16 กันยายน 2560

มีคนกลุ่มเล็ก ๆ กลุ่มนึงเป็นตัวตั้งตัวตีในการทำให้กรุงเทพ ฯ เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมเข้าสังคมที่น่าสนใจอย่าง swing dance แม้ในช่วงแรก ๆ การเต้นกับเพลงแจ๊สอย่างมีแบบแผนไปพร้อม ๆ กับการเข้าสังคมหลังเลิกงานจะดูใหม่มากสำหรับชาวไทย แต่พวกเขาก็มีเพื่อนชาวต่างชาติที่อาศัยในกรุงเทพ ฯ ร่วมด้วยช่วยกันชวนมิตรสหายมาลองคลาสสนุก ๆ ที่สอนโดยพวกเขาเอง จนเวลาล่วงเลยมาถึง 5 ปีแล้ว กลุ่ม Bangkok Swing ก็สามารถทำให้กรุงเทพ ฯ กลายเป็น community ของสวิงแดนซ์ได้ในที่สุด จากช่วงแรกที่ชาวต่างชาติเยอะหน่อย ในปีนี้เรารู้สึกได้ว่ามีคนรุ่นใหม่หันมาให้ความสนใจกันเยอะมาก เพราะเป็นกิจกรรมที่นอกจากจะได้เพื่อนใหม่แล้วยังได้ออกกำลังกายด้วย (ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ใครจะไปคิดว่าเต้นสวิงแล้วจะเหงื่อออกเยอะขนาดนี้!)

และเมื่อวานนี้เอง ทีม Fungjaizine ก็ได้ไปปาร์ตี้สวิงแดนซ์ประจำปีของกลุ่ม Bangkok Swing ในชื่อ Diga Diga Doo จัดเป็นธีมงานเต้นรำวินเทจ ตารางกิจกรรมภายในงานบอกเราว่า จะมีคลาสสำหรับผู้เริ่มต้นในช่วงแรก จากนั้นก็จะเข้าสู่ช่วงดนตรีสด มีการแสดง สลับกันสองช่วง มีร้านตัดผมท่านชาย ร้านขายเสื้อผ้าและรองเท้าสำหรับนักเต้น ทุกอย่างถูกเนรมิตรออกมาราวกับหลุดไปในยุค 30s ภายในบอลรูมหรูของ Shanghai Mansion โรงแรมบูธีคสไตล์จีนใจกลางเยาวราชแห่งนี้

เรามาถึงที่งานตอนสองทุ่มพอดีตามเวลาที่เขาแจ้งว่าประตูเปิดเพื่อเข้ามาสำรวจสังคมที่ไม่คุ้นเคย อันที่จริงเราเคยมีโอกาสได้มาสัมภาษณ์ทีม Bangkok Swing เมื่อสมัยยังฝึกงานอยู่ และได้ร่วมคลาส beginner บ้างประปราย แต่พอถึงเวลาเข้ามาในงานแล้วเนี่ย เกร็งไปหมดค่ะ! ทุกคนดูมีสังคมเพื่อน ๆ ที่รู้จักกันอยู่แล้ว แล้วยังแต่งตัวกันจัดเต็มมาก hairpiece ขนนก เดรสกระโปรงกรุย ผู้ชายใส่สูทเซ็ตผมมาดภูมิฐาน เรานี่ไปแค่มินิเดรสลายป้า ๆ กับถุงผ้า ถึงกับต้องรีบไปหาไวน์มาดื่มที่มุมห้องเพื่อรวบรวมความกล้าก่อนต้องเผชิญหน้ากับทุกคน

เวลา 20.30 นิด ๆ ตามตารางแจ้งว่าเป็นเวลาของคลาสสำหรับผู้เริ่มต้น เพื่อนของเราเข้ามาเสริมทัพพอดีเลยลดความเจื่อนไปได้เล็กน้อย หลังจากเราจัดแจงเอากระเป๋าไปฝาก (ดี๊ดี มีที่ฝากกระเป๋าให้เราไม่ต้องเต้นไปแบกของไป แล้วไม่ต้องกลัวของหายด้วย) พอเดินกลับมาดนตรีเริ่มบรรเลงแล้วแต่คลาสยังไม่เริ่ม มีคู่เต้นเปิดฟลอร์กันไปหลายคู่ ส่วนอิฉันกับเพื่อนก็ยืนงง ๆ ดูเขาเต้นกันไป เอ้อ เต้นกันเก่งจังวะ อยากเต้นได้บ้าง เหมือนความคิดเรามันดังไปมั้ง ชายหนุ่มจากมาเลเซียโผล่มาเบื้องหลังพวกเราแล้วถามว่า ‘Do you want to dance?’

ฉันกับเพื่อนมองหน้ากันเลิ่กลั่ก เอ่า อยู่กันสองคน พี่เขาชวนใครวะ ด้วยความเลิ่กลั่กฉันก็ตอบตกลงไปเพราะคิดว่า โอเค อย่างน้อยก็เคยมีเบสิกงู ๆ ปลา ๆ เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว ซึ่งการไม่ได้เต้นนานนี่มันทำให้สนิมเกาะได้เหมือนกันนะ เราใช้เวลามองเท้าตัวเองจนเขาบอกว่า ‘Don’t look at your feet, listen to the music’ โอเคค่า ก็ยังเกร็ง เต้นผิด ๆ ถูก ๆ อยู่ดี จนจบเพลง เราแยกย้ายกัน แล้วเข้าสู่ช่วงสอนเต้นจริง ๆ ละ ยองจี กับ พี่โอ๊ต ตัวตั้งตัวตีหลักของกลุ่มออกมาสาธิตท่าเต้นพื้นฐานกับพวกเรา โดยให้ทุกคนยืนกันเป็นวงกลม ผู้หญิงหรือผู้ตามอยู่วงใน ผู้ชาย หรือใครที่จะเป็นผู้นำการเต้นซ้อนอยู่วงนอก แล้วให้เราทำความคุ้นเคยกับจังหวะในเพลงกันก่อน พร้อมกับหมุนเปลี่ยนคู่ทักทายคู่เต้นไปเรื่อย ๆ เป็นวิธี break the ice ที่น่ารักดี แต่ฉันผู้ไม่ใช่มนุษย์สังคมขนาดนั้นก็ยิ้มเหงือกแห้งใส่อีกฝ่ายพลางเหงื่อแตกกันไป

วิธีการเต้นไม่มีอะไรมาก (เหรอ.. จริง ๆ แก คือถ้าจับเบสิกได้ เดี๋ยวมันก็ได้เอง สำคัญคือต้องฟังเพลงแล้วเต้นตามผู้นำ) เราเป็นผู้หญิง เราจะอยู่ฝั่งขวาของผู้นำ แขนซ้ายเราโอบหลังอีกฝ่ายเบา ๆ แล้วมือขวาก็คว่ำลงเหมือนเป็นตะขอเกี่ยวอุ้งมือของอีกคน จากนั้นก็ก้าวเท้า เขาจะให้เราท่อง rock step step step (ถอย ก้าว ก้าว ก้าว) มันคือการ ถอยขาขวาไปข้างหลัง ก้าวขาซ้ายมาข้างหน้านิดนึง ก้าวขาขวาไปข้างหน้า แล้วก้าวขาซ้ายตาม ทำวนไป ‘แค่นี้ก็จะสามารถอยู่รอดได้ตลอดคืนแล้วค่ะ’ ยองจีบอกกับเราแบบนี้ มาดูกันว่าจะทำได้ หรือ ไม่ได้!!!

เราเต้นวนจับคู่ฝึกซ้อมกันพักหนึ่งจนมาหยุดที่คนสุดท้าย พร้อมกับที่พิธีกรพูดเปิดฟลอร์ให้ทุกคนเริ่มเต้นกันได้ พี่ที่คู่เราก็บอกว่า ‘เต้นกันไหมครับ’ เชี่ย… เดี๋ยวค่ะพี่ หนูยังทำท่า close the door/ slding doors (คู่เต้นจะผลักเราออกแล้วเราหมุนตัวกลับสู่อ้อมแขนของเขา อีกอันคือสลับกันทำ ดูโรแมนติกเนาะ) ที่เขาสอนไม่ได้เลยค่าาาา ก็เลยบอกว่า หนูเต้นไม่เป๊นนนน แต่แล้วบีทเพลงที่เริ่มเร็วขึ้น พี่เขากลับบอกว่า ‘งั้นเต้นเลยนะ’

ตัวฉันถูกเหวี่ยงนำให้เต้นตามจังหวะเพลง แรงที่คู่เต้นที่ส่งมาช่างแข็งแรง หนักแน่น ทำให้รู้สึกปลอดภัยได้ชั่วขณะ เหมือนกับฉันรู้ว่าต้องไปทางไหนต่อ… คือเราก็ไม่ได้ก้าวเท้าแบบถูกเบสิกมากนักหรอก แต่พี่เขาบอกแบบเดียวกับคนมาเลคนแรกที่ชวนเต้นไม่มีผิดว่า ‘อย่ามองเท้า’ แค่ฟังจังหวะเพลง พยายาม bounce เรื่อย ๆ (คือย่อตัวเบา ๆ ตามจังหวะ จะช่วยให้เคลื่อนไหวไปกับเพลงได้ดีขึ้น) ไม่ต้องรีบหมุนตัว ไม่ต้องรีบก้าว หรือก้าวด้วยน้ำหนักที่แรงเกินไป ปล่อยตัวตามสบายในแรงที่อีกฝ่ายจะนำเราไป… เข้ การมีคู่เต้นที่ lead เก่ง ๆ มันรู้สึกดีแบบนี้นี่เอง! (กราบขอบคุณพี่แบงค์มาก ๆ ค่ะ) เราเต้นด้วยกันสองเพลงก่อนจะแยกย้ายเปลี่ยนไปเต้นกับอีกคน รอบนี้เป็นหนุ่มแว่นฝรั่งขี้อาย เต้นแบบไม่พูดกันแต่ยังดำเนินไปได้จนจบเพลง และฉันก็เหยียบเท้าเขาไปหนึ่งที

สิริรวม 4 เพลงที่เต้นไปในค่ำคืนนี้แบบมีคู่เต้น ไม่รวมอีกหลายเพลงที่ยืนเต้นกันเองกับเพื่อนที่ไปด้วยกันในเสต็ปฟรีสไตล์ ฟีลลิ่ง ถ้าไม่มีใครมาชวนไปเต้น ฉันก็ยังเต้นกันเองได้ เพราะเพลงสนุกมาก เป็นวงดนตรีแจ๊ส The Gordon Webster Band ที่ได้ Charles Turner มาร้อง เสียงดีสะกดใจพวกเรามาก ในลิสต์มีเพลง Moon River ในจังหวะที่เต้นรำได้อีกด้วย

จบจากช่วงดนตรีสดแล้วก็เป็นช่วงการแสดง ในคืนนี้มี Ksenia Parkhatskaya นักเต้นสุดเซ็กซี่มาโชว์เดี่ยว ลีลาท่วงท่าของเธอต้องใช้คำว่าปังมากและสง่างามมาก ต่อด้วย Rico Kim และ Chloe Hong จากเกาหลีใต้ที่มาโชว์สเต็ปคู่สวิงแดนซ์สวยงามให้เราดู ก่อนที่จะเป็น Joseph C. Wiggan นักเต้นแท็ปหนึ่งในทีมการแสดงอันโด่งดัง Cirque Du Soleil และปิดท้ายที่ Juan Villafane จากอาร์เจนติน่า Remy Kouakou Kouame และ Alice Mei จากฝรั่งเศส มาร่วมเสริมทัพริโก้กับโคลอี้ใน lindy hop โชว์สนุกตื่นตาพวกเรามาก กระโดดตีลังกากันเป็นกายกรรมเลย

ขณะนั้นเป็นเวลาประมาณ 5 ทุ่มหลังจากเรากับเพื่อนดูทุกคนเต้นรำอย่างสนุกสนานกันอย่างเต็มอิ่ม คือทุกคนเต้นกันเก่งมาก ชอบที่มันก็มีแบบแผนของสวิงแดนซ์ แต่สเต็ปที่แต่ละคนเต้นออกมากลับฟรีสไตล์ เป็นการต้องจูนเคมีกับคู่เต้นมาก ๆ ซึ่งถ้าทำได้มันจะสนุก (และเหนื่อยมาก) จริง ๆ อยากอยู่ต่อน้า แต่เมื่อวานก็ปาร์ตี้กันดึกแล้ว ถ้าดึกอีกคืนน่าจะน็อคเอา

สำหรับใครที่พลาดงานนี้ไป ยังมีอีกหลายงานที่จัดโดย Bangkok Swing เป็นประจำทุกปีและวนที่จัดไปเรื่อย ๆ  อย่าง เต้นสวิงในสวนสาธารณะใกล้ป้อมพระสุเมรุ ริมแม่น้ำสามพราน ไปจนถึงพระปฐมเจดีย์ ลองติดตามดูกันได้ แต่ที่มีแน่ ๆ ทุกสัปดาห์คือที่ The Hop สีลม กับคลาสวันอังคารและวันเสาร์ เข้าไปดูรายละเอียดได้ที่ http://www.bangkokswing.com/ ใครอยากลองประสบการณ์สนุก ได้ออกกำลัง และลองการเข้าสังคมแบบใหม่ ๆ ไปทำความรู้จักกับพวกเขาได้นะ

• Twitter
• Line