นั่งคุยกับ TELEx TELEXs ถึงอัลบั้มแรกของวงและความรักในโลกอินเตอร์เน็ต
- Writer: Peerapong Kaewthae
- Photographer: TELEx TELEXs
TELEx TELEXs เป็นศิลปินอีกหนึ่งวงที่แวะเวียนมาทักทายถึงบ้าน ฟังใจ บ่อย ๆ มาครั้งนี้เราเลยชวนคุยอัพเดตวงนิดหน่อยเพราะวงเพิ่งไปเล่น Cat Expo ครั้งล่าสุดมา และผลตอบรับที่คาดเดาจากสายตาของเราก็พบว่าแฟนเพลงเขาเพิ่มขึ้นเยอะจริง ๆ กับอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกของพวกเขา และคอนเสิร์ตที่กำลังจะมาถึงเร็ว ๆ นี้
เป็นไงบ้างกับงาน Cat Expo วันเสาร์อาทิตย์ที่ผ่านมา?
ออม: เป็นสิว ฝุ่นเยอะ (หัวเราะ)
ปิ้ว: คนเยอะกว่าทุกรอบที่เคยไปเล่นเลยละครับ ขายของหมด ทั้งหมวก ทั้ง EP และอัลบั้ม มีไวนิลที่ยังคงเหลืออยู่ ใครอยากได้ซีดีอัลบั้มใหม่ก็พรีออเดอร์กันได้
อยากให้ช่วยเล่าถึงอัลบั้มเต็มอัลบั้มแรกของตัวเองหน่อย
ออม: Enough for Loneliness and Internet Today
ปิ้ว: อัลบั้มนี้มันคือความเหงา เราอยู่กับโซเซียล อยู่กับมือถืออะไรกันมากกันเกินไป เราอยากให้หยุดนึกถึงความเหงา หยุดกับโซเซียล ให้มาฟังเพลงจากพวกเราดีกว่า ก็จะมีเพลงหนึ่งที่เป็นชื่ออัลบั้ม เป็นเพลงที่สั้นที่สุด ไม่มี verse ไม่มี pre-chorus อะไรงั้นเลย เหมือนเป็นการแบบเล่าเรื่องอะไรสักอย่างที่คนคนหนึ่งไปเจอมา
สะดุดกับเพลง Mutsuko ทำงานกับพี่กอลฟ์ F. Hero เป็นยังไงบ้าง
ออม: พี่กอลฟ์น่ารักมากเลย
นาว: คือเพลงนี้มันเริ่มจากอารมณ์เมื่อสองปีที่แล้ว พี่กอลฟ์เขาทักมาในเพจของวง ว่าอยากทำเพลงกับพวกเราอะไรแบบนี้ พวกเราก็ตื่นเต้นกันมาก ก็เลยคุยกับเขาว่า ได้เลยพี่ จัดไป ซึ่งเขาก็เลยโยนคอนเซ็ปต์ของเพลงที่เขาอยากมาทำด้วยเป็นหนังญี่ปุ่น ชื่อ ‘Memory of Matsuko’ เป็นหนังญี่ปุ่นที่เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่โหยหาความรัก แต่มีความรักมากี่ครั้ง ๆ ก็ไม่ดีสักครั้ง เสียใจทุกครั้ง แม้แต่กับคนในครอบครัว เป็นอารมณ์แบบว่าเป็นผู้หญิงที่พอตายไปแล้วก็ไม่มีใครสนใจอะไรเลยงี้ ตัวพระเอกในเรื่องก็เหมือนไปตามหาว่าป้าของเขา ก็คือ Matsuko คนนี้เนี่ย มีชีวิตเป็นยังไง เป็นหนังที่น่าสนใจมาก ก็เลยตีความหมายของหนังเรื่องนี้ออกมาดู ก็เลยออกมาเป็นเพลง ๆ นี้ แล้วพี่กอลฟ์ก็มาเขียนเนื้อแร็ปให้
พูดถึงเพลงในอัลบั้มแล้วมันก็จะเป็นอารมณ์เศร้า ๆ หน่อย วงชอบทำเพลงเศร้า ๆ อกหักเป็นพิเศษรึเปล่า
นาว: จริง ๆ มันมีหลากหลายมุมมอง หลากหลายดนตรีที่แทรกอยู่ในอัลบั้มถึงมันจะดูเศร้า ๆ ซึ่งจริง ๆ เราเรียงแทร็คในอัลบั้มให้คนฟังไปทั้งอัลบั้มมากกว่าที่ฟังไปทีละเพลง เพราะมันจะแบบค่อย ๆ เรียงระดับเรื่องราว เหมือนเป็นหนังเรื่องหนึ่ง (ออม: เหมือนเป็น chapter ไป) คือมันจะมีทั้งแบบ สนุก เสียใจ สมหวัง หรือว่าอะไรต่าง ๆ ไป เหมือนแบบเป็นงานศิลปะชิ้นหนึ่งที่ถูกสร้างออกมา (FJZ: เหมือนร้อยเรื่องราวมาเรื่อย ๆ) ใช่ครับ จริง ๆ ก็ฟังทีละแทร็คก็ได้นะ แต่ถ้าให้เราแนะนำก็อยากให้ฟังเรียงกันไล่ไปเลย พวกเราก็เรียงแทรคมาหลายลิสเหมือนกัน แล้วก็ขับรถไปฟังไป ดูว่ามันสมูธหรือยัง ทำไปหลายรอบเหมือนกัน ขับรถแล้วก็ฟัง เอาจริง ๆ หลาย ๆ อย่างในอัลบั้มนี้ก็มาจากการขับรถนี้แหละ เหมือนกับว่าเราแต่งเพลงบางเพลงขึ้นมาก็เกิดขึ้นตอนขับรถอยู่ ตอนฟังมิกซ์แต่ละอันก็ฟังกันในรถ
ออม: ใช่ใช่ เหมือนทุกอย่างเริ่มจากรถเลย
ไหน ๆ พูดเรื่องความสัมพันธ์ละ ความรักบนอินเทอร์เน็ตเดี๋ยวนี้มันเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอนเลยหรอ
นาว: มันอยู่ที่คนมั้งครับ มันไม่น่าแน่นอนมากกว่า แต่เหมือนฉาบฉวย คุยกันในโลกอินเทอร์เน็ต จะพิมพ์อะไรก็พิมพ์ได้ ไม่ต้องสนใจอะไรเยอะ (หัวเราะ) เปอร์เซ็นต์มันน้อยมาก ๆ
ปิ้ว: เราว่ามันเป็นการเริ่มต้นของอะไรบางอย่างนะ เหมือนแบบว่า อินเทอร์เน็ตมันเร็วใช่ไหม จะเจอใครก็แค่คลิก ๆ แค่เลื่อน ๆ ซึ่งมันอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการที่จะต่อความสัมพันธ์ หรือเราจะผ่านเขาไปเฉย ๆ เหมือน Tinder อะไรงี้ (นาว: จากประสบการณ์จริงหรอ (หัวเราะ)) ก็แบบถ้าเราจะจริงจังกับเขาหรือว่าเราอยากจะไม่สนใจเขาเเล้วมันก็ทำได้ตั้งสองอย่าง ซึ่งเราเรียกว่ามันเป็นการเริ่มต้นของความสัมพันธ์ดีกว่า มันไม่มีถูกผิด ซึ่งแบบว่าคนบางคนอาจจะชอบวิธีการแบบนี้ หรืออีกคนอาจจะชอบการเข้าหา เจอหน้าอะไรแบบนี้มากกว่า มันตามรสนิยมของแต่ละคนมากกว่า (FJZ: ดีคนละแบบ) ใช่ ๆ มันแล้วแต่ว่าแต่ละคนจะไปประยุกต์ใช้ให้มันถูกต้องได้อย่างไร
ออม: ส่วนเราคิดว่าความสัมพันธ์ในอินเทอร์เน็ต มันทำให้แน่นอนก็ทำได้เว้ย มันเกิดจากปัจจัยเดียวคืออินเทอร์เน็ตไม่ได้ เพราะคนเราต้องการความสัมพันธ์ต่อหน้าอยู่แล้วหรือแบบสัมผัสอะไรแบบนี้ ถ้าวันหนึ่งเรารู้จักเขาจากแค่จอเดียว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะทำให้ความสัมพันธ์นั้นอยู่รอด เราก็เลยคิดว่ามันเป็นแค่ตัวเชื่อมให้คนรู้สึกใกล้กันมากขึ้นเฉย ๆ เช่นแบบอยู่คนละที่แบบนี้ เราว่ามันสำคัญเว้ย แต่ถ้าอยู่ด้วยกันเนี่ย เราว่ามันไม่ได้เป็นตัวเชื่อมอะไรเลย เป็นแค่คนสองคน มันจะมีปัจจัยเรื่องระยะมากกว่า เป็นแค่เครื่องมือ
นาวกับออมเป็นแฟนกันด้วย มันมีข้อดีข้อเสียอะไรไหมในการทำเพลงด้วยกัน
ออม: ไม่นะ คือปกติการเริ่มทำเพลงของพวกเรา ไม่ใช่นาวหรือเรา แต่เป็นปิ้ว เพราะฉะนั้นเวลา discuss กันมันจะไม่ค่อยอะไร เรากับนาวเป็นเพื่อนมาก่อนด้วย เราเลยไม่ใช่แบบเจอหน้าคนนี้ เอ้ยนี่เป็นแฟนฉันอะไรแบบนี้ เพราะฉะนั้นเวลาคุยกันมันจะมีบางอย่างที่พูดกันง่ายหรือพูดกันตรง ๆ ได้ บางคนงี้พอเป็นแฟนกันแล้วทำงานไม่เหมือนคนที่เป็นแฟนกัน ทำงานด้วยกันไม่ได้ แต่เราไม่มีปัญหาอะไรแบบนั้น ปกติค่ะ
มีอะไรอยากแนะนำคู่รักในยุคนี้ไหม
ออม: คนรักในยุคนี้หรอ ปิ้วก่อนละกัน (หัวเราะ) คือปิ้วมีแฟนอยู่ไกล อาจจะเป็นมุมมองที่แตกต่างกันออกไปอะไรงี้
ปิ้ว: จริง ๆ อย่างแฟนผมคืออยู่ไกล เหมือนไม่ค่อยได้เจอกัน คือมันจะต้องมีความเชื่อใจกันสูงมากประมาณหนึ่ง เราก็ต้องรู้ว่าเราควรทำอะไรให้เขาเชื่อใจและไม่ควรทำอะไร ซึ่งมันก็ต้องมีขอบเขต สมมติเราไปเที่ยวอะไรงี้ ดื่มเหล้างี้ เราก็ต้องแบบว่า ไม่ขับรถ นะ (ออม: โอ้โห! เหมือนเราพูดชีวิตคนอื่นเลย (ขำ)) ก็ต้องทำอะไรที่แบบเขาจะไม่เสียใจ หรือเวลาเราทำผิด แล้วเรายังทำอยู่ยังงั้น มันก็ทำให้ความสัมพันธ์แย่ลงไปเรื่อย ๆ (นาว: แล้วทำไหม? (หัวเราะ)) ก็ต้องทำให้มันดี ต้องรักษาความสัมพันธ์ ทำให้ระยะทางที่มันไกลมันใกล้ขึ้นครับ
ออม: เราอยากบอกว่า ไม่อยากให้มองว่าแบบผู้หญิงผู้ชายในความสัมพันธ์อะ นึกออกปะ ถ้าคน ๆ หนึ่งอยู่ในความสัมพันธ์ มันต้องมีความเท่าเทียมอะ ถ้าสมมติว่าเราทำให้คนที่เราอยู่ด้วย รู้สึกด้อยกว่าหรือเขาอยู่สูงกว่าเรา เรารู้สึกว่าอันนั้นคือเริ่มมีปัญหาละ แบบความเกรงใจซึ่งกันและกัน พวกระยะห่าง ที่ว่างเว้นให้กันบ้างก็ได้ ไม่ใช่แยกกันอยู่อะไรนะ คือควรจะมีสเปซให้แต่ละคน จะอยู่ด้วยกันได้นานกว่าอะ (FJZ: นึกถึงคนที่แบบต้องถามว่าแฟนอยู่ไหน ทำอะไรตลอดเวลา อะไรแบบนั้นปะ) ใช่ ๆ คืออย่างเรากับนาว ถ้าไม่ได้อยู่ด้วยกันก็ไม่ได้แบบ โห อยู่ไหน ทำอะไร นู้น ๆ นี่ ๆ นั้น ๆ ทำไมไม่อย่างงู้น ไม่ได้แบบนั้น ไม่ต้องตามจิก (FJZ: โอเค พอละเรื่องความรัก) นึกว่ามา Club Friday (หัวเราะ)
เห็นว่าวงเพิ่งไปทำเพลงกับ Can Nayika มาด้วย
ออม: ใช่ ปิ้วไปโปรดิวซ์เพลงให้แคนแคน ส่วนวงเราเอาแคนมาถ่าย mv
ปิ้ว: ก็คือน้องเขาก็ส่ง demo มาให้ฟัง น้องก็อยากทำดนตรีเร็ว เพลงสนุก ๆ อะไรแบบนี้ ก็เลยมีโอกาสได้ทำเพลงให้น้องเขา มานั่งคุยกันว่าแบบตรงนี้ดีไหม ชอบไหม อะไรงี้ ก็เลยเกิดมาเป็นเพลง
ออม: อยู่ใน EP ของน้องค่ะ ถ้าอยากฟังก็ต้องไปอุดหนุน
แล้วจุดเริ่มต้นเป็นมายังไงถึงมาเล่น MV ให้วง
ออม: คือเริ่มจากพิมพ์ที่เป็นเพื่อนเรา ก็ทำ mv มาให้หลายคนแล้ว ทำให้ Jelly Rocket ทำให้เรา ทำให้ temp. อะไรงี้ พิมก็บอกว่า มีพลอตมาเป็นเรื่องราวในร้านอาหาร อยากให้เป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครสมหวัง ก็เลยอยากได้คาแรคเตอร์แบบเด็กในร้านอะ เด็กน้อยจริง ๆ เราก็เลยคิดว่าอย่างแคนก็ดูใหม่ด้วย ยังไม่ได้ไปเล่น mv อื่นอะไรงี้ แล้วเขาก็มีฐานประมาณหนึ่ง ฐานก็เยอะ คาแร็กเตอร์ก็ได้ เหมือนกึ่ง ๆ ว่าจะกวนก็ไม่ จะนุ่มนิ่มก็ไม่ ดูว่าเป็นน้อง อะไรงี้ บทไม่ได้ซับซ้อนมากด้วยก็เลยคิดว่าน่าจะได้
วงก็มีเพจร้านอาหารด้วย
นาว: ใช่ครับ รีวิวอาหาร แดรกเกอรรร์ ตอนแรกก็ถ่ายเล่น ๆ ตอนนี้ก็ไม่ได้อัพโหลดอะไร คือเราชอบทำอาหาร ชอบกินด้วย
ออม: มันเริ่มจากการถ่ายแกล้งเราก่อน แบบอ้าปากงี้ ช็อตเหวอ ๆ ก็เลยกลายเป็นเพจขึ้นมา
นาว: ก็เลยทำเล่น ๆ ไปเรื่อย ๆ ว่างก็ทำ ไม่ว่างก็ไม่ทำ
มีแฟนคลับฝากถามมาด้วย เมื่อไรจะขายข้าวหน้าหมูเกาหลีอีก
ออม: ข้าวหน้าหมูชาชู! Drak Buta by แดรกเกอร์
นาว: ใครถามมาวะเนี่ย (หัวเราะ) อยากรู้ ก็บอกเขาให้สั่งละกันครับ ไม่สั่งก็ไม่ทำ (หัวเราะ) แต่เอาจริงคงไม่แล้วล่ะ
ออม: มันเหนื่อยอะ (หัวเราะ) คือทุกครั้งที่ไปขายก็เล่นด้วย ร้อนอีก
เห็นว่าวงจะมีคอนเสิร์ตของตัวเองเร็ว ๆ นี้
ปิ้ว: คือมันเริ่มจากว่าตั้งสเตตัสในเพจวงว่า เอ้อ อยากทำคอนเสิร์ตโบกไก่อะไรประมาณนี้ เหมือนแบบว่าจะมีไก่ทอดในงาน ก็อยากเห็นทุกคนชูน่องไก่อะไรงี้
ออม: คือวงชอบกินไก่ทอดมาก ๆ คือตอนแรกมันดูแบบเลื่อนลอยอะ แต่พอคนสนใจมากขึ้น ถ้าทำให้เกิดขึ้นจริงได้น่าจะเจ๋งดี เราก็เล่นคอนเสิร์ตกันมาเยอะ ส่วนใหญ่ที่ได้มาก็เป็นเหล้า เบียร์ อะไรงี้ ไม่มีไก่ ไม่มีของกิน
ปิ้ว: พี่โน่ก็เลยแบบว่าสนใจแล้วก็เห็นอัลบั้มเสร็จแล้วก็เลยอยากจะทำเป็นคอนเสิร์ตเปิดอัลบั้มให้แล้วมีไก่ทอด ก็เหมือนแบบว่าเป็นสเตตัสที่ตั้งเล่น ๆ แต่เเฟนเพลงดันเอาจริงจัง อยากให้มี ก็เลยสนองเขาหน่อย มันจะเป็นคอนเสิร์ตโบกไก่ที่มีไก่ทอดจริง ๆ วันที่ 20 ธันวานี้
ออม: ทุกคนจะมีน่องไก่ของตัวเอง แจก ๆ ดูหนังยังต้องมีป๊อปคอร์นเลย มีทิชชู่เปียกให้ด้วยนะ (หัวเราะ)
ปิ้ว: บัตรขายวันที่ 3 งานจัดที่ Goose Life Space ไปชื้อกันได้เลย
วงจะมีเเพลนไปเล่นต่างประเทศบ้างไหม
นาว: ก็เดือนหน้าจะมีไปเล่นที่ลาวครับ เวียงจันทร์
ออม: ไม่รู้เหมือนกันว่ามีแฟนเพลงหรือเปล่า (หัวเราะ) งานเป็นอย่างไงก็ไม่รู้ เหมือนจะเป็นงาน pool party
และความฝันสูงสุดของตัวเองหรือวง คืออยากไปเล่นที่ไหน
นาว, ออม: ญี่ปุ่นกันทั้งวงฮะ
ปิ้ว: อิรักครับ
ออม: บ้าบอ กลับมาแล้วเหลือแต่แขนงี้ มึงไปคนเดียวนะ กูไม่ไปด้วย DJ Set เลยนะ
ปิ้ว: ล้อเล่น ๆ เป็นอัมสเตอร์ดัมก็ได้ครับ ของเขาดี
นาว: พวกเครื่องดนตรีอะไรงี้ (หัวเราะ)
ออม: เราว่าถ้าอยากจะ jailbreak เอเชีย ญี่ปุ่นคือที่ ๆ รู้สึกยังงั้น ถ้าจับตลาดนี้ได้ก็ไป worldwide อะไรงี้
สุดท้ายละ อยากฝากอะไรไปถึงแฟนคลับของวงไหมครับ?
ออม: ก็ขอบคุณที่ติดตามมาตลอดค่ะ ทุกคนน่ารักมาก ฝากไปบอกเพื่อน ๆ ด้วยคนที่ยังไม่เคยฟังเพลงเรา เป็นแฟนเราเเล้ว ช่วยเราทำมาหากินด้วยนะเธอ
ติดตามข่าวสารและดนตรีของวงได้ที่เพจ TELEx TELEXs