Boyce Avenue Live in Bangkok 2018 5 มิถุนายน 2561

การเดินทางมาเยือนประเทศไทยครั้งแรกของ Boyce Avenue วงดนตรีทรีโอขวัญใจคนชอบฟังเพลงคัฟเวอร์ สามพี่น้องจากฟลอริด้า พวกเขาเริ่มเส้นทางนักดนตรีด้วยการคัฟเวอร์เพลงดังระดับโลก ด้วยยอดวิวบน YouTube ที่มากกว่า 3.7 พันล้านวิว การเดินทางของพวกเขาก็ได้เริ่มขึ้นเมื่อพวกเขาตัดสินใจทำอัลบั้มของพวกเขาเอง จากเส้นทางนักดนตรีคัฟเวอร์สู่ศิลปินมืออาชีพ ในวันนี้โอกาสก็มาถึงคนไทย กับการโคจรมาพบกันในคอนเสิร์ต BoyceAvenue Live in Bangkok 2018 ในคืนวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา

คอนเสิร์ตจัดขึ้นใจกลางเมืองกรุงเทพมหานคร ที่เซ็นทรัลลาดพร้าว พวกเรามาถึงก่อนเวลาประตูเปิดไม่นาน การมาเซ็นทรัลครั้งนี้ เต็มไปด้วยเหล่าแฟนเพลงของพวกเขามากมาย ทำให้บรรยากาศของ BCC HALL คึกครื้นมากขึ้นจากผู้ชมต่างเพศต่างวัย แต่มีจุดหมายมาพักผ่อนร่วมกันในเย็นวันอังคารที่แฟนเพลงต่างเหนื่อยล้าจากการทำงาน และแล้วเมื่อถึงเวลา 1 ทุ่ม ทางทีมผู้จัดงานก็ได้ปล่อยให้พวกเราได้เข้าไปรอใน BCC HALL ก่อนที่จะถึงเวลาเริ่มการแสดงที่ได้จัดเตรียมไว้สำหรับค่ำคืนนี้

เมื่อพูดถึงวงดนตรีคัฟเวอร์ที่โด่งดังเป็นพลุแตกจากการอัดคลิปคัฟเวอร์ลง YouTube สู่การเป็นศิลปินเต็มตัว จนมีเพลงฮิตติดชาร์ตจากบทเพลงที่ตัวเองสร้างสรรค์ขึ้น วงแรก ๆ ที่ผุดขึ้นมาในหัวคงหนีไม่พ้นวง Room 39 ซึ่งนับว่ามีเส้นทางดนตรีที่คล้ายกับวง BoyceAvenue โดยเพลงทุกเพลงที่พวกเขาแต่งขึ้นนั้นได้สร้างประสบการณ์ดนตรีใหม่ ๆ ให้พวกเราเสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นปี หรือสิบปี เรียกได้ว่าไลน์อัพศิลปินของงานคอนเสิร์ตนี้ ต้องชื่นชมทางผู้จัด Miracle Management ที่นำศิลปินคัฟเวอร์ขวัญใจคนไทย และทั่วโลกมารวมตัวบนเวทีเดียวกัน

และแล้วเวลาของพวกเขาก็มาถึง Room39 เริ่มต้นด้วยเพลง หน่วง ซึ่งเป็นซิงเกิ้ลแรกของพวกเขา ซึ่งได้พี่ บอย โกสิยพงษ์ ร่วมแต่งเนื้อร้อง หลังจากที่พวกเราได้รู้จักพวกเขาในมุมของเพลงคัฟเวอร์ ในวันนี้ Room39 ได้ขับร้องผลงานเพลงของพวกเขาเอง เข้าสู่เพลงที่สอง รักใครไม่ได้อีก พวกเขาได้มอบเพลงนี้ให้สำหรับคนที่กำลังคิดถึงแฟนเก่า ทำให้คนดูได้อินตามกันเป็นแถบ แถมยังขนเพลงฮิตติดชาร์ตมาร้องมากมาย จนดำเนินไปถึงเพลงสุดท้าย ก่อนจะจากกันด้วยเพลง เป็นทุกอย่าง ซึ่งผู้ชมร้องตามกันได้ลั่น BCC HALL เลยทีเดียว

หลังจากนั้นเวลาที่ทุกคนรอคอยก็ได้มาถึง เริ่มต้นคอนเสิร์ตอย่างฮึกเหิมด้วยเพลงของพวกเขาเอง Hear Me Now แค่เพลงแรกต้องบอกเลยว่า เราสัมผัสได้ถึงความเป็นมืออาชีพจากสามพี่น้องที่ไม่หยุดยั้งความพยายามในการสร้างเสียงดนตรี ทำให้ได้เห็นพลังของศิลปินคัฟเวอร์ที่ตั้งใจสร้างผลงานเพลง เล่นซะแฟนเพลงหลายคนถึงกับน้ำตาคลอไปตามกัน

เพลงถัดไปถึงคิวของเพลงคัฟเวอร์ชื่อดัง ที่ทางวงได้ขนมาเล่นให้ฟังกันอย่างหนำใจกับ setlist ที่น่าสนใจ ด้วยการเล่นเพลงของพวกเขาเอง ทั้ง Cinderella, One Life, Torn, Be Somebody สลับกับเพลงคัฟเวอร์ยอดฮิตที่ Boyce Avenue ได้นำมา re-arrange ในแบบสไตล์อะคูสติก เช่น Wonderwall, We Found Love, Yellow, Castle on the Hills, Teenage Dream, A Thousand Years, Say You Won’t Let Go, Perfect จากที่เคยฟังผ่าน YouTube ซึ่งถือว่าสามารถฟังได้อย่างเพลิน ๆ เมื่อได้มาฟังศิลปินระดับโลกมาคัฟเวอร์ให้ฟังกันสด ๆ ถือว่าน่าประทับใจเป็นอย่างมาก

ช่วงเวลาดี ๆ มักผ่านไปเร็วเสมอ คอนเสิร์ตในครั้งนี้ก็เล่นกัน น่าเสียดายที่โชว์ได้ดำเนินมาถึงช่วงสุดท้าย โดยพวกเขาได้นำเพลง Iris ของ Goo Goo Dolls ซึ่งเป็นเพลงที่สร้างชื่อเสียงให้กับวง ในฐานะศิลปินคัฟเวอร์ และเป็นเพลงที่พวกเขาเคยพูดไว้ว่ามีความหมายต่อชีวิตของพวกเขาทั้งสามคนมาก นำมาร้องให้ผู้ชมฟังอีกครั้ง สร้างความประทับใจจนผู้ชมต่างลุกขึ้นยืนและนำมือถือขึ้นมาเปิดไฟและชูขึ้นอย่างสุดแขน ก่อนกลับพวกเขายังได้กล่าวอีกว่าประทับใจกับคอนเสิร์ตครั้งนี้มาก และจะกลับมาแสดงคอนเสิร์ตที่เมืองไทยอีกแน่นอน และได้กล่าวขอบคุณแฟนเพลงทุกคนที่ทำให้พวกเขามีวันนี้อีกด้วย

กลับสู่รากดนตรีโฟล์กร็อกฉบับอังกฤษ Mumford & Sons Live in Bangkok

• Twitter
• Line