Article ระเห็ดเตร็ดเตร่

Above the Billion Mills งานรวมดาวอิเล็กทรอนิกซินธิไซเซอร์แบนด์ที่น่าจับตามอง

  • Story and photos by Montipa Virojpan

18 สิงหาคม 2561

เป็นอีกเสาร์ที่มีอีเวนต์ชนกันโครมครามมาก ตั้งแต่คอนเสิร์ตวงเกิร์ลกรุ๊ปจากเกาหลีใต้ Twice วงร็อกญี่ปุ่นอย่าง Radwimps งานเปิดอัลบั้มวงป็อปร็อป Electric Neon Lamp งานคอนเสิร์ตวงน่าใหม่มาแรงที่ NOMA และงานรวมดาวอิเล็กทรอนิกที่น่าจับตามองที่ De Commune ซึ่งเราก็ขออาสารายงานความเป็นไปของงานที่ทองหล่อนี้ก่อนแล้วกันนะ

ที่ Above the Billion Mills นี้เราจะได้รับชมวงดนตรีที่น่าสนใจไม่ว่าจะเป็น Waltz, Games of Sounds, Cloud Behind และ Cut The Crab ซึ่งทั้งสี่วงต่างก็มีผลงานออกมาให้เราได้ฟังกันแล้วแทบทั้งสิ้น แต่กับบางวงอาจจะไม่ค่อยมีโอกาสให้เราได้ดูพวกเขาเล่นสด เท่าไหร่ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ไม่ควรพลาดในการที่จะตามมาดูพวกเขา

แต่ด้วยเมื่อคืนนี้ฝนตกหนัก การจราจรก็น่าจะติดขัดจึงทำให้โชว์ของวงแรกเริ่มต้นเมื่อเวลาสามทุ่ม Waltz วงดนตรีจากหัวหินมาประจำที่บนเวที แต่สิ่งแรกที่พวกเขาพูดคือการแสดงความยินดีกับเฟรม มือคีย์บอร์ดของวง Cloud Behind ที่เพิ่งจบการศึกษาระดับปริญญาโทมาหมาด แล้วเล่นเพลงแรกที่ ต่อ ฟรอนต์แมนและมือคีย์บอร์ดของวงแต่งร่วมกับ มะขวิด เพื่อนนักดนตรีที่เสียชีวิตไปแล้ว ชื่อเพลงว่า หมาเห่ารถไฟ เราได้ยินเพลงนี้ตอนที่พวกเขาเล่นสดครั้งแรกในกรุงเทพ ที่งานลงขันเมื่อเดือนก่อน และพบว่าเป็นเพลงที่เพราะมาก จนทำเอาน้ำตาซึม ก่อนจะต่อเพลงที่สองต่อก็ยังแสดงความยินดีกับเฟรมอีกครั้ง แล้วอุทานออกมาว่าลืมบ้อง ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่แน่ใจว่าเขาหมายถึงบ้องในบริบทนั้นจริง หรือเปล่า ปรากฏว่ามันคือบ้องไม้ไผ่ที่เอามาเป็นอุปกรณ์ครอบไมค์อีกทีเพื่อให้ได้เสียงเฉพาะ แล้วบรรเลงเพลงนีโอโซลเชื่องช้าเนิบนาบ

ตามด้วยเพลง To Die เพลงที่ร้องอยากตายได้อย่างสุนทรีย์โดยมีเบนซ์ มือเบสจาก Hariguem Zaboy และ H1F4 มาช่วยเสริมทัพในพาร์ตซิตาร์

ต่อกันติด ที่ Petz Make Everything Better แทร็คน่ารักที่ชวนให้เราล่องลอยไปกับความผ่อนคลายของเพลง จากนั้นพวกเขาก็เล่นเพลงใหม่ชื่อ Gesture Orange โดยต่อเล่าที่มาของเพลงว่าเขาเขียนเพลงโดยนึกถึงตอนเด็ก ที่อยู่บ้านในอำเภอฝาง เชียงใหม่ แต่พ่อแม่ไม่อยู่บ้าน ออกมาคล้ายเพลงบอลรูมติดกลิ่น r&b นึกถึงพี่ John Mayer ดีงามมาก ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลงที่ร้องว่า Life is short ที่เปิดด้วยอินโทรอิมโพรไวส์เพราะพริ้งตามด้วยโซโล่คีย์บอร์ดสุดติดหู แล้วช่วงหลังของเพลงก็มีความเป็นดรีมป๊อป กับพาร์ตที่ชวนเต้นมาก แล้วกลายมาเป็นสโลวร็อก และจากกันไปด้วยพาร์ตคีย์บอร์ดอย่างสวยงาม รู้สึกว่าโชว์นี้ของพวกเขาที่พอนักดนตรีเมากันนิด และด้วยบรรยากาศที่เป็นกันเองมาก จึงทำให้โชว์นี้มีความ emotional ใส่กันสุด เล่นดีกันหมดเลย

จากนั้นเวลาสี่ทุ่มก็เป็นวงที่สอง Game of Sounds ที่ช่วงนี้เราเริ่มจะได้ดูพวกเขาบ่อย แล้ว กับอิเล็กทรอนิกแนวใหม่ที่แต่ละเพลงอัดแน่นด้วยส่วนผสมของ r&b, โซล, ฮิปฮอป หรือบางเพลงที่น่ารักราวกับหลุดมาจากวิดิโอเกม พร้อมซาวด์ซินธ์โดดเด่นมีเอกลักษณ์ วันนี้พวกเขาก็ขนทุกเพลงที่ปล่อยออกมาให้เราได้ฟังกันมาเล่นแบบครบถ้วน เริ่มกันที่ Haha Sea เพลงบรรเลงในบรรยากาศเวิ้งว้าง ตามด้วย Secret From You ที่เบล นักร้องนำเล่าว่าเต๊นท์ มือซินธ์แต่งให้กับแฟนของเขาจากโปสการ์ดที่เธอเขียนส่งมา ตามด้วยเพลงจังหวะสนุก ที่ไป มา ก็กลายเป็นเพลงที่หลายคนอินไปซะได้เพราะการเขียนเนื้อเพลงที่ดีไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง

แล้วพวกเขาก็เริ่มพูดคุยแบบเขิน แต่แทนที่จะเป็นการทักทายคนดูก็กลายเป็นการทักทายกันเองระหว่างเต๊นท์กับเบล ตลกไปอีก แล้วจึงเล่นเพลง Mr. Hot เป็นเพลงต่อไป ซึ่งเราว่าหนนี้เล่นกันจี๊ดใจสมชื่อเพลงมาก ต่อด้วยเพลงล่าสุดของพวกเขาที่เพิ่งปล่อยมาใน Want To Feel เป็นการเปลี่ยนอารมณ์กันครู่หนึ่ง ก่อนจะปิดท้ายด้วยเพลงจังหวะยุกยิกอย่าง Durian เป็นการทิ้งท้าย

ต่อด้วยวงที่สามในเวลาห้าทุ่มตรง กับ Cloud Behind ที่เปิดโชว์กันด้วยอินโทรล่องลอยชวนฝัน เพื่อเข้าสู่เพลง นกนางนวล ผลงานที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายจากยุคแรก ของพวกเขา ตามด้วยพาร์ตบรรเลงเข้าเพลง แค่แปลกตา ที่เริ่มมีสีสันแบบนีโอไซคีเดเลียกันบ้างแล้ว ก่อนจะต่อกันที่เพลงใหม่ล่าสุดของพวกเขาที่เราได้ฟังกันไปในสองโชว์ก่อนหน้าบ้างแล้ว รอติดตามกันได้เร็ว นี้เพราะได้ข่าวว่ากำลังจะปล่อยแล้ว เป็นเพลงที่ไลน์เบสเท่มากแล้วมีเมโลดี้คีย์บอร์ดที่ติดหูกับจังหวะเร้า ชวนโยก

ต่อด้วยเพลงที่ชวนให้รู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในแดนพิศวงกับ เสน่หา หรือ Wisteria แล้วจึงเป็นเพลงปลอบประโลมใจอย่าง ในท้องฟ้า และตามด้วยเพลงหม่นเศร้าเพลงโปรดของเหล่าแฟนเพลงนั่นคือ เทา ก่อนจะเคลียฟีลเศร้าสร้อยไปด้วยดนตรีซาวด์สว่าง ใน ลาฝัน และจบโชว์ไปกับเพลงสนุก ดนตรีหนักหน่วงใน 3rd

ปิดท้ายค่ำคืนนี้กันที่ Cut The Crab ที่ต้องบอกว่าเราเองก็ค่อนข้างล้าและสติเลือนลางพอสมควร (ก่อนหน้านี้แวะไปงาน Electric Neon Lamp มาด้วยจ้า เดี๋ยวจะเล่าให้อ่านกันอีกเช่นเคย) ตอนนี้พวกเขาก็บรรเลงอิเล็กทรอนิกหนักหน่วงให้ทีมงานคุณภาพอย่างเรา ได้เต้นกันอย่างเมามัน ต่อด้วย Things Go Bad เพลงจังหวะลึกลับเท่ และตามด้วย ต่อไปแบบนี้ต่อไป ที่ฟังง่ายและเต้นง่ายขึ้นนิดนึง กับอีกแทร็คที่จริง แล้วเป็นเพลงที่ทำให้เรารู้จักกับพวกเขาเมื่อนานมาแล้ว แต่จำชื่อไม่ได้ เป็นเฮาส์สนุก โยกกันหัวแทบหลุด ก่อนจะส่งเพลงนูดิสโก้ล่าสุด Try To Forget ที่เพิ่งได้รางวัลชนะเลิศ Bacardi House Sessions มาด้วย หลังจากนั้นก็มีอังกอร์ที่วงถึงกับถามหาเบสแล้วก็หาคนมาตีกลองสด ใน Things Go Bad live drum and bass version ซึ่งก็ได้เบสของเจื้อกวง Cloud Behind และทีมงานของ De Commune มาตีกลองให้ เป็นการจบปาร์ตี้ในค่ำคืนนี้แบบแรนด้อมแต่ก็สนุกสุด อีกงานนึง

รอติดตามกันในสัปดาห์หน้าด้วยว่าเราจะไประเห็ดเตร็ดเตร่ที่งานไหนกันอีก แต่เตือนไว้ก่อนเลยว่ามีอีกหลายงานแน่นอน /เตือนตัวเองเนี่ยแหละว่าทำร่างให้สตรองเข้าไว้ ฮึบ

Facebook Comments

Next:


Montipa Virojpan

อิ๊ก เนิร์ดดนตรีที่เพิ่งกล้าเรียกตัวเองว่าเป็นนักเขียนตอนอายุ 25 ชอบเดินเร็ว นอกจากขนมปังกับกาแฟดำแล้วก็สามารถกินไอศกรีมกับคราฟต์เบียร์แทนมื้อเช้าได้