ไปรู้จักสี่หนุ่ม Yogee New Waves กับการได้มาเล่นในไทยครั้งแรกตามที่หวังไว้
- Writer: Peerapong Kaewthae
- Photographer:
ก่อนอื่นเลยต้องขอบคุณ Seen Scene Space ที่เสาะหาและค้นพบวงญี่ปุ่นดี ๆ มากมาย พร้อมชักชวนพวกเขาเข้ามาเล่นในไทยเพื่อเปิดหูแฟนเพลงชาวไทยให้รู้จักดนตรีที่หลากหลายมากขึ้น ยิ่งถ้าเราได้รู้ว่ามีวงญี่ปุ่นบางวงอยากมาเล่นในไทยเราก็ยิ่งดีใจ วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ Yogee New Waves สมหวังดังตั้งใจที่จะได้เล่นโชว์ครั้งแรกในบ้านเรา พวกเราน่าจะได้ดูโชว์สุดมันของพวกเขาไปแล้ว แต่ลองมาทำความรู้จักกับวงและเพลงของพวกเขาดูในฐานะวงดนตรีที่แตกต่าง แต่ยังมีพลังและส่งต่อความหวังในคนฟังได้อย่างกินใจ
สมาชิก
Kengo Kakudate — ร้องนำ, กีตาร์
Fumiya Takemura — กีตาร์
Kose Ueno — เบส
Tetsuhi Kasuya — กลอง
EP Spring Cave มีคอนเซ็ปต์ยังไง
Kakudate: ผมเปรียบเทียบเวลาที่ผมทำเพลงในห้องของผมเองตอนกลางคืนเหมือนเป็นถ้ำที่ไม่มีแสงอะไรลอดผ่านเข้ามาเลย แต่การที่ผมทำเพลงขึ้นมาเนี่ยก็เหมือนมีดอกไม้บานในถ้ำได้โดยที่ไม่ต้องมีแสงน่ะครับ
เพลงใหม่ล่าสุด Bluemin’ Day มันดูสนุกมาก ช่วยเล่าให้ฟังหน่อย
Kakudate: เหมือนเป็นลูปของวัน ๆ หนึ่งที่เราอาจจิตตกหรืออะไรก็ตาม แต่เราก็สามารถลุกขึ้นใหม่ได้ทุกวัน ต่อให้มีเรื่องที่ไม่ดีเราก็ยังมีแรงที่จะเริ่มวันใหม่ได้
ทำไมถึงใช้คำว่า ‘Bluemin’ ในชื่อเพลง แล้ววงคิดว่ามันแปลว่าอะไร
Kakudate: ถ้าใช้คำว่า Blooming มันจะแปลว่าดอกไม้บาน มันจะดูสดใสเกินไป แต่เพลงเรามีความหม่น ๆ อารมณ์ ‘blues’ เลยใช้คำนี้น่ะครับ
EP มีชื่อว่า Spring Cave แต่ทำไมถึงใช้ชื่อทัวร์ว่า Bluemin’s Day Tour
Kakudate: การออกทัวร์ของพวกเราก็เหมือนการได้พบเจอผู้คนใหม่ ๆ ไปเจอเรื่องดี ๆ มากมายข้างนอก เลยใช้ชื่อ Bluemin’s Day Tour เหมือนคอนเซ็ปต์ของเพลง แม้จะจิตตกแต่ก็ยังมีวันใหม่รออยู่เสมอ ถ้าใช้ชื่อ Spring Cave มันจะไม่ค่อยสื่อความรู้สึกพวกเราเท่าไหร่
เพลง Summer of Love มีดนตรีที่น่าสนใจและแตกต่างจากเพลงอื่นใน EP มาก อยากรู้ว่าได้แรงบันดาลใจจากไหน
Kakudate: ผมเป็นคนเริ่มทำคนเดียวน่ะครับ อย่างเพลงอื่นพวกเราทุกคนจะช่วยกันแต่งในห้องซ้อม เลยทำให้เพลงนี้แตกต่างจากเพลงอื่นน่ะครับ เพลงนี้ผมก็ได้แรงบันดาลใจจาก house music และเป็นเพลงที่นำทางคนฟังเข้าไปใน Spring Cave หรือห้องส่วนตัวของผมได้ครับ
ทุกคนในวงชอบเพลงไหนใน EP นี้บ้าง
Kasuya: ผมชอบ Bluemin’s Day ครับ เรามิกซ์ให้เสียงมันออกหูสลับซ้ายขวาแล้วผมชอบมาก ฟังแล้วมันน่าสนใจดี อยากให้ทุกคนลองฟัง
Takemura: ผมชอบ Bluemin’s Day เหมือนกันครับ เพราะเราทุกคนได้ลองทำสิ่งใหม่ ๆ ในทุกส่วนของดนตรีเลย
Ueno: ชอบ Boyish ครับ มันมีความฟังก์และเพลงแดนซ์อยู่ เราได้แรงบันดาลใจจากเพลงอีกหลากหลายแนวด้วย
Kakudate: ผมชอบ Prism Heart ครับ ชื่อเพลงก็เหมือนหัวใจที่กำลังจะแตกสลาย มันเป็นอารมณ์เพลงที่ผมอยากเขียนได้มานานแล้ว เพิ่งมาเขียนได้ในเพลงนี้ ทั้งลีดกีตาร์และเนื้อร้อง ผมอยากเขียนแบบนี้ให้ได้มานานแล้ว
ก่อนมาตั้งวง Yogee New Waves ด้วยกัน แต่ละคนเคยทำอะไรกันมาบ้าง แล้วอะไรทำให้ตัดสินใจมาตั้งวงด้วยกัน
Takemura: ผมกับ Ueno ทำวงด้วยกันชื่อว่า Ampel
Kasuya: ผมเรียนมหาลัยและเล่นอยู่กับวงฟังก์อีกวงหนึ่งอยู่น่ะครับ
Kakudate: ผมเคยทำงานในร้านแผ่นเสียงครับ ตอนแรกผมก็เล่นกลองมาก่อน กับวงนี้ผมก็เพิ่งได้เล่นกีตาร์กับร้องนำเป็นครั้งแรก อย่างในในซีนดนตรีของญี่ปุ่นจะมีอารมณ์เพลงอยู่แค่สองแบบ คือไม่แฮปปี้ไปเลยก็เศร้าสุด ๆ ผมเลยอยากทำวงที่มีเพลงกลาง ๆ คนเราไม่ได้มีความรู้สึกแค่สุขกับเศร้า ผมเลยเริ่มชวน Kasuya เข้ามาเล่นด้วยกันและ Takemura กับ Ueno ค่อยตามมาทีหลังครับ
แล้วทุกคนในวงทำเพลงกันเป็นหลักหรือว่าต้องทำอาชีพควบคู่อื่นไปด้วย
Ueno: ทุกคนก็ทำเล่นวงเป็นหลักครับ มีบางคนก็เล่นวงอื่นด้วย
ในฐานะที่ Ueno กับ Takemura อยู่วงอื่นด้วย อยากรู้ว่า Yogee New Waves ต่างจากวงอื่นยังไงบ้าง
Takemura: น่าจะเป็นเนื้อร้องครับ เนื้อร้องมีเอกลักษณ์และไม่ค่อยมีวงอื่นเล่าเรื่องแบบนี้เท่าไหร่
สมาชิกรุ่นก่อตั้งอย่าง Naoki Yazawa ออกจากวงไป ส่งผลกระทบอะไรกับวงบ้างรึเปล่า
Kakudate: ก็มีผลกับวง แต่สิ่งที่ได้กลับมามันมากกว่าผลกระทบ คือผมยังเป็นเพื่อนกับเขาอยู่ครับ
เพลง SAYONARAMATA ถูกใช้เป็น theme song ของหนังด้วย ไปร่วมงานกับผู้กำกับหนังได้ยังไง
Kakudate: ผู้กำกับเขามาชวนให้ทำเพลงให้น่ะครับ
ถ้ามีหนังชื่อ Yogee New Waves คิดว่าเรื่องราวในหนังจะเป็นยังไง
Kakudate: มันคงเกี่ยวกับวัยรุ่นในเมืองที่ได้ออกไปท่องโลกหาประสบการณ์ พบเจอผู้คนมากมาย แล้วตอนจบคงตายที่ทะเลซักอย่าง (หัวเราะ) แต่ไม่เศร้าครับ happy ending
เหมือนวงจะชอบทะเลมาก มีใครเล่นกีฬาทางทะเลบ้างไหม
Kasuya: (ยกมือ) ผมเล่นเซิร์ฟครับ
เก่งรึเปล่า
Kasuya: (ส่ายหัวแล้วหัวเราะกันทั้งวง)
คิดว่าวงประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง
Kasuya: ผมไม่รู้ว่าอะไรคือความสำเร็จนะครับ เพราะเราแค่อยากทำเพลงดี ๆ ออกมา แต่ไม่ได้คิดว่าอะไรคือสำเร็จไม่สำเร็จ
Kakudate: แต่การได้มาประเทศที่พูดกันคนละภาษาเนี่ย ก็ใกล้เคียงกับคำว่าความสำเร็จแล้วล่ะครับ (ยิ้ม)
เห็นในวีดีโอโปรโมตพูดไทยได้ เจอคำไทยที่ชอบรึยัง
Kakudate: มีคำที่น่าสนใจเยอะมากครับ แต่ผมจำไม่ได้แล้ว จำได้แค่ ‘ขอบคุณครับ’ (หัวเราะ)
มีคำไหนที่อยากรู้ไหม
Kakudate: How are you? (FJZ: สบายดีมั้ย) สบายดีมั้ย? ไอชิเตะรุไทย (FJZ: ฉันรักเมืองไทย) ฉันรักมวยไทย (หัวเราะ) ฉันรักเมืองไทย one two three four (FJZ: หนึ่ง สอง สาม สี่) หนึ่ง สอง สาม สี่ (ทำท่านับแล้วดีใจ)
เห็นวงมีสารคดีด้วย ความตั้งใจของการถ่ายทำครั้งนี้คืออะไร
Kakudate: เป็นช่วงที่พวกเราได้เดบิวครับ แต่ก็มีความดราม่าสมัยอินดี้และมีเพื่อนร่วมวงใหม่เข้ามา เลยอยากเก็บเรื่องราวเหล่านี้ไว้ถ่ายทอดให้คนอื่นรู้จักพวกเขามากขึ้นน่ะครับ
อยากฝากอะไรถึงแฟนเพลงชาวไทย
Kakudate: พวกเราเคยมาที่ไทยและชอบเมืองไทยมาก แถมมีเพื่อนที่ไทยด้วย พอมาเจอว่าวงญี่ปุ่นวงอื่นได้มาเล่นที่นี่เราก็เจ็บใจมาก (กำมือแล้วเขย่า ทำท่าเจ็บใจ) ทำไมพวกเราไม่ได้มาเล่นที่นี่ซักที แต่วันนี้ได้มาแล้วก็ดีใจมาก ๆ เลยครับ