Cuco ถึงกับช็อก เมื่อเด็กไทยแร็ปภาษาสเปนได้รัว ๆ ใน BAM Weekender
- Writer: Mikey Sent
- Photographer: Conflakes
9 กันยายน 2561
BAAM กลับมาอีกครั้งกับชื่อ BAM Weekender ในค่ำคืนสุดท้ายที่แสนหวาน หลังจากที่ผ่าน Giraffage และ Mild High Club มาหมาด ๆ และในรอบสุดท้ายนี้ Conflakes ได้พาพวกเราเข้าสู่ทุ่งดอกไม้ไปกับ Cuco หรือ Omar Banos หนุ่มละตินวัย 20 จากแคลิฟอร์เนีย ผู้ได้แรงบันดาลใจจากการฟัง MC Magic และ Baby Bash จนให้กำเนิดอัลบั้ม Wannabewithyou ตั้งแต่เขายังเรียนไฮสคูล (ร้ายกาจจจจจจ) และแน่นอนว่าค่ำคืนนี้คงเป็นสวรรค์ของคนที่รักในความโรแมนติกและแฟน ๆ lo-fi, hiphop, bed room pop อย่างแน่นอน
แฟนเพลงมานั่งรอจับจองพื้นที่กันตั้งแต่ 2 ทุ่ม จนถึงเวลาที่เราจะได้เห็น Cuco ปรากฏตัว และแน่นอนว่าธีมของงานคือ ‘floral babe’ ด้านหน้างานมีการตกแต่งด้วยแบ็คดรอปรูปบูชาของ Cuco แซมด้วยดอกกุหลาบละลานตา จนเวลาเกือบ ๆ สี่ทุ่มตรง เราได้เห็นได้ว่าชายหนุ่มหญิงสาวในชุดลายดอกเริ่มหลั่งไหลกันเข้ามาในงานมากขึ้น พร้อมกับการปรากฏตัวของศิลปินที่ทุกคนรอคอย พวกเขามีสร้อยคอกับข้อมือประดับดอกไม้ให้กลิ่นอายของฮาวายเอี้ยนหน่อย ๆ เรียกเสียงเฮจากแฟนเพลงไม่ขาดสาย
ด้วยความที่กำลังตาแตกกับศิลปินปรากฏตรงหน้า และวิชวลเหมือนจะมาจากฟุตเทจของการ์ตูนเรื่องใดสักเรื่องนึง ทำให้เราลืมไปเลยว่าเพลงแรกของเขาคือเพลงอะไร ก่อนที่สติจะกลับมาอีกครั้งในเพลง don’tmakemefallinlove ที่เรียกความสนุกสนานให้แฟนเพลงได้โยกตามกันเล่น ๆ ก่อนจะตัดกลับมาในเพลงช้า ๆ อย่าง Cupid’s Quiver ที่มีดาเมจของความ bed room สูงมาก บวกกับวิชวลรูปเป็ดน่ารัก ๆ ทุกคนก็ยังร้องตามได้เหมือนเดิม (สุดยอด)
พวกเขากระทำการกล่อมแฟนเพลงของเขาอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะทำให้คนเริ่มกลับมาเต้นตามต่อในเพลง Stay For a Bit ในจังหวะสบาย ๆ และลุยกันต่อเนื่องเลยด้วยเพลงฮิตอย่าง Summertime Hightime ที่มือคีย์บอร์ด (คนที่หน้าเหมือนพี่เวย์ ไทเทเนียม) ออกมาช่วยร้องด้วย จริง ๆ เขาก็คือ J-kwe$t คนที่มาแร็ปให้ในเพลงน่ะแหละ แม้ว่าจะมีบางพาร์ตที่เป็นภาษาสเปนแต่ก็ไม่ใช่ปัญหาของแฟน ๆ แถมยังแร็ปตามได้อย่างไม่น่าเชื่อ ให้บรรยากาศแบบชาวแก๊งเม็กซิกันแบบสุด ๆ (นี่อยู่ไทยกันจริงป้ะเนี่ย)
อีกหนึ่งเพลงฮิตก็ตามมาติด ๆ อย่าง Lo Que Sien To (What I Feel) ก็ร้องตามกันไปดิ จะเหลือหรอ ทุกอย่างดูอบอุ่นมาก ๆ ยิ่งเฉพาะตอนเพลง Amor de Siempre ขึ้น Cuco ก็ได้หยิบกล้อง DSLR จากข้างหลังขึ้นมาถ่ายภาพบรรยากาศเอาไว้ และดูเหมือนทุกคนจะแย่งกันออกกล้องด้วยสิ ก่อนจะโยนสร้อยดอกไม้ให้แฟนเพลงเป็นพัก ๆ เกิดกันยื้อแย่งอย่างสนุกสนาน ลุยกันต่อกับเพลงในอัลบั้มเดียวกันอย่าง Lover is a Day ซึ่งดูเหมือนทุกคนจะร้องเพลงนี้ออกมาดังที่สุด ในทุก ๆ ฮุค กับวิชวลและซาวด์ที่แสนหวาน เหมือนหลุดไปในทุ่งดอกไม้ริมทะเลสาบเลยทีเดียว
แต่ทุ่งดอกไม้ก็ถูกพังทลายลงโดยชาวแก๊งละตินอีกครั้ง อย่างในเพลง LUCY ที่ทุกคนเลิกเล่นเครื่องดนตรีของตัวเอง แล้วมากระโดดโลดเต้นในจังหวะ trap hiphop ปีนป่ายมอนิเตอร์กันอย่างเมามัน จนปรับอารมณ์กันแทบไม่ทัน แต่แขนกับขานี่เต้นนำไปก่อนแล้ว ไม่รอช้าพวกเขาพาเราขึ้น CR-V กันต่อเลย ท่าเลี้ยวพวงมาลัยกลายมาเป็นท่าเต้นประจำเพลง เหมือนเต้นแอโรบิกหน้าโลตัสตอนเย็น ๆ เลยแฮะ เข้าสู่ช่วงท้ายของสวนดอกไม้ กับเพลง Sunnyside เหมือนเป็นสัญญาณจากลา ไฟเวทีดับลง แต่ไฟของทุกคนยังไม่มอด เหมือนรู้ว่ามันยังไม่จบแค่นี้แน่ ๆ และแน่นอนเมื่อไฟกลับมาติดอีกครั้ง ชาวแก๊งได้ทิ้งเพลงสุดท้ายไว้นั่นก็คือ We Had To End It กับเสียงทรัมเปตเท่ ๆ จากเจ้าน้อง เป็นการปิดทัวร์ทุ่งดอกไม้อย่างสมบูรณ์