Basecamp Fest เฟสติวัลขนาดย่อส่วนที่อัดแน่นวงคุณภาพกว่า 13 วง
- Writer: Peerapong Kaewthae
- Photographer: Macrowave
29 กันยายน 2561
พอได้เห็นไลน์อัพของงาน Basecamp Fest ว่ามีวงไหนมาเล่นบ้างบนเฟซบุ๊กก็เด้งตัวขึ้นมากด going รัว ๆ ทันที งานนี้ยกทัพวงดนตรีน่าสนใจจาก Macrowave มาเกือบทั้งค่าย ทั้ง 00.01, She Should Be The Machine, Pap Yeahh, Yew, Yooze, Apollo 13, The Vuniyerse ที่ลงมาจากเชียงใหม่เลย, Møle The Explosion, Monomania, Artist Focus และ Yented แถมยังมีสองวงรุ่นใหญ่จาก BEC-Tero อย่าง electric.neon.lamp และ Better Weather สมกับคำว่าเฟสติวัลที่มีวงแนวเพลงหลากหลาย ได้ดูดนตรีแบบมาราธอนจริง ๆ ก็วันนี้แล
งานจัดขึ้นในลานกลาง The Street ที่นอกจากจะมีดนตรีสดให้เราดูตั้งแต่เที่ยงวันยันเที่ยงคืนแล้ว ข้าง ๆ ยังมีร้านขายของมากมายทั้งเสื้อผ้า เครื่องประดับทำมือสวย ๆ หรือเวิร์กช็อปทำสวนในขวดโหล ตามสโลแกนของงานว่า CRAFT ARTS MUSIC PLACE ที่มีความบันเทิงทุกรูปแบบไว้ครบ
บนเวที 00.01 กำลังจัดเพลงคัฟเวอร์อย่าง กลัว และ อย่าลืมฉัน ก็เรียกความสนใจเราได้ทันที ต่อด้วยเพลง ฟลอร์เต้นรำ ที่เปิดด้วยเสียงกีตาร์หวาน ๆ กับจังหวะฮุกที่สนุกชวนเต้น ก่อนจะจากกันด้วยเพลงฮิตของวงอย่าง ห่างไกล ที่เติมทำนองท่อนเริ่มนิดหน่อยช่วยสร้างอารมณ์ ขึ้นมาก็ใจละลายเลย โซโล่ซินธ์หวานลื่นหู ได้ฟังสดแล้วชอบมาก แอบได้ยินว่านี่เป็นโชว์สดครั้งแรกของวงก็ถือว่าทำได้ดีมากเลย
ต่อด้วย She Should Be The Machine ที่ไม่เคยดูเขาเล่นสดมาก่อน ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็ขยี้เสียงกีตาร์มาเลยกับ ฉันจะไม่ทน ท่อนโซโล่เดือด ๆ กับ outro ที่ดรอปจังหวะได้เท่ดี มาถึง คิด ซิงเกิ้ลแรกของวงที่ปล่อยเมื่อห้าปีที่แล้ว แค่เริ่มเพลงก็ดุเดือด ท่อนฮุกที่เร่งจังหวะสนุก ๆ ขึ้นมาก็มันได้ใจ ท่อนโซโล่ก่อน outro สนุกดี แล้วก็ปล่อยเพลงใหม่ล่าสุด อย่างเพลง ใหม่ กันต์ นักร้องนำก็พูดติดตลกว่าเพลงเพิ่งเสร็จเลยยังไม่มีชื่อเพลง เอาฮาไปอีก แต่อินโทรหวานมากแต่ก็ยังไม่ทิ้งไลน์กีตาร์เท่ ๆ ไว้ในโซโล่ด้วย ต่อด้วย ยูโทเปีย เพลงที่เราชอบที่สุดของวงนี้ ความหมายกินใจมาก การซัดดนตรีแน่น ๆ กลับมาหลังจากท่อนดรอปช่วงฮุกหลังนี่โคตรดี ท่อน outro ที่กีตาร์โปร่งกับกีตาร์ไฟฟ้าประสานเสียงกันนี่ดีงามมาก ได้ฟังสดแล้วติดหูสุด ๆ จบด้วยเพลงไม้ตายของวงกับ หงุดหงิดระดับ 7 ที่แค่อินโทรก็สนุกแล้ว ท่อนแร็ปก็เดือดมาก วงนี้ยังเอนเตอร์เทนคนดูเก่งมาก แซวคนดูเรียกเสียงหัวเราะได้ตลอด ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่วงจะปล่อยเพลง ใหม่ ให้เราได้ฟังอีกหนอ
ต้องยอมรับว่าเราไม่เคยฟังเพลงของ Pap Yeahh มาก่อนเลย ตอนแรกคิดว่าเป็นวงอะคูสติกแต่แค่มาถึงก็ปล่อยของกันเต็มที่ทำเอาเราเคลิ้ม พอแนะนำตัวเองเสร็จก็สาดซาวด์มัน ๆ ไปทั่วห้างทันทีจ้า ระเบิดพลัง progressive rock ไปกับเพลง Uncertainty จนนี่ตะลึงไปเลย โคตรมัน หยุดโยกหัวโยกตัวตามไม่ได้ ท่อนโซโล่ก็ขยี้ได้สะใจมากเหมือนโดนเสียงจากกีตาร์นวดหูไปมาอย่างรุนแรง แม้จะเกริ่นถึงอัลบั้มใหม่ของตัวเองที่กำลังจะออกด้วยแต่ก็บ่นว่าเล่นเพลงตัวเองไม่มีใครรู้จัก เลยหยิบเพลง Du Hast ของวง Rammstein มาคัฟเวอร์ได้ถึงกึ๋นสุด ๆ อินโทรมาอย่างเดือด ทุกคนสับเครื่องดนตรีของตัวเองจนไฟลุก ถ่ายทอดออกมาได้เดือดเหมือนต้นฉบับเลย เสร็จแล้วก็เชิญ โจ The Young Wolf เพื่อนร่วมค่ายขึ้นมาแจมบนเวที แม้ไม่ได้เตี๊ยมกันมาแต่พออินโทรเพลง Immigrant Song ของ Led Zeppelin ขึ้นมา โจก็คำรามโชว์พลังเสียงทันที แล้วทั้งคู่ก็โชว์อย่างเข้าขากันทันทีเรียกได้ว่ามีความเป็นมืออาชีพกันอยู่แล้ว เวทีก็เดือดเป็นสองเท่า เสียงร้องของโจก็สั่นสะเทือนไปทั้งงานแถมท่อนโซโล่ก็ใส่กันยับ แป๊ปก็ทิ้งท้ายด้วยเพลง Happiness ที่รุนแรงและบ้าคลั่งเหมือนเดิมปิดโชว์ที่ทุกคนจะต้องจดจำชื่อ Pap Yeahh ไปตลอด
YEW ขึ้นเวทีปุ๊บก็วอร์มหูคนดูด้วยอินโทรวงที่ดนตรีเฟี้ยวฟ้าวมาก เปิดด้วย รองเท้า กับความละเอียดยิบของกีตาร์สองตัวทำให้ดนตรีมีมิติมาก ท่อนโซโล่ที่กีตาร์โปร่งกับกีตาร์ไฟฟ้าแผดเสียงไปด้วยกันอย่างนุ่มนวล เพลงต่อมาแค่อินโทรขึ้นก็จำได้ว่ามันคือเพลงที่ไม่มีชื่อ ดนตรีแน่นเหมือนเดิม เล่นเสร็จวงก็ขายว่าเพลงนี้จะอยู่ใน EP แรกที่กำลังจะออกนั่นเอง มาถึง โลกซึ่งไร้ลมหายใจของวันวาน เคลิ้มไปกับไลน์กีตาร์หวาน ๆ และซัดเครื่องดนตรีทุกชิ้นเข้าไป ท่อนฮุกก็วาไรตี้มาก ๆ กับฮุกสุดท้ายที่จัดเต็มเลย จบด้วย ลมที่ลา ดนตรีก็ยังสะกดความรู้สึกเราได้ทุกครั้งเวลาดูสด ท่อนโซโล่ที่รวดร้าวบาดใจ ดึงอารมณ์ดิ่งเลย แถมวงบอกว่ากำลังจะมี mv เร็ว ๆ นี้ด้วย รอติดตาม ๆ
ช่วงนี้เราก็แอบหนีไปธุระนิดหน่อย+กินข้าวด้วย เลยไม่ได้ดู Yooze, Apollo 13 กับ Better Weather เลย แอบเสียดายเหมือนกัน
เหล่าหนูลู๊กจากเชียงใหม่ที่เราตามเชียร์อยู่อย่าง The Vuniyerse ก็ขึ้นเวทีพร้อมทีวีที่ฉายวิชวลของวงเหมือนเดิม น่าร๊าก เริ่มกันด้วยเพลง Nothing Hill ที่ดนตรีสดใสมาก แต่ท่อนโซโล่ก็รุนแรงหวานบาดจิตเหมือนกัน ขยับจังหวะลงมาหน่อยกับ Blue Bus ชวนเราล่องลอยไปด้วยเสียงกีตาร์หวาน ๆ กับวิชวลภาพ gif ลิงนั่งรถบัส ต่อด้วย Rush โดดเด่นด้วยเสียงกีตาร์จี๊ด ๆ เสียงซินธ์ที่สร้างอารมณ์น่ารัก ๆ ขึ้นมา ท่อนโซโล่ที่ขยี้กันสุดพลัง ก่อนจะดรอปแล้วกระชากเข้าจังหวะโคตรมัน ชอบมาก ต่อด้วยเพลงฮิตของวงอย่าง Breathless ที่เราชอบมาก จังหวะช้า ๆ ชวนฝัน ค่อย ๆ สร้างบรรยากาศชวนเคลิ้มแล้วซัดท่อนฮุกฟุ้ง ๆ ใส่เราจนใจลอยออกไปไกลแสนไกล ปิดท้ายด้วยเพลงใหม่อย่าง Summer Down เลย กรี๊ด อยากฟังเล่นสดมาก อินโทรมาก็สนุกแล้วอะ ท่อนเชื่อมก็กุ๊งกิ๊งสุด ๆ ต่อด้วยท่อนฮุกที่ดนตรีน่ารักมาก แต่ยังโชว์ฝีมือจัดเต็มกันในท่อนโซโล่ได้ร้ายกาจมาก สมกับเป็นวงที่น่าจับตามองตอนนี้
ชาวตุ่น Møle The Explosion ก็ขึ้นเวทีพร้อมหน้าทันที วันนี้ไม่มีคอรัสมาด้วยแฮะ แต่มือกลองหน้าคุ้น ๆ พอเห็นเสื้อก็อ๋อเลย โอม Two Pills After Meal นั่นเอง ทั้งวงก็ดึงเราเข้าสู่ห้วงอารมณ์ด้วยอินโทรวงเท่ ๆ สไตล์ตุ่น ก่อนจะซัดเราด้วยซาวด์อันทรงพลังของ ชายคนแรกผู้มอบดอกไม้ให้กับเธอ โซโล่กีตาร์โคตรงาม สะกิดหัวใจเราทุกคีย์ ซินธ์ก็นวยนาดมาก ต่อด้วย เมื่อเธอฝันฉันตื่น ที่ดีงาม ช่วงโซโล่ท้ายก่อนจบ ขยี้กันสุดพลัง เพลงต่อไปอินโทรขลังแบบนี้ต้องเป็น ภาพวันพรุ่งนี้ แน่นอน เสียงซินธ์กับคียร์บอร์ดขลัง ๆ คลอด้วยกีตาร์สองตัว ท่อนโซโล่นี่ซัดกันเต็มเหนี่ยวนี่ยอมใจทุกครั้งที่ได้ฟัง จันทราในแอ่งน้ำ จังหวะสนุก ๆ โยกตัวตามจังหวะกลอง แพรวพราวพร่างพราย และ เข้าใจง่าย ที่วงกำลังจะปล่อยเดือนหน้า ดนตรีเนียนกริ๊บ เสียงซินธ์โดดเด่นมากในท่อนโซโล่ระยิบระยับหูไปหมด
Monomania มาถึงก็หลอนหูกันสุดๆ ด้วย ตัวตน เลย เฮี้ยนเหมือนเดิม สาดซาวด์ถาโถมเขามาใส่เราจนวุ่นวายไปหมด ควัน ก็บีบเค้นเสียงสังเคราะห์ออกมาได้จับใจมาก เสียงร้องสะท้านมากฟังแล้วขนลุกเหมือนตกอยู่ในภวังค์ แถมวงยังหยิบ ปล่อย ซิงเกิ้ลล่าสุดมาโชว์ด้วย พาอารมณ์ดิ่งลงไปเลย ช้า ๆ สะเทือนใจ ท่อนโซโล่ก็วาดลวยลายกันเต็มเหนี่ยว มายาคน อินโทรบิ๊วอารมณ์มาก ท่อนโซโล่ดุดัน สับกีตาร์กันเละเทะปิดโชว์ด้วย สาวน้อยหมวกแดง เลยปล่อยของกันเต็มที่ ยิ่งท่อนโซโล่สุดท้ายนี่ซัดกันยับ ทุกเสียงผสมปนเปกันจนเป็นคลื่นเสียงที่ซัดคนดูจนอยู่หมัด
เปิดโชว์ด้วย backing track เหมือนเป็นพิธีกรรมของวง พอนักร้องนำ Artist Focus ขึ้นมาถึงก็ว๊ากเลยจ้า สุดขอบฝัน เพิ่มความดุเดือดให้กับ The Street เลยทีเดียว จังหวะมันๆ สลับกับพลังเสียงของนักร้องนำ อินโทรด้วยกีตาร์พริ้ว ๆ แบบนี้ต้องเป็น น้ำหอม ท่อนฮุกก็จัดเต็มแบบร็อก ๆ เลยทีเดียว ก่อนจะหยิบเพลง ผิดที่ไว้ใจ ของวงร็อกในตำนานอย่าง Silly Fools เอามาทำเป็นสไตล์ตัวเองได้อารมณ์มาก แล้วจัดต่อด้วย ขอระบาย ลดจังหวะลงหน่อย แต่ความมันยังอัดแน่นเหมือนเดิม เสียงกรี๊ดจากคนดูดังมาก และไม้ตายของวงอย่างเพลง ทิ้ง ท่อนฮุกจังหวะเท่มาก ขอมือตบตามจังหวะทุกคนก็ให้ความร่วมมือดีมาก ซัดด้วยฮุกสุดท้ายที่จัดทุกอย่างให้คนดูเต็มที่ แถมชวนคนดูโดดด้วย เป็นวงที่เอ็นเตอร์เทนคนเก่งเหมือนกัน
มาถึง Yented ก็ประจำที่แบบฟูลแบนด์เลยวันนี้กับอินโทรหวาน ๆ ของวงที่เรียกร้องความสนใจจากทุกคนได้ทันที เสียงกีตาร์นุ่ม ๆ ยังได้ซินธ์มาเติมให้อ่อนโยนขึ้นด้วย แต่ยังแฝงด้วยความเท่ของสไตล์วงลงไปอีก เพลงของใคร ขึ้นมา เจาก็วิ่งขึ้นมาพร้อมสาดเสียงนุ่มลึกละลายใจคนทั้งห้างทันที สะกดคนดูได้อยู่หมัดด้วยโซโล่กีตาร์อย่างเท่ก่อนโชว์เสียงหลบสูงบาดใจ outro ก็ผสานเสียงทั้งเจ็ดเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ก่อนจะจัด รักได้แค่คนเดียว ต่อเลย อินโทรเหงา ๆ ขึ้นมา ทุกคนร้องตามตั้งแต่ท่อนแรก ฮุกสองใส่กันแน่น ๆ ตบด้วยโซโล่ที่หนักหน่วง ก่อนจะลดจังหวะตอน outro ได้เหลือร้าย Winter Rain ทุกคนก็ยังร้องตามได้หมดทั้งเพลง ช้า ๆ หม่น ๆ จบด้วยตบคอร์ดเบสเท่ ๆ พอเจาบอกว่าเพลงต่อไปจะเป็น ถ้าหาก ก็เรียกเสียงกรีดร้องลั่น อินโทรด้วยซินธ์ก็ได้อารมณ์อีกแบบดีก่อนจะเติมด้วยเสียงกีตาร์เท่ ๆ เพลงนี้มันต้องให้วงเล่นพร้อมกันเจ็ดคนจริง ๆ มันจะเข้มข้นมาก อินโทร รักจาง ๆ ที่อ่างแม่ต๋ำ มาแล้วก็ยังอุตส่าห์เล่นมุก ‘รักจาง ๆ ที่โพเซดอน’ โถ่ พลังเสียงเจายังแข็งแรงเหมือนเดิม พาคนดูย้อนอดีตกลับไปกับวงได้เลย ตอนจบเพลงมีผิดคิวกับพิธีกรนิดหน่อย แต่วงก็ดึงคนดูกลับมาได้ด้วยโซโล่ทิ้งท้ายที่โคตรมันอยู่ดี เสียดายไม่ได้เล่นเพลงใหม่ที่เพิ่งปล่อยมา ในฐานะที่ตามเชียร์วงนี้มาก็รู้สึกดีเพราะวันนี้น้อง ๆ ก็ดังจริงแล้ว คนร้องเพลงตามได้ทุกเพลง ภูมิใจแทนน้อง ๆ ทุกคน
ปิดท้ายเฟสติวัลในค่ำคืนนี้ด้วยวงพี่ใหญ่อย่าง electric.neon.lamp ที่มาแบบจัดเต็มฟูลโชว์ไปเลย อินโทรเบา ๆ เหมือนบอกทุกคนให้เตรียมพร้อมกับความมันแบบจัดเต็ม ก่อนจะซัดดนตรีแน่น ๆ ของเพลง รถไฟแห่งความฝัน เสียงกีตาร์ลีดกังวานมาก แจกความมันให้คนดูไปทั่ว มันกันต่อด้วย เธอที่ร้าย และ เสียเวลาว่ะ กระแทกกระทั้นอารมณ์ ทุกคนโยกตามจังหวะเพลง ท่อนโซโล่หนักหน่วงมาก ลดจังหวะลงหน่อยกับ เสมอ ทุกคนก็โยกตามจังหวะช้า ๆ ไปกับเสียงกีตาร์หวานจับใจ แล้วดึงคนดูให้อารมณ์ดิ่งกับ บางครั้งแค่บางครั้ง กระทบกระเทือนจิตใจเราได้ทุกครั้ง ยิ่งฟังเล่นสดคือตายไปเลย เสียงกีตาร์ในท่อนโซโล่มันนุ่มนวลและเศร้ามาก ๆ ต่อด้วย ภาวิณี ที่ใคร ๆ ก็ร้องตามได้ ซัดความมันในท่อนฮุก ก่อนถึงท่อนดรอปแล้วทุกคนช่วยเจนร้องจนกระหึ่มห้างนี่ขนลุกเลย อินโทรมัน ๆ กับ เจ็บแล้วไง ขึ้นมาก็เต้นเลย สนุกไปกับเสียงกีตาร์ที่โซโล่จนไฟลุก รอบนี้พี่เจนแร๊ปเอง นางรอง ที่ทุกคนปลดปล่อยอารมณ์ไปกับการตะโกนร้องตามในท่อนฮุก ปล่อยร่างกายให้เต้นไปกับ เสียงกีตาร์เท่ ๆ ก่อนจะลากันไปในคืนนี้ด้วย โทรจิต ดนตรีชวนดีดมาก เต้นกันสุดแรง พอจบแล้วทุกคนก็ตะโกนพร้อมกันว่า เอาอีก เอาอีก แต่สุดท้ายก็ไม่มีอังกอร์ต่อ เสียดายมาก ยังเป็นวงที่เล่นสดได้สนุกสุด ๆ เหมือนเดิมเลย
แม้จะทรหดประมาณหนึ่งที่ต้องดู 10 กว่าวงในวันเดียว แต่พอได้รู้ว่าวงที่เราชอบได้มีพื้นที่เล่นก็ยังอยากไปซัพพอร์ตทุกวงเท่าที่ทำได้อยู่ดี เพราะถ้าไม่มีคนฟังแล้วพวกเขาก็คงไม่รู้จะทำดนตรีไปทำไม ถ้าเราอยากฟังพวกเขาก็ควรจะไปแสดงตัวให้เขาเห็นว่ามีคนได้ยินเสียงของพวกเขานะ ศิลปินจะได้มีกำลังใจในการทำเพลงต่อไปนาน ๆ