BIRD SOUND RECORD present FREEDOM FLY
- Writer: Wathanyu Suriyawong
- Photographer: Wathanyu Suriyawong
25 ธันวาคม 2559
วันคริสต์มาสสำหรับหลาย ๆ คน ก็น่าจะเป็นการได้อยู่กับครอบครัว บ้างก็พาแฟนไปในสวีทในที่สวย ๆ แต่สำหรับชาว BIRD SOUND RECORD คือการได้สังสรรค์กับสหาย ที่เป็นดั่งครอบครัว พร้อมประดับประดาบรรยากาศด้วยเสียงเพลงจากใจคนรักอิสระภาพ เท่านี้ก็อบอุ่นจับใจแล้ว และการฉลองคริสต์มาสของพวกเขาก็คืองาน “ FREEDOM FLY ”
ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนคงมีธุระในค่ำคืนคริสต์มาสเป็นของตัวเองและพลาดงานดี ๆ แบบนี้ไป ดังนั้นผมจึงขออาสาถ่ายทอดสิ่งที่ไปสัมผัสมาให้ทุกคนได้อ่านกัน (พร้อมกับรูปภาพที่ถ่ายด้วย iPhone 5s) แต่ขอออกตัวสารภาพก่อนเลยว่า ไม่ได้มีความรู้ในแนวนี้ลึกซึ้งมากมายนัก หากผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
งานนี้เริ่มจาก ปาร์ค West of East เขียนชื่อวงที่อยากดู แล้วไปเสนอให้พี่เบิร์ด สหายแห่งสายลม ซึ่งพี่เบิร์ดก็ตอบตกลงแบบไม่รีรอ งานนี้จึงบังเกิดขึ้น ไลน์อัพที่ปาร์คเขียนขึ้นมานั้น ได้แก่วง สนิมหยก , สหายแห่งสายลม , YENA และ WEST OF EAST บัตราคาเพียง 250 บาท (early bird) และ 300 บาท (หน้างาน) และยังมีโปรโมชั่นซื้อ 3 แถม 1 อีกด้วย ซึ่งส่วนตัวรู้สึกว่า เป็นการที่จัดไลน์อัพได้ตรงรุ่นและราคาคุ้มค่ามาก ๆ จึงปักหมุดไว้ว่าจะไม่พลาดงานนี้ ส่วนสถานที่คือ PLAY YARD by Studio Bar เจ้าเก่าของเราแต่ก่อน แฮร่!
แต่เมื่อ schedule งานออกมา พบว่าไม่ได้มีเพียงสี่วงเท่านั้น แต่เพิ่มอีก 3 วงได้แก่วง ดวงดาวเดียวดาย , R Bu และ MICO เพิ่มขึ้นมาด้วยหละ ยิ่งให้ราคาบัตรคุ้มค่าไปอีก
ความผิดที่ยากจะให้อภัย
คือตัวผมเองพลาด 2 วงแรกไปอย่างน่าเสียดายนั่นคือ ดวงดาวเดียวดาย และ R-Bu ซึ่งผมมาทันตอนช่วงท้ายโชว์ของ R-Bu เท่านั้น แต่สัมผัสได้ถึงความละมุนจากทางนอกร้าน ระหว่างรอเซ็ตวงต่อไป จึงนั่งย้อมใจด้วยหมูกรอบ พร้อมเบียร์สักขวด
MICO เริ่มแล้ว!
MICO เป็นศิลปินแนว punk folk rock ชาวเยอรมันเหมือนจะมีอายุพอสมควร แต่ไฟแห่งจิตวิญญาณลุกโชนเหลือเกิน และยังศิลปินเบอร์ล่าสุดแห่ง BIRD SOUND อีกด้วย โดยในโชว์นี้มีสมาชิกจาก สหายแห่งสายลมมาร่วมบรรเลง เป็นโชว์ที่สร้างบรรยากาศที่น่าประทับใจมาก ๆ ผมแอบสังเกตพบศิลปินหญิงจากวงสามสาว กำลังเอ็นจอยกับวงนี้อย่างร่าเริง (ขอไม่เปิดเผยชื่อ เพราะไม่ได้ขออนุญาต)
หลังจากได้ชมกับตาถึงกับต้องไปตามหาข้อมูลเพิ่มเติม พบว่าคุณอา MICO เขาไม่ธรรมดานะครับ เขาคือเสียงจากยุค Woodstock เฟื่องฟูเลยหละ เป็นอีกวงที่น่าติดตามครับ
ถึงคราว WEST OF EAST
วงนี้เคยได้ฟังบน fungjai.com อยู่ ส่วนตัวประทับใจเพลงอยู่แล้ว จึงเกิดอาการคาใจอยากดูเล่นสด พบว่าสมาชิกมี 3 คน มีนักร้องเล่นกีตาร์โปร่งในหนึ่งคน และมือกีตาร์ไฟฟ้าหนึ่งคน มือกลองหนึ่งคน แล้วเฮ้ย มือเบสไปไหนวะ? เพราะที่เคยฟังมันมีเสียงเบสไง ปรากฏว่ามือกีตาร์ไฟฟ้านี่แหละที่รับภาระหน้าที่นี้อยู่ และทำได้ดีมาก ๆ ด้วยหละ มือเบสอย่างผมชักอยู่ยากแล้ว
โชว์และบทเพลงของพวกเขามาจากใจจริง ๆ เป็นการถ่ายทอดความรู้สึกและเรื่องราวจากชีวิตอย่างตรงไปตรงมา รวม ๆแล้วทุกอย่างกลมกล่อมลงตัว ไม่มีเบื่อเลยจริงๆ มีหลายเพลงในโชว์นี้ที่ไม่สามารถหาฟังได้ที่ไหน โดยนักร้องได้สารภาพบนเวทีเลยว่า “พวกเราไม่มีตังค์ไปอัดครับ” จึงขอเป็นกำลังใจและขอให้ได้อัดผลงานดี ๆ มาให้ทุกคนได้ฟังครับ อย่างไรก็ตาม fungjai.com ยินดีต้อนรับเสมอครับ ^ ^
YENA ที่รอคอย
จากที่เคยได้สัมผัสวงนี้จากงานสอบซ่อมของ Srirajah Rockers มาแล้ว จึงเกิดอาการติดใจมาซ้ำที่งานนี้ ซึ่งพวกเขาก็ทำได้ดีเลยหละ สังเกตได้จากหน้าเวทีที่มีคนแน่นขึ้นทันตา จนผมเองไม่สามารถแทรกตัวหามุมถ่ายภาพได้เลย โชว์ของเขายังคงคุณภาพไว้ไม่ตกหล่น การบรรเลงแบบธรรมชาติพร้อมการคอรัสที่สอดคล้องซึ่งกันและกัน ทำให้ผู้ชมติดกับดักอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะ มีข้อเสียอย่างเดียวแต่ยังเป็นในแง่ดี นั่นคือก็ แต่ละเพลงมันช่างผ่านไปไวเหลือเกิน แบบว่า “ยาวกว่านี้ได้ไหม กำลังเคลิ้มเลย”
สหายแห่งสายลม เล่นใหญ่มาก!!
โชว์นี้มีความพิถีพิถันเรื่องซาวด์ของอุปกรณ์แต่ละชิ้นอย่างชัดเจน (หากเทียบกับวงก่อนหน้านี้) แม้เวทีเพลย์ยาร์ดจะค่อนข้างแคบไปหน่อย แต่ก็สามารถ ถึงกับให้มือเพอร์คัสชั่นไปยืนอยู่มุมหลืบซ้าย ที่ปกติเป็นเพียงที่วางอุปกรณ์ของศิลปิน
การบรรแลงแทบไม่มี dead air ถึงมีก็ไม่น่าเบื่อ ที่ชอบและอยากยกย่องมาก ๆ คือซาวด์และพาวเวอร์ของการบรรเลง บางท่อนมีริทึ่มอันทรงพลัง แบบ ปัง ปัง ปัง สะใจเหลือเกิน ยิ่งกว่านั้น โชว์จากวงนี้ทำให้รู้สึกว่าเพลย์ยาร์ด กว้างขึ้น ด้วยซาวด์ต่าง ๆ ไม่รู้ว่าพี่เขาใช้ reverb หรืออะไร แต่ได้ฟีลเหมือนเราฟังพวกเขาบรรเลงอยู่บนหน้าผา ทุกอย่างคือเวิร์ลมาก ๆ พวกเขาเล่นใหญ่กันจริง ๆ
ครั้งแรกกับ สนิมหยก จาก Fuzzy Fuzz Record เชียงใหม่
วงนี้ได้นิยามแนวของตัวเองว่าคือวงที่บรรเลงแนว eclectic style,folk, bluegrass, blues, reggae, country, improvisational, psychedelic ผมก็ไม่ได้รู้จักกับทุกแนวที่เขากล่าวมาหรอก แต่เอาเป็นว่า วงนี้มีโชว์ที่ทำให้เซอร์ไพรซ์มาก ๆ พวกเขาเข้าขากันอย่างแท้จริง บรรเลงได้มีความเป็นวงสูง มีผ่อนหนักเบาได้ดีเยี่ยม ใส่ใจและเข้าใจในไดนามิกของเพลงได้อย่างดี หากดูไลน์อัพแล้ว หลายคนคงเข้าใจว่า ตัวพีคคือสหายแห่งสายลม แต่ไม่เลย ตัวพีคของงานนี้คือโชว์ของสนิมหยกนี่แหละ คนร้องลั่นทั้งร้าน ดังมาก ๆ มากจนปลื้มแทนวงเลยหละ เนื้อหาของเพลงสอดคล้องกับอารมณ์ของดนตรีจริง ๆ ที่โดดเด่นมาก ๆ ต้องยกให้พี่แจน มือกีตาร์โซโล่ฝั่งขวา ที่ลีลาการบรรเลงที่เฟี้ยวฟ้าวมาก ๆ แต่ท่าทางดูสบาย ๆ เหลือเกิน เท่าที่สังเกตเหมือนทุกคนในงานค่อนข้างจะยกย่องพี่เขาเป็นพิเศษ สำหรับผมแล้ว พี่แจนคือปีศาจอย่างแท้จริง ร้ายกาจมาก ๆ เลย ถึงกระนั้นทุก ๆ ชิ้นดนตรี มีสำเนียงตรงแนวมาก ๆ รู้ว่าตัวเองควรใส่อะไรตรงไหน เช่นกลองนี่ทั้งพริ้ว ทั้งเป๊ะ มือเบสทั้งนุ่มและลื่นไหล และผมเข้าใจเองว่า ในแต่ละเพลงมีการอิมโพรไวส์อยู่ มีช่วงเพลงนึงที่ ไกด์ (นักร้องนำ West Of East) มาร่วมแจมอีกด้วย
เหมือนทุกอย่างจะจบลง และทุกคนก็ตะโกนว่า “ เอาอีกๆ ”
และทุกอย่างก็มาถึงจุดพีค เมื่อพี่เบิร์ดมาร่วมแจมกับสนิมหยก ส่วนตัวผมเคยได้ดู Desktop Error อยู่หลายครั้ง ท่าทางของพี่เบิร์ดจะมีความตั้งใจเล่นมาก แต่ครั้งนี้ผมเห็นพี่เบิร์ดยิ้มแย้ม และมีความสุขอย่างเห็นได้ชัด เมื่อถึงท่อนโซโล่ จะเป็นการผลัดกันอิมโพรไวส์ระหว่างพี่แจน และพี่เบิร์ด ไม่รู้จะอธิบายยังไง ขอสบถเป็นคำหยาบคายว่า “ พีคเหี้ย ๆ” และรู้สึกเสียดายอย่างมาก ที่แบตโทรศัพท์ของผมมันเหลือเพียง 5% เท่านั้นจึงไม่สามารถบันทึกคลิปมาฝากทุกคนได้ T T เอาเป็นว่า เหมือนดูปีศาจหยอกล้อกันอะ แบบผลัดกันคนละตา มีตอนหนึ่งเห็นพี่ย้ง (นักร้อง) ไปกระซิบเป้ (มือเบส) ว่า “ โคตรได้ ” และพี่เขาก็จัดไปสองเพลงเต็ม ๆ จุจนล้นใจกลับบ้านไปอย่างมีความสุข
จบงานด้วยเวลาเที่ยงคืนครึ่ง งานนี้ได้ให้คำถามกับผู้ชมว่า “ทำไมถึงอยากมาดูศิลปินที่ชอบเล่นสด แทนที่จะเสียบหูฟังดูจาก Youtube ก็ได้ ” คำตอบในใจผมคือ เพราะดนตรีมันต้องเห็นกับตาและฟังกับหูซึ่ง ๆ หน้านี่แหละ มันคือที่สุดแล้ว แม้เทคโนโลยีจะพัฒนาเอื้อให้คนมากแค่ไหน (ซึ่งก็เป็นเรื่องดีนะ) แต่สุดท้าย live สด มันคือขั้นสูงสุดของดนตรีแล้วหละ
Facebook Comments