อิ่มเอมไปกับทัวร์ครั้งสุดท้ายของวง Boyzone ในคอนเสิร์ต Thank You & Goodnight Farewell Tour
- Writer: Malaivee Swangpol
หลังจากผ่านไป 26 ปีตั้งแต่พวกเขาก็ตั้งวงในปี 1993 นี่ก็ถึงเวลาที่ Boyzone ทั้ง 5 (ตามที่ Ronan Keating กล่าว) จะได้กล่าวอำลาเวทีเพื่อเดินทางไปตามความฝันของตัวเอง และปิดตำนานที่พวกเขาได้สานฝันของ Stephen Gately เพื่อนร่วมวงผู้จากไปในปี 2009 ไปอย่างสวยงาม ซึ่งค่ำคืนวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา จะเป็นอีกคืนที่เราจะจดจำในฐานะแฟนเพลงคนหนึ่งไว้ตลอดไป และจะเฝ้ารอวันที่พวกเขาได้กลับมารวมกันอีกครั้ง
เราเดินทางถึงธันเดอร์โดมตั้งแต่ช่วงทุ่มตรงนิด ๆ หลังจากรับบัตรและแลกรับริสต์แบนด์ก็ซื้อเสื้อทัวร์ ก่อนจะเข้างานช่วงสองทุ่ม ซึ่งหลังจากเรานั่งรอมาเรื่อย ๆ เกือบชั่วโมงก็เริ่มสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น จนมีเสียงพิธีกรประกาศออกไมค์ว่า Keith Duffy ป่วยหนัก ซึ่งพอวงขึ้นแสดงเราก็ได้พบเพียงสามสมาชิกอย่าง Ronan Keating, Michael Graham และ Shane Lynch ซึ่งมาในชุดสีดำดิ้นทองสุดอลังการ เปิดด้วยเพลง Who We Are จากอัลบั้ม BZ20 ก่อนจะต่อทันทีด้วยอินโทรเพลง Love Is A Hurricane ที่ฉาย mv ซึ่งสี่สมาชิกมาเล่นน้ำกันอย่างสนุกสนาน จากนั้น Shane ก็มาทักทายทุกคนก่อนจะบอกว่า เพลงต่อไปย้อนกลับไปปี 1995 คือเพลง Coming Home Now ซึ่งประกอบกับภาพ mv สมัยสมาชิกยังเป็นวัยรุ่น ซ่า ๆ ก็ตลกดี แล้วไปนั่งพักชิว ๆ กับเพลง Baby Can I Hold You สุดซึ้งที่คนร้องตามได้ลั่นฮอลล์ จากนั้นเป็น Isn’t It A Wonder จากนั้น Ronan ก็ออกมาชวนให้เราส่งเสียงกรี๊ดไปถึง Keith ที่นอนป่วยอยู่หลังเวที แล้วเป็นเพลง You Needed Me, All That I Need ก่อนจะไปเพลงสุดซึ้ง I Love The Way You Love Me ก่อน Ronan จะออกมาเล่าถึงเพลงต่อไป Father And Son ว่าเป็นเพลงที่ Keith ผูกพัน เพราะเขารู้ว่าจะได้เป็นพ่อคนในปีที่เพลงนี้ปล่อย
คั่นโชว์ด้วยวิดีโอสัมภาษณ์ของทั้ง 4 ถึงความสัมพันธ์ที่แน้นแฟ้น, การ come out ของ Stephen ที่ทำให้เขากดดันมาก ๆ และการจากไปที่ทำให้ทั้ง 4 ผูกพันกันแน่นแฟ้น และจะรำลึกความทรงจำของ Stephen ไว้ตลอดไป ในทุก ๆ ที่พวกเขาขึ้นแสดง จากนั้น Boyzone ก็กลับขึ้นเวทีด้วยคอสตูมใหม่ที่แต่ละคนดูเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น โดยเปิดด้วย Dream จากอัลบั้มสุดท้าย Thank You & Goodnight กับลำแสงสีขาวที่ฉายขึ้นฟ้าที่หมายถึงจิตวิญญาณของ Stephen จากนั้นซึม ๆ ไปกับ Everyday I Love You ที่เปิดเสียงร้องในท่อนของ Stephen มาให้เราได้น้ำตาซึม แล้วเป็น Key To My Life กับ mv วินเทจน่ารัก ๆ เกี่ยวกับการแอบรักคุณครูคนสวย ซึ่งนี่เป็นอีกช็อตที่ทำแฟน ๆ ตายคาที่กับการซิงค์เสียงร้องของ Stephen กับ mv ด้านหลัง เหมือนเราดูไปด้วยแล้วเขามาร้องให้เราฟังจริง ๆ ฮือออออ แล้วทิ้งช่วงเศร้าไปด้วย Words
Ronan ออกมาเล่าเรื่องราวให้เราฟังอีกครั้งว่า ‘อัลบั้ม Thank You & Goodnight เป็นอัลบั้มที่พวกเราเปลี่ยนวิธีการทำอัลบั้ม จากเดิมที่จะทำอัลบั้มโดยเลือก 10 เพลงที่เป็น Boyzone มากที่สุด แต่อัลบั้มนี้เปลี่ยนเป็นการเลือกเพลงที่แต่ละคนชอบที่สุด ไม่ว่าจะเป็นป๊อบ, ร็อก, อาร์แอนด์บี, คันทรี่, อีดีเอ็ม ฯลฯ อีกอย่างคือ เดี๋ยวนี้ไม่มีใครฟังเพลงเป็นอัลบั้มกันอีกแล้ว ทุกคนสตรีมเพลง ทำเพลย์ลิสต์ เพราะฉะนั้น มาฟังเพลย์ลิสต์ของพวกเรากันครับ’ แล้วเราก็ได้ฟังเพลงอีดีเอ็มสุดวัยรุ่นกับ Talk About Love ที่เราได้เห็นทั้งสามสมาชิกมาเต้นกันแบบวง K-Pop สุดเท่ กับ vtr ด้านหลังที่เป็นสี่สมาชิกขับรถซิ่งใน virtual world แล้วไปสนุกกันต่อกับ Love You Anyway
จากนั้นไปซึ้งกันซักหน่อยกับ When You Say Nothing At All ที่แน่นอนว่าเสียงร้องดังลั่นฮอลล์ตั้งแต่ต้นจนจบ ก่อนจะย้อนวัยกับ When The Going Gets Tough พร้อมคาราโอเกะด้านหลัง ซึ่ง Ronan ก็แอบมีลืมเนื้อเล็กน้อยแต่ก็ยิ้มเขิน ๆ ไม่เป็นไรค้าบ ให้อภัยอยู่แล้ว! ซึ่งนอกจากคาราโอเกะแล้วยังมีภาพจาก mv กับลูกบอลสีแดงเด้งดึ๋ง ตลก จากนั้นก็สนุก ๆ กับ Love Me For A Reason ที่ทิ้งท่อนดนตรีเงียบให้ทุกคนร่วมกันร้องลั่นฮอลล์ และ No Matter What ที่วงชวนคอรัสสาวมาร้องข้างหน้า จากนั้นทิ้งท้ายไปด้วยเพลงที่ Ronan บอกว่าเป็น ‘เพลงชาติของ Boyzone’ กับ A Different Beat สุดฮึกเหิม
ไม่ปล่อยให้รอนาน วงก็กลับขึ้นมาอีกครั้งกับ Life Is A Roller Coaster ที่วงเปิดให้คนทั้งฮอลล์วิ่งมาดูติดขอบเวทีกันอย่างสนุกสนาน แล้วทิ้งท้ายไปด้วย Picture Of You สุดประทับใจ
ขอบคุณ Godzillionaire Group สำหรับการอำนวยความสะดวก แล้วหวังว่าจะได้พบกับเหล่า Boyzone อีกซักครั้งเมื่อมีโอกาสนะ
ติดตามรีวิวคอนเสิร์ตได้ที่เพจ ฟังใจ – Fungjai