20 มกราคม 2018

สวัสดีค่ะทุกคน ห่างหายจากการรีวิวคอนเสิร์ตด้วยตัวเองไปพักนึงกันเลยทีเดียว ตอนนี้เรากลับมาแล้ว พร้อมเก็บภาพบรรยากาศคอนเสิร์ตแรกของปีจากทีม Have You Heard? มาฝากกัน เรียกว่าย้อนวัยเหมือนกันสำหรับคนที่ชอบแนวเพลงประมาณนี้กับ #JAMnight Live! with Homeshake คอนเสิร์ตซีรีส์ใหม่จาก HYH ที่จับมือกับ Jameson Whisky ชวนวงเจ๋ง ๆ น่าติดตามจากทั้งต่างประเทศและในประเทศมาสร้างความสนุกบนเวทีเดียวกัน

เท้าความกันนิดนึง ถ้าใครเป็นแฟนเพลงของ Mac DeMarco ก็น่าจะรู้จักกับ Peter Sagar เป็นอย่างดี ผู้ชายคนนี้คืออดีตมือกีตาร์คู่ใจของตาแมคเขาล่ะ (เคยมาเล่นด้วยกันตอนที่แมคมากรุงเทพ ฯ เมื่อ 5 ปีที่แล้วด้วยนะ) แล้วทีนี้พี่แกก็มีไซด์โปรเจกต์ที่ต่อมากลายเป็นงานหลักของตัวเองในชื่อ Homeshake พร้อมกับออกอัลบั้มมาแล้วถึง 3 ชุด ถ้าใครตามฟังตั้งแต่ยุคแรก ๆ ก็น่าจะเห็นพัฒนาการความเปลี่ยนแปลงของแนวเพลงในแต่ละอัลบั้มของเขาได้เป็นอย่างดี ซึ่งโชว์ครั้งนี้ก็จะเน้นหนักไปที่งานชุดล่าสุด Fresh Air แต่ก็ยังมีเพลงโปรดของเราจากชุดเก่า ๆ หยิบมาเล่นให้หายคิดถึงกันบ้างประปราย

สำหรับงานวันนี้ก็จัดขึ้นที่ venue ใหม่ที่ไม่ค่อนคุ้นกันเท่าไหร่กับ About Studio เลียบด่วนรามอินทรา หลาย ๆ คนอาจจะบ่นอุบว่าไกล แต่สำหรับดิฉันชาวสะพานใหม่รู้สึกแฮปปี้ดี๊ด๊ามาก ใช้เวลาเพียง 20 นาทีในการเดินทางเท่านั้น แถมยังเป็น open space ที่สามารถจัดเป็น festival ย่อม ๆ มี food truck อาหารเครื่องดื่ม และร้านค้าต่าง ๆ กันได้สบาย ๆ ส่วนเวทีคอนเสิร์ตของครั้งนี้ก็จัดอยู่ outdoor ด้านหลังของสตูดิโอกระจกนั่นเองล่ะจ้า

งานนี้ถือว่าค่อนข้างรันได้ตรงเวลาทีเดียว เพราะประมาณสองทุ่มครึ่งนิด ๆ วงแรกก็ขึ้นเล่นแล้ว พวกเขาคือ Game of Sounds หรือถ้าใครติดตามผลงานของวงสายทดลองมาระยะหนึ่งก็จะพอทราบว่านี่คือไซด์โปรเจกต์ของ เต๊นท์ ฟรอนต์แมนวง Summer Dress ที่ชวนเพื่อน ๆ น้อง ๆ ร่วมสถาบันทั้ง เอ็กซ์ In This Peace, Lab 5 Soundwork และ อาร์ม Supergoods มาช่วยทำให้วงนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น ถ้าให้อธิบายแนวเพลงเราคงพูดคร่าว ๆ ได้ว่ามีองค์ประกอบที่มีความคล้ายคลึงกับ Homeshake อยู่บ้าง แต่จะเน้นหนักไปที่ซินธิไซเซอร์ซาวด์ล่องลอย และกลิ่นของแจ๊สจากกรูฟกลองโชยมาเป็นระยะ ๆ บางเพลงนี่เป็นวงคอนเทมแจ๊สเท่ ๆ ได้เลยแหละ วันนี้พวกเขาหยิบเพลงทั้งหมดที่มีในมือ (ที่ปล่อยออกมาแล้ว สามารถฟังได้ในฟังใจนะ) ทั้ง Haha Sea เพลงที่มีความโยกย้วยแบบพอดิบพอดี ต่อด้วย Secret From You เพลงบอกความรู้สึกดี ๆ ที่ได้รับจดหมายจากคนรักที่อยู่ห่างไกลที่ส่งข้อความมาถึงเสมอ ๆ แม้ทำนองจะมีความเหงาแต่อบอวลไปด้วยความอิ่มใจอย่างประหลาด ตามด้วยเพลงแรกที่พวกเขาปล่อยออกมาอย่าง Need Lyrics ที่ตอนนี้มีจังหวะจะโคนให้เต้นได้พอประมาณ ก่อนจะเป็นเพลงสุดท้ายที่ระหว่างที่ฟังก็อาจจะมีเหวอกับลูก intro, outro ที่ใช้การ improvise เล่นออกมาเป็น avant garde จับต้องได้ยาก แต่ไม่สามารถปฏิเสธได้เลยว่ามีความเพลิดเพลินในระดับสูงทีเดียว ถือเป็นอีกวงที่น่าติดตามมาก ๆ เพราะแต่ละคนเป็นนักดนตรีฝีมือฉกาจ ใครยังไม่เคยฟังก็ไปลองกันได้

ต่อจากนั้นเวลาสามทุ่มครึ่ง สมาชิกนักดนตรีหน้าคุ้นที่ใส่หมวกไหมพรมสีแดง ให้ความรู้สึกเหมือนตัวละครจากหนังเรื่อง Life Aquatic ของ Wes Anderson ไม่มีผิด ขึ้นมาประจำตำแหน่งบนเวที พวกเขาคือ Pink Moon หรือ ทัต Basement Tape ในตำแหน่งอะคูสติกกีตาร์, พิม Yellow Fang กลอง, เท็ดดี้ Flure กีตาร์ไฟฟ้า และตวน Cloud Behind เบส, ซินธ์ ตอนแนะนำตัวพวกเขาใช้ชื่อว่า ทัดดี้ผีน่ารัก, แมวทะเลทราย, ทีเด๊ด และ โซ่ตรวน เป็นมุมสุดจะเป็นกันเองที่เราไม่ค่อยได้เห็นจากพี่ ๆ กลุ่มนี้เท่าไหร่ พวกเขาบอกว่าเพิ่งเล่นงานแรกไปเมื่อวันก่อน (งานเปิดร้าน F. Orange) เลยอาจทำให้โชว์ในครั้งนี้ตะกุกตะกักไปบ้าง แต่นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะทั้งเพลงและการเอนเตอร์เทนของพวกเขาทำให้เราสนุกในระดับนึงเลย อย่างเพลงแรก Radio Silence ก็มีความเป็นวงอัลเทอร์เนทิฟร็อกฟังสบายจากยุค 90s จำพวก Wilco สำเนียงดนตรีอะไรก็อินเตอร์เอามาก ๆ จากนั้นทัตก็พูดติดตลกว่า เพลงต่อไปที่จะเล่นเป็นคัฟเวอร์ แต่ไม่ใช่เพลงของใครที่ไหน มันคือเพลง ภาพเดิม ของ Basement Tape ที่เขาเป็นสมาชิกอยู่นั่นเอง งานนี้ถือว่าทำให้แฟนเพลงเนื้อเต้นกันพอสมควร ได้ฟังแล้วก็อยากจะให้วงนี้กลับมารวมตัวกันอีกครั้งเร็ว ๆ เหลือเกิน ตามมาด้วยเพลงจังหวะกลาง ๆ ที่ได้กลิ่นอายไซคีเดลิกโฟล์กชวนนึกถึง Yo La Tengo อีกเพลง ถ้าได้ยินไม่ผิดน่าจะชื่อ Time เร่งจังหวะให้ได้ขยับร่างกายกันขึ้นมาอีกนิด และปิดท้ายด้วย Banshee เพลงจังหวะกลางฟังเพลิน ซึ่งทั้งสองเพลงก็เป็น lo-fi อินดี้ป๊อปที่น่าสนใจมากทีเดียว อยากดูโชว์ต่อไปของวงแล้ว เป็นอะไรที่ตอบโจทย์ในสิ่งที่กำลังโหยหาในช่วงนี้พอดี กลมกล่อมสำหรับเรามากจริง ๆ

แล้วก็ได้เวลาที่ทุกคนรอคอย เมื่อพี่ปีเตอร์เดินขึ้นมาเช็กอุปกรณ์บนเวที แล้วให้ทีมงานปรับเสียงจนแกพอใจในเวลาประมาณ 22.20 จากนั้นสมาชิกคนอื่น ๆ ก็ตามมาสมทบบนเวทีพร้อมกับคนดูที่เริ่มมาจับจองพื้นที่กันอย่างเนืองแน่น แล้ว midi เพลง Hello Welcome ก็ถูกเล่น เป็นสัญญาณว่าโชว์ของพวกเขาเริ่มต้นขึ้นแล้ว ณ บัดนี้ จากนั้นก็เป็นเพลงจากอัลบั้มชุด In the Shower อย่าง She Can’t Leave Me Here Tonight กับเมโลดี้ติดหูอันคุ้นเคยที่เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงป้า ๆ อย่างดิฉันได้เป็นอย่างดี ตามมาด้วย Heat งานจากชุด Midnight Snack ก่อนจะสลับมาเป็นเพลงอัลบั้มชุดล่าสุดที่ Every Single Thing ตามมาด้วย Faded

จากนั้นจึงเป็นช่วงที่เล่นเพลงจากชุดใหม่ติดกันรัว ๆ ตั้งแต่ Getting Down Pt II (He’s Cooling Down), Call Me Up, Khmlwugh ก่อนจะสลับฟีลมาเป็นเพลงช้าสุดไพเราะหนึ่งเดียวของอัลบั้มชื่อเดียวกัน Fresh Air แล้วถึงกลับไปที่ชุดที่สองให้โยกย้ายกรูฟ ๆ กันต่อเนื่องที่เพลง I Don’t Wanna และ Give it to Me ที่ลูกเกากีตาร์สวยงามชวนให้เขาอ่อนเสียเหลือเกิน ก่อนที่จะเล่นเพลงโปรดในดวงใจที่เฝ้าคอยมานานอย่าง Making a Fool of You ที่เรียกว่าเป็นเพลงที่ทำให้เรารู้จักกับวงนี้เลยก็ได้ และเซอร์ไพรส์กว่านั้นคือเล่นเพลงอัพบีตสนุก ๆ ที่ชื่อ Michael ทำเอาเต้นไม่หยุดกันเลย แต่แล้วพวกเขาก็ไม่ปล่อยให้เราดีดกันนาน ส่งเพลงที่มีไลน์กีตาร์โซโล่เท่ ๆ หม่น ๆ แบบ TV Volumn และ This Way มาให้รวดร้าวกันต่อ ก่อนจะปิดท้ายกันที่ Home at Last แทร็คสุดท้ายจากชุด In the Shower ที่หยิบมาเล่นให้จังหวะเร็วขึ้นกลายเป็นเพลงสนุก ๆ ไปหนึ่งเพลง จบกันไปแบบฟีลกู๊ดกันทีเดียว ถึงแม้ว่างานนี้จะไม่มีอังกอร์ เพราะพี่ปีเตอร์จะป่วยหรือเหนื่อยใด ๆ ก็ตาม (มีแฟนเพลงตะโกนตบมือเรียกร้องเปาะแปะไม่กี่คน เศร้าที่เสียงเบากว่าคุยกันอีก คือเชื่อว่าถ้าส่งเสียงอังกอร์ดังหรือกระตือรือร้นกันกว่านี้อาจจะได้ดูอีกซักสองเพลง) แต่เขาก็ไปรอแจกลายเซ็นที่ด้านนอกอยู่นะ แล้วก็น่าตีมากที่ระหว่างวงเล่นมีพี่ฝรั่งเมาคนนึงอยู่ดี ๆ ขึ้นเวทีไปเซลฟี่กับตาปีเตอร์แบบมึน ๆ จนเจ้าตัวต้องไล่ลงไป เฮ่อ ไม่ใช่เมาแล้วถือว่าตัวเองเป็นต่างชาติจะทำอะไรแบบนี้ในคอนเสิร์ตประเทศโลกที่สามได้นะ

สำหรับแฟนเพลงอย่างเราก็รู้สึกว่านี่เป็นโชว์ที่ชวนรำลึกความหลังครั้นเยาว์วัยได้เป็นอย่างดี เพราะแค่นี้ก็ฟินแล้วอะคุณ ถ้าสมมติได้ดูพวกเขาเล่นสดช่วงที่เราอินกับวงนี้ใหม่ ๆ คงจะเป็นอะไรที่สุดยอดมาก รวมถึงวงเจ้าบ้านที่เล่นก่อน Homeshake เข้าใจว่าทีมงานตั้งใจ curate วงมาให้ซาวด์ดนตรีใกล้เคียงกัน ก็เป็นการสร้างบรรยากาศได้ดีทีเดียว แถมยังน่าติดตามต่อไปเรื่อย ๆ ด้วยเหมือนกัน (แล้ววิชวลก็ยังสวยมาก ๆๆๆๆๆๆ ด้วย ได้ยินว่าเป็นทีม Autosave นั่นเองจ้า ทีมฝากบอกมาว่าเบื่อ lighting แล้ว อยากทำวิชวล จ้างได้เด้อ) ก็ขอบคุณที่ Have You Heard? ที่นอกจากจะทำความฝันของติ่งให้เป็นจริงแล้วยังทำให้ได้เจอของดีจากวงใหม่ ๆ กันด้วย

และในโชว์หน้าเราจะไประเห็ดเตร็ดเตร่กันที่ไหนก็ติดตามกันด้วยเด้อ

• Twitter
• Line