The Backyard สวนหลังบ้าน x He Men Crown & Apollo Thirteen : Acoustic live สำนึกรักบ้านเกิด เกิดอยากจะเล่นเกิดอยากจะแดก ครั้งที่ 1
- Writer: Phongpatch Thanattrai
- Photographer: Malaivee Swangpol
10 สิงหาคม 2561
ในฐานะที่เป็นเด็กในเมืองและไม่ค่อยจะได้ไปเยือนศาลายาสักเท่าไหร่ แต่วันนี้มีวงโปรดจากค่าย Macrowave อย่าง Apollo Thirteen และ He Men Crown มาเล่นในรูปแบบอะคูสติกเป็นพิเศษแบบนี้ เราก็ขอไปเยือนศาลายาเพื่อเสพบรรยากาศใหม่ ๆ บ้างละกัน เราไปถึงร้าน Backyard สวนหลังบ้าน ประมาณทุ่มครึ่ง Apollo Thirteen ก็เริ่มซาวด์เช็กกันแล้ว เรากับเพื่อนก็นั่งสั่งเบียร์มากินรอรับชมความตื่นเต้น แต่กว่าจะขึ้น ก็เล่นเอาเราเมาเละไปซะแล้ว
เวลาเกือบ 4 ทุ่ม วง Apollo Thirteen ได้เริ่มขึ้นไปบรรเลงเปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรกอย่าง สังคมก้มหน้า แน่นอนว่าชาวศาลายาที่เมากันแล้วร้องตามได้เป็นอย่างดี ต่อด้วยซิงเกิ้ลล่าสุดอย่าง ได้เจอ ซึ่งก็เล่นเอาเราซึ้งไปกับบรรยากาศร้านเลยเช่นกัน มาถึงช่วงเพลงคัฟเวอร์ที่ทางวงได้นำมาอะเรนจ์ใหม่หลายเพลง เริ่มต้นกันด้วย เจ้าหญิง จากพี่บอย โกสิยพงษ์ ต่อด้วยเพลงสากลอย่าง Ulysses จาก Franz Ferdinand แค่นั้นยังไม่พอ ทางวงยังได้นำผลงานชิ้นเอกจาก Sqweez Animal อย่าง คำบางคำ มาอะเรนจ์ใหม่ในรูปแบบดิสโก้ เล่นเอาคนในร้านก็ต่างพากันโยกตามร้องตามและชนแก้วกันอย่างเมามัน
ต่อด้วยผลงานจากพี่เบิร์ด ธงไชย อย่าง หมอกหรือควัน ที่เริ่มปลุกความเร่าร้อนของคนในร้านซะแล้ว นอกจากนั้นยังมีเมดเลย์เพลงฮิตจากพี่ ๆ วง Scrubb อย่าง คำตอบ และ ทุกอย่าง มา ในช่วงท้าย ๆ พี่กัน ฟรอนต์แมนของเราก็ได้ยืนขึ้นและเล่นเพลงมัน ๆ อย่าง ตาสว่าง จาก Moderndog ให้กับคนดู ปิดท้ายโชว์กันไปด้วยซิงเกิ้ลที่ 2 จากทางวง นั่นก็คือ พอกัน ถือว่าเป็นการปิดโชว์ด้วยผลงานตัวเองอย่างสวยงามเลยทีเดียว
แต่ดูเหมือนสภาพคนดูในร้านเริ่มจะไม่ค่อยสวยซะแล้ว ทุกคนเริ่มเมากันอย่างบ้าคลั่งเมื่อวงสุดโต่งวงต่อไปอย่าง He Men Crown ขึ้นไปเซ็ต แต่แปลกที่มีคีย์บอร์ดกับแซ็กโซโฟนซะด้วย มาดูกันเลยว่า เขาจะทำเพลงแต่ละเพลงของเขาออกมาในรูปแบบไหนกัน ระหว่างเซ็ตเครื่อง พี่มีนนักร้องก็ได้ทำการโปรโมตโปรโมชันเบียร์ในร้านอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับขอเครื่องดื่มให้กับทางวงด้วย ไม่รอช้า เจ้า Red Mask มือกีตาร์ปริศนาของเราที่วันนี้มาในหน้ากากสีขาว ก็ได้ย้ายตำแหน่งมาเป็นมือเปียโนวันนี้ พร้อมกันแล้ว ไปเลย!!
เพลงแรกของโชว์วงคือ….. ยังไม่ทันเล่น น้องมีนมือแซ็กโซโฟนที่ไม่น่าจะเหลือสติแล้วก็ตะโกนว่า “กูอยากเล่น BNK” ไม่ช้าเจ้า White Mask ก็ได้บรรเลงเพลง Shonichi จาก BNK48 ขึ้นมาให้มือแซ็กร้องเองซะงั้น จนพี่มีน นักร้องนำต้องบอก “พอ ไอ้สัด เข้าเพลงกูได้แล้ว” เพลงแรกก็เล่นเอาเราอึ้งไปเลยเพราะมันคือ….. แว่นกูอยู่ไหน เวอร์ชันป๊อป … ถ้านึกภาพไม่ออกให้นึกภาพเอานั่งในสวนที่มีแต่ดอกไม้สีสันต่าง ๆ และวงดนตรีใส่สูทเล่นแบบชิล ๆ แต่เป็นเพลง แว่นกูอยู่ไหน นั่นแหละฮะ… แล้วพี่มีนก็บอกว่า “นี่กูไม่รู้นะเนี่ยว่า Apollo Thirteen จะเล่นเพลงคัฟเวอร์เยอะขนาดนี้ ไอ้เหี้ยกูอยากเล่นบ้าง เล่นตาสว่างเลย!!” ทางวงก็จัดให้ ในขณะที่พี่มีนก็หยิบมือถือมาเปิดเนื้อดูไปร้องไปซะงั้น เล่นถึงฮุค นึกอยากจะจบก็จบ เล่นเอาทั้งร้านงงไปเลย ฮามาก
มาถึงเพลงต่อไป ก่อนเล่นพี่มีนก็ได้ถอดเสื้อของเขาเรียบร้อยแล้ว และพบกับบทเพลง ขนมหวาน ในเวอร์ชันแซมบ้า ละตินนี่ไม่รู้จะ react ยังไงกับวงเขาเลย ต่อกันที่เพลง มึงอีกแล้วสินะ ซึ่งเล่นยังไม่ทันจบอินโทร พี่มีนก็เดินไปเตะปลั๊กกลองไฟฟ้าหลุด เลยล่มกลางอากาศ และงานนี้พี่มีนต้องบังคับให้พี่จิ๋วมือเบสถอดเสื้อเป็นเพื่อนแก้เขินกันเลยทีเดียว พอเล่นได้จนจบเพลง พี่มีนตะโกนถามคนดูว่า “พวกมึงอยากฟังเพลงอะไรกัน” จนมีสาว ๆ ตะโกนขึ้นมาว่าอยากฟัง ภูมิ วิภูริศ เท่านั้นแหละ ทางวงก็ได้บรรเลงเพลง Lover Boy ขึ้นมาแบบสด ๆ พี่มีนก็เปิดเนื้อร้องเหมือนเดิม เล่นเอาคนฮากันทั้งร้าน เล่นถึงฮุคพี่มีนบอก “กูร้องต่อไม่เป็นแล้ว มาเข้าเพลงของเราเถอะ” และเพลง Hey! เวอร์ชัน EDM ก็ได้ถูกบรรเลงขึ้น ซึ่งในเพลงนี้ น้องมีนมือแซ็กของเราก็ได้รับบทพระเอก แร็ปท่อนที่แต่งขึ้นมาใหม่ด้วยซึ่งบอกเลยว่า โคตรมัน
ทุกสิ่งทุกอย่างได้เงียบลง เปียโนแบบยุคบาโร้กได้ถูกบรรเลงขึ้นมา และพี่มีนก็พูดว่า “แม่…. จะไปโลตัส เอาไรมั้ยแม่…” ทั้งร้านไม่รอช้าตะโกนอย่างสุดเสียงว่า “เอา โคโดโมะะะะะะ” เพลง Kodomo เวอร์ชันดีเจรถบั๊มที่แสนโกลาหลก็ได้ถูกบรรเลงขึ้น จนตอนสุดท้ายเข้าท่อนช้า พี่จิ๋วก็ได้ให้เบสเรามาเล่น แล้วบอก “กูไปกินเบียร์แปป” ไอ้เราก็รู้สึกเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ขึ้นมาแจม แค่นั้นยังไม่พอ ยังมีชาวบ้านขึ้นมาแจมอีก เท่าที่จำได้ก็มี เต้ Terrorbun และน้องผู้หญิงอีกคนนึง ที่เหมือนจะโดนเพื่อนในโต๊ะบังคับขึ้นมา ซึ่งเราว่าเราเล่น Kodomo ท่อนสุดท้าย 6-7 รอบได้ แต่ก็รู้สึกดีมาก ๆ ต่อไปเราก็ยังไม่ได้ลง มีแขกรับเชิญอีกท่านได้แก่ แชมป์ Terrorbun ขึ้นมาแร็ปสดให้กับงานนี้ ซึ่งเราเองก็เซอร์ไพรส์ แล้วก็เล่น ๆ หลุด ๆ ตามไม่ค่อยทันเท่าไหร่ จนสาแก่ใจเราแล้วเราก็คืนเบสให้พี่จิ๋วเพื่อให้ทางวงได้บรรเลงแทร็คแรกในอัลบั้มเป็นเพลงสุดท้ายอย่าง He Men Crown ซึ่งทั้งเพลงร้องอยู่แค่ ฮี~ ฮีเมน คราว แต่ทั้งร้านก็ร่วมมือกันร้องอย่างสุดเสียง จบโชว์ของวงสุดโกลาหลวงนี้ไปได้อย่างสวยงาม
ในฐานะการมาเยือนศาลายาครั้งแรก เราบอกเลยว่าประทับใจมาก เรารู้สึกเหมือนไม่มีคนดู ไม่ศิลปิน มีแต่คำว่าครอบครัว พี่น้อง ที่มาเสพผลงานเพลงและสนุกเต็มที่ด้วยกัน ขอบคุณทางวงทั้งสองจาก Macrowave ที่คิดงานดี ๆ แบบนี้ขึ้นมา มันทำให้เรามีกำลังใจในการผลักดันวงการอินดี้ต่อไปเยอะเลย สุดท้ายของให้ทั้งสองวงผลิตผลงานดี ๆ ออกมาให้เราฟังกันเรื่อย ๆ นะคร้าบบบ