16 พฤษภาคม 2562 Japanese Breakfast Live In Bangkok

การกลับมาอีกครั้งของ Japanese Breakfast หรือ Michelle Zauner ศิลปินสาวสุดเท่ที่หลาย ๆ คนคิดถึง บอกได้เลยว่าโชว์ในเมื่อวานนี้ยอดเยี่ยมมาก แถมยังมีแฟน ๆ ตามมาดูกันอย่างเหนียวแน่น ส่วนบรรยากาศจะเป็นยังไง โชว์จะดีขนาดไหน ตามมาอ่านรีวิวกันได้เลย

เราไปถึงงานในวันนี้ตั้งแต่แรกเริ่ม พอเวลาสักสองทุ่มครึ่งก็มี Lukpeach วงเจ้าบ้านออกมาบรรเลง Not Mine เพลงที่เล่าถึง love-hate relationship ตามมาด้วยเพลงอิเล็กทรอนิกเศร้า ๆ อย่าง Too Far จากนั้นเธอก็หยิบ Enough เพลงใหม่ที่ไม่เคยเล่นที่ไหนมาก่อนมาเล่น ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงป๊อปจังหวะกลาง ๆ และถูกถ่ายทอดเนื้อหาออกมาเป็นภาษาไทย ในช่วงท้ายยังได้เสียงทรัมเป็ตเพราะ ๆ จาก แดน วง temp. ที่มาเสริมสร้างความละมุนให้กับเพลง แล้วเธอก็จัด Just เพลงที่เธอแต่งออกมาเพื่ออยากให้คนมาทำความรู้จักกันก่อน อย่าเพิ่งตัดสินที่ภายนอก ก่อนจะต่อด้วย Still เพลงช้าซึ้ง ๆ มีเนื้อหาเศร้าสร้อยแต่กลับมีจังหวะดนตรีน่ารัก เพลงต่อไปคือ Everyday เพลงสำหรับคนเหงา ตามด้วยเพลงป๊อปสดใสอย่าง Love Love และปิดท้ายด้วย High เพลงแรกที่เธอปล่อยออกมาเพื่อสลัดภาพจากราย The Voice ที่เธอเคยไปประกวด

จากนั้นยืนรอได้สักพักหนึ่ง Japanese Breakfast กับสมาชิกในวงอีกสามคนก็ออกมาทักทายคนดู พร้อมเปิดโชว์ของเธอด้วย 12 Steps เพลงอินดี้ร็อกมัน ๆ ที่คนดูร้องตามกันได้อย่างพร้อมเพียง ในตอนนี้เราเริ่มสังเกตได้ว่าคนรอบตัวเริ่มหนาแน่นมากขึ้น บรรยากาศเริ่มสนุกขึ้นมาละ ทันใดนั้นเธอก็ประเคน In Heaven อีกหนึ่งเพลงร็อกโทนสว่างไสวจากอัลบั้มชุดเก่า Psychopomp ต่อด้วย The Woman That Loves You ที่เราได้ฟังสด ๆ แล้วชอบมาก เสียงร้องกระโชกโฮกฮากของมิเชลในเพลงนี้นี่เท่สุด ๆ

จากนั้นความสนุกก็ยังไม่จบลงเพียงแค่นี้ เธอหยิบเพลงดังอย่าง Road Head มาเล่น แค่อินโทรขึ้นมาก็เรียกเสียงกรี๊ดไปได้เต็ม ๆ ตอนเธอแผดเสียงร้องในท่อนฮุกนี่ทำเอาเราขนลุกไปเลยจ้า แล้วทางวงก็ผ่อนจังหวะลงเล็กน้อยด้วยการเล่น Heft เพลงจังหวะกลาง ๆ ที่มีเสียงคีย์บอร์ดล่องลอยคลอไปด้วยตลอดเพลง แถมช่วงท้ายจัดโซโล่กีตาร์กันได้พริ้วมาก พอเล่นจบเธอก็ทักทายแฟน ๆ ว่าเป็นยังไงกันบ้าง พร้อมเอ่ยว่ารู้สึกดีมาก ๆ ที่เธอได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ก่อนจะต่อด้วย 2042 ที่มีจังหวะกลองกับกีตาร์เร้า ๆ ชวนให้คนดูโยกตัวตามไปกับเสียงดนตรี

จากนั้นเธอก็คุยกับคนดูอีกรอบว่าทำไมวันนี้เงียบกันจังเลย พร้อมกระดกเบียร์โชว์อีกหนึ่งกรึ๊บ แล้วก็เข้าเพลง Boyish ได้อย่างแนบเนียน บรรยากาศของเพลงนี้ฟังแล้วเหมือนได้อยู่ในมิวสิกวิดิโอที่เป็นงานพรอมจริง ๆ กลุ่มคนดูชาวต่างชาติข้างหน้าเรานี่เต้นรำกันสนุกเลย โดยในตอนท้ายของเพลงนี้ มือกีตาร์นี่รับบทพระเอกไปเต็ม ๆ โซโล่ได้เพราะพริ้งเหลือเกิน ต่อมาคือ The Body Is a Blade เพลงที่เราชอบไลน์กีตาร์มาก ๆ  มีเมโลดี้สวยงาม แต่ก็แฝงไปด้วยความเกรี้ยวกราดในเวลาเดียวกัน แล้วก็มาถึงคิวของเพลงใหม่อย่าง In Hell ที่มีซาวด์คีย์บอร์ดหวาน ๆ ทวีคูณให้เสียงร้องใส ๆ ของมิเชลโดดเด่นขึ้นไปอีก

ต่อมาเป็นช่วงที่เธอจัดเพลงเศร้ามาให้ฟังกันรัว ๆ เริ่มด้วย Till Death เพลงที่เธอแต่งมาเพื่อขอบคุณคู่รักของเธอที่ผ่านอะไรมาด้วยกันมากมาย จากนั้นมือเบสกับมือกีตาร์ก็ลงจากเวทีไปพัก ปล่อยให้มิเชลกับมือกลองเล่นคู่กันในเพลง Triple 7 กับ This House โดยมือกลองเปลี่ยนบทบาทมาเล่นคีย์บอร์ดแทน ส่วนมิเชลก็เปลี่ยนมาใช้กีตาร์โปร่ง หลังจากที่ฟังจนจบทั้งสามเพลงในเซ็ตนี้แล้ว เราว่าเธอถ่ายทอดอารมณ์เพลงออกมาได้ดีมาก ๆ แค่ได้ยินเสียงร้องเศร้า ๆ ของมิเชล กับเสียงคีย์บอร์ดหม่น ๆ คลอไปคลอมา ก็สะกดคนดูได้อย่างอยู่หมัด

และแล้วโชว์ในค่ำคืนนี้เดินทางมาถึงช่วงท้าย ๆ เสียแล้ว สมาชิกในวงทั้งหมดกลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้ง พร้อมเล่น Essentially เพลงใหม่ที่พึ่งปล่อยออกมาได้ไม่นาน ตามด้วย Everybody Wants To Love You ซึ่งเป็นเพลงสนุก ๆ แถมยังเป็นเพลงแรกที่ทำให้เรารู้จักกับเธอ จากนั้นก็ปิดด้วย Diving Woman ที่มีดนตรีเมา ๆ แบบไซคีเดลิก ไลน์เบสนี่ก็หนึบหนับสุด ๆ ซาวด์กีตาร์ก็แตกพร่าได้ใจ ในช่วงนี้ไฟในงานจะเปลี่ยนเป็นสีแดงเข้ม และกะพริบวิบวับไปตามจังหวะดนตรี เข้ากันกับโชว์ได้อย่างลงตัว แถมยังมีท่อนขยี้ในช่วง outro ที่ทางวงตั้งใจเล่นให้ยาวขึ้นด้วย แจมดนตรีกันได้ดุเดือดมาก ไม่มีใครยอมใครเลย และเพลงสุดท้ายในช่วงอังกอร์คือ Machinist เพลงชวนเต้นที่มีเนื้อหาไซไฟว่าด้วยการตกหลุมรักหุ่นยนต์ โดยเธอใช้ออโต้จูนเข้ามาเสริมเพื่อให้เข้ากับธีมของเพลง พร้อมกระโดดโลดเต้นไปมา ได้ใจคนดูไปเต็มๆ

ปิดฉากลงไปแล้วกับการมาเยือนไทยครั้งที่สองของเธอ โชว์ในวันนี้เต็มอิ่มจุใจกับสุด ๆ แถมยังมีหลากอารมณ์ เพลงเร็วก็มัน เพลงช้าก็ซึ้ง มาฟังสด ๆ แล้วก็อยากฟังอัลบั้มใหม่ของเธอไว ๆ ส่วนทางผู้จัดงานอย่าง Seen Scene Space เค้ามีงาน Siamese Cats Live in Bangkok วันที่ 19 พฤษภาคมนี้ ใครสนใจก็สามารถซื้อบัตรไปดูกันได้จ้า

Japanese Breakfast Asia Tour 2019 – Indonesia

May 15 – Rossi Musik, Jakarta, Indonesia What a stunning Japanese Breakfast’s concert.

Philadelphia’s indie pop solo musical project , Japanese Breakfast finally perform for the first time in Indonesia. Michelle Zauner, the Korean American Musician visited Jakarta with her band mate on Wednesday, May 15, 2019. They’ve performed at the Rossi Musik Jakarta. This sold out concert was happened because of the good collaboration between Noisewhore, Studiorama and Pesona Experience, the Organizers of this event.

The event starts at 8pm. Opened by the performance of Jirapah, a ‘Long Time No See’ Band form Jakarta. But currently, The band are preparing for their new album under Kolibri Rekords. Jirapah performed with a short duration but they’re glad that they had an opportunity to open Japanese Breakfast concert in Jakarta. After 45 minutes preparation, finally Japanese Breakfast are ready to perform.

Michelle, performed using a yellow spotlight tanktop and her typical two mini bun hair. The setlist was balance, from their first album ‘Psychopomp’ (2016) and ‘Soft Sounds From Another Planet’ (2017). They’re playing total 16 songs including ‘Road Head’, ‘Boyish’, ‘Jane Cum’ and ‘Essentially’. ‘Diving Woman’ was the last song from the setlist with no encore. They also covered one song nicely, from The Cardigans, ‘Love Fool’.

Michelle told a story that she was very fond of Indonesian Food, such as Gudeg and Kari Ayam, which was introduced by her Indonesian friends, while she worked at a Sushi Restaurant. And she was happy that finally she can taste that food originally from the country.

After Jakarta and Bangkok, Japanese Breakfast continued their tour to Tokyo Japan, on May 22 and Seoul Korea on May 27.

• Twitter
• Line