Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

คอนเสิร์ต พ่อซึม แม่เซ็ง รวมทุกความสนุกที่แฟนเพลง Electric Neon Lamp รอคอย

  • Writer: Montipa Virojpan and Peerapong Kaewtae
  • Photographer: Montipa Virojpan

18 สิงหาคม 2561

เป็นระยะเวลากว่า 7 ปีที่ Electric Neon Lamp ได้บ่มเพาะอัลบั้มเต็มชุดใหม่ภายใต้สังกัด BEC Tero Music จนในที่สุด How To Disappoint Your Parents ก็ได้ออกสู่สายตาและหูของสาธารณชนแฟนคลับที่รอคอยกันมาอย่างยาวนาน กับ 8 เพลงที่อัดแน่นไปด้วยความหลากหลายทางดนตรีที่ถ่ายทอดตัวตนของพวกเขาออกมาอย่างแจ่มชัด และเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาก็ถือเป็นฤกษ์งามยามดีที่ทั้ง 5 คนจะได้จัดงานเปิดตัวอัลบั้ม พร้อมกับชวนเพื่อน พี่น้องศิลปินและแฟนเพลงมาร่วมเฉลิมฉลองความสำเร็จในครั้งนี้ที่ คอนเสิร์ต พ่อซึม แม่เซ็ง The Circus Studio ลาดพร้าว 18

แม้ฝนจะโปรยปรายลงมาไม่ขาดสายในช่วงเย็น แต่ทุกคนต่างพร้อมใจเดินทางกันมาถึงที่งานอย่างเปียกปอน โชว์ของวงแรกเริ่มขึ้นช้ากว่ากำหนดการ 15 นาทีรอเผื่อหลาย คนที่ยังมาไม่ถึง แต่กคงจะรอนานกว่านี้ไม่ได้แล้วอีกเช่นกัน Yented วงป๊อป โซล r&b รุ่นใหม่ที่เคยผ่านเข้ารอบ finalist การประกวด Tiger Jams ในปีแรก และ ล่าสุดก็เป็นผู้ชนะการประกวด Sunkist Freshly Picked Contest และมีมิวสิกวิดิโอสุดกิ๊วก๊าวประกอบเพลง ถ้าหาก ในเวอร์ชัน re-mastered ใหม่ใสกิ๊กกันไปด้วย อันที่จริงวงพวกเขาไม่ได้เพิ่งคลอดผลงานหากแต่เคลื่อนไหวอยู่มาเป็นระยะเวลา 5 ปีแบบเงียบ จนล่าสุดฝีไม้ลายมือของพวกเขาก็ไปเข้าตาทีมงาน Macrowave จนได้เป็นศิลปินร่วมค่ายในที่สุด อุ่นเครื่องโชว์ด้วยเพลงแรก เพลงของใคร กรูฟฟังก์เพลิดเพลิน กับสัดส่วนเพลงที่แสบสันต์เอาเรื่อง ตั้งแต่เพลงแรกนี้เราก็ไม่สามารถละสายตาจากมือกลองเขาได้จริง เล่นเก่งมาก เมื่อจบเพลงก็ได้แนะนำสมาชิกวงพร้อมแอบแซวมือกีตาร์ที่เพิ่งถอยกีตาร์ตัวใหม่มาสำหรับเล่นในงานนี้โดยเฉพาะ รวมถึงได้ ลุค มือคีย์บอร์ด/ซินธ์จากวง Dept มาช่วยเล่น เพราะสองสมาชิกของวงติดภารกิจไม่สามารถมาร่วมโชว์ได้ (วง Yented มีสมาชิกทั้งหมด 7 คน!) ก่อนจะต่อกันที่เพลง รักได้แค่คนเดียว เพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง ‘ปั๊มน้ำมัน’ ซึ่งเราก็ได้ยินชื่อเพลงนี้มาระยะหนึ่งแต่ยังไม่เคยได้ยินสด พอได้มาฟังครั้งนี้อยู่ดี ก็อินกับเขาเฉย สังเกตได้ว่าคนดูร้องตามกันได้เยอะมาก อาจจะเพราะด้วยเป็นเพลง r&b แล้วมีเมโลดี้ป๊อปติดหู แต่ที่ชอบเลยคือท่อนโซโล่มีไลน์กลองที่มากด้วยชั้นเชิง มีท่อนหยุดเป็นจังหวะขัด แล้วเล่นต่อ เท่มาก ท้ายเพลงก็เปลี่ยน time signature และ fade out ออกไปแบบสมูธ โห ยอมแล้ว ก่อนจะตามด้วยเพลง WTF เพลงแรกที่เราได้รู้จักกับพวกเขากับจังหวะสนุก ซาวด์สว่าง ติดหู๊ติดหู เป็นอีกวงที่ทำเพลงป๊อปได้เก่งจริง

แล้วตอนนี้พวกเขาก็ได้พักคุยกับคนดูอีกรอบ บอกว่าวงพวกเขามีโอกาสได้มาเล่นสด น้อยเพราะก็มาจากต่างจังหวัด แค่นั้นยังไม่พอ ตูน มือกีตาร์ ยังเล่นท่อนฮุกเพลง นางรอง แซววงรุ่นพี่นิดนึง จากนั้น เจา ฟรอนต์แมนก็บอกว่าจะเล่นเพลงที่หลายคนน่าจะได้เคยได้ยินผ่าน YouTube ที่มัน autoplay นั่นคือ Winter Rain เป็นเพลงเศร้า ที่คนดูร้องตามได้อีกเช่นกัน และในเพลงนี้ก็ทำให้เราสัมผัสได้ว่าเนื้อเสียงเจาเขาดีจริง แหละ ร้องเพราะมาก เมโลดี้คีย์บอร์ดท้ายเพลงก็ส่งอารมณ์ดี๊ดี จากนั้นจึงเป็นเพลง ถ้าหาก เพลงที่เพิ่งชนะการประกวดล่าสุดนี่แหละ โดยเจาก็เล่าที่มาของเพลงว่าแต่งมาจากมุมมองความรู้สึกของแฟนเก่าตอนที่ถูกเขาบอกเลิก แม้เพลงจะเพิ่งปล่อยออกมาแต่ก็มีคนร้องตามได้แล้ว และจากกันไปด้วยอีกเพลงฮิตของวง รักจาง ที่อย่างแม่ต๋ำ ซึ่งเขาก็เล่าที่มาว่าชื่อมาจากสถานที่แห่งหนึ่งในจังหวัดพะเยา เป็นเพลงที่เขาเขียนให้เพื่อนสนิทคนที่เขาแอบชอบ แต่เธอไม่รักเขาตอบ ทว่าเพลงนี้กลับไม่ได้มีสำเนียง r&b โซลแบบเพลงอื่น กลับเป็นอัลเทอร์เนทิฟ ป๊อปร็อกที่เท่พอตัว มีแฟนเพลงช่วยร้องจนจบไปในท่อนดนตรีร็อกหนักหน่วงแต่สวยงาม ในโชว์นี้เป็นตัวพิสูจน์ฝีมือของพวกเขาจริง และเราก็คาดหวังจะให้วงมีคนผ่านมาฟังอีกเยอะ นะ

จากนั้นไม่นาน ประมาณ 18.40 . The Whitest Crow ก็มาประจำที่บนเวที พร้อมกับจำนวนคนดูที่เพิ่มขึ้นพอสมควร ก่อนหน้านี้เราเห็นแฟนเพจของวงลงโพสต์ว่าพวกเขาจะเล่นเพลง Be With You หลาย รอบในคีย์ต่าง จนจบโชว์ แบบ เอาจริงเรอะ แล้วแอบเห็นว่าจะเล่นเพลง ใจเย็น ของ Clash ด้วย เอากับเขาสิ! ซึ่งในเพลงแรกของโชว์พวกเขาก็เล่น Be With You จริง พอจบเพลงก็ขึ้น Be With You ในคีย์ที่สูงขึ้น เรียกเสียงเฮจากคนดูดังสนั่น แต่แล้ว เติ้ล ฟรอนต์แมนก็ถามคนดูว่า ไหนใครคิดว่าเราจะเล่น Be With You ไปเรื่อย ยกมือหน่อยแล้วก็มีคนยกมือเยอะมาก บ้าปะเนี่ย พร้อมกับเสียงฮาจากคนดู แค่เพลงแรกก็สนุกขนาดนี้ละ โอ้ย แล้วพวกเขาก็เล่นเพลง Bangkok Blondie ที่มีคนช่วยร้องดังกระหึ่ม ตามด้วย ICSTOY กับท่อน I know I know I know ที่เรียกพลังจากคนดูได้ดังกระหึ่ม เมื่อจบเพลงนี้ก็มีบางคนตะโกนขึ้นไปว่า พี่เติ้ลหล่อมาก เติ้ลเลยพูดออกไมค์ว่า ‘อย่าตะโกน แถวนี้ สน. โชคชัยสี่’ เป็นมุขแซวที่วงกับแฟนเพลงจะรู้กัน แถมชี้ให้ดูคนถือป้ายไฟที่เป็นกระดาษเอสี่แล้วเขียนด้วยปากกาว่าป้ายไฟสุดจริง คืนนี้ แล้วก็เล่นเพลงที่จังหวะช้าลงมาหน่อยใน Follow The Heart ซึ่งมีท่อนนึงที่หยุดเล่นแล้วทั้งฮอลเงียบ ก่อนที่เติ้ลจะลีดกีตาร์ขึ้นมาและทั้งวงสาดใส่ความร็อกหนักหน่วง ก็ต้องบอกว่าเขาหล่อมากจริง ในพาร์ตนี้

เมื่อจบเพลงก็มีการแซวทีมไฟว่า ระหว่างเปลี่ยนเพลงอย่าเปิดไฟ ผมเขิน เรียกว่าเอนเตอร์เทนคนดูทุกช่วง ตอนนี้พวกเขาก็เล่าถึงความทรงจำที่มีต่อ Electric Neon Lamp กับ 7 ปีที่พวกเขาทำวง เป็นแค่ครึ่งหนึ่งในการเดินทางสายดนตรีของวงรุ่นพี่ แล้วก็ได้รู้จักกับแป๊ก มือกลองเป็นคนแรก แต่ปัจจุบันแป๊กได้ผันตัวไปเป็นไลน์(ลาย)แมนแล้ว (เป็นมุขที่แซวกันในวงเพราะแป๊กสักเยอะมาก) เขาเป็นคนที่ช่วยวงทำเพลงเมื่อ 3-4 ปีก่อนสมัยอยู่ Rat Records ตอนนั้นจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่อยู่ดี เติ้ลก็เปลี่ยนไปพูดภาษาอังกฤษสำเนียงบริติชทุ้มต่ำประหนึ่ง Alex Turner แล้วเล่นอินโทรเพลง Do I Wanna Know? ของ Arctic Monkeys ขึ้นมาซะงั้น แล้วจู่ ก็เปลี่ยนไปพูดเสียง ปิงปอง ไดอารี่ตุ๊ดซีส์ เรียกว่าก็แซวตัวเองจนครบทุกร่างอวาตาร ตลกมากโอ้ย ตามพี่ไม่ทันแล้วจ้า แล้วจึงกลับเข้าโหมดจริงจังใน Give Up On Love ที่ขึ้นมาเป็นสไตล์อะคูสติกต้องมนต์สะกด พอเข้าท่อนฮุกก็กลายร่างเป็นร็อกเดือด ก่อนจะจากไปแบบซึม อีกรอบ แล้วต่อกันด้วยเพลงไทยเพลงล่าสุดที่พวกเขาเพิ่งปล่อยออกมาอย่าง ไม่เป็นไร ลำพังการฟังเพลงนี้เวอร์ชันออดิโอก็ส่งพลังมหาศาลให้กับเราได้แล้ว พอมาฟังสด ในวันนี้รู้สึกว่าเพลงได้ทำงานเต็มรูปแบบของมันแล้วจริง คือปล่อยโฮออกมาได้เลย เป็นเพลงที่ถ้าวันไหนใครกำลังท้อเรื่องอะไรถ้าได้ฟังมันช่วยต่อพลังให้กับคนคนนึงได้จริง ตามด้วยร็อกแอนด์โรลเดือด ใน Blondie and Smoker ที่เท่มาก มันมาก ไม่ไหวแล้ว และช่วงระหว่างเพลงนี้ก็เล่นอินโทรเพลง หมอยรุงรัง เพลงดังในวงเหล้าซะงั้น ก่อนจะบอกว่าวงจะเล่นเพลง ใจเย็น ที่นี่เป็นที่แรก ฮือ มาครบทุกรสเกินไปแล้วววว แต่แล้ววงก็ส่งเพลง Forever Hide And Seek มาให้ฟังกันแบบซึม เสียงกีตาร์กังวานโอบกอดเราไว้ด้วยจังหวะช้า ๆ แล้วเร่งเข้าท่อนฮุกได้อย่างหนักหน่วง อยู่ ๆ เติ้ลก็หยุดเล่นแล้วถามว่า “ใครเคยทำใครซักคนหายไปจากชีวิตมั้ยครับ” ตูน Yented ก็ตะโกนตอบมาจากข้างบนว่า “เคยครับ” เรียกเสียงฮาจากทั้งฮอล เติ้ลก็บอกว่าเขาไม่สำคัญแล้วนะเพราะตูนมีพี่ กระชากทุกคนเข้าร้องท่อนฮุคอีกครั้งด้วยจังหวะที่รุนแรงขึ้น ฮัม outro ไปอย่างได้อารมณ์

ก่อนจะเล่นเพลงสุดท้าย เติ้ลก็บรรยายความรู้สึกที่มีต่อวง Electric Neon Lamp ว่าตัวเองทำวงมาหลายปีก็เคยท้อมาแล้วหลายครั้ง แต่วง The Whitest Crow เพิ่งมีอายุได้แค่ครึ่งหนึ่งของวงที่เขารัก วันนี้เขาเห็นพี่ ๆ ประสบความสำเร็จเขาก็ต้องทำได้ ก่อนจะสับกีตาร์เป็นเพลง Be With You ที่เดือดสุด ๆ ขึ้นมา เรียกเสียงกรี๊ดจากคนทั้งฮอล แถมเพิ่มจังหวะกลองลงไปได้อย่างเท่สุด ๆ ในท่อนโซโล่ แต่กลับเปลี่ยนจังหวะตีคอร์ดเบา ๆ แบบอะคูสติก แล้วร้องเพลง Lover Boy ของ Phum Viphurit เฉยเลย แซวเสร็จเติ้ลก็ขอให้ทุกคนช่วยร้อง ทุกคนก็ตะโกนท่อนฮุคกันคอจะแตก และเข้าท่อนฮุคอย่างบ้าคลั่ง แต่เหมือนไม่อยากให้จบ ให้คนดูร้องท่อนฮุคอีก 2 รอบ แล้วโซโล่ท่อนสุดท้ายแบบโคตรมันอีกชุด พร้อมฟาดกีตาร์คอหักไปอีกตัวนึง จบโชว์ไปแบบฟินาเล่เลยทีเดียว

มาถึงวงเฮดไลน์ของวันนี้ กับ Electric Neon Lamp ไม่พูดพร่ำทำเพลงซัดกันนัว ๆ ด้วยเพลง รถไฟแห่งความฝัน ทันที เจน ฟรอนต์แมนขึ้นเวทีมาปุ๊บเสียงกรี๊ดลั่นเลย กีตาร์ลีดดีงามกับ ท่อนฮุคก็สาดความมัน เจนดีดมาก ๆ ทุกคนต้องตะโกนร้องตาม ก่อนจะสาดไฟสีรุ้งสวยงาม กับอินโทรสนุก ๆ ของ เธอที่ร้าย และต่อด้วย ไอ้หวัง เพลงใหม่ที่ทางวงยังไม่ปล่อย แม้ทุกคนยังร้องตามไม่ได้ แต่ก็มันกันได้สุด ๆ ชอบดีไซน์ไฟที่สาดไปที่สมาชิกทีละคนตามเสียงเครื่องดนตรีในเพลง เสร็จแล้ววงก็ทักทายคนดูนิดหน่อย เกริ่นว่าเพลงต่อไปเพิ่งปล่อย พอเพลงขึ้นมาทุกคนก็โดดกันยับกับเพลง เจ็บแล้วไง? ทุกคนร้องตามได้ตั้งแต่ท่อนแรก กีตาร์ขยี้กันกระจาย แน่นอนต้องมีแร็ปเปอร์รับเชิญมาแร็ปแทน Maiyarap คือ Booky The Strider ช่างภาพที่เป็นผู้ถ่ายปกอัลบั้ม How To Disappiont Your Parents นั่นเอง ท่อนฮุกเลยเดือดสุด ๆ แถมบุ๊กชวนคนดูโบกมือ เกือบทั้งฮอลก็โบกมือตามอย่างพร้อมเพียง แล้วจัด ตบปาก ต่อทันที เสียงลีดกีตาร์โดดเด่นมาก ท่อนฮุกก็มันสุด ๆ หลังจากเขย่าความมันอย่างต่อเนื่อง วงก็พักชวนคุยหน่อย เจนขอบคุณ Yedted กับ The Whitest Crow บอกว่าเห็น Yented แล้วนึกถึงวงของตัวเองสมัยเพิ่งตั้งที่มีฝีมือแต่ก็ยังเป็นวัยรุ่นที่ซน ๆ กวน ๆ อยู่ ส่วน The Whitest Crow ก็เห็นว่าเพลงโอเค เลยชวนมาเล่นฆ่าเวลา แซวขำ ๆ กันไปตามประสาพี่น้องที่สนิทกัน ก่อนจะเล่าที่มาของเพลง เสมอ ว่าเหมือนหนังสือรุ่น พลิกไปกี่หน้าก็คิดถึงเพื่อนทุกคน เสียงกีตาร์หวาน ๆ ก็ขึ้นมาเลย ล้อไปกับเสียงแหลมทิ่มแทงเข้าไปในจิตใจของพี่เจน หลังเล่นจบเพลงก็ขอบคุณ นะ Polycat ที่ช่วยเรียบเรียงเพลงนี้ให้

แล้วชวนคนดูดิ่งไปกับเพลงที่เศร้าที่สุดของ Electric Neon Lamp ซึ่งเขียนให้เพื่อนที่เสียไปแล้วกับ บางครั้งแค่บางครั้ง แสงก็ส่องลงมาที่เจนคนเดียว ซีนอารมณ์มาเต็ม ความรู้สึกของเจนถูกส่งผ่านเสียงร้องมาเต็ม ๆ จนรู้สึกได้กับท่อนโซโล่ที่งามหยดย้อย เจนร้องไห้และพยายามประคองเสียงไปให้จบเพลง เราที่ยืนอยู่หน้าเวทีถึงกับน้ำตาซึม แล้วฉุดอารมณ์กลับมาสู่ความสนุกอีกครั้งด้วยเพลง ภาวิณี แสงส่องไปที่มือกีตาร์ตามอินโทร ทุกคนร้องท่อนฮุกได้พร้อมกันเสียงดัง ท่อนโซโล่แน่น ๆ กับเสียงคำรามของเจน มีช่วงฮุกที่ดรอปดนตรีลงแต่เสียงร้องของคนดูก็กระฮึ่ม เจนขอให้คนดูร้องอีกครั้งแต่ทุกคนก็ให้ความร่วมมือมาก ๆ  แล้วกระชากเข้าท่อนโซโล่ที่สนุกมาก ก่อนอุณ มือกีตาร์จะวิ่งลงเวทีไป เจนก็พูดว่าถ้าไม่มีผู้ชายคนนี้ ENL คงไม่มีวันนี้ แล้ว ต้น มือกีตาร์ยุคก่อตั้งก็ขึ้นเวทีมา เป็นผู้ชายที่มีอิทธิพลกับ ENL มากเพราะแต่งเพลงเกือบครึ่งหนึ่งของวง ไม่ช้าเสียงกีตาร์ขึ้นมา ทุกคนกรี๊ดเลยกับ Life in Neon กับแสงนีออนสีเหลือง ทุกคนร้องตามตั้งแต่ท่อนแรก โยกตัวตามจังหวะเพลง เสียงกีตาร์ของต้นโดดเด่นมาก ต่อด้วยอีกสองเพลงที่เดือดสุด ๆ กับนีออนสีแดง แถมยังมีท่อนโซโล่ที่เดือดไม่แพ้กัน เจนเองก็โดดยับ

เจนเจนก็ขอเสียงปรบมือให้ ต้น ก่อนจะสลับเป็นอุณกลับมาแทน และระเบิดความมันกันต่อด้วยเพลง ขอบคุณทุกคน เสียเวลาว่ะ ที่อินโทรขึ้นมาทุกคนก็โยกตามเลยแล้วยังร้องตามตั้งแต่ท่อนแรกเหมือนกัน แถมยังช่วยเจนกระแทกคำว่า “เสียเวลา!!” ในท่อนฮุคอย่างมัน ท่อนโซโล่ก็เดือดเหมือนเดิม ต่อด้วยเพลงที่ยังไม่เคยร้องที่ไหนมาก่อน อินโทรหวานมาก เสียงกีตาร์ท่อนเชื่อมไปฮุคสุดท้ายมีเสน่ห์มาก กับเสียงกีตาร์แจ่ม ๆ ของ นางรอง ก็โดดขึ้นมาต่อเลย ทุกคนร้องตามทันที ท่อนฮุคนี่ทุกคนโดดกันเละเทะ แล้วเจนก็บอกว่านี่คือเพลงสุดท้ายแล้ว เต้ก็ตีเบสนำมาเลยกับเพลงถัดไป ต่อด้วยกลองแน่น ๆ ทุกคนเต้นกันทั้งฮอล ท่อนโซโล่สุดดีดที่ทุกคนชูมือมาเซิ้งกันเละเทะ แน่นอนว่าคนดูตะโกนพร้อมกันดังมากว่า “เอาอีก! เอาอีก!” กันรัวมาก เจนกลับขึ้นมาแล้วฝากไว้อีกเพลงหนึ่งที่เพราะมากและต้นเคยเขียนไว้ กับ Season ที่อินโทรขึ้นมาทุกคนก็กระโดดไปรวมกันอยู่หน้าเวที กีตาร์ก็วาดลวดลายในท่อนโซโล่ได้สวยงามสุด ๆ ทุกคนตะโกนร้องตาม และปิดโชว์ในคำคืนนี้ด้วยเพลง เธอที่ร้าย ทุกคนก็โดดกันเละเทะอีก เจนบอกให้เซิ้งทุกคนก็ชูมือกันเต้นวุ่นวายไปหมด ท่อนโซโล่ก็ขยี้กีตาร์อย่างเดือดดาล ฮุคสุดท้ายเลยมันมาก ๆ เจนปาไมค์ปิดท้ายไปเลย

หลังจากวงไปพักไม่นานก็ออกมาแจกลายเซ็นต่อพร้อมถ่ายรูปกับแฟนเพลงทุกคนอย่างเป็นกันเอง เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นมาก ๆ เราก็เป็นคนหนึ่งที่ติดตามการเติบโตของวงนี้มานาน เมื่อได้เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จอีกขั้นหนึ่งของวงก็รู้สึกภูมิใจกับพวกเขาไปด้วย กว่าวงดนตรีวงหนึ่งจะเดินทางมาถึงจุดนี้ได้อาจจะต้องใช้โชคอยู่บ้าง แต่ที่ Electric Neon Lamp, The Whitest Crow หรือแม้แต่ Yented มาถึงจุดนี้ได้ก็ด้วยฝีมือของพวกเขาเองทั้งนั้น การที่วงทำงานอยู่ตลอดเวลาทำให้พวกเขามีความสามารถพอจะไขว่คว้าทุกโอกาสที่เข้ามาได้ และแน่นอนว่าพวกเขาจะมีวันนี้ไม่ได้ถ้าไม่มีแฟนเพลงมารอดูโชว์ของพวกเขาหนาแน่นขนาดนี้ มีคนมาร่วมดื่มด่ำและแสดงความยินดีกับวงด้วย เราคิดว่าคอนเสิร์ตมันมีความหมายประมาณนั้นเลย

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้