โชว์ครั้งแรกในเมืองไทยของ Enter Shikari ที่ครบทุกรส ใครไม่ไปคือพลาดมาก!
- Writer: Malaivee Swangpol
25 เมษายน 2561
Enter Shikari วงจากเกาะอังกฤษที่เล่นดนตรีหลากหลายแนวทั้งโพสต์ฮาร์ดคอร์ อิเล็กทรอนิกคอร์ รวม ๆ ก็อาจเรียกได้ว่า experimental rock เพราะเพลงพี่แกแปลกประหลาดเหลือเกิน ซึ่งตอนที่รู้ครั้งแรกว่า Enter Shikari จะมาเล่นที่ไทย บอกตรง ๆ ว่าโคตรตื่นเต้น เพราะตามฟังตั้งแต่อัลบั้ม A Flash Flood Of Colour ช่วงปี 2012 ซึ่งมีเพลงที่มีชื่อเพลงสุดประหลาดอย่าง Arguing With Thermometers หรืออย่าง Sssnakepit ซึ่งในขณะที่เราได้ทำการเปย์เงินหนึ่งพันบาทให้กับค่าบัตร ณ ตอนนั้นแอบเจ็บจึ้กเล็กน้อยเพราะเงินเริ่มร่อยหยอ แต่พอมาดูปั๊บ รู้สึกเลยว่าได้คืนเป็นหมื่น โดยนอกจากได้คืนในเรื่องของความสนุกสนานแล้ว ยังได้คืนในความ exclusive สุด ๆ ที่แทบจะหาดูที่ไหนไม่ได้ เพราะ Enter Shikari เป็นวงระดับ headline เฟสติวัลใหญ่ ๆ มาแล้วหลายงาน แต่ในวันนี้เราโคตรโชคดีที่ได้ดูพวกเขาที่ venue เล็ก ๆ อย่าง The Rock Pub ซึ่งความสนุกสนานจะขนาดไหน ตามมาอ่านกันเลยจ้า
เวลาสองทุ่มตรงเราไปถึงร็อกผับ ซึ่งหลังจากนั้นไม่กี่นาทีวงก็เริ่มเล่นเพลงแรก The Spark เพลง intro จากอัลบั้มล่าสุด แล้วต่อด้วย The Sights เพลงที่มีความหมายเกี่ยวกับการเริ่มต้นอะไรใหม่ ๆ กับท่อน โอ้ โอ โอะ โอ ที่คนร้องตามกันได้ทั้งร้าน ก่อนจะต่อด้วย Solidarity เพลงซิ่ง ๆ จากอัลบั้ม Common Dreads ที่มีท่อนเบรกดาวน์แบบอิเล็กทรอนิกที่ทำเอาเราไม่รู้จะเต้นท่าไหนดี ซึ่งแค่เริ่มได้ไม่กี่เพลง Rou Reynolds นักร้องนำก็เริ่มเอาขาไมค์ไปโบกไปโบกมาแล้ว ก่อนที่จะหยุดความเดือดซักครู่มาทักทายแฟน ๆ ในคืนนี้ Anything Can Happen In The Next Half Hour และ Take My Country Back ที่เรย์โนลด์อยู่ดี ๆ ก็โผล่ไปยืนตรงตรงขอบของยกพื้น โคตรสนุกกก เพลงนี้ก็เป็นอีกเพลงที่คนร้องตามดังมาก ซึ่งชัดเจนว่าเพลงนี้พูดเรื่อง Brexit ซึ่งถ้าใครติดตามทวิตเตอร์ของเรย์โนลด์จะรู้เลยว่า เขาอินการเมืองมากและจะออกมาทวิตบ่อย ๆ เวลาที่มีประเด็นใด ๆ ทางการเมืองของสหราชอาณาจักร หรือประเด็นใหญ่ ๆ ในโลก ซึ่งผลจากสิ่งนั้นก็มาปรากฎอยู่ในหลาย ๆ เพลงของ Enter Shikari
มันต่อกันด้วย The Last Garrison เพลงโยกมัน ๆ ที่เรย์โนลด์ลงไปร้องข้างล่างเวทีกับคนดู ก่อนจะไปเป็นเมดเลย์ 5 เพลง ที่วงบอกว่า ‘พวกเรามีเวลาน้อย ดังนั้นเราต้องยัดเพลงลงไปให้ได้ใน 8 นาที พร้อมจะลุยกันมั้ย!’ ซึ่งหลังจากนั้นก็เป็นช่วงแห่งการโยกหัวไม่หยุดไล่ไปจาก Radiate แล้วก็เป็น Undercover Agents เพลงที่ป๊อปขึ้นมาหน่อย ที่ชวนทุกคนร้องตามท่อน อู้ว ต่อด้วย Destabilise และ Arguing With Thermometers ที่ท่อนเบรกดาวน์โคตรดีทั้งสองเพลง แล้วปิดท้ายด้วย Rabble Rouser ที่ดนตรีฟังแล้วกวน ๆ หน่อย ซึ่งเป็นเพลงที่ไว้แดนซ์คูล ๆ อย่างแท้ทรู และท่อน ‘Warning, this escalates quickly’ ที่ร้องตามได้ง่าย ๆ
ถึงช่วงเบรกของโชว์ ที่จะประทับใจเราไปตลอดกาล กับเพลง Airfield จากอัลบั้มใหม่ซึ่งเราเคยฟังผ่าน ๆ แล้วก็ไม่ได้อินอะไรมาก แค่รู้สึกว่าพีคดี แต่พอมาฟังไลฟ์เท่านั้นแหละ ตาย ไป เลย จ้า เรย์โนลด์เริ่มด้วยการถามว่า ‘ตรงกลางพอจะมีที่ว่างไหม’ แล้วเดินมาเล่นเพลงนี้กลางวงคนดู พร้อมกับบ่น ๆ แบบตลก ๆ ว่า ‘มือผมอ่อนแอมาก ขอโทษด้วยถ้าเล่นผิด’ น่าร้าก ซึ่งอีกความประทับใจคือ เมื่อเรย์โนลด์มายืนตรงกลาง ก็เลยกลายเป็นว่าคนหน้าเวทีจะมองไม่เห็น เลยมีคนตะโกน ‘sit down’ แล้วคนที่อยู่ใกล้ก็ช่วยนั่งลง กลายเป็นภาพที่น่ารักมาก ๆ ซึ่งเมื่อเรย์โนลด์เริ่มร้องเพลงทุกคนก็เงียบลง เมื่อเพลงพีคขึ้นเรื่อย ๆ เรย์โนลด์ก็เริ่มร้องแล้วเดินวนไปรอบ ๆ ด้วยการเดินชนไมค์ให้หมุน พอมาถึงท่อน ‘So you’re down on your luck, you’re down. Yeah you’re down on your luck, you’re down. But that don’t mean you’re out. No it don’t mean you’re out, now’ เราเริ่มรู้สึกขนลุก บวกน้ำตาจะไหลกับบรรยายความอบอุ่นที่เกิดขึ้น ซึ่งพอย้อนนึกไปว่าเราได้ดูวงนี้แล้วนะ ได้ดูซักทีแล้วนะ ยิ่งรู้สึกดีขึ้นไปอีก จบเพลงเรย์โนลด์ก็เดินกลับไปขึ้นเวที พร้อมกับพูดติดตลกว่า ‘ไปบอกเพื่อน ๆ นะ ว่าเราเล่นโชว์ดีแค่ไหน คราวหน้าพาเพื่อนมาเยอะ ๆ ผมจะได้เอาเปียโนมาแล้วเล่นให้คุณฟัง’ ได้เลยค่า ใครอ่านมาถึงตรงนี้ รอบหน้าไปดูด้วยกันนะ ทุกคนเลย!
กลับมาเดือดกันจ้า กับ Anaesthetist อีกเพลงซิงเกิ้ลเดือด ๆ ที่มีเนื้อหาโจมตี David Cameron นายกรัฐมนตรีของสหราชอาณาจักร เกี่ยวกับเรื่อง healthcare ของประเทศ และตามด้วยอีก 4 เพลงเมดเลย์ Sorry You’re Not A Winner ที่มีท่อนตบมือตามที่ใครเคยฟังน่าจะรู้ว่าอยู่ตรงไหน ต่อด้วย Sssnakepit ที่มือกีตาร์ Rory Clewlow เซิร์ฟออกมาอยู่กลางคนดูเพื่อเล่นเพลงนี้ ซึ่งพอเขาเล่นริฟฟ์จบก็ลงไปนอน ให้คนเซิร์ฟเขากลับเข้าที่ โคตรดี แล้วก็เป็น …Meltdown กับท่อนมอชแบบดับสเต็ปที่ไม่ว่าใครก็ต้องโยก แล้วปิดด้วย Antwerpen ที่เรย์โนลด์บอกว่า พวกเราไม่ค่อยมีเพลงเดือด ๆ ขนาดนี้ มาลุยกัน! และต่อกันด้วย Zzzonked
ส่งท้ายกันด้วย encore ที่ Clewlow บอกว่า ‘พวกเราก็อยากจะลงไปแล้วก็ให้พวกคุณตะโกนเรียก ‘one more song’ อะนะ แต่ก็รู้กันว่ามันไม่มีที่จะให้ลงจากเวที เพราะฉะนั้น ตะโกนโค้ดลับนั้นขึ้นมาเลย’ ตล๊กก คนดูก็พร้อมใจกันตะโกน one more song one more song กันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งวงก็จัดให้ด้วย Redshift เพลงที่ฟังแล้วให้ความรู้สึกเหมือนกำลังพุ่งทะยานไปสู่อวกาศ ก่อนจะปิดท้ายจริง ๆ ด้วย Live Outside เพลงเรย์โนลด์เขียนเล่าเรื่องปัญหาสุขภาพจิต ซึ่งทำให้เขาอยากออกไปอยู่นอกปัญหาทั้งหมดที่เขาต้องเผชิญ ปิดโชว์ไปอย่างงดงามมาก ๆ
ขอบคุณ Indy Pop Concerts ที่พาวงระดับโลกมาให้เราดูเสมอมา ขอบคุณ Enter Shikari ที่เล่นโคตรดี กลับมาอีกนะ จะรอ และท้ายที่สุดขอบคุณคนดูทุก ๆ คนที่ร่วมกันสร้างคืนวันนั้นให้เป็นคืนแห่งความทรงจำร่วมกันของทุกคน 🙂