล่าว แต่อิ๊กรู้สึกแบบนั้น
จำไม่ได้ว่าการได้ดู electric.neon.lamp เล่นสดครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อไหร่ แต่บรรยากาศมวลรวมที่อัดแน่นไปด้วยความทรงจำกับวงนี้มันคือช่วงที่เราอยู่ปีหนึ่งปีสองมั้ง (ประมาณปี 2012) ซึ่งก็เป็นปีที่เราได้ดูณีอรแบบบ่อย ๆ เพราะเป็นช่วงโปรโมตแล้วก็ไปเล่นหลายงานเชียวล่ะ ตอนมีงานกิฟต์คณะข้าง ๆ เขาก็มาเล่น แล้วก็จำได้ว่ามีแฟนคลับตามเขาเยอะมาก ๆ ด้วย ซึ่งช่วงเวลาแบบนั้นมันก็เลือนหายไปตามกาลเวลา วงใหม่ ๆ ก็ผุดขึ้นมาเป็นดอกเห็ด เพลงใหม่ของณีอรก็ยังไม่ออกมาในช่วงนี้ เราเลยได้ดูณีอรน้อยลงไปถนัดตา
แต่งานที่กำลังจะเกิดขึ้นปลายปี 2016 ที่ร้าน Play Yard เนี่ย เรียกได้ว่าเป็นการรียูเนียนครั้งใหญ่ของเรากับณีอร เพราะจะได้ฟังเพลงเก่า ๆ ที่คุ้นเคยดี เพลง side B ที่ไม่เคยเล่นที่ไหน เพลงที่มีโอกาสเล่นน้อยมาก และเพลงที่ทำเดโม่ไม่ผ่านมาเล่นในงานนี้ด้วย
ช่วงสามทุ่มกว่า Telex Telexs ก็ขึ้นเล่น กลิ่นอายซินธ์ป๊อป 80s คละคลุ้งไปทั้งงาน จุดนี้มวลมหาประชาชนแน่นมาก ไม่สามารถเบียดไปด้านหน้าได้เลยข่ะ จะเป็นลม ซึ่งเพลงแรกที่พวกเขาเล่นเหมือนว่าจะเป็นเพลงใหม่ ฉันไม่เคยฟังที่ไหน ก็ยังคงสไตล์แบบเทเล็กซ์ได้เป็นอย่างดี ต่อด้วยเพลงที่สองที่ก็เป็นเพลงใหม่เหมือนกัน ชื่อ Bad Old Day ที่ปิ้วมาเป็นคนร้องแทนออม แม้ชื่อเพลงจะเป็น negative ก็เถอะ แต่เทียบกับบรรดาเพลงอื่น ๆ ที่จะดูหม่นเท่ไปเสียหมด เพลงนี้คงเป็นเพลงแรกมั้งที่ให้โทนสว่าง ๆ ซึ่งเราค่อนข้างถูกใจเปนพิเศษกับมุมนี้ของเทเล็กซ์ จากนั้นก็กลับมาเป็นเพลงจังหวะสนุก ๆ ที่ร้องเป็นภาษาอังกฤษ แล้วก็เป็นซิงเกิ้ลที่พวกเขาเพิ่งปล่อยไปกับ Wayfer Records ชื่อ Shibuya ต่อด้วยเพลง ถาม ก่อนจะปิดท้ายกันที่ La Belle ที่คนดูร้องกันลั่นร้านอย่างสนุกสนานทั้งสองเพลง บอกเลยว่า lighting ช่วงนี้พุ่งพล่านมาก นี่ก็เมาไฟกันเลยทีเดียว
หลังจากนั้นก็มีเวลาให้พักหายใจหายคอปรับฟีลกันเล็กน้อย พอสี่ทุ่มนิด ๆ หลังได้ยินเสียงรวมพลังของสมาชิกวงแล้ว พวกเขาก็ขึ้นมาปรากฏตัวในชุดขาวดำเรียบ ๆ (หยั่งกะบอยแบนด์) เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงได้ล้นหลาม ซึ่งตอนนี้เราและทีมงานฟังใจก็มากรูกันหน้าเวทีพร้อมเป็นหน้าม้ากันเต็มที่ แอบมองไปรอบ ๆ ก็พบว่าคนแน่นขนัด และสายตาทุกคู่จับจ้องมาทางเวทีอย่างตั้งใจ เพลงแรกที่พวกเขาเล่นให้เราฟังในคืนนี้คือ นิมมาน เป็นการอุ่นเครื่องเปิดโชว์ได้ดี ต่อกันที่ รักคือลาภอันประเสริฐ ซึ่งสองเพลงนี้เราเองก็ไม่แน่ใจว่าเป็นเพลงจากเซ็ตไหนเพราะไม่เคยฟังมาก่อน แทบจะเป็นต้นตำรับของณีอรเขาเลยมั้ง เรียกว่านั่งไทม์แมชชีนกันไปไกลโพ้นเลยทีเดียว ต่อมาก็เป็นเพลงที่คุ้นเคยกันขึ้นมาอีกนิดอย่าง สลาย ที่เคยเล่นในเซ็ตเมื่อสี่ปีก่อน รวมถึง รถไฟแห่งความฝัน โอ้โห ภาพมัน flashback อะ จำโมเมนต์ที่นั่งห้อยขาดูโชว์ตรงชั้นลอยครุศิลป์ที่สามารถประจัญหน้ากับศิลปินได้เพราะเวทีตั้งอยู่ตรงข้ามกันพอดี แล้วเพลง รถไฟ ฯ นี่ ไปเล่นที่ไหนก็จะชอบทุกครั้งเพราะเสียงกีตาร์อะไรทำให้คล้ายเสียงหัวรถจักร
ต่อกันด้วยเพลงจากอัลบั้ม Bright Side (หาฟังได้ในฟังใจนะจ๊ะ) ที่คนดูเริ่มร้องกันได้มากขึ้นแล้ว โดยเฉพาะกับเพลง Life in Neon ที่อาจจะเป็นเพลงที่ทำให้พวกเขาเป็นที่รู้จักแบบสุด ๆ เลยในช่วงนั้นก็ได้มั้ง พูดแล้วขนลุก แล้วก็เป็น Finalé ซึ่งเพลงนี้เราได้ฟังเขาเล่นสด ๆ ในงานนี้ครั้งแรกแหละ โอ้โห เอาจริงต้องบอกว่าณีอรเป็นวงนึงที่มีความสามารถในการแต่งเนื้อและเลือกทำนองมาใส่ได้อย่างเหมาะสมเพื่อฆ่าคนให้ตายได้ ถ้าอกหักแล้วมาฟังนะมึงงงง นี่ยังแอบน้ำตาซึมเลยเจ้า ก่อนที่จะเป็นเพลง ฤดูกาลของฉัน เพลงอบอุ่นหอมหวานในวันวานที่ยังทำงานได้ดีจนทุกวันนี้ แล้วค่อยเป็นเพลง ภาวินี ที่ได้ยินเสียงร้องดังกระหึ่มกันอีกครั้ง จากนั้นก็เป็นเพลง พบ เพลงน่ารักอีกเพลงที่นำมาเล่นแบบอะคูสติกอย่างในอัลบั้ม
แล้วก็ได้ย้อนอดีตกันอีกรอบที่เพลง Employee Of The Month อื้อหือ ภาพมันมาอีกครั้งฮะ แล้วคราวนี้ก็รู้สึกว่าวงเล่นกันแบบสาดพลังสุด ๆ คิดถึงโมเมนต์ร็อกหนัก ๆ แบบนี้เหมือนกัน แล้วก็กลับมาที่เพลงในอัลบั้ม Bright Side กับ โลกที่หมุนไป เหมือนว่าเป็นครั้งแรกที่ตั้งใจฟังเนื้อหาเพลงนี้แบบจริง ๆ จัง ๆ ขอยกให้เป็นอีกเพลงที่สามารถฆ่าคุณให้ตายได้ ต่อกันที่เพลงที่เขาว่าทำเดโม่มาแล้วไม่ผ่าน ชื่อว่า เธอต้องทน และ อวกาศ ที่เป็นเพลงสนุก ๆ ทั้งสองเพลง สูบฉีดอะดรีนาลีนกันอย่างเดือดดาล
แล้วช่วงนี้ก็เป็นเซอร์ไพรส์ ที่สมาชิกวงสลับตำแหน่งกันเล่นเพลง Nightmare (เธอที่ร้าย) โดยเต้กับแป๊กก็ไปเล่นกีตาร์ แทนไปตีกลอง อุนเล่นเบส ส่วนเจนรับหน้าที่ร้องเหมือนเดิม ซึ่งพอเล่นออกมาก็กลายเป็นเพลงฟังก์ฟังกันชิว ๆ กับท่าทีของแต่ละคนที่ดูเก้ ๆ กัง ๆ ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนจริง ๆ ฮ่า ก่อนจะกลับมาเล่นตำแหน่งเดิมและอัพบีทด้วย นางรอง โทรจิต และเธอที่ร้าย กันอีกรอบ ซึ่งแม้จะเล่นจบไปแล้วก็ยังมีเสียงอังกอร์จากแฟนเพลงไม่ขาดสาย ของเขาแรงจริง ๆ วงนี้
บรรยากาศของงานเมื่อคืนนี้คือการย้อนอดีตที่แท้จริง สนุกมาก ปล่อยผีมาก เราประทับใจกับวงที่แม้จะเล่นหลุดบ้างแต่ก็ปล่อยพลังออกมาเต็มที่ เหมือนเล่นให้คนดูหายคิดถึง ส่วนคนดูหลาย ๆ คนที่ร้องและเต้นแบบไม่เหนียมอาย ความจริงแล้วที่สังเกตคือในร้านเนืองแน่นไปดูผู้คนคุ้นตา แต่นอกจากคนที่เจอกันบ่อยตามงานพวกนี้แล้ว มีคนฟังหน้าใหม่ ๆ หน้าเด็ก ๆ เต็มร้านเลยว่ะ ก็ดีใจกับวงเหมือนกันที่ทำเพลงมายาวนานและมีแฟนคลับรุ่นใหม่ ๆ ติดตามงานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่ก็สงสัยว่าพวกรุ่นชั้นมันหายไปไหนกันหมด และอีกสิ่งที่ค้นพบคือ ตรูยืนเย้ว ๆ โดด ๆ ไปกับคอนเดือด ๆ งี้ไม่ไหวแล้ว ปวดเอวสุดไรสุด รู้สึกแก่ขึ้นมาทันที ก่อนที่พี่จะยืนไม่ไหว ฝากน้อง ๆ แฟนคลับรุ่นใหม่ ๆ สานต่อปณิธานพี่ด้วยนะคะหนูลูก ฮืออออ