ระเห็ดเตร็ดเตร่

Cat Gig Yellow Fang ตอน แฟงพันธุ์แท้

  • Writer: Montipa Virojpan

30 กันยายน 2558

สารภาพว่าติดตามผลงานของสาว ๆ แก๊งเขี้ยวเหลืองมาเป็นเวลานาน จนสามารถร้องได้เกือบทุกเพลง แต่เมื่อปีที่แล้วพวกเธอก็เพิ่งจะได้ฤกษ์รวบรวมผลงานทั้งหมดมาไว้ในอัลบั้ม The Greatest ที่แฟน ๆ ต่างรอคอยมาอย่างเนิ่นนาน และค่ำคืนนี้เองก็เป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์สำคัญของ Yellow Fang เพราะพวกเธอจะได้มาแสดงคอนเสิร์ตของตัวเองเป็นครั้งแรก และแน่นอนว่าแก๊งนี้ก็ไม่ลืมที่จะขนงานที่เราร้องตามกันได้มาเล่นให้ฟังกันแบบครบถ้วนกระบวนเพลง ทว่าก่อนหน้านี้ เราไม่ได้คาดหวังถึงความพิเศษใด ๆ ที่จะเกิดขึ้นในคอนเสิร์ต เพราะก็คิดว่า Yellow Fang ก็เล่นดีตามมาตรฐานของตัวเองในทุกครั้งที่เล่นสดอยู่แล้ว แต่ผลคือฟินเกินคาดมากมาย แบบว่า ใครเป็นแฟนคลับของวงนี้แล้วไม่ได้มาดูงานนี้คือพลาดมากจริง ๆ

Cat Gig Yellow Fang ตอน แฟงพันธุ์แท้ เรียกว่ามีขึ้นเพื่อคืนกำไรให้แฟนเพลงตัวเป้งของคณะเขี้ยวเหลืองที่อยู่กับเรามาอย่างยาวนานเกือบ 7 ปีก็ว่าได้ โดยงานนี้จัดที่มงคลสตูดิโอ RCA เจ้าเก่า ซึ่งการจะได้ดูคอนเสิร์ตนี้ต้องช่วงชิงความเป็นแฟงพันธุ์แท้กันในเวลาจัดรายการ หรือนำของต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับ Yellow Fang มาแสดงที่ Cat Radio ถึงจะได้รับสิทธิ์เข้างาน จำกัดจำนวนผู้เข้าชมเพียง 300 คนเท่านั้น

ก่อนมาถึงงานก็ค่อนข้างจะทุลักทุเลเพราะฝนกระหน่ำลงมาหนักมาก จากรถไฟฟ้า สู่รถไฟใต้ดิน แล้วต่อมอเตอร์ไซค์ การเดินทางไปโรงภาพยนตร์ House ในวันฝนตกถือเป็นโศกนาฏกรรม แต่สุดท้ายเราก็มาถึงที่หมายจนได้ ความเศร้ายังไม่หมดเพียงเท่านี้ คือเรามาทันวง Fwends ที่ได้เล่นเป็นวงเปิดเล่น 2 เพลงสุดท้าย คือ Fade Away กับ Where Do We Go แต่บอกเลยว่าเดี๋ยวนี้ฝีไม้ลายมือวงนี้ไม่ธรรมดา วันนี้เล่นแน่นเปรี๊ยะ สนุกมาก โยกกันเพลิน

หลังจากดีเจกันต์ และดีเจไมเคิลชวน Fwends พูดคุยและเล่นเกมแจกรางวัลไปแล้วพักหนึ่ง ก็ได้เวลาที่ Yellow Fang จะขึ้นมามอบความสุขให้กับเหล่าแฟงพันธุ์แท้ แม้ว่าในเพลงแรกอย่าง เลี้ยง จะมีความตะกุกตะกักไปบ้างของสมาชิกในวง แต่สักพักก็เริ่มเข้าที่เข้าทาง พอจบเพลงแป๋งกับพิมก็สารภาพว่าพวกเธอตื่นเต้นมาก เหล่าแฟนคลับเลยส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจกันยกใหญ่ แล้วจึงมามันกันต่อในเพลงที่สองกับ พลั้ง ที่ตอนขึ้นเพลงก็มีสมาธิหลุดกันอีกรอบ เรียกเสียงหัวเราะกันลั่นฮอล บรรยากาศตอนนี้เองที่เรารู้สึกว่าแตกต่างกับงานที่เล่นงานก่อน ๆ คือเราจะติดภาพสาวเท่สามคนสามสไตล์ ทำอะไรก็ดูเท่ไปหมด แต่หนนี้เรากลับรู้สึกอบอุ่นเป็นกันเอง (แต่ก็ยังเท่อยู่) แบบที่ไม่เคยเห็นพวกเธอในมุมนี้มาก่อน จากนั้นจึงเป็นเพลง ข้างใน แล้วค่อยมาเรียกจังหวะมัน ๆ กันกับเพลง Valentinos

ถึงช่วงนี้เองที่เซอร์ไพรส์เริ่มโผล่เข้ามาเรื่อย ๆ แป๋งเรียกสมาชิกเก่าแก่อย่าง ปุ๋ย ออกมา ปุ๋ย คืออดีตมือเบส Yellow Fang ที่เราแอบกรี๊ด ปัจจุบันไปโลดแล่นอยู่บนนิตยสารแฟชันชั้นนำเป็นที่เรียบร้อย (สามารถติดตามผลงานล่าสุดของปุ๋ยได้ในนิตยสาร Image เล่มเดือนตุลาคม) ซึ่งเธอออกมาพร้อมกับเพลง I Don’t Know ที่เธอเป็นคนแต่งเนื้อร้องในเพลงนี้ด้วย เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อเพลงต่อไปที่พวกเธอจะเล่นคือเพลงที่ปุ๋ยใช้สำหรับหัดเล่นเบสในช่วงแรก ๆ และเพลงนั้นคือ อาจยังไม่สาย มีวิน Sqweeze Animal ขึ้นมาร่วมร้องด้วย วินบอกว่า เขาร้องเพลงของ Yellow Fang ได้ทุกเพลง ส่วนสิงห์ก็ชอบมาก ตอนนี้หลาย ๆ คนก็น้ำตาคลออย่างช่วยไม่ได้จริง ๆ เพราะความคิดถึงสิงห์ เจ้าของไลน์กีตาร์สุดเท่ในเพลงนี้ และแป๋งก็ทำออกมาได้ดีไม่แพ้กัน จบจากเพลงนี้แล้วก็เป็นคิวของแขกรับเชิญอีกคนอย่าง เบียร์ สรณัฐ มัสยวานิช ที่ขึ้นมาเล่นเมาท์ออร์แกนให้ในเพลง เก็บผ้า จบจากช่วงนี้แล้วก็เป็นอีกโชว์พิเศษ นี่คือครั้งแรกที่แป๋ง แพรวา และพิม จะสลับเครื่องดนตรีกันเล่นเพลง เอาแต่ใจ ซึ่งแป๋งปกติจะเล่นกีตาร์ก็หนีไปตีกลอง พูดเลยว่าทำได้ดีมาก ๆ ส่วนแพรวาก็หนีจากกลองไปจับเบส นี่ก็เล่นดูสบาย ๆ เหมือนกัน ส่วนพิมก็ทิ้งเบสไปหากีตาร์ อาจจะเล่นหลุด ๆ ไปบ้างแต่กลับดูมีสเน่ห์มากขึ้นไปอีก พอจบเพลงพวกเธอก็ขอตัวไปเปลี่ยนชุดสำหรับโชว์พิเศษอันต่อไป ยิ่งคอนเสิร์ตดำเนินไปงานเซอร์ไพรส์ก็ยิ่งพีคขึ้นเรื่อย ๆ

ระหว่างที่ Yellow Fang ไม่อยู่นี้ก็มีวง No Monument (น่าจะชื่อนี้ถ้าจำไม่ผิด) วงเมทัลสุดเดือดที่เคยไปแสดงที่ญี่ปุ่นมาแล้วมาเล่นช่วงนึง ตอนนี้ก็ head bang กันคอหลุด พอจบเพลง สาว ๆ ก็เดินออกมาในชุดเดรสสามสี น้ำเงิน ชมพู น้ำตาล เนื้อผ้ามันวาววิบวับ จากนั้นก็มีสมาชิกเฉพาะกิจ Yellow Boys มาเล่นให้พวกเธอ ซึ่งในกลุ่มนี้ก็ได้ศิลปินฝีมือดีมากหน้าหลายตามาร่วมสนุกกัน ทั้ง เท็ดดี้ Flure ที่ปกติเป็น sound engineer ในแทบทุกโชว์ และเป็นโปรดิวเซอร์อัลบั้มให้ มาเล่นในตำแหน่งกีตาร์, กล้วย จริญตนาใก เล่นเบส, ไมเคิล The Lowdowns เล่นคีย์บอร์ด และ อูฐ Duck & Noodle DJ, event, party organizer หน้าใหม่ที่เคยจัดงาน Boat Party มาเล่นกลองให้ บรรยากาศโชว์ตอนนี้ถูกเนรมิตให้กลายเป็นไนท์คลับปลาย 70s ต้น 80s ยุคที่เพลง funk, soul, disco รุ่งเรื่อง โดยหยิบเพลงของ Amy Winehouse อย่าง Tears Dry On Their Own มาเล่น เราพบว่าเวลาแป๋งร้องเพลงแนวนี้แล้วเสียงของเธอมีสเน่ห์เอามาก ๆ ร่วมด้วยคอรัสจากพิมและแพรวายิ่งดีงาม กับท่าทางขวยเขินเล็กน้อยแต่ยังสดใสและเป็นกันเอง ถือเป็นกลุ่มศิลปินมากความสามารถกลุ่มนึงเลยล่ะ แป๋งพูดติดตลกว่า พอดีพวกเราชอบร้องคาราโอเกะ วันนี้ก็ขอวันนึงก็แล้วกัน ก็เลยจัดมาให้เราอีกสองเพลง ทั้ง Love You Inside Out จาก Bee Gees และอีกเพลงน่าจะเป็น Take Me Home ของ Sophie Ellis-Bextor จุดนั้นนึกว่าตัวเองกำลังอยู่ใน SoulBar ถูกจริตจริง ๆ เต้นสนุกมาก สามคนน่ารักมาก

จบจากโชว์ Yellow Fang Divas กันไปแล้วก็กลับสู่สภาวะปกติ พวกเธอกลับมาจับเครื่องดนตรี และเท็ดดี้ก็ประจำอยู่กับกีตาร์ ส่วนคนอื่น ๆ ลงจากเวทีไปแล้ว จึงเล่นเพลง ดูซิลอง ต่อด้วย ห่มผ้า จากนั้นเวทีก็กลับมาเป็นของทั้งสามคนอีกครั้งในเพลง Unreal ก่อนจะส่งท้ายกันไปด้วยเพลงที่ทำให้เราหลายคนรู้จักพวกเธออย่าง หมึกใหม่ปิ๊กโก้ ที่ได้ เท็ดดี้ เบียร์ ไมเคิล กลับขึ้นมาร่วมแจมอีกครั้งหนึ่ง

ในช่วงระหว่างโชว์แป๋งพูดว่า จริง ๆ แล้ว Yellow Fang ไม่ใช่วงที่มีกันแค่สามคน เพราะตั้งแต่แรกเริ่มที่พวกเธอทำเพลงกันก็มีเพื่อน ๆ แวะเวียนกันมาให้ความช่วยเหลือและร่วมเล่นด้วยกันอยู่เสมอ และไม่ใช่วงหญิงล้วนแน่ ๆ เพราะ… ตรงนี้เว้นจังหวะไประยะนึงเหมือนจะทำซึ้ง แต่ก็โพล่งออกมาว่า เพราะพวกเราไม่ใช่ผู้หญิง ก็เป็นมุมน่ารัก ๆ เรียกเสียงหัวเราะจากแฟน ๆ ไปได้อีกรอบ สิ่งที่น่าชื่นใจคือเกือบทุกคนร้องเพลงของพวกเธอได้ คนที่ยืนข้าง ๆ นี่แหกปากแข่งกับเราสนุกเลยล่ะ แต่น่าเสียดายที่คนไม่ค่อยเต้นกัน ไม่งั้นจะนับว่าเป็นอีกคอนเสิร์ตที่ฟินอยู่แล้วจะยิ่งฟินขึ้นไปอีก เอาจริง สนับสนุนให้คนไปดูคอนเสิร์ตอย่าเขิน ถ้าเพลงดี เล่นมัน ก็เต้นเถอะ เดี๋ยวจะมีคนเต้นเป็นเพื่อนเราแล้วก็จะหายเขินเอง การเต้น การโยก การโดด นี่เป็นกำลังใจให้ศิลปินได้จริง ๆ นะ เวลาเขาเห็นคนสนุกไปกับเพลงของเขาน่ะ จะบอกว่าคนที่ได้มาอยู่ในฮอลนี้ตอนนี้คุณคือผู้โชคดีสุด ๆ แล้ว เพราะเราไม่ได้มีโอกาสที่จะได้เห็น Yellow Fang ในมุมนี้ ทำโชว์แบบนี้ กันอยู่บ่อย ๆ สรุปคืองานครั้งนี้ก็จบไปอย่างงดงามน่าประทับใจ มารอดูกันเถอะว่า Cat Radio จะจัด Cat Gig ให้กับวงอะไรในครั้งต่อไป คอยติดตามกันด้วยล่ะ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้