Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

นี่คืออีกโชว์ที่ดีที่สุดของปี ดนตรีสุดกรูฟจาก Anderson .Paak & The Free Nationals

  • Writer: Montipa Virojpan
  • Photographer: Natthaphat Lueangrungthip

23 กรกฎาคม 2561

เป็นอีกอีเวนต์ที่เรารอคอยมานานมากหลังจากที่ Have You Heard? ปล่อยโปสเตอร์งานล่าสุดที่ Anderson .Paak ศิลปินฮิปฮอป มือกลองตัวจี๊ด และ The Free Nationals กลุ่มนักดนตรีฝีมือฉกาจ จะมาแสดงสดแบบเต็มวงให้ได้ดูได้ฟังเป็นขวัญหูขวัญตาที่บ้านเราในงาน Johnnie Walker presents Anderson .Paak & The Free Nationals ยิ่งไปกว่านั้นช่วงก่อนวันงานจะมาถึง เขาก็ประกาศดีเจและวงที่จะมาเล่นเปิดซึ่งถือเป็นอีกไลน์อัพที่ไม่ธรรมดา นั่นคือ DJYP ถ้าเกิดใครไปปาร์ตี้ Trasher บ่อย ก็น่าจะคุ้นหน้าคุ้นตาเขาคนนี้ แถมเขามี selection ที่ดีงามน่าติดตามมาก และอีกคนคือ JUU แก๊งฮิปฮอปที่ป่าวประกาศรสนิยมการใช้ชีวิตเมา ลงในบทเพลงของพวกเขากับโชว์สุดป่วงอันเป็นที่เลื่องลือ และเมื่อคอนเสิร์ตเมื่อคืนนี้ผ่านพ้นไปก็ต้องบอกเลยว่า ใครที่ชอบฮิปฮอปโอลด์สคูล โซล ฟังก์ นูดิสโก้ หรือพวกติดอะไรกรูฟ ๆ เนี่ย ถ้าไม่มาคือพลาดมาก

เรามาถึง Voice Space ก่อนเวลาที่ DJYP จะเริ่มเปิดเพลงที่เขาเตรียมมา เวลาประมาณสองทุ่มครึ่ง เพลง r&b ก็ถูกบรรเลงแม้ว่าผู้ชมจะยังดูบางตา เพลงต่อไปก็ยังคงเป็นงาน r&b เก่า อยู่พอให้โยกได้เบา ก่อนจะขยับเขยื้อนมาทางฝั่งซินธ์ป๊อป 80s ที่เริ่มชวนให้เราออกสเต็ป ตามด้วยชิลฮอป แอโฟรบีต และดีปเฮาส์ ซึ่งหลายคนที่อยู่กับเราตอนนั้นเห็นด้วยว่าเขาสามารถไล่เรียงเพลงได้สมูธและเลือกเพลงมาเปิดได้อย่างร้ายกาจ แม้จะหลากแนวแต่ก็เชื่อมกันได้แบบไม่ติดขัด จนช่วงเวลานี้เราก็เห็นว่าจอ LCD ด้านหลังที่ขึ้นชื่อ DJYP ก็เปลี่ยนเป็น SOYBAD (น่าจะผวนได้ว่า sad boy ใช่ไหมนะ) ซึ่งก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นชาวแก๊งฮิปฮอปสายโอลสคูลในตำนานอย่าง Limousine ซึ่งมี Zigga Rice กับ Jason Creer มาเล่นเพลงของพวกเขาให้ได้ฟังกัน ทั้งเพลงชวนเต้นกับไรห์มแร็ปเท่ อย่าง Do it 4 Love หรือเพลงเซ็กซี่ Pussi และปิดท้ายด้วยเพลงคนเหงาซิงเกิ้ลล่าสุดของเขาคือ High Luv น่าเสียดายที่พวกเขาเตรียมมาแค่สามเพลงก็สละเวทีให้กับ DJYP ต่อ

ซึ่งทันทีที่ท่อนหนึ่งของเพลงต่อไปที่ร้องว่า ‘อยู่ดี ก็หาย ไลน์ไม่ตอบ’ ดังขึ้น ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นหันหน้ามองกันแบบเหวอเพราะไม่คิดว่าเขาจะหยิบงานเพลงจาก Wonderframe มาเปิด แต่เป็นเวอร์ชันที่รีมิกซ์ให้มีความเป็นโมเดิร์นฟังก์ขึ้น และเพลงที่เปิดต่อจากนั้นคือ ฝน ผลงานของ Yaak Lab ที่ได้เสียงใส ของแพรวา Yellow Fang มาช่วยทำให้เพลงสมบูรณ์เป็นเพลงสุดท้าย

จากนั้น เวลายังไม่ถึงสามทุ่มครึ่งดี จอ LCD ก็เปลี่ยนชื่อเป็น JUU กับเสียง backing track ที่เปลี่ยนเป็นเพลงบรรยากาศหลอน แบบ gangster rap พร้อมกับการปรากฏตัวของแร็ปเปอร์สี่ชีวิต นำทีมโดย จารย์จู แร็ปเปอร์สายเมาในตำนานที่หลายคนอาจจะรู้จักเขาในชื่อ Rastafah 4E จากเพลง เมา ซึ่งน่าเสียดายมากที่วันนี้ไม่ได้เล่นเพลงที่ว่า แต่ก็มีเพลงอื่น ที่เด็ดไม่แพ้กัน เริ่มที่เพลง เนื้อกับน้า ที่เล่าเรื่องการซื้อของไปฝากเหล่าเครือญาติพร้อมกับเป็นการแนะนำของฝากของดีประจำตำบลต่าง กับกิมมิกไทย ที่ใส่ sampling ทำนองเพลงค้างคาวกินกล้วยเข้าไป ตามด้วย ชมนกชมไม้ ที่คราวนี้ก็เอาเพลงรำวงที่ทุกคนน่าจะเคยได้ยินและฮัมตามได้มาใส่ไปกับบีต ต่อด้วยเพลง กัญชลี ที่มาเป็นจังหวะแดนซ์ฮอลกับเมโลดี้น่ารัก แล้วเป็น Smoke With Dad ที่พอฟังไรห์มแล้วอดขำไม่ได้จริง ว่าด้วยการเล่าว่า เขาดูดปุ๊นกับพ่อ แล้วแม่เป็นคนมวน สุดมาก ก่อนจะชวนทุกคนชูสองนิ้วขึ้นแล้วพูดว่าเมา for peace’ เราก็บ้าจี้ทำด้วย คือตอนนั้นโดน Johnnie Walker Black ผสมโซดาไปประมาณสองแก้วยาวละ ก็ได้ที่ละ จารย์สั่งทำไรทำหมดค่ะ

และเพลงที่กำลังจะเล่นต่อไปนี้คือ Slow No Enemy ตามด้วย ไร้การควบคุม ที่พาเราดึงหน่วงไปกับบีตหนืด แต่ว่ากันตามตรงถ้าไม่ติดตรงเนื้อร้องที่เล่าเรื่องอาการ ‘high’ จนอะไร ก็ช้าไปหมด เพลงนี้เป็นถือเป็นเพลงที่เพราะอยู่นา ความสนุกถูกจัดมาเรื่อย แบบถ้าใครแว้บออกไปฉี่คือพลาดแน่นอน เพลงต่อไปจารย์จูก็พูดว่าขอเสียงให้สังคมหวาดระแวงหน่อยยยยเอาล่ะครับ รู้กัญว่าต้องเล่นเพลง หวาด อย่างแน่นอน จบเพลงนี้จารย์ยังไม่หยุดความบียอนด์ บอกว่า ผมขอนั่งทำสมาธิแปปนึง แล้วก็ลงไปนั่งจริง เมื่อบีตเพลงภารตะไซคีเดเลียบรรเลงไปพักหนึ่งจารย์ก็เริ่มแร็ปเหมือยมีองค์ประทับแล้วค่อย ลุกยืน เป็นเวลาของเพลง Hello ซึ่งเป็นเพลงที่บรรยายอาการ high ที่รุนแรงกว่าเพลงก่อน แบบเริ่มไม่ไหว เริ่มคลาน ช่วยผมด้วยก็เพราะว่า ผมไม่ไหวแล้วววว ผมจะอ้วกเชื่อว่าใครที่เคยก็จะเข้าใจอาการนี้เป็นอย่างดี เล่าได้เรียลมากทุกช็อต และตามมาติด ด้วยเพลง อารมณ์ต่ำ กะไม่ให้พักกันเลยจารย์!!! จบเพลงนี้ก็พูดกับคนดูว่าขอเสียงคนเมาหน่อยยยต่อด้วยไหนใครอยากให้ legalize กัญชาาาาแนวทางชัดเจนมากจริง และทิ้งท้ายกันไปกับเพลงสุดท้ายคือ สุขไปทั่วกัญ ที่เอาทำนองเพลงรื่นเริงเถลิงศกมาอะเรนจ์ใหม่เพราะเพลงนี้มีคำว่ากันอยู่ในหลายท่อน ซึ่งไปพ้องเสียงกับคำว่ากัญนั่นเอง สนุกมาก ดีใจที่ Have You Heard? ชวนให้ JUU มาเล่นเปิดจริง สารภาพว่าตอนรู้คือดีใจปนช็อกนิด แต่ก็ดีค่ะ เปิดมิติใหม่ให้วงการแบบสนุกสุด ไปเล้ย

แล้วก็ได้เวลาที่ทุกคนรอคอย ประมาณสี่ทุ่มครึ่งผู้คนที่ยืนสนทนาพาทีกันด้านนอกก็ทยอยเข้าฮอล ตอนนี้สังเกตได้ว่าคนเนืองแน่นมาก เราเลยเลือกยืนอยู่ช่วงหลัง แล้วค่อยหาจังหวะแทรกตัวไปยืนที่เหมาะ ช่วงกลางโชว์ไปแล้ว ทันทีที่ LCD ฉายโลโก้ Anderson .Paak & The Free Nationals ขึ้นมาก็ได้ยินเสียงผู้ชมส่งเสียงร้องตื่นเต้นกันยกใหญ่ แบรนดอนปรากฏตัวขึ้นบนเวทีแบบกระตือรือร้นสุด พร้อมทักทายแฟนเพลงเป็นภาษาไทยเสียงดังฟังชัดว่าซาวัดดีคาบบบน่ารักมาก พร้อมเปิดประเดิมกันด้วยเพลง Come Down โอ้โห แค่เพลงแรกเราก็เต้นได้สุดแล้วเพราะเป็นหนึ่งในเพลงโปรดเลย จากนั้นก็ถึงคิวของเพลงที่ จำได้ว่าตอนเราดู Anderson .Paak ครั้งแรกที่ Laneway Singapore ตอนนั้นเรานั่งกินข้าวอยู่แล้วฟังพี่แกเล่นไปเพลิน ก็ว่าดีแล้ว แต่พอเพลงเนี้ย ที่เอา sampling The Next Episode ของ Dr. Dre มาเนี่ย เราถึงกับทิ้งกล่องข้าวแล้ววิ่งไปดูเลย จากนั้นก็เต้นไม่หยุดกับทั้งโชว์ของเขา

กลับมาที่โชว์เมื่อคืนค่ะ จบจากเพลงนี้เขาก็สวัสดีครับแฟน อีกรอบ แล้วบอกให้หยิบไฟแช็กขึ้นมาจุดแล้วชูขึ้นมาสูง กัน คนไม่มีก็เปิดไฟแฟลชจากมือถือเอา ก่อนจะเสิร์ฟเพลงกรูฟ ให้เรากันบ้างใน The Waters แล้วเป็นเพลงที่เขาร่วมงานกับ KAYTRANADA นั่นคือ Glowed Up ที่เขาออกสเต็ปเต้นเท่มาก พอมาเล่นกับ The Free Nationals แล้วเพลงก็ถูกอะเรนจ์ใหม่จนดู classy กว่าเดิม ก่อนจะชวนคุยยาว แล้วก็ได้เวลาของเพลงล่าสุดของเขาอย่าง Bubblin ที่อินโทรขึ้นมาก็ต้องขอกรี๊ดไปสุดเสียง แบบว่าความมันอีกระลอกกำลังจะเกิดขึ้นอีกแล้ว ซึ่งช่วงท้ายของเพลงแบรนดอนก็หวดกลองแบบไม่ยั้งมือ เหมือนเขากำลังสวมวิญญาณร็อกสตาร์ขณะบรรเลงเพลงนี้ ซึ่งเราไม่แน่ใจแล้วว่าเขาเปลี่ยนไปอยู่ด้านหลังกลองตั้งแต่เพลงไหน เพราะตอนนั้นก็น่าจะสี่แก้วไปแล้ว แล้วก็เต้นแบบไม่ลืมหูลืมตาจริง ก่อนจะพักความเดือดไว้ก่อนด้วย The Season ที่มีเมโลดี้น่ารักช่วงอินโทรสุดติดหู ตามด้วย Carry Me มีคนช่วยตบมืออย่างพร้อมเพรียง และตามด้วยช่วงท้ายทีมีการ improvise หวดกลองเท่ กับโซโล่กีตาร์กลายเป็นเพลงจังหวะเร้าใจและเดือดดาลยาวนานต่อเนื่อง ก่อนจะให้พักหายใจหายคอกลับมาที่เพลงโซลกรูฟน่ารัก อย่าง Put Me Thru ให้โยกกันอย่างต่อเนื่อง

แต่แล้วเขาก็ไม่ปรานีเราแม้แต่น้อยด้วยการต่อกันที่เพลง Heart Don’t Stand A Chance ที่ จุดนี้ คนดูเองก็สนุกกันมาก เป็นอีกคืนที่เรารัก vibes ในคอนเสิร์ตที่ทุกคนเต้นไปกับเพลงและร้องตามได้ อย่างในเพลงนี้ท่อนที่ร้องว่า ‘Ooh, champagne, foreign dime. Arms, legs slapped around you’ คนก็ตะโกนกันแบบไม่เหนียมอาย ต่อกันด้วย Sweet Gidget โซล โมเดิร์นฟังก์น่ารัก แล้วก็บอกให้เราโยกซ้ายขวาตามจังหวะเพลงไปเรื่อย เพลงต่อไปก็เหมือนจะบอกว่าให้คนที่มากับแฟน โอบแฟนไว้นาจา เปิดมาด้วยอินโทรเปียโนหวานซึ้งของสมาชิกในวง ก่อนจะอัพบีตเป็นสวิงแจ๊สเท่ ที่ยิ่งเล่นยิ่งมันจนแบรนดอนต้องบอกให้เขาหยุดเล่น แล้วจึงจะชวนคนดูตบมือพร้อมกับการที่เขากลับมาบรรเลงดนตรีเข้ากับบีตอีกครั้ง แล้วก็มีการเล่นกับเสียงออโต้จูนเอาซะเพลินเลย กว่าจะเข้าเพลง Room In Here ที่รีอะเรนจ์เป็นจังหวะเร็กเก้ แบบ โห ต่างจากสตูดิโอเวอร์ชันที่เป็น lo-fi แจ๊ซแร็ปไปเลย มีการบอกให้ ‘Sexy ladies, make some noise’ ก็เอาเสียงกรี๊ดจากสาว ไปเลยจ้า ก่อนจะกลับไปตีกลองโชว์สกิลลูกกรูฟกันแบบเดือด ต่อจนจบเพลง

และท่อนเวิร์สของ ’Til It’s Over ขึ้นคนดูก็กรี๊ดต้อนรับเลย เพลงเท่จังหวะสนุก เป็นนีโอโซลผสมอิเล็กทรอนิกประหนึ่งเต้นรำในคลับ กับเมโลดี้น่ารักล่องลอยที่ถูกไปใช้ประกอบวิดิโอ ‘Homepod’ ของ Spike Jonze จบจากเพลงนี้เขาก็เล่นเพลงจากอัลบั้ม Venice นั่นคือ Miss Right มีท่อนโซโล่กลองที่ดุเดือด ประกอบกับกีตาร์ฟังก์ขัด เท่ ที่บรรเลงไปคู่กันเป็นอะไรที่ดีงามมาก ตามติดด้วยเพลงเท่ อย่าง Suede ที่เขาได้ร่วมงานกับ Knxwledge ตามด้วยอินโทรนูดิสโก้ และวิชวลสีสวยทำให้รู้ทันทีว่านี่คือเพลง Am I Wrong ที่หวดกลองเดือดอีกแล้วววว บ้าพลังมากกกกก ทั้งเต้น ทั้งร้อง ทั้งแร็ป ทั้งตีกลอง เอา energy มาจากไหนเยอะขนาดนี้ ยอมใจเล้ย แล้วก็บอกว่า ‘Bangkok you’re amazing’ ไม่รอช้าต่อกันที่ Light Weight เพลงกลิ่นอายเย้ายวนนี้เป็นเพลงสุดท้าย ซึ่งจุดนี้ออกสเต็ปกันแบบหยุดไม่อยู่แล้วจริง กับเพลง Luh You ที่คนดูช่วยกันร้องโต้กับเขาในช่วงท้ายเพลงและตบมือเข้าจังหวะ บรรยากาศทั้งหมดตอนนี้ได้ฟีลอยู่ในคลับสุด โดยที่เราไม่รู้ตัวเลยว่านี่เดินทางมาใกล้ถึงช่วงสุดท้ายแล้ว

Anderson .Paak

หลังจากจบช่วงแรกไป ตอนอังกอร์นี่บอกเลยว่า ไม่ถึงหนึ่งนาที คนดูตะโกนโห่ร้องเรียก ‘one more song’ ให้เขากลับขึ้นมาเสียงดังขนาดนั้น เจ้าตัวเองก็คงสนุกกับฝูงชนที่พลังงานพุ่งพล่าน รับส่งกันไปมาแบบสนุกสุด ก่อนจะพูดว่า ‘You guys are making our dreams come true.’ แล้วบอกอีกว่าจะกลับมาอีก แจกยาหอมเรียกเสียงกรี๊ดจากแฟน ไปดังกระหึ่ม ถ้ากลับมาจริง ก็ดี ฮือ น่ารักมาก สนุกมาก ก่อนจะเล่นเพลงจังหวะกลาง อย่าง The Bird ที่หลายคนรอคอย แต่ไม่ได้เล่นแค่เพลงเดียวแบบที่ขอ เขาแถมเพลงสุดท้ายให้เป็น The Dreamer ด้วย จบกันไปแบบฟิน ต้องบอกกันตรงนี้ว่าสนุกกันมาก เต้นไม่หยุดแต่ไม่รู้สึกเหนื่อยเลย เป็นอีกคอนเสิร์ตที่ประทับใจที่สุดในปีนี้ Anderson .Paak & The Free Nationals เล่นเพลงทั้งหมดไปยาวนานกว่าชั่วโมงครึ่ง แต่เรากลับไม่รู้สึกว่าหมดพลังหรือเบื่อแต่อย่างใด ศิลปินก็แรงไม่หมดค่ะ!!! มีแต่ความสนุกขึ้นเรื่อย จนจบโชว์ ต้องขอบคุณ Have You Heard? ที่พาวงดี แบบพวกเขามาให้เราได้ดูกันที่นี่ ขอบคุณทุกคนที่อยู่ในค่ำคืนวานนี้่ทำให้คอนเสิร์ตครั้งนี้น่าจดจำ อยากให้งานต่อ ไปมี vibes ที่เป็นมิตรแบบนี้อีกเยอะ เลย สำหรับระเห็ดเตร็ดเตร่ครั้งหน้าจะเป็นคอนเสิร์ตอะไร รอติดตามกันได้เลย

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้