Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

รำลึกความหลังและเปิดรับความหวังใหม่ใน #JAMnight Live! with Beach Fossils + Her’s

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Book Kositphasaj (Hear and There)

9 มีนาคม 2561

img_9978

5 ปีที่แล้ว นี่เป็นวงต่างประเทศแรก ในชีวิตที่เปิดประสบการณ์การดูคอนเสิร์ตแบบจริงจังเต็มรูปแบบ
5 ปีที่แล้ว การเกาะรั้วหน้าเวทีและตะโกนแหกปากให้กับเพลงโปรดยังเป็นสิ่งที่กระทำได้โดยไม่มีคำว่าเหนื่อย
5 ปีต่อมา ได้เวลาแล้วที่เราจะมารียูเนียนตัวเอง (เพราะเพื่อนที่ไปด้วยกันรอบที่แล้วดันไม่ว่างวันนี้พอดี ฮือ) กับวงที่เปลี่ยนชีวิตเราไปตลอดกาล พร้อมกับอีกสองวงหน้าใหม่ที่น่าติดตามไม่แพ้กัน ใน #JAMnight Live! with Beach Fossils + Her’s

img_9975

สิ้นสุดการรอคอยจริง กับการได้ดู Beach Fossils อีกครั้ง หลังจากที่สมัยนั้นใหม่มากกับวงการคอนเสิร์ตและเพลงนอกกระแส แม้ว่าครั้งแรกที่พวกเขามาเล่นให้เราดูแบบสด จะมีความฉุกละหุกเพราะเพิ่งได้สมาชิกใหม่ ทำให้โชว์มีความขาด เกิน ไปบ้าง แต่เมื่อวันเวลาผ่านไป ทั้งพวกเขาและโปรโมเตอร์ต่างก็มีเก๋าขึ้นมากตามประสบการณ์ ซึ่งตอนนั้นถือเป็นโชว์แรก ๆ ที่ Have You Heard? จัดขึ้นมาเลย แต่ก่อนที่เราจะเข้าสู่ช่วงสุดฟินนี้ก็ขอเล่าบรรยากาศตั้งแต่ช่วงแรกของงานก่อนก็แล้วกัน

img_9976

งานนี้ถือว่าเป็นงานที่ตารางตรงเวลาเป๊ะสุด เราเข้ามาประจำที่ในฮอลได้พักนึง จนเหลือบมองนาฬิกาที่เข็มบอกเวลา 20.30 . Safeplanet ก็เริ่มบรรเลง intro เข้าโชว์ของพวกเขากันเลย ใครเคยได้ดูโชว์ของพวกเขาเมื่อเร็ว นี้ก็พอจะทราบว่าวงได้ re-arrange เซ็ตโชว์ใหม่บางส่วนให้สีสันของดนตรีแตกต่างออกไปและน่าสนใจขึ้นมา แต่ครั้งนี้ในช่วงแรก เรารู้สึกว่าซาวด์มีความแปร่งและกีตาร์เพี้ยนอยู่เล็กน้อย แต่ก็มาเข้าที่เข้าทางเอาในเพลงที่สามและสามารถคุมให้โชว์กลมกล่อมได้ตลอดรอดฝั่ง โดยวันนี้พวกเขาได้เล่นเพลง ตัดสินใจ โอยา ดินแดน ระบาย และปิดท้ายด้วยเพลงใหม่ที่เราไม่เคยได้ฟังมาก่อน แต่จังหวะกลองเท่มาก

img_9957

ต่อกันเลยกับ Her’s วงดูโอ้มากฝีมือจากอังกฤษที่กลายเป็นวงโปรดของใครหลายคนในเวลาอันรวดเร็วเพราะเพลงป๊อปย้วย มีบีตหนุบหนับให้โยกตามได้ งานนี้ถือว่าพวกเขารั่วมากจริง เพราะเอาแต่คุยเล่น รับส่งมุขกันสองคนบนเวทีอย่างไว ใครเมามีสิทธิ์ตามไม่ทันได้นะคะ ซึ่งเราก็ตามไม่ค่อยทันจริง นั่นแหละเพราะเพิ่งวงสองก็โดน Jameson Whiskey ไปสองแก้วเรียบร้อย เพลงแรกที่พวกเขาเล่นเปิดเลยก็คือ Cool With You ที่พอเล่นจบก็ถามคนดูเลยว่าชอบไหม ไม่ชอบหรอก เออ ชอบมั้งชงเองตบเองอะแก เพี้ยนไหมล่ะ แต่น่ารักมากให้อภัย ต่อด้วย เพลงใหม่ของพวกเขาที่เราไม่เคยฟังในจังหวะกลาง ซึ่งตอนต้นก็บอกว่า ขึ้นผิดจังหวะ แล้วยังแก้ตัวด้วยการบอกว่าเออ ใคร เขาก็ขึ้นผิดกันทั้งนั้นแหละพอจบแล้วก็พูดว่าผมรักคุณเป็นภาษาไทย ทำเป็นวงเกาหลีไปได้นะะะะ แล้วบอกว่าจะเล่นเพลงที่เบสหนึบมาก และไม่มีดรัมแมชชีน แล้วบอกว่า ให้ส่งสายตาหาคนที่คุณชอบ/สนใจในงานนี้เอาไว้นะ นั่นคือเพลง You Don’t Know This Guy แล้วจึงเป็นเพลงที่ไลน์เบสหนึบสุด การร้องประสานเสียงก็แสนจะฮาร์โมนิก แล้ววิธีการร้องแบบเสียง vibrate นิด ก็มีเสน่ห์ชะมัด

img_9959

พอจบพวกเขาก็บอกว่าต่อไปจะเล่นเพลงที่เร็ว มาก นะ 155 bpm ได้ ใครชอบร็อกแอนด์โรลคงจะฟินกันแน่ กับสโลแกน ‘Speed Sound Sweat’ ซึ่งนั่นคือเพลง Speed Racer ที่สนุกมากจริง จากนั้นพวกเขาก็คุยให้ฟังอีกว่านี่เป็นครั้งแรกที่มาเล่นนอกประเทศ นอกทวีป เลยไม่รู้วิธีรับมือกับเจ็ตแล็ก แถมอาหารเช้าที่โรงแรมก็ดีมาก นอกจากจะตลกแล้วยังขายเก่งอีกด้วย ก่อนจะเล่นเพลง What Once Was และพูดว่าแซ้งกิ้วตอนเล่นเสร็จ โอ๊ยยยย เพลา มุขหน่อยพ่อคุณ ก่อนจะพูดขอบคุณครับเป็นภาษาไทยแบบเอาใจกันสุด และปิดท้ายกันที่ I’ll Try เพลงสนุก ที่หลายคนชื่นชอบ เอาจริงว่าวงนี้ฝีมือดีมาก การเล่นเบสและกีตาร์รวมถึงการร้องและเอนเตอร์เทนคือไร้ที่ติ เรียกเสียงฮาครืนจากคนดูได้ตลอดทั้งโชว์จริง เสียดายที่คนไม่ค่อยเต้นกันเท่าไหร่

img_9963

แล้วเวลาก็เดินทางมาถึงวงสุดท้าย ไม่รู้คิดไปเองไหมแต่รู้สึกว่าโชว์ดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ปุบปับก็ 22.40 แล้ว ได้เวลาที่ Beach Fossils วงที่พวกเรารอกลับมาขึ้นเวทีให้ได้ดูอีกครั้ง ตอนที่วงขึ้นมาซาวด์เช็กครั้งสุดท้ายก็มีแฟนเพลงกรี๊ดให้เป็นระยะ จนกระทั่งพวกเขาพร้อมแล้ว เมื่อ intro เริ่มบรรเลง ความเคว้งคว้างชวนฝันโอบอุ้มเราทันใด บรรยากาศเก่า ก็ flash back กลับเข้ามาทันที บอกตรง เลยว่าขนลุกมาก ดัสติน ทอมมี่ แจ็ค มาประจำที่ตรงหน้าเราและเริ่มเล่นเพลง Generational Synthetic และเป็น Shallow ที่พวกเราคุ้นเคยแบบติดกันไม่ทันให้พักหายใจ แฟนเพลงด้านหน้าที่อยู่ใกล้ กับเราพอได้ยิน intro ของเพลงก็พร้อมในกันกรี๊ดและร้องกันสุดเสียง

img_9951

เมื่อจบเพลง ดัสตินร้องนำก็พูดกับคนดูว่านี่เป็นครั้งที่สองที่พวกเขาได้กลับมาที่นี่ รู้สึกดีมาก แล้วจึงเล่นเพลง Youth โห ช่วงนี้คือจัดให้แต่เพลงฮิตในอดีตกันเลย เช็กอายุกันไปนะฮะ ตามมาด้วยเพลงน่ารักจากอัลบั้มล่าสุด Somersault อย่าง This Year โดยก่อนเริ่มเล่นก็มี intermission เพราะ กันด้วย เรียกว่าดีไซน์โชว์กันมาจริงจังมากทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ ต่อกันที่ Down the Line กันเลย ด้วยจังหวะกลองสุดเร้า และไลน์เบสที่โดดเด่น แค่ต้นเพลงแฟน ก็ร้องโหวกเหวกพร้อมเต้นกันแล้ว ตามมาด้วยเพลงที่ได้อิทธิพลจาก chamber music ขนาดหนักอย่าง Saint Ivy ก่อนที่พวกเขาจะพักคุยกับคนดูอีกครั้ง

img_9943

เขาบอกว่า ตอนมาที่กรุงเทพ เมื่อหลายปีก่อน เป็นโชว์แรกของทอมมี่กับแจ๊คที่มาเล่นในนาม Beach Fossils เลยนะ ดังนั้นเพลงต่อไปที่พวกเขาจะเล่นก็พิเศษหน่อย เป็นงานที่ไม่ได้เล่นมาตั้งแต่ปี 2011 แต่มีแฟนเพลงถามถึงตลอด เลยเอามาใส่เป็นไฮไลต์ของทัวร์ครั้งนี้ โห พอ intro เพลงขึ้นนี่เรากรี๊ดสุดเสียงเลย เพราะเป็นเพลงที่ทำให้รู้จักกับวงนี้จริง อย่าง Adversity คือรอบที่แล้วรอให้เล่นแต่พวกเขาไม่เล่น รอบนี้หยิบมาเล่นในสภาพที่วงพร้อมกว่า เก๋าประสบการณ์กว่ารอบที่แล้วมาก ยิ่งทำให้เพลงขลังขึ้นเยอะเลย จบจากเพลงนี้ก็เป็นเมโลดี้คุ้นหูสดใสตลอดกาลอย่าง What a Pleasure มีแฟนเพลงบางคนร้องตามเมโลดี้กีตาร์ไปด้วย จากนั้นจึงเป็นเซิร์ฟร็อกออริจินัลจากงานชุดแรก Vacation ก่อนจะกลับมาที่งานชุดล่าสุดที่ได้อิทธิพลไซคีเดเลียมาเต็ม นั่นคือ Be Nothing ฟังในอัลบั้มเราว่าเฉย แต่พอฟังสดแล้วขลังมาก หลับตาฟังแล้วมันเคว้งคว้างล่องลอยผ่อนคลายมากเลย แล้วก็มีท่อนที่เร่งจังหวะให้ได้ดีดกันขึ้นมาบ้าง ก่อนจะเป็นท่อนที่ดรอปลงมาให้เยื้องย่างกันอีกครั้ง กลายเป็นเพลงที่ชอบที่สุดของ Beach Fossils ไปแล้ว ตามด้วย Calyer ที่ intro เขาชัดมาก แค่ขึ้นมาคนก็กรี๊ดกันอีกแล้ว ก่อนจะเป็นอีกเพลงที่ชอบที่สุดของเรานั่นคือ Sleep Apnea ไม่คิดว่าจะเล่นด้วยเพราะเพลงมันช้ามาก เยื้องย่างมาก แต่เพราะสุด ไปเลย มีความแอบน้ำตาซึมระหว่างฟังเบา ก่อนจะกลับไปมันกันต่อใน Careless ที่กีตาร์พุ่งมากแบบโยกคอจะเคล็ด แล้วพวกเขาก็ลงเวทีไป ทิ้งให้มีแต่ backing track เวิ้งว้างสุดไพเราะบรรเลงต่อไป

img_9944

งานนี้ดีอย่างนึงตรงที่คนดูที่อยู่รอบ เราเป็นแฟนตัวยงของวงกันหมดเลย ทุกคนพร้อมใจกันโห่ร้องเรียกให้วงกลับขึ้นมาทันใดไม่มีลีลา จนกระทั่งพวกเขากลับขึ้นมาอีกครั้ง ทอมมี่เขวี้ยงผ้าขนหนูซับเหงื่อให้คนดูก็มีการชุลมุนอยู่เล็กน้อย แล้วจึงเล่นเพลง Sugar ต่อด้วย Clash the Truth และปิดท้ายกันที่เพลงที่ทำให้หลายคนรู้จักกับพวกเขาจริง นั่นคือ Daydream จุดนี้คือตายได้แล้ว เพราะงานนี้ขนเพลงฮิตและเพลงใหม่มาเล่นแบบหมดแม็กจริง แล้วพอหมดแม็กก็ยังไม่พอ คนดูยังติดลม อีวงก็ดีใจ คือดัสตินก็บ่น ว่านี่เป็นทัวร์แรกในชีวิตที่มีความพัง เพราะนางป่วย แต่ถึงป่วยนางก็แฮปปี้อะนะ คนดูมีความสุขงั้นเขาก็จะสุด ไปเลย แต่ในเมื่อไม่มีเพลงแล้วเขาเลยหยิบ Wonderwall ของ Oasis มาเล่นซะงั้น ตลกมาก พีคมาก ทีแรกเขาถามว่าจะมีใครขึ้นมาร้องด้วยกันไหมสุดท้ายก็ไม่มี เลยจัดเอง แต่แล้วก็มีคนช่วยร้องกันทั้งฮอล ระหว่างนั้นก็มีการแจกปิ๊กกีตาร์และเซ็ตลิสต์ให้แย่งชิงกันวุ่นวายทีเดียว

img_9949

จบไปแล้วกับโชว์ที่เราคาดหวังสุด ว่า Beach Fossils จะกลับมาแก้มือ และครั้งนี้พวกเขาก็ทำได้อย่างงดงามจริง แถมยังเอาเพลงโปรดมาเซอร์ไพรส์ถึงหลายเพลง วงก็น่ารักกับคนดูมาก เหมือนว่าพลังงานติ่งอย่างเรา ส่งไปถึงพวกเขา เขาเลยให้ใจกลับมาเกินร้อยเลย รวมถึงวง Her’s ที่เราไม่ได้คาดหวังอะไร แต่ performance ที่ออกมาก็ทำเอาเราเซอร์ไพรส์สุด เหมือนกัน ทั้งน่ารักทั้งเก่งงี้เอาใจไปเลยจ้า เชียร์ให้ทำอัลบั้มสองอยู่นะ ส่วน Safeplanet ก็เอาใจช่วย เดี๋ยวจะไปซ้ำที่งาน Chang Music Connection presents “Crossplay 2 Concert” บ่ายนี้ที่ดาดฟ้า Fortune Town ก็แล้วกันเด้อ

img_9937

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้