Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

เปิดห้องเรียน ​Fungjai Lab² x ข้าวหอมสุขเพียวๆ กับวิชา ‘การบริหารและจัดการน้ำตา’

  • Writer: Ratchanon, Donratcharat
  • Photographer: Tas Suwanasang

Fungjai Lab 2 x ข้าวหอมสุขเพียวๆ ห้องเรียนสุดเจ๋งกลับมาอีกครั้ง ซึ่งในวันแรกนี้มาในวิชา Tear Management 101 (การบริหารและจัดการน้ำตา) แค่อ่านชื่อ EP ก็รู้แล้วว่าคุณจำต้องเตรียมผ้าเช็ดหน้าและกะละมังมารองรับน้ำตาที่ไหลพรั่งพรูออกมาตลอดคืนแน่ ๆ 

งานยังจัดที่เดิมที่ Glowfish Office สาธร เช่นเคย หากใครเคยมาปีที่แล้วก็คงพอนึกบรรยากาศได้ดี ซึ่งในปีนี้มีกระดานมาให้เหล่านักเรียนมาระบายความในใจกันหน้าห้องเรียน เอาล่ะ ถึงเวลาเข้าเรียนแล้ว ซึ่งในวันนี้วงแรกที่จะมาสอนให้เราจัดการน้ำตา คือปรมาจารย์เพลงเศร้าอย่าง Mattnimare

mattnimare

เปิดมาวงก็เริ่มเปิดด้วย intro หลอน ๆ ไฟในฮอลกระทบผ้าที่ห้อยลงมา ทำเอาเรารู้สึกวังเวงไม่น้อย ก่อนที่วงจะเริ่มเพลงแรกของพวกเขากับ รอยต่อ ซึ่งพาเอาเหล่านักเรียนในวันนี้ต่างตั้งตาฟังอย่างตั้งใจ หลังจากจบเพลงแรกไป วงก็ทักทายคนดู แต่ก่อนที่วงจะเล่นเพลงต่อไป

ว่าน นักร้องนำของวงก็เล่าถึงข่าวที่เราไม่ค่อยอยากได้ยินเท่าไหร่ คือการเดินทางของวง Mattnimare จะจบลงแล้วในปีนี้ ก่อนจะเล่นมุขขำ ๆ ว่า การเป็นนักดนตรีเอาจริง ๆ แล้วดูไม่ได้ช่วยให้คนมีความสุขมากขึ้นหรอก เผลอ ๆ ทำคนเขาเศร้าอีกต่างหาก เรียกเสียงขำจากคนในงานไปไม่น้อย ก่อนจะพาทุกคนกลับสู่ความเศร้าอีกครั้งกับ ความทรงจำถาวร (ROM) ที่ทำเอาคนในฮอลคอยร้องตามกันไป เป็นเพลงที่เสียงร้องของว่านที่ผสานกับบรรยากาศในงานแล้ว ทำเอาเราดิ่งไปเลยทีเดียว ตามด้วย ตัวประหลาด ที่ทุกคนร้องกันได้อย่างเต็มเสียง และยังไม่ทันอะไร ซุงก็เริ่มเล่นริฟกีตาร์อันคุ้นเคยจาก ความสุข  เพลงฮิตของวงที่พาทุกคนร้องเป็นเสียงเดียวกันไปทั้งฮอล ก่อนจะต่อด้วย ความรัก และส่งท้ายไปด้วย กลัวเกินก้าว ซึ่งพอเพลงจบทุกคนก็ต่างตบมือเป็นกำลังใจให้ทุกคนในวงในการเดินทางต่อไปของพวกเขา หากใครที่พลาดไม่ได้มางานนี้ เราอยากชวนให้ไปดู Mattnimare สักครั้งก่อนที่พวกเขาจะเดินทางไปในเส้นทางใหม่ของแต่ละคนนะ เป็นอีกหนึ่งวงคุณภาพที่เราไม่อยากให้หายไปจากวงการดนตรีไทยเลย

daniel didyasarin

ต่อกันด้วยหนุ่มลูกครึ่งอเมริกัน Daniel Didyasarin กับแนวเพลงอัลเทอร์เนทีฟร็อกที่ทำให้ทุกคนพร้อมจะขยับไปตามทำนองเพลง เปิดตัวมาด้วยเพลง Nobody  กับชุดหมีสีเขียวขี้ม้าที่เท่ชะมัด ต่อด้วยเครื่องบิน ที่แดนบอกว่ามอบให้คนที่ยังคิดถึงแฟนเก่าอยู่ เรียกเสียงกรี๊ดได้ไม่น้อยเลย ตามมาติด ๆ กับไม่มีวัน คนดูพร้อมตะโกนท่อน ‘เธอไม่มีวันหรอกเธอ ไม่มีวันหรอกเธอ’ กันจนเสียงแห้ง พอจบเพลงแดนก็ได้พูดกับคนดูนิดหน่อย “มีคนตรงนู้นเต้น บางคนบอกเพลงร็อกมันตายไปแล้วใช่มั้ย แต่เหตุผลที่ผมยังทำเพลงร็อกอยู่ก็เพื่อรอให้มีคนแบบคนนั้นที่เต้นในโชว์ผมนี่แหละ” ตามด้วย All I Say กับ Not Ordinary ก่อนจะส่งต่อเข้าเพลง เก็บไว้ในใจ ด้วยการบอกทุกคนว่า “ใครที่ลืมแฟนเก่าไม่ได้ก็ ช่างแม่ง ช่างแม่งเว้ย” แค่อินโทรขึ้นทุกคนก็ไฮป์กันสุด  ๆ โซโล่กระหึ่มจนแดนเองก็คุกเข่าไปโซโล่กับเวทีเลย หลังจากฟังเพลงเศร้ากันมาเยอะแล้ว ก็ส่งท้ายไปด้วยเพลงน่ารักอย่าง Take it All Away

electricneonlamp

มาถึงวงสุดรักของทุกคน electric.neon.lamp ที่เพลงเศร้าก็ยังทำให้เราสนุกได้ เริ่มเพลงแรกกับ รถไฟแห่งความฝัน ตามด้วย เสียเวลาว่ะ เซอร์ไพรส์กันไม่หยุด เพราะวงเล่นเพลงใหม่ที่กำลังจะปล่อยวันนี้ซึ่งก็คือ Silenceness เพลงสากลเพลงแรกของณีอร! (แอบใบ้ว่าดนตรีและเนื้อร้องน่ารักมาก ๆ ฟังแล้วต้องถูกใจเป็นแน่) เจน นักร้องนำของวงก็คุยกับคนดู “ธีมงานเป็นเพลงเศร้า แต่เพลงเราเร็วก็เศร้า เศร้าหมด งั้นเดี๋ยวเล่นเพลงช้า ๆ บ้างดีกว่า” ส่งต่อเข้าเพลง เสมอ เพลงช้าเกือบจะที่สุดขอวง ตามด้วยเพลงช้าที่สุดของวง บางครั้งแค่บางครั้ง แค่ขึ้นมากับคำว่า ‘นานมาแล้ว….’ ก็ร้องกันดังจนแทบกลบเสียงเพลง และจะขาดเพลงนี้ไปไม่ได้ ภาวินี และเซอร์ไพรส์ตามมาติด ๆ กับเจ็บแล้วไง  ที่ทุกคนร้องตามกันตั้งแต่คำแรก แน่นอนว่าต้องมีแร็ปเปอร์มาแร็ปแทน Maiyarap จะเป็นใครไปไม่ได้เลยนอกจาก Booky The Strider ช่างภาพขาประจำฟังใจ และผู้ที่ถ่ายปกอัลบั้ม How To Disappiont Your Parents นั่นเอง ทำให้สนุกกันทั้งฮอลจริง ๆ แล้วซัดกันต่อกับเพลง นางรอง ต่อด้วย โทรจิต ที่ชวนให้คนดูเซิ้งกับท่อนโซโล่ ตบท้ายด้วยเพลงสุดท้ายอย่าง เธอที่ร้าย เป็นส่วนหนึ่งของวิชาการบริหารจัดการน้ำตาที่สนุกครบรสมาก ๆ

The Yers

และวันนี้ก็ปิดท้ายการจัดการน้ำตาของทุกคนไปกับใครไม่ได้เลย นอกจาก The Yers ที่วันนี้เดินขึ้นมาอย่างเท่ ๆ ก่อนจะเริ่มด้วยเพลงที่ย้ำว่าเราเจ็บปวด (ในค่ำคืนนี้) อย่าง Loop ตามด้วย ระหว่างขับรถ ซึ่งคนดูเริ่มร้องตามกันไป ตามด้วยเพลงจากอัลบั้มล่าสุดของพวกเขา แอบรอ ก่อนจะตามด้วยเพลงฮิตต่าง ๆ ของวงที่ทุกคนร้องพร้อมกันไปอย่างไม่เหน็ดเหนื่อย ไม่ว่าจะเป็น เต้นรำครั้งสุดท้าย ห้องที่ไม่เคยสว่าง และ TV ก่อนจะต่อด้วย ดื่ม ที่ทำเอาทุกคนในฮอล ดื่มไป ร้องไป (ชีวิตมันเศร้าอะเนอะ) ก่อนที่วงจะจบลงด้วย เทศกาล เป็นเพลงที่วงนำซินธ์มาเล่นประกอบแล้วให้อารมณ์ค่อนข้างต่างจากเพลงทั่วไปของพวกเขาเลย พาเอาคนเต้นสลัดความเศร้าไปก่อนวงจะเดินจากไป แต่เดียวก่อน! หลังจากเหล่านักเรียนใน Fungjai Lab 2 x ข้าวหอมสุขเพียวๆ อังกอร์กันอย่างไม่หยุดหย่อนไปว่า ‘เอาอีก ๆ’ The Yers ก็ไม่ปล่อยให้ทุกคนผิดหวัง ขึ้นมาทักทายคนดูอีกสักหน่อย แล้วพาพวกเราไปตะโกนให้สุดเสียงกับ เสพติดความเจ็บปวด เป็นการปิดโชว์ในค่ำคืนนี้ไปอย่างสมบูรณ์ ก่อนจะแยกย้ายกลับบ้านกันไป (รึเปล่านะ?) 

ยังเหลือห้องเรียนให้พวกเราเข้าไปกัน นั่นคือ ​Fungjai Lab² x ข้าวหอมสุขเพียวๆ ให้เราได้ไปสนุกและซึมซับทั้งวิชา EP2 Black Magic 101 ไสยศาสตร์ในชีวิตประจำวัน และ EP3 Modern Thai Dance รำวงไทยสมัยใหม่ ใครยังไม่มีบัตรก็ไปจับจองได้ที่ https://ticketmelon.com/fungjai/fungjailab2 กันได้เลย ช้าหมดอดไปนะจ๊ะ

อ่านต่อ: Fungjai Lab 2 x ข้าวหอมสุขเพียวๆ คอนเสิร์ตซีรี่ส์รูปแบบใหม่ที่ไม่มีที่ไหนในโลกเปิดสอน

Facebook Comments

Next:


Donratcharat

นัท มีหมาน่ารักสองตัวชื่อหมูตุ๋นกับหมูปิ้ง กาแฟดำยังจำเป็นต่อชีวิต และยกให้กาแฟใส่นมเป็นรางวัล