High Thyme Cafe

Published May 1, 2015

Writer: Montipa Virojpan

High Thyme Cafe

การเป็นนิสิตนักศึกษาในช่วงปลายเทอม ที่จะต้องทำงานโปรเจคชิ้นใหญ่ๆ ความจำเป็นในการเสาะหาที่รวมกลุ่มคุยงานกลายเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง หลายคนก็เริ่มที่จะเอียนกับ Co-Working Space ที่มหาวิทยาลัยจัดไว้ให้ บางทีก็แอร์ไม่เย็น เปิดไม่ดึกมาก ท่ามกลางภาวะที่ความหดหู่และสมองไม่แล่นนี้ทำให้เราจำเป็นต้องเปลี่ยนบรรยากาศกันสักหน่อย แต่ความยากอีกระดับคือบางคนชอบทำงานในที่เงียบๆ ส่วนเราชอบที่จะให้มีเสียงรบกวนบ้างเล็กน้อย ไม่ก็ต้องมีเพลงเปิดคลอไปด้วยเพื่อไม่ให้สิ่งรอบข้างดูอึมครึมจนเกินไป ยิ่งถ้ามีของอร่อยๆ ให้กินดื่มระหว่างใช้ความคิดด้วยจะเป็นอะไรที่สมบูรณ์แบบมาก ไม่นานมานี้ ต้องขอบคุณที่โครงการ I’m Park มาผุดอยู่ใกล้ๆ กับที่เรียนพอดี โดย Community Mall แห่งนี้ถือว่าเป็นที่ตอบโจทย์หนุ่มสาวนิสิตนักศึกษากลุ่มที่ว่ามาได้เป็นอย่างดี เพราะมีร้านหลากหลายสไตล์ให้เลือกนั่งคุยงาน ปั่นโปรเจค หรืออ่านหนังสือสอบได้ตามรสนิยมของแต่ละคน ซึ่งเราก็บังเอิญไปเจอร้านร้านนึงที่ชื่อชวนให้น่าไปลองอย่างที่สุด แถมคอนเซปต์เขาก็ไม่ธรรมดา จนอยากจะชวนเจ้าของร้านมาพูดคุยกันให้เมา เอ้ย คุยให้รู้เรื่องกันไปเลย

Rustic Luxury

‘High Thyme Cafe’ ร้านชื่อเก๋ชวนเมาของ คุณ’มาร์ค’ ธนพล มรกตวิจิตรการ ที่หลังจากจบการศึกษาจากคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก็ได้ออกแบบร้านเองโดยผสานเอาคอนเซปต์ rustic luxury คือเลือกเอาความดิบแต่ยังคงความสวยงามของวัสดุธรรมชาติที่ไร้การแต่งเติม เน้นใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อแข็ง ไม้สัก และพื้นปูนขัดตามสไตล์ Industrial loft มาผสานเข้ากับความหรูหรามีสไตล์อย่างวัสดุกำมะหยี่สีเขียวมรกต และหินอ่อน โดยรวมแล้วการตกแต่งเช่นนี้ก็ให้ความรู้สึกที่ย้อนไปถึงยุค 80s แล้วยังทำให้เรานึกถึงภาพยนตร์ในยุคนั้นอย่าง Frankenstein ที่เกิดเป็นไอเดียที่จะเนรมิตคาเฟ่และบาร์แห่งนี้ให้กลายเป็นห้องทดลอง ภาชนะที่ใช้เตรียมหรือใส่เครื่องดื่มทั้งหมดก็ใช้บีกเกอร์ หลอดทดลอง และอุปกรณ์วิทยาศาสตร์ สร้างกิมมิคให้กับร้านได้อย่างน่าสนใจ บริเวณระเบียงด้านหน้าร้านก็มีที่นั่งให้เอนหลังสูบบุหรี่กันได้ตามสบาย

นอกจากนี้แล้วยังมีการตกแต่งด้วยหลอดไฟนีออนสีสดดัดเป็นตัวอักษร เป็นโควทจากคนดังกัญชาชนอย่าง บ็อบ มาร์เลย์ ที่ว่า “Herb is the unification of mankind.” ถ้าแนวทางชัดเจนขนาดนี้ แนวเพลงที่เปิดก็หนีกันไม่พ้นแน่ๆ

High Thyme’s Tunes

และก็เป็นอย่างที่เราคิดไว้ เพราะพอนั่งไปเพลินๆ สักพัก ก็ได้ยินหลายเพลงสุดเลื้อยที่จะทำให้การทำงานของเราไม่น่าเบื่ออีกต่อไป ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหญิงไซคีเดลิคอย่าง Melody’s Echo Chamber หรือ chill wave แบบ Washed Out, Chet Faker, The Internet, Blackbird Blackbird เผลอๆ บางทีก็มีเพลง upbeat, down tempo ของคนที่ชื่นชอบสายนัวๆ ดีพๆ บางวันอาจจะมี britpop หรือ remix alternative rock หลงมาให้สะบัดหัวพอเป็นกระษัย

Food and Drinks

สำหรับอาหารที่นี่เขาก็ใส่สมุนไพรแบบไม่อั้นไม่ให้หลุดคอนเซปต์สมุนไพรมหัศจรรย์ แนะนำ Mixed Herb (180 บาท) สปาเกตตีผัดคลุกเคล้าไส้อั่วรสเด็ดจากเชียงใหม่ Chilli Bacon (180 บาท) สปาเกตตีผัดพริกคั่วกับเบคอนรมควัน เข้ากันกับค็อกเทลสูตรพิเศษอย่าง Elixir of Insomnia (190 บาท) นํ้าเสาวรสกับสปาร์คลิงไวน์ หรือ Flask of Blood นํ้าเชื่อมเอลเดอร์ฟลาวเวอร์ ผสมกับวิสกี้ และนํ้าเลมอน (220 บาท) หรือใครอยากจะลองเบียร์ผลไม้ก็มีแบรนด์ดังอย่าง Brothers Cider มีสิงห์ และลีโอเพื่อนยาก หรือไวน์ (900 – 1,500 บาท) หลากหลายแบรนด์ให้เลือกกันได้ ส่วนใครอยากจะโนแอลก็มีเครื่องดื่มโซนคาเฟ่ให้ลิ้มลองอีกมาก ทั้ง Summer Passion Soda (125 บาท) อิตาเลียนโซดาที่ใส่นํ้าเสาวรส เชอร์รี และผลไม้ตระกูลซิตรัสเรียกความสดชื่นในวันแดดร้อนเปรี้ยง หรือช็อคโกแลตบราวนี่ปั่น ที่ใช้บราวนี่คาราเมลเข้มข้นปั่นกับช็อคโกแลตและท็อปด้วยชิ้นบราวนี่อีกที ส่วนใครอยากลองขนมแกล้มกาแฟก็ลองสอบถามดูได้นะ เพราะแต่ละวันก็จะมีผลัดเปลี่ยนไปไม่ซํ้ากัน