6 พฤษภาคม 2561

ไฟสลัวม่วงอมฟ้าผสมกับควันอ่อน ๆ ของงาน เป็นสีที่ลอดออกมาจากประตูที่เปิดไปเจอทางเข้างาน BAMM! – FKJ Bangkok Show ครั้งที่สามของเขากับการมาเล่นที่นี่ ก่อนจะเข้าไปถึงบริเวณที่แสดงคอนเสิร์ตก็เจองาน abstract วางอยู่พร้อมกับจอ LED สีฟ้าสด คล้ายกับว่ากำลังจะพาเราเข้าสู่โลกอีกใบที่โอบอุ้มด้วยเสียงนุ่ม ๆ ของ electronic soul จากศิลปิน one man show นามว่า French Kiwi Juice รอบนี้ซาวด์ของสถานที่ดีมาก ขนาดยืนอยู่ข้างหลังแค่ได้ยินยังอินเลย ซึ่งโชว์หลักของ FKJ เนี่ยมาจากการอิมโพรไวส์แทบทั้งนั้น

มีช่วงนึงที่เขาให้คนดูตะโกนเพื่อที่จะเอาเสียงพวกเราเข้ามาในลูปเพลงที่เขากำลังเล่น เป็นการใช้เสียงและวัตถุดิบต่าง ๆ ที่เขามีเพื่อปฏิสัมพันธ์กับคนดูได้เนียนมาก ๆ ก่อนที่จะมาเคลิ้มไปกับเพลง Lying Together ที่เปิดด้วยเปียโนและเสียงแอมเบียนต์ของเม็ดฝน สลับกับการอิมโพรไวส์ก่อนที่จะจบเพลง และเชื่อมเพลงด้วยไลน์ซินธ์อันแพรวพราว พร้อมต่อด้วยเพลงอื่น ๆ เช่น Instant Need, Why Are There Boundaries ที่มาพร้อมกับวิชวลข้างหลังเป็นคลื่นเอื่อย ๆ บนหาด บอกเลยว่าเล่นสดครั้งนี้ visual lighting ประกอบเพลงเป็นอะไรที่เข้ากันมาก ๆ แต่เสียดายที่สัญญาณภาพหลุดบ่อยไปหน่อย

มีเพลงให้ขยับตัวกันกับเพลงบีตแน่น ๆ อย่าง Joy ที่โซโลกันอย่างอุตลุด โดยเฉพาะกับฝีปากที่จัดแซกโซโฟนมาให้เราอึ้งทึ่งกันทั้งฮอล จนต้องอุทานว่า ‘อื้อหือ’ พ่อหนุ่มนี่โหดมาก ๆ โหดทั้งเล่นโหดทั้งคิด กับเพลงที่มีชุดคอร์ดไม่เท่าไหร่ แต่เขาเอามันออกมาในรูปแบบที่แปลกใหม่เสมอได้อย่างน่าทึ่งแต่นุ่มนวล ก่อนที่จะหวดเบสอย่างหนึบกับเพลง So Much To Me จากอัลบั้ม Time For A Change

อีกไม่นานก็ใกล้จบโชว์ แต่ก็ต้องขอขยับมาหน้า ๆ อีกหน่อยเพราะทนเสียงคุยกันของคนดูไม่ไหว ในเพลงท้าย ๆ เปิดกันมาด้วยไลน์กีตาร์สวย ๆ จาก TADOW พร้อมภาพปลากรอบด้านหลังที่เป็นหนุ่ม Mesego มาดวลแซ็กโซโฟนกันบนเวที พร้อมกับเพลงส่งท้ายก็คือ Go Back Home และ Vibin’ Out with (((O))) ที่เป็นเพลงในการจบโชว์ที่สวยมาก ๆ และปิดงานด้วยเสียงปรบมือแบบลั่นฮอลให้กับความสามารถของการแสดงออกถึงศิลปะผ่านเสียงเพลงของชายคนนี้ที่ทุกคนต้องเห็นพ้องต้องกันว่า ‘สุดยิด!’

ซึ่งนับว่าการดู FKJ ครั้งนี้เหมือนกับการดู live performance ที่ดีที่สุดงานนึงเลยล่ะ

ขอขอบคุณ Medium Rare และ Live

• Twitter
• Line