COEO ดีเจเทคเฮาส์ ดิสโก้ จากมิวนิก กับโชว์แรกสุดประทับใจในไทยที่ PIPPA พัทยา
- Writer: Montipa Virojpan
- Photographer: PIPPA Pattaya
เวลาเราพูดถึงพัทยา สิ่งแรก ๆ ที่นึกถึงก็ไม่พ้นทะเลและ Walking Street แต่จะมีสักกี่ที่ที่ทำให้จดจำได้ในฐานะเวนิวสำหรับดนตรีสดและดีเจ ที่บรรยากาศดีและใส่ใจในคุณภาพของอุปกรณ์ที่ใช้เพื่อให้ประสบการณ์ในโชว์นั้น ๆ ออกมาดีที่สุดบ้าง ล่าสุดเราก็พบว่าที่ PIPPA พัทยาเนี่ยแหละที่จะเป็นที่แรก ๆ ที่คอดนตรีอย่างเราจะนึกถึง และในอีเวนต์ที่เราได้ไปเป็นส่วนหนึ่งในวันนี้ พวกเขาก็ได้ชวน COEO ดูโอ้ดีเจจากมิวนิก เยอรมนี มาทำให้ค่ำคืนของเราพิเศษขึ้นไปอีกขั้น ร่วมด้วยดีเจจากญี่ปุ่น Takamichi และ Yoshi Gishiyama กับเจ้าบ้านมาแรงจากชลบุรี Wildealer
31 กันยายน 2562
หลังจากที่เรามาถึงที่ MYTT Beach Hotel พัทยาในช่วงบ่าย และได้ไปนอนอ่านหนังสือที่ Melt Bar ริมสระน้ำชั้น 12A เวลาห้าโมงเราก็ไปรวมตัวกันที่ Sutset Bar ซึ่งเป็น rooftop bar ชั้น 19 ระหว่างนั้นก็มี Takamichi กับ Yoshi Gishiyama กำลัง b2b กล่อมเราด้วยเพลงทรอปิคัลเฮาส์ให้อุ่นเครื่องพร้อมชมพระอาทิตย์ตกไปพลาง ๆ
ก่อนจะมูฟไปรับประทานอาหารเย็นกับเมนูนานาชาติ เอเชียนฟิวชัน ใน The Dining Room ที่ระหว่างทางเราจะเดินผ่าน open kitchen ได้เห็นเชฟเตรียมอาหารให้เราแบบะ ๆ และมีค็อกเทลทั้งคลาสสิกและซิกเนเจอร์ละลานตาพร้อมเสิร์ฟระหว่างมื้ออาหาร
จนได้เวลาที่เราจะกลับออกมาตรงโซนเอาต์ดอร์เพื่อสนุกกับ Wildealer ที่เปิดแทร็คดีพเฮาส์เรียกให้คนออกมาเต้นกันก่อนไปเจอกับเฮดไลเนอร์ ความน่าสนใจของพวกเขาคือนอกจากจะเป็นชาวบางแสนโดยกำเนิดแล้ว การมาเป็นดีเจของเจและโน้ตคือการลองผิดลองถูกจากความชื่นชอบและแพชชันล้วน ๆ พวกเขายังสร้างซีนเต้นรำ จัดปาร์ตี้เล็ก ๆ ในบางแสนก่อนจะกระเถิบไปที่กรุงเทพ ฯ และเป็นที่จับตามองในงานสายเทคเฮาส์ ดีปเฮาส์ ไปจนถึงเวิร์ลมิวสิก เทคโน และดนตรีอิเล็กทรอนิกทดลอง
กว่า 5 ปีที่พวกเขาร่วมงานกัน ทั้งสองได้รับโอกาสไปเล่นที่เทศกาลต่าง ๆ ทั้ง Wonderfruit, Tempology, Beamfest, Afterparty Kolour reunion 2019 และ Waterzonic และปัจจุบันโน้ตเป็นดีเจที่ Rabbit Hole และ BEAM ส่วนเจก็มาเป็น music director ให้ที่ PIPPA ด้วย
ประมาณสี่ทุ่ม COEO ก็มารับช่วงต่อกับเพลง heavy disco สลับกับเฮาส์ โดยมี Antonio Sax มือแซ็กโซโฟนมาร่วมแจมประกอบกับแทร็คดิสโก้เท่ ๆ เป็นครั้งแรกที่เราได้ฟัง live saxophone คู่กับแบ็คกิ้งแทร็คจากดีเจพร้อม ๆ กัน แล้วไวบ์ก็คึกคักขึ้นเรื่อย ๆ คนดูเต้นกันแบบไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
รวมถึงเราเองที่รู้สึก ‘high’ กับเพลงของพวกเขา ที่สามารถบิลด์จากที่โยกสบาย ๆ ให้ย่ำเท้าแบบไม่หยุดพักได้ แต่ก็ไม่แน่ใจว่าส่วนหนึ่งเพราะกดค็อกเทลไปนับไม่ถ้วนหรือเปล่า แต่จริง ๆ เลยคือไดนามิกของเพลงที่เลือกมา และระบบเสียงของ Fucktion One ที่การันตีคุณภาพการได้ยินเสียงทุกย่านครบถ้วน คมชัด (ความที่ระบบ surround ระดับท็อปคลาสขนาดนี้ทำให้คุยกับเพื่อนได้รู้เรื่องแบบไม่ต้องตะโกนแข่งกันและไม่ได้ยินเสียงคนอื่นรบกวนด้วย) รวมถึงการต่อเพลงกันแบบไม่ได้ใช้ลูกเล่นฟิลเตอร์อะไรมากแต่เป็นการเลือกแทร็คที่เชื่อมกันได้อย่างแนบเนียนทำให้เราขนลุกได้ในหลายครั้ง และการสอดประสานของแซ็กโซโฟนเป็นระยะ ๆ ที่ไม่มากไป ไม่น้อยไปก็ให้ผลดีเสมอ ฟลอร์เริ่มร้อนระอุขึ้นเรื่อย ๆ จนเรามารู้ตัวอีกทีก็เต้นอยู่หน้าบูธดีเจกับเพลงเทคเฮาส์ของพวกเขาไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว จนเพลงด้านนอกเฟดลง ผู้ชมตบมือชอบใจให้กับปาร์ตี้ที่เพิ่งจบลงไป แต่ความสนุกยังไม่หมดแค่นี้ เมื่อทุกคนพากันมูฟเข้าไปที่ PIPPA’S Secret Bar ซึ่งเป็น hidden bar ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังโซนรับประทานอาหารอีกที ถ้าเป็นวันที่ไม่มีอีเวนต์พิเศษเราก็จะได้ฟังเพลงจากแผ่นเสียงที่เปิดกับ turntable แต่ในงานวันนี้บาร์ถูกเปลี่ยนบรรยากาศไปด้วยไฟสีแดงส้มฉาบไปทั่วบาร์ที่แต่งด้วยคอนเซ็ปต์ใบไม้แห้งในฤดูใบไม้ร่วม ต่างจากโซนภัตตาคารที่เป็นใบไม้เขียวสดที่มองผาด ๆ แล้วทำให้นึกถึงของประดับบ้านในช่วงคริสต์มาส festive มาก ๆ โดยดีเจที่มารับหน้าที่ใน after party ต่อคือ B.sakkarn นั่นเอง
ถือเป็นอีกก้าวหนึ่งของซีน nightlife ในพัทยา กับการตอบทุกไลฟ์สไตล์คนเมืองที่อยากจะหลบหนีความวุ่นวายมาสู่ประสบการณ์เต็มรูปแบบ โดยที่เราสามารถวางใจได้เลยว่าถ้าอยากมาฟังดนตรีดี ๆ ระบบเสียงไร้ที่ติ รวมถึงอาหารและค็อกเทลที่จะไม่ทำให้ผิดหวัง ได้ที่ PIPPA ชั้นบนสุดของ MYTT Beach Hotel พัทยา