อิ่มเอมไปกับ Jason Mraz กับคืนแห่งความสุขตลอด 2 ชั่วโมง ใน ‘Good Vibes Tour’
- Writer: Malaivee Swangpol
หลังจากได้มาเติมเต็มความสุขไปเมื่อ 4 ปีที่แล้วใน Jason Mraz and Raining Jane ซึ่งยังคงไพเราะอยู่ในหูเราถึงทุกวันนี้ วันนี้ก็ได้ฤกษ์ที่เขาเวียนมาทักทายเราอีกครั้งใน Good Vibes Tour ซึ่งด้วยเพลงเพราะ ๆ , ชุดสีสันสดใส และมุกตลกสไตล์คนอารมณ์ดี ก็เพียงพอที่จะทำให้ตลอด 2 ชั่วโมงเป็น good vibes ที่ดีมาก ๆ ของเรา ว่าแล้วก็ตามเรามามีความสุขกันเลย
เราแวะเติมเต็มท้องก่อน เลยพลาดช่วงแรกของโชว์ สิงโต นำโชค และทอม อิศรา แต่ตอนที่เข้าไปได้ยินเพลง ชายกลาง พวกเขาก็บิวต์ความสนุกได้สุดมาก ๆ กับพลังงานที่ล้นเหลือจากนักดนตรีเต็มเวที ก่อนจะส่งต่อให้ทอม ที่เราได้ฟังเพลง Restart กับเสียงโซโล่กีตาร์บาดใจ แล้วตามด้วย เป็นทุกอย่าง ซึ่งเขาชวนทุกคนยกมือสูง ๆ แล้วปรบมือตามกันอย่างสนุกสนาน จากนั้นสิงโต นำโชค ก็กลับมาอีกครั้ง แล้วแซวตัวเอง “สัญญาว่าหลังจากเพลงนี้ ทุกคนจะได้เจอกับพี่เจสันอย่างแน่นอน (หัวเราะ)” แล้วชวนทุกคนส่งเสียงกรี๊ดให้กับ ศิลปินที่หน้าตาดีที่สุดในประเทศไทย ฮ่า ๆ จากนั้นเป็นเพลง อยู่ต่อเลยได้ไหม ที่ตอนฮุกเป็นท่อนดรอป ชวนทุกคนมาโบกไม้โบกมือ แล้วปิดท้ายไปด้วยคำว่า เธอออออ หลาย ๆ รอบ ๆ ก่อนจะจบลงแบบยิ่งใหญ่
รอไม่นานมาก ไฟก็มืดลงตอนสองทุ่มยี่สิบนาที ซึ่งเราได้เห็น Jason Mraz เกากีตาร์ขึ้นมาเบา ๆ แล้วร้องเป็นทำนองว่า สวัสดีคร้าบ ที่ทำให้หลาย ๆ คนต้องอมยิ้มแน่นอน วันนี้เขามาในชุดสบาย ๆ ลายเปื้อนสีสุดน่ารัก กับกีตาร์ที่ทาสีด้วยเฉดเดียวกับ back drop บนเวที ก่อนจะเริ่มด้วยการชวนเราวอร์มเสียง ‘มาร้องเพลงกันครับ หายใจเข้าลึก ๆ มาร้องตามผมกัน’ แล้วชวนทุกคนร้องเสียง อาาา จากนั้นก็กล่าวขอบคุณคนดูที่มา แล้วก็เป็นเพลง Let’s See What The Night Can Do ที่เริ่มจากดนตรีบาง ๆ แค่เพียงเสียงร้องของเขากับกีตาร์และเปียโน แถมด้วยกิมมิคน่ารัก ๆ ตรงท่อน And we’ll stand in a canyon alone ที่เขาเปลี่ยนเนื้อร้องเป็น And we’ll stand in Impact alone, Singing our favorite songs ฮือออ!! อย่างอิน ก่อนตอนจบก็ร้องท่อน I wanna get lost กับ Let’s see what the night can do ประสานคู่กัน เพลงเพราะมาก ๆ จากนั้นก็ต่อด้วยเพลง Living in the Moment กับเสียงผิวปากที่นำขึ้นมาที่เขาชวนคนปรบมือตามอย่างสนุกสนาน เพลงนี้ท่อนฮุกเน้นจังหวะยกสุดสนุก ก่อนฮุกสุดท้ายจะประสานกันแบบไพเราะ แล้วจบแบบอะแคปเปลลา
ต่อด้วย The Remdy (I Won’t Worry) ที่เขาร้องชวนคนดูยกสองมือขึ้นลง โบกซ้ายขวา และปิดท้ายด้วยการให้ไฮไฟว์กับคนข้าง ๆ น่ารักมาก เพลงนี้เขาเปลี่ยนท่อนฮุกเป็นจังหวะเรกเก้ ที่แถมด้วยช่วงโซโล่ Sitar (ซิตาร์)โดย Becky Gebhardt ซึ่งสาว ๆ อีก 3 คนของ Raining Jane ก็ออกมาเต้นข้างหน้าสุดพลิ้ว ก่อนที่ฮุกสุดท้ายจะเป็นท่อนเงียบชวนให้ร้องตาม และเปลี่ยนประโยคจบเป็น I won’t worry my life, today จากนั้นเป็น No Plans ที่ใช้แค่เสียงกีตาร์กับเสียงประสาน เป็นอีกเพลงช้า ๆ ที่เพราะมาก ๆ แล้วมีท่อนเป็นเรกเก้โยก ๆ ก่อนจะต่อกันเลยด้วย Sleeping to Dream ที่เราได้ฟังเชลโล่เพราะ ๆ จากสาว Mai Bloomfield โดยตอนจบเพลง Mraz ก็ไหว้อย่างสวยงาม ก่อนที่เขาจะแว้บไปหยิบตุ๊กตาหุ่นมือที่เป็นตัวแทนของ Meghan Trainor มาร้องเพลง More Than Friends คู่กับเขา แล้วตอนจบก็กล่าวขอบคุณน้องตุ๊กตาที่มาร้องเพลงด้วยกัน ฮ่า ๆ
“ขอบคุณที่มาดูโชว์ของผม ทั้ง ๆ ที่คุณไปดูการแสดงอื่นก็ได้ แต่คุณเชื่อใจเรา” เขากล่าว แล้วก็เป็น Unlonely ที่ตอนต้นเพลงเหล่านักดนตรีหันหลังให้กับคนดู ก่อนที่จะกระโดดหันกลับมาเต้น แล้วเขาก็ชวนเราร้อง Say Yeah! ที่ท่อนสุดเท่ก็คือตอนท่อนโซโล่ที่ทั้งวงออกมาเต้นกันข้างหน้า แล้วทุกคนเต้นกลับไปที่ไมค์ตอนเริ่มท่อนฮุกแบบพอดีเป๊ะ ซึ่งเขาเองก็เล่าให้ฟังขำ ๆ ว่า “ตอนแต่งเพลงไม่คิดว่าจะเหนื่อยขนาดนี้ (หัวเราะ)” จากนั้นเขาก็ดีดคอร์ด B ขึ้นมา แล้วก็พูดว่า “จริง ๆ แล้วผมก็ไม่ได้ชอบคอร์ด B เท่าไหร่นะ (หัวเราะ)” แล้วเพลง I’m Yours ก็ดังขึ้นพร้อมกับเสียงกรี๊ด ซึ่งนี่ก็เป็นอีกเพลงที่เขาเปลี่ยนดนตรีเป็นเรกเก้ ช่วงท้ายเพลงเขาก็ชวนทุกคนร่วมสนุกด้วยการแบ่งเป็น 2 กรุ๊ป แล้วให้ร้องเพลงภาษาเอเลี่ยนตามเขาแข่งกัน (ซึ่งบอกเลยว่ายากมาก ต้องมาลองเอง!) ก่อนจะจบด้วยคำว่า I will always be yours น่ารักกก จากนั้นเขาก็ตีคอร์ดขึ้นมาแล้วร้องเพลงมั่ว ๆ และพูดว่า “ใครต้องการเนื้อเพลง ไม่มี๊” แล้วก็เป็นเพลง You and I Both ที่มีท่อนโซโล่กีตาร์กลางเพลงโดย Chaska Potter แล้วก็ร่วมกันร้องท่อนฮุกวนก่อนจะจบ
ต่อด้วย Make it Mine ที่ Jason Mraz กับ Raining Jane มารุมร้องกันตรงไมค์ โดย Mona Takavoli มือเปอร์คัสชันก็ออกเดินตี djembe รอบเวที จบเพลงเขาก็เล่าเรื่องราวของเขากับ Raining Jane ว่าเขาเจอกับพวกเธอในปี 2006 แล้วนั่นก็เปลี่ยนชีวิตเขาไปตลอดกาล ซึ่งเพลงแรกที่พวกเขาเขียนด้วยกันคือ Beautiful Mess นี่ก็เป็นอีกเพลงที่เราได้ยินเสียงเชลโล่เพราะ ๆ แล้วตอนจบเขาก็ร้องเป็นเพลงออกมาว่า You know it’s been 3-5 years since I’ve been here จากนั้นมีคนตะโกนแทรกว่า ‘I love you Jason’ เขาก็ร้องกลับว่า ‘I love you too’ แล้ว Mraz ก็ชวนให้หายใจลึก ๆ กันอีกครั้ง ก่อนจะต่อด้วย Browntown เพลงของ Raining Jane โดย Becky และ Mona ซึ่งหลังจากนั้นเขาก็กลับขึ้นมากับ Love is Still the Answer และ 93 Millions Miles ที่มีเสียงซิตาร์เพราะ ๆ ให้เราได้ยินเรื่อย ๆ แถมด้วยท่อนโซโล่ของนักดนตรีทุกคน ที่เขาก็ได้บอกเราว่า เวลาเจอเรื่องแย่ ๆ ก็ให้หายใจลึก ๆ แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง มันดีขึ้นได้เหมือนเป็นปาฏิหารย์เลยนะ จากนั้นเขาก็ชวนให้หายใจลึก ๆ แล้วนึกถึงคนหรือสิ่งที่เราอยากขอบคุณ (grateful) ก่อนจะเป็นท่อนโซโล่ซิตาร์ แล้วจบเพลงไปด้วยเสียงอะแคปเปลลาพราะ ๆ
จากนั้นเป็น I Won’t Give Up ที่แฟน ๆ ร่วมกันเปิดไฟมือถืออย่างพร้อมเพรียง ก่อนจะต่อด้วย 3 Things ที่ปิดไฟเวทีไปแปปนึง (มีหลายคนเดินออกตั้งแต่ตอนนี้ ไม่น่ารักเลย) ซึ่งเพลงนี้ก็มีท่อนดรอปที่ชวนทุกคนร้องตามกัน จากนั้นก็เป็น Might As Well Dance ที่ท่อนโซโล่เหล่านักดนตรีร่วมกันเต้นอย่างสนุกสนาน แต่ที่เท่ที่สุดคือท่อน Soon the song will be over, we’ll have to say goodnight. Don’t you want some closure, before we turn out the light? ที่ปิดไฟมืดทั้งฮอลล์ตามเพลง ซึ่งจบเพลง Mraz ก็เล่าติดตลกว่า ในวง Raining Jane มีคนเป็น Doctor (จบปริญญาเอก) เนี่ย ตัวเขาก็เคยเล่นเป็น Doctor นะ แต่จะมีใครไว้วางใจให้ผมรักษามั้ยเนี่ย ฮ่า ๆ จากนั้นเขาก็ให้กำลังใจทุกคนว่า ถึงวันนี้พลาดอะไรไปก็ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ก็เริ่มต้นใหม่ได้เสมอ แล้วเพลง Have it All ก็ดังขึ้น ซึ่งเป็นอีกเพลงที่เขาชวนมาหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะก็แนะนำสมาชิก ที่ทุกคนร่วมใจไหว้สวัสดีอย่างสวยงาม ตอนจบเพลงเขาก็ร้องอวยพรทุกคนว่า ฝันจะเล็กจะใหญ่ ขอให้ทุกคนได้ Have it All นะ แล้วทิ้งท้ายไปด้วย ขอบคุณคร้าบ
จากนั้นทุกคนก็ลงจากเวทีไป ซึ่งในช่วงอังกอร์ แฟน ๆ ก็ร่วมตะโกนเรียกอย่างพร้อมเพรียง แล้วเราก็ได้เห็นเขาก็กลับขึ้นมาเวทีพร้อมกันเหล่า Raining Jane กับเพลง Love Someone ที่คนดูร่วมกันปรบมือให้จังหวะ ก่อนจะทิ้งท้ายไปด้วยการกอดคอโบกมือลาไปกับเพลง Respect ของ Aretha Franklin แล้ว Mraz ที่ไหว้ทิ้งท้ายอีกรอบ ซึ่งเราก็เพิ่งสังเกตว่า ชุดของนักดนตรีมาต่อกันแล้วเป็นสีรุ้งเลย น่ารักและอิ่มเอมสุด ๆ ไปเลย เชื่อว่าใครที่ได้ไปดูก็น่าจะรู้สึกเหมือนกับเรา ยังไงก็หวังว่าจะมีโอกาสได้ดูเขาที่ไทยอีกครั้งนะ
อ่านต่อ
คุยกับ Pango ที่ยังคงรักการคัฟเวอร์ และ Jason Mraz แรงบันดาลใจของเธอ
Phum Viphurit เด็กไม่ยอมโตที่ถ่ายทอดเรื่องราว Coming of Age ผ่านบทเพลง