Warpaint กับโชว์สุดร้อนฉ่า ในคอนเสิร์ตเดี่ยวของ Harry Styles ที่เราโดนตกแรงมาก!
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: Anchistha Ochukij, Sirinon Wisetmit, Pakjira Suwansiri and Montipa Virojpan
7 พฤษภาคม 2561
ตอนที่คอนเสิร์ตนี้ประกาศขายบัตรเมื่อประมาณปลายปีที่แล้ว เราก็คิดในใจนิดนึงว่าต้องรีบขายตั้งแต่ตอนนี้เลยหรอ แต่พอมานึกดี ๆ แฟนคลับส่วนใหญ่ของศิลปินคนนี้ก็เป็นน้อง ๆ เด็ก ๆ ทั้งนั้นคงต้องให้เวลาเก็บเงินมาสานฝัน เพราะนี่คือ Harry Styles Live on Tour 2018
เมื่ออดีตสมาชิกบอยแบนด์วัยใส One Direction ได้ทำอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกที่ใช้ชื่อเดียวกับตัวเอง และปล่อยซิงเกิ้ล Sign of the Times ออกมา ตอนนั้นเองที่เรามอง Harry Styles เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง กับแนวเพลงที่ทำให้นึกถึงงานคลาสสิกร็อกเก่า ๆ เพลงโฟล์กที่มีความละมุนละไม ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าผู้ชายคนนี้มีดีมากกว่าแค่หน้าหล่อ ๆ ของตัวเอง แต่ความพิเศษที่ทำให้เราตั้งตารอคอนเสิร์ตครั้งนี้เป็นเพราะวงดนตรีที่จะมาเล่นเปิดคือ Warpaint!!! ตอนที่รู้นี่ทั้งดีใจทั้งเสียดาย เพราะสามารถพยากรณ์ได้เบื้องต้นทันทีว่าแฟนเพลงแฮร์รี่ก็คงจะไม่ได้อินกับวงร็อกสี่สาวที่พวกเรากรี๊ดกร๊าดกันเท่าไหร่นัก
แล้วก็เป็นอย่างที่คิดจริง ๆ เราเข้าไปในฮอลตอนที่ได้ยินเสียงประกาศว่าคอนเสิร์ตจะเริ่มขึ้นในอีกสิบห้านาที และพอถึงเวลา 20.20 แบบเป๊ะ ๆ Warpaint ก็ปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับเสียงกรี๊ดประปรายพอเป็นพิธี Emily, Theresa, Stella และ Jenny มาในลุคสบาย ๆ เสื้อยืด กางเกงยีน พร้อมกับบรรเลงอินโทรที่เหมือนพวกเธอเริ่มร่ายมนต์สะกดใส่พวกเรา ไม่ต้องทำอะไรมากแต่แค่นั้นก็เท่แล้ว น่าเสียดายมาก ๆ ที่เราเป็นบัตรนั่งไม่งั้นจะลงไปดิ้นท่ามกลางฝูงชนที่ยืนแน่นิ่งอยู่หน้าเวที (เข้าใจว่าน้อง ๆ อยากดูแฮร์รี่กัน แต่โยกบ้างก็ได้ แง สงสารวง) และทันทีที่อินโทรกลองเท่ของสเตลล่าขึ้นมา พร้อมกับเสียงกีตาร์หึ่ง ๆ ก็แน่นอนแล้วว่านั่นคือเพลง Bees พอจบเพลงเอมิลี่ก็ถามว่า ‘Later or now?’ ไม่แน่ใจว่าพูดถึงอะไรแต่ตะโกนตอบ now ไปก่อน แล้วพวกเธอก็เล่น Undertow นี่คือสองเพลงจากอัลบั้มชุดแรก The Fool แต่กับเพลงหลังนี่ เอมิลี่เริ่มเต้นเซ็กซี่และแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยเธอบอกว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก ‘traditional dance’ ของบ้านเรา ซึ่งดูทรงยังไง ๆ ก็ต้องเป็นหมอลำแน่นอน ริฟฟ์กีตาร์อะไรแล้วเข้ากันหมด จากนั้นก็เป็นเพลง So Good จากอัลบั้มชุดล่าสุด Heads Up ตอนนั้นเองที่เธอบอกว่าจะเล่นเป็นเพลงสุดท้ายแล้วนะ แต่เหมือนมีอะไรอีรุงตุงนังนิดหน่อย เทรีซ่าก็บอกว่าเข้าใจผิด เหลืออีกสองเพลง แล้วก็ดูเหวี่ยง ๆ หัวเสียกันบนเวที ฮือ
แต่แล้วพวกเธอก็เล่น Elephants เพลงเท่ ๆ ที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้จักกับพวกเธอ งานจาก EP Exquisite Corpse ซึ่งตอนเอมิลี่ขึ้นต้นเพลงก็มีเสียงแหบแห้งไปหน่อย ก่อนหน้านี้เรามีโอกาสได้สัมภาษณ์ Warpaint แต่ก็ได้รับแจ้งมาว่าเอมิลี่ขอพักเสียงไม่ให้สัม ฯ ก็คงเป็นเพราะการนี้ (แต่เจนนี่ไม่แน่ใจ เพราะนางก็ไม่ได้มานั่งสัม ฯ กับเรา มีแค่สเตลล่ากับเทรีซ่า รออ่านกันด้วยนะ) แต่ก็ดึงกลับมาเอาโชว์อยู่ได้ด้วยทั้งการร้อง และการเต้นที่แรงกว่าเดิม แถมมีการแอบแซวแฮร์รี่ในท่าเด้งหน้าเด้งหลังบอกว่า ‘If you know how to make good move with your body’ ต้องฝึกไว้นะน้อง แล้วตามด้วย Love is to Die และก่อนจะถึงเพลงสุดท้าย เอมิลี่บอกประมาณว่า ‘ไหน ๆ คอนเสิร์ตนี้ก็มีประชากรส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงแล้ว ก็อยากให้เพื่อน ๆ ช่วยซัพพอร์ตซึ่งกันและกัน’ ปลุกใจเพื่อนหญิงพลังหญิงไปอีก อยากลุกขึ้นมา standing ovation ก็ทำได้แค่นั่งตาปริบ ๆ ส่งใจไปให้พวกนาง จนได้ส่งเพลงสุดท้าย New Song มาให้ฟัง น่าเสียดายมาก ๆ ที่โชว์วันนี้เล่นแค่ครึ่งชั่วโมง แถมแห้งไปหน่อยสำหรับเรา แม้วงจะควักพลังออกมามากมายหรือเพลงดีขนาดไหน อาจจะเป็นเพราะว่าเป็นบัตรนั่งอยู่ไกล ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์ใกล้ ๆ แบบคอนเสิร์ตยืนที่เราลงไปอยู่ในหลุมหน้าเวที แล้วรอบ ๆ เรา (รวมถึงประชากรส่วนใหญ่ในฮอล) ไม่มีใครอิน Warpaint เลย เงียบมาก แต่คนดูยังน่ารักที่ช่วยกรี๊ดให้เป็นระยะ ๆ ซึ่งเราก็แอบได้ยินเสียงแฟนเพลง Warpaint ตะโกนเรียกชื่อสมาชิกกันประปรายมาจากมุมมืดสักแห่งของ Impact Arena คงจะดีมากถ้ามีผู้จัดคนไหนใจดีพาสาว ๆ กลุ่มนี้มาเล่นโชว์ของตัวเอง จะต้องสนุกมากแน่นอน อ้อ สังเกตว่าตอนที่กล้องจับสมาชิกแต่ละคน จับทุกคนเยอะมาก แต่ไม่ค่อยถ่ายเจนนี่เลย มีแค่ตอนเพลงท้าย ๆ แล้ว
จากนั้นก็เป็นช่วงที่เซ็ตเครื่องเสียงสำหรับศิลปินหลักของงานอย่าง Harry Styles ตอนนี้เองที่เริ่มมีการลอง vtr พร้อม ๆ กับลองไฟ เราจะได้ยินเสียงแฟนคลับ กรี๊ด ดัง มาก อยู่หลายระลอก ก็ดีนะเป็นการบิ๊วที่สนุกสนาน อยากให้มีอะไรแบบนี้กับโชว์ Warpaint จัง ฮือ แล้วพอถึงเวลา 21.30 แบบเป๊ะ ๆ ไฟเฮาส์ก็หรี่ลง พร้อมกับไฟสปอตไลต์สาดไปบนเวที นักดนตรีมายืนประจำที่ของตัวเองในชุดสีสันสดใส และแฮร์รี่ที่มาในชุดสุดขาวประกายวิ้งวับก็มาปรากฏตัวพร้อมเสียงกรี๊ดถล่มทลายของแฟนเกิร์ล และเล่นเพลง Only Angel เป็นเพลงแรก ต่อด้วย Woman ที่จุดนั้นมีใครไม่รู้ปาอีตุ๊กตาไก่บีบแล้วมีเสียงสีเหลืองอ๋อยขึ้นไปบนเวที จริง ๆ ไม่ค่อยชอบที่ใครปาอะไรขึ้นไปแบบนั้นเลยถ้าศิลปินเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง แต่นี่ดีที่แฮร์รี่ก็ไม่ได้หงุดหงิด รับน้องไก่ขึ้นมาถือแล้วปากลับลงไป เข้าใจว่านี่เป็นการเพิ่มมูลค่าไก่
แล้วโชว์ของผู้ชายคนนี้ก็ยังสนุกขึ้นเรื่อย ๆ ได้อีกเมื่อเริ่มทักทายแฟนเพลงด้วยคำว่า ‘สวัสดีครับ’ ตามสูตร แต่พูดชัดมากเลยพ่อคุณ พร้อมบอกว่า วันนี้จะเล่นโชว์ให้ดีที่สุด ส่วนใครอยากจะทำอะไรในโชว์นี้ก็ใส่ได้เต็มที่เลยนะ พร้อมพูดว่า ‘ส่งเสียงหน่อย’ เป็นภาษาไทย ตอนนั้นขำก๊ากเลยเพราะนางพูดชัดมากกกก แล้วพูดบ่อยมาก นางดูชอบใจกับคำนี้แล้วแฟน ๆ ให้การตอบรับล้นหลาม แล้วก็เล่นเพลง Ever Since New York เพลงอะคูสติกที่เราชอบมาก ๆ จากอัลบั้มนี้ ซึ่งพอได้มาฟังเขาเล่นสดก็รู้เลยว่าเพลงขลังขึ้นมาก ถึงตอนนี้พอนึกถึงยังขนลุกไม่หาย ตามด้วยอีกเพลงช้า Two Ghosts ที่วิชวลข้างหลังเป็นแบบของเหลวสี ๆ สวยงามกำลังไหลเคลือบวัตถุต่าง ๆ ก่อนที่เพลงต่อไปจะบอกว่า ‘ส่งเสียงหน่อย’ พร้อมกับวิชวลที่มาเป็นรูปว่าวหลากสี เข้ากับสีเดรสของมือคีย์บอร์ดมาก (คนนี้น่ารัก มีเสน่ห์มากเลย แง) ซึ่งเป็นเพลงสนุก ๆ ชื่อ Carolina จบเพลงนี้เขาก็บอกว่า ‘อัลบั้มนี้ถึงจะมีแค่สิบเพลง แต่ไม่ต้องกลัวนะ งานนี้เล่นเกินสิบเพลงแน่นอน’ และพูด ‘ขอบคุณครับ’ ชัดมากกกก
งานนี้เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงได้อีกหน (จริง ๆ คือกรี๊ดทั้งโชว์จ้า) เพราะนางเล่นเพลง Stockholm Syndrome ผลงานสมัยอยู่ 1-D แฟนคลับร้องตามกันกระจาย นี่นั่งใบ้อยู่ แต่ก็สนุกมาก อยากร้องได้ด้วยอะ ฮ่า ๆ แล้วจึงเป็นอีกเพลงที่เขาเขียนให้ Ariana Grande เอาไปร้อง นั่นคือ Just a Little Bit of Your Heart ตามด้วยการทักทายแฟนเพลงอีกครั้ง ก่อนหน้านี้มีการพูดว่า ‘ถ้าวันนี้วันเกิดใคร ก็สุขสันต์วันเกิดนะ’ หรือคนที่ครบรอบแต่งงาน ก็ไป happy anniversary เขา รอบนี้ถามคนดูว่ามาจากที่ไหนกันบ้าง ก็เป็นคุณพ่อที่มาจากเอดินเบิร์ก อยู่ไทยมา 20 ปี มาดูกับลูกสาวชื่อ Tasha ที่อยู่นี่ตั้งแต่เกิด แล้วแฮร์รี่ก็ถามว่า ‘Do you like Bangkok?’ แน่นอนว่าคำตอบต้องเป็น ‘Everybody love Bangkok!’ แจกยาหอมกันไปอีกกกก แล้วยังไล่ถามแฟนเพลงคนต่อ ๆ ไป มีเด็กน้อยไฮสคูลมาจากเม็กซิโก ออสเตรเลีย เขาทักทายทุกคนจริง ๆ นี่เป็นไปได้ว่าถ้ามีเวลาเยอะคงไล่ทักทั้งฮอลเลยมั้งเนี่ย ทิ้งท้ายด้วยการบอกว่า ‘Everyone is moving to Bangkok, including me… if… ส่งเสียงหน่อยยยย’ เรียกเสียงฮือฮาและเสียงกรี๊ดจากแฟนเพลงดังมาก ก่อนจะพูดว่า ‘ผมรักคุณ’ จุดนี้ต้องยอมรับว่า โดนพลังทำลายล้างจากเสน่ห์และรอยยิ้มของแฮร์รี่เล่นงานไปแล้วค่ะ!!!
เพลงนี้เป็นเพลงที่เขาแต่งในช่วงแรก ๆ เมื่อประมาณสองปีก่อน ชื่อ Medicine ต่อด้วย Meet Me in the Hall Way อีกเพลงอะคูสติกที่เราชอบมากในอัลบั้มนี้ ปากบอกไม่ติ่งแต่ก็ร้องได้ไปแล้ว ฮือ และยังไม่ทันเล่นเพลงนี้จบดี เขาก็วิ่งจากเวทีใหญ่ไปเวทีเล็กที่อยู่ด้านหลังสุดของฮอล เผชิญหน้ากับแฟนเพลงที่นั่งอยู่โซนกลาง ใกล้มาก อิจฉาเว่อ เซอร์วิสกันสุด ๆ ก่อนจะเล่นอะคูสติกกีตาร์สองตัวในเพลง Sweet Creature ตอนนี้คืออบอุ่น ต้องมนต์มาก ตามด้วย If I Could Fly เพลงช้าของ 1D อีกเพลงที่แฟนคลับช่วยกันร้องได้ทั้งฮอล (ยกเว้นฉันอีกแล้ว ขอโทษ มาชอบเอายุคทำเดี่ยวแล้ว แง)
จากนั้นแฮร์รี่ก็รีบวิ่งกลับไปที่เวทีให้ ก่อนจะเล่นเพลงสนุก ๆ ชื่อ Anna กับ vtr ที่เป็นแฮร์รี่ฉบับการ์ตูนกำลังบิดรูบิกสีสวย ตามด้วยเพลงฮิตของ 1D ที่อันนี้เราร้องตามได้แล้ว ฮ่า ๆๆ What Makes You Beautiful ก่อนจะจบช่วงแรกด้วยเพลง Sign of the Times ที่เวอร์ชันสดนี่ทรงพลังกว่า audio หลายเท่า ยิ่งท่อนหลัง ๆ ที่โซโล่กีตาร์ เครื่องดนตรีทุกชิ้นประโคมหากันคือจบแล้ว คุณตกฉันได้สำเร็จแฮร์รี่ ตอนนี้แฮร์รี่บอกให้ทุกคนเปิดไฟแฟลชมือถือขึ้นมาส่อง ปรากฏเป็นไฟสีขาวสลับชมพูสวยงาม ตอนแรกเราก็แปลกใจว่าเตรียมมากันเองหรอ แต่เพื่อนเราบอกว่าเห็นในอีเวนต์เพจว่ามีแฟนคลับกลุ่มนึงบอกว่าจะเตรียมกระดาษแก้วสีชมพูมาให้ ไปรับได้ฟรีก่อนเข้าฮอล เนี่ย สุดยอดมาก เอาจริงว่าคอนนี้ได้ฟีลตอนไปตามติ่ง Super Junior เลยเพราะมันจะมีพวกโค้ดสีแท่งไฟอะไรต่าง ๆ คิดถึงวัฒนธรรมติ่งแบบนั้นเหมือนกัน แล้วเท่าที่สังเกตคนในฮอลมีแต่ผู้หญิง รุ่นหนูลูกทั้งสิ้น มีป้ารุ่นเราหลงมาประปราย คาดว่าน่าจะเป็นแฟนที่ตามมาตั้งแต่สมัย 1D แต่ที่น่ารักมาก ๆ คือมีบรรดาผู้ปกครองมานั่งดูกับลูกด้วย ยิ่งตอนจบคอนคือพ่อแม่ที่ไม่ได้เข้าไปดูก็มารอรับลูก โอ้โห โมเมนต์ ม.ต้นกลับมาเลยค่ะ ❤
จบจากตรงนี้แล้วไฟฮอลก็มืดลงและแฮร์รี่ลงเวทีไป เป็นสัญญาณให้ทุกคนร้องอังกอร์ และเมื่อไฟเปิดขึ้นอีกครั้ง ก็เป็นเขาที่กลับขึ้นมาอย่างว่องไวพร้อมเพลงอะคูสติกอีกเพลงที่เราชอบที่สุดในอัลบั้มนั่นคือ From the Dining Table โห ละมุนมาก ตอนนี้แหละที่ทั้งฮอลเงียบ ตั้งใจฟังเขาบรรเลงกีตาร์โปร่งคอยขับกล่อมพวกเรา มันอิ่มเอมไปหมด ก่อนจะกลับมาที่โหมดสนุกอีกครั้ง แต่ตอนนั้นเราสตันไปแปปนึง คือเราเคยดูแฮร์รี่คัฟเวอร์เพลง The Chain ของ Fleetwood Mac ในสักรายการบน YouTube ชื่นชมว่าไม่ทำให้งานเก่าเสียของเลย แต่ไม่คิดว่าจะเล่นเพลงนี้ในงาน!!! ช็อกจริง แล้วร้องดังมากอยู่คนเดียวในละแวกนั้น รู้สึกแก่มาก โชว์เพลงนี้คือโคตรแน่น โคตรเท่ แบบ โอ้ยพ่อคุณณณณ โยกหัวหลุด ก่อนจะปิดท้ายกันไปที่เพลง Kiwi ที่รอมาตลอดทั้งโชว์ แบบ โอว้ยยยยยย เท่มากกกก ร็อกมากกก สนุกมาก เพลงเซ็ตอังกอร์นี่เอาใจเจ้ไป ยอมเป็นแฟนคลับอย่างเป็นทางการแล้วก็ได้ โอ้ย ถึงขนาดจบโชว์แล้วลงมาเดินดูเสื้อจะซื้อกลับบ้านอะ ฮือ
จากที่ตั้งใจมาดู Warpaint ไม่คาดหวังอะไรกับแฮร์รี่ ตอนนี้ยอมรับว่าโดนแฮร์รี่ตกจริง ๆ ค่ะ!!! นี่คือโชว์ที่ได้ทั้งคุณภาพดนตรี ที่เขาสามารถเอาคนดูอยู่ได้แบบวงร็อกรุ่นเก๋า ขณะเดียวกันรู้วิธีเอนเตอร์เทน เซอร์วิสแฟนเพลงจากอานิสงส์ของการเป็นอดีตบอยแบนด์อันดับหนึ่งจากอังกฤษ ทุกคนในคอนเสิร์ตแฮปปี้แน่ ๆ เราแอบเห็นคุณพ่อโยกหัวไปกับเพลงร็อก ๆ ของนาง แฮร์รี่สามารถทลายทุกคำสบประมาทจากคนที่เคยเมินบอยแบนด์วงนี้ได้จริง ๆ มาขนาดนี้แล้ว ออกตัวว่ารอฟังอัลบั้มต่อไปเลย
ขอบคุณ BEC Tero Entertainment